|
|
กทม. เปิด 225 จุดรวมพลรับอพยพทั่วกรุง ผวาเมืองหลวงจมบาดาล สั่ง ปชช.อพยหมดกรุง +!+
ศปภ. ล้มโครงการตัดถนนระบายน้ำ อ้างไม่จำเป็น 29 ต.ค.เริ่มกระจายคนออกศูนย์พักพิงต่างจังหวัด ตั้ง 5 สถานีขนส่ง ศปภ. ด้าน กทม. เปิด 225 จุดรวมพลรับอพยพทั่วกรุง ผวาเมืองหลวงจมบาดาล ประกาศ "ทวีวัฒนา" อพยพทั้งเขตแล้ว 'สุขุมพันธุ์' ลั่นสู้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.10 น. วันที่ 28 ต.ค. 2554 นายธงทอง จันทรางศุโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้แถลงข่าว โดยระบุว่าสถานการณ์โดยรวมขณะนี้ใกล้เคียงกับวานนี้ แต่จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดย อีก 2-3 วันน้ำทะเลจะหนุนสูง ซึ่งตามแม่น้ำเรามีคันกั้นน้ำความสูง 2.5 เมตร แต่ระดับน้ำในวันที่ 28 ต.ค. อยู่ที่ 2.57 เมตร และวันที่ 29 ต.ค. จะสูง 2.65 เมตร ซึ่งเกินจากความสามารถที่คันกั้นจะรับได้ไปเล็กน้อย
แต่ทั้งนี้ ด้วยน้ำจะขึ้นเป็นเวลา เราจึงสามารถรับมือได้จำนวนหนึ่งและระบายออกได้ในเวลาที่น้ำลง ทั้งนี้เรายังไม่ลดความพยายามในการระบายน้ำออกสู่อ่าวไทย โดยใช้ฝั่งตะวันออกให้มากขึ้น โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ไปที่ชุมชนคลอง 9 พัฒนา อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อทำความใเข้าใจกับคนในพื้นที่ และกรมชลประทานได้ผ่าคันคลองรังสิตฝั่งใต้ ระหว่างคลอง 9 และ คลอง 10 หากดำเนินการแล้วเสร็จเชื่อว่าจะมีน้ำสามารถไหลข้ามทุ่งจากตอนเหนือมาสู่พื่นที่ตอนใต้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อไหลสู่คลองหกวาสายล่าง และไปคลองแสนแสบ และเข้าแม่น้ำบางปะกงเพื่อไหลลงทะเลต่อไป
นายธงทองกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องข้อเสนอที่อยากจะให้ทำทางน้ำไหลมากขึ้น โดยการตัดถนนให้ขาดเป็นช่วงๆ ฝั่งตะวันออกเช่น ถ.สุวินทวงศ์ ถ.บางนา -ตราดโดยระบุว่าสามารถทำให้น้ำไหลลงได้มากขึ้น จากการสำรวจพื้นที่จริง เราได้หารือและเห็นตรงกันว่าการดำเนินการเช่นนั้นจะไม่คุ้มค่า การระบายด้วเครื่อสูบและคลองด่านที่มีทำให้ได้ผลดี น้ำไหลในปริมาณที่น่าพอใจอยู่แล้ว แนวคิดดังกล่าวจึงยังไม่มีความจำเป็น
นายธงทองกล่าวอีกว่า ผู้ว่าการประปานครหลวง ยืนยันว่าระบบการจ่ายน้ำยังทำได้ดี และแม้จะมีน้ำท่วมขัง1-1.5 เมตรก็ยังผลิตและจ่ายน้ำได้ตามปกติ โดยอาศัยโรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ และโรงผลิตน้ำบางเขน ส่วนที่ช่วงที่ผ่านมาน้ำประปาในบางพื้นที่มีสีมีกลิ่นผิดปกติ เพราะน้ำดิบที่ป้อนเข้าสู่โรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ มีน้ำไหลเข้าเจือปน ซึ่งขณะนี้ปัญหาคลี่คลายแล้ว โดยการสูบน้ำที่ปะปนออกไปได้แล้ว ทำให้น้ำประปากลับมามีสภาพใสสะอาดเและได้มาตรฐาน ส่วนน้ำที่ค้างท่อตอนนี้ก็จำเป็นต้องใช้น้ำดีไล่ตามกลับไป ทำฝห้ให้ในวันสองวันนี้น้ำยังจะมีสีมีกลิ่น ซึ่งน้ำดังกล่าวนั้นมีคุณภาพปราศจากเชื้อโรค แต่เพื่อความสบายใจหากจะนำไปบริโภคก็ให้นำไปต้มเสียก่อน แต่เรื่องการใช้อย่างอื่นนั้นไม่มีปัญหา
โฆษก ศปภ. กล่าวต่อว่านอกจากนี้ ผู้ว่า การไฟฟ้านครหลวง ยืนยันว่า สามารถให้บริการได้ตลอดเวลาวิกฤต การตัดกระแสไฟเฉพาะบริเวณ เกิดเฉพาะกรณีน้ำท่วมสูง และมีการย้ายออกจากพื้นที่เป็นจำนวนมาก การคงไว้ก็คงสิ้นประโยชน ซึ่งคงต้องตัดเพื่อความปลอดภัย ส่วนการตัดเฉพาะบ้านนั้น หากน้ำขึ้นสูงใกล้มิเตอร์ไฟ ประมาณ 40-50 ซม. ก็ขอให้รีบแจ้งให้มาตัดให้เฉพาะรายเป็นการเร่งด่วน และมีหลายคนที่ขอ กฟนง เลื่อนมิเตอร์ให้อยู่ในตำหน่งสูงขึ้น ซึ่งสามารถขอรับบริการได้ที่ กฟน. หมายเลขโทรศัพท์ สายด่วน 1130 หรือ 02 - 2563222 ทั้งนี้ในแต่ละบ้านหากมีน้ำขึ้นสูงจนใกล้กับปลั๊กหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ขอให้ตัดคัทเอาท์ เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่ว
"จากการทีได้ตั้งศูนย์พักพิงตาม ต่างจังหวัด ในวันพรุ่งนี้ เราพร้อมที่จะให้บริการสำหรับคนที่ประสบอุทกภัย โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม ขสมก. บขส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กทม.ขอเชิญ ท่านที่ประสงค์จะใช้บริการ ไม่ต้องรอให้น้ำมา สามารถเดินทางได้แต่เนิ่นๆจะสะดวกกว่า คนนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงทางราชการ พร้อมจะให้บริการและจะนัดหมาย โดยจัดสถานี บขส. ศปภ. ขึ้น 5 สถานี ในเวลา 14.00 น. สถานีที่ 1. เป็นการนัดหมายที่สนาม"ไทย - ญี่ปุ่น" ดินแดง 2.ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ 3. โรงเบียร์ฮอลแลนด์พระราม 2 4.เดอะมอลล์บางแค 5.จุดจอดรถ วัดศรีเอี่ยม ถ.บางนา-ตราด ซึ่งจะมีรถของราชการรับและนำไปยังศูนย์พักพิง"นายธงทองกล่าว
แจ้งระดับน้ำเช้า29ต.ค.ขึ้นสูงสุด2.50 ม. เย็น2.34ม.
กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือได้แจ้งสภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ ประจำวันที่ 29 ต.ค.โดยน้ำขึ้น - ลง 2 ครั้ง น้ำลงเต็มที่เวลา 03.07น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.48 เมตร ขึ้นเต็มที่เวลา 09.09 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.50 เมตร น้ำลงเต็มที่เวลา 14.06 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.14 เมตร และน้ำขึ้นเต็มที่เวลา 18.30 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 2.34 เมตร ทั้งนี้คาดว่าในช่วงที่ทะเลหนุนสูง ในวันที่ 30 - 31 ตุลาคม จะสูงกว่าระดับทะเลปานกลางประมาณ 2.45 - 2.50 เมตร
พบแนวตลิ่งริมเจ้าพระยาเสี่ยงพังทลายหลายจุด
ศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แจ้งผลการวิเคราะห์ความแข็งแรง และแนวตลิ่งที่เสี่ยงต่อการพังทลาย สูง ถึง สูงมาก ในแนวตลิ่งด้านตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ช่วงคลองบางเขน ไล่มาจนถึง คลองพระโขนง โดยแบ่งออกเป็น 5 ช่วง ได้แก่ 1. แนวคลองบางเขน ถึง เทเวศร์ 2. แนวสะพานกรุงเทพ ถึง สะพานพระราม 9 3. แนวสะพานพระราม 9 ถึง คลองพระโขนง 4. แนวสะพานสาธร ถึง สะพานกรุงเทพ 5. แนวเทเวศร์ถึงสะพานสาทร
ศ.สุทธิศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้กับแนวตลิ่งที่วิเคราะห์มาแล้วว่ามีความเปราะบาง และเสี่ยงสูงที่จะเกิดพังทลาย จนอาจเกิดน้ำบ่าเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็วจากมวลน้ำมหาศาล เตรียมตัวที่จะพร้อมรับสถานการณ์ และอพยพ รวมถึงการเตรียมแผนในการซ่อมแซมแก้ไข ซึ่งจากประสบการณ์การพังทลายของเขื่อนหรือแนวป้องกันน้ำ ทั้งที่บริเวณโรงเรียนราชินีบน บริเวณจรัญสนิทวงศ์ ทางด้านตะวันตก พบว่ากระแสน้ำแรงมาก ซ่อมแซมแก้ไขได้ยาก และเกิดผลกระทบวงกว้าง
ทางด้านศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติกล่าวว่า สภาวิจัยฯจะนำข้อมูลนี้เสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยตรงด้วย
กทม.เปิด 225 จุด รวมพลรับอพยพทั่วกรุง
เมื่อเวลา 21.45 น. ที่ศาลาว่าการกทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. แถลงข่าวว่า สถานการณ์น้ำยังน่าเป็นห่วง ในช่วงเย็นที่ผ่านมา น้ำเจ้าพระยา หนุนสูง วัดได้ที่ระดับ 2.32 เมตร รทก. แต่พรุ่งนี้ (29 ต.ค.) คาดว่าน้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากระดับน้ำทะเลจะหนุนอยู่ที่ 1.31 เมตร รทก. จึงคาดว่าระดับน้ำเจ้าพระยา จะหนุนสูงถึง 2.50-2.53 เมตร รทก. ดังนั้นขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ส่วนสถานการณ์น้ำทุ่ง ยังมีปริมาณมาก โดยที่คลองสอง จ.ปทุมธานี สูงขึ้น 4 ซม. คลองทวีวัฒนา สูงขึ้น 3 ซม. ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ได้ประกาศให้เขตบางพลัด ดอนเมือง สายไหม เป็นพื้นที่อพยพ เพราะมีน้ำท่วมในพื้นที่ 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ในวันนี้สถานการณ์น้ำในเขตทวีวัฒนาได้ขยายตัวจาก แขวงศาลาธรรมสพน์และแขวงทวีวัฒนา ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก กทม.จึงต้องประกาศให้ทั้งเขตทวีวัฒนาเป็นพื้นที่อพยพ โดยขอให้ประชาชนย้ายไปที่ศูนย์พักพิงทันที
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะที่การเสริมแนวคันกั้นน้ำในฝั่งตะวันออก กทม. ได้นำกระสอบทรายในพื้นที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าพรุ่งนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จ แต่ยังไม่ได้รวมถนนสายไหม เพราะไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติภารกิจได้ เนื่องจากยังมีแรงเสียดทาน นอกจากนี้ยังมีถนนร่มเกล้า ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ส่วนยอดผู้อพยพสูงขึ้นกว่า 10,794 คนแล้ว จากเดิม 8,705 คน ใน 84 ศูนย์ 22 เขต อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม อพยพออกมาจากบ้านเรือน เนื่องจากกทม. ไม่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ทั้งหมด ดังนั้นการออกมาจากพื้นที่จะทำให้ปลอดภัยและกทม.จะบริหารจัดการได้ดีขึ้น ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ตนจะไปตั้งโรงครัวในเขตบางพลัด เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในเวลา 10.00 น. และ 16.00 น.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัดนั้น วันนี้กทม. ได้ประชุมและมีข้อสรุปในเรื่องการกำหนดจุดรวมพลในเขตต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลและกองทัพ สามารถมารับประชาชนออกนอกพื้นที่ได้ รวม 225 จุดทั่วกรุง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่สำนักงานเขตและร.ร.ในสังกัดกทม.
“ผมยังไม่ยอมแพ้ ผมยังมีความหวังว่ากทม.จะไม่ท่วมทั้งหมด โดยเฉพาะกทม.ชั้นใน ถึงแม้ยังมีน้ำมามาก หากยังไม่ขยายตัวรวดเร็ว ระบบระบายน้ำกทม.ก็จะทำหน้าที่ต่อไป ส่วนไหนที่ยังไม่ท่วม ผมยังไม่ยอมรับจะให้ท่วมได้ โดยจะป้องกันทุกเขตให้ถึงที่สุด ถ้าป้องกันไม่ได้ก็จะสู้ในเขตที่ยังไม่ท่วมต่อไป ส่วนที่กรมชลประทานได้คาดการณ์ว่าภายใน 3 วัน พื้นที่ฝั่งธนบุรีจะท่วมทั้งหมดนั้น ไม่ว่าหน่วยงานใดคาดการณ์ ผมน้อมรับ แต่ถ้ามีการพาดหัวข่าวกทม.จม ผมรับไม่ได้” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. เปิดเผยว่า หากสถานการณ์ของภาครัฐยังเป็นอย่างนี้ คาดว่า พื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมดมีโอกาสเสี่ยงสูงที่น้ำจะท่วมทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสที่น้ำจะท่วมพื้นที่ชั้นใน เช่น เขตปทุมวัน พญาไท และสุขุมวิท หรือไม่ นายสัญญา กล่าวว่า มีโอกาสเช่นกัน แต่ กทม.ได้ระบุที่ประชุม ศปภ.แล้ว แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่มีการป้องกัน
| Create Date : 29 ตุลาคม 2554 |
| Last Update : 29 ตุลาคม 2554 0:11:19 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 607 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [