Bloggang.com : จีนี่ในกระจกแก้ว : บันทึกการเดินทางครั้งแรกของจีจี้

บันทึกการเดินทางครั้งแรกของจีจี้

ท่องโลกกว้าง

บันทึกการเดินทางครั้งแรกของจีจี้

ทริปนี้จัดขึ้นเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ในบ้าน นั่นก็คือน้องจีจี้ ชิห์สุน้อยสีขาวจอมซน พร้อมๆ กับการฉลองวันเกิดครบรอบ 2 เดือนให้น้องจีจี้ด้วย เห็นจีจี้เอาแต่นอนทั้งวันก็กลัวว่าสุขภาพจะไม่แข็งแรง หลังจากออกจากอกแม่แท้ๆ มาก็ไม่ได้กินนมอีกเลย ม่ามี้บุญธรรมก็เลยวางแผนจะพาจีจี้ไปเที่ยวนอกบ้านเปิดหูเปิดตาบ้าง (จริงๆ แล้ว ม่ามี้มันต่างหากที่อยากพักผ่อน อิอิ)

เนื่องจากน้องจีจี้เป็นน้องหมาตัวแรกที่เคยเลี้ยง และไม่เคยพาน้องหมาตัวไหนไปเที่ยวมาก่อน การเดินทางครั้งแรกจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เริ่มวางแผน อันดับแรกเลยก็ต้องเลือกสถานที่ (จังหวัด แหล่งท่องเที่ยว) ที่จะไปก่อน หลังจากนั้นก็ลองค้นหาข้อมูลเรื่องที่พักต่อจากอินเตอร์เน็ท และโทรไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางที่พักอีกที

ทริปนี้เราจะไปนครนายก

นครนายกเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่นัก ที่สำคัญอยู่ห่างจากบ้านเรา (รังสิต) แค่ประมาณ 100 กิโลเอง

ทีนี้ก็มาเลือกที่พักกันบ้าง หลังจากค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ท ... โอ... บรรดาที่พักสวยๆ รีสอร์ทหรูๆ มีให้เลือกสรรมากมาย แต่สิ่งแรกเลยที่เราต้องคำนึงถึงและต้องโทรไปสอบถามเพื่อความแน่ใจก็คือ

“เอาน้องหมาเข้าไปพักด้วยได้ไหมคะ”

“ชิห์สุค่ะ ตัวเล็กๆ ค่ะ”

บางที่พักก็ประกาศไว้ในเวบไซด์เลยว่าพาหมาเข้าไปได้หรือไม่ได้ แต่บางที่ก็ต้องโทรไปถามเอง

สิ่งที่เราต้องคำนึกถึงต่อมาก็คือ ราคาที่พัก ด้วยการเป็นนักท่องเที่ยวมือใหม่ งบประมาณที่เราจัดไว้สำหรับที่พักของเราจึงตั้งไว้แค่ไม่เกิน 2 พันบาทต่อคืน ยิ่งราคาถูกลงเท่าไหร่ เราก็จะมีเงินเหลือไว้ใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น นอกจากราคาแล้ว ที่เราต้องพิจารณาอีกก็คือลักษณะของที่พัก บ้านพัก สภาพแวดล้อม อาหาร และความเป็นส่วนตัว

เราเลือก บ้านปลายฟ้า ที่ ภูไอยรารีสอร์ท ....

23 พฤษภาคม 2009
การเดินทางครั้งแรกของจีจี้ ไม่ได้ทำให้ม่ามี้ลำบากใจแต่อย่างใด พอขึ้นรถได้ปุ๊บ แอร์ในรถเริ่มจะเย็นๆ จีจี้ก็หลับปุ๋ยแล้ว เพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็เดินทางถึงภูไอยรารีสอร์ท

อากาศยามเที่ยงวันช่างร้อนอบอ้าวนัก หลังจากเช็คอินและเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เราก็ยกขบวนออกเดินทางไปเที่ยวกัน ไปเขื่อนคลองท่าด่าน หรือขุนด่านปราการชล ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก สามารถขับรถขึ้นไปชมบริเวณสันเขื่อนได้เลย ซึ่งจะเปิดให้ขึ้นชมได้ถึงเวลา 18 นาฬิกาเท่านั้น

บนสันเขื่อนจะมีรถนำเที่ยวสันเขื่อนที่คิดค่าบริการคนละ 20 บาท โดยจะมีไกด์แนะนำประวัติความเป็นมาของเขื่อนให้ฟังด้วย ใครที่อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรต้องขึ้นไปฟังเองนะ เราขอไม่บอก ณ ที่นี้ อิอิ

วันนี้น้ำในเขื่อนยังมีปริมาณไม่มากนัก ไกด์บอกกับพวกเราว่า ถ้าจะดูน้ำเต็มเขื่อนให้มาช่วงเดือนกันยา-ตุลา ของทุกๆ ปี แม้น้ำจะน้อย แต่อย่างไรก็สวยงาม ไม่เสียใจที่มาชมหรอกนะ

ปล. แดดข้างบนสันเขื่อนร้อนมากๆ ร้อนจนจีจี้ลิ้นห้อยออกมาตลอดเวลาเลย

หลังจากร้อนได้ที่เกือบๆ จะสุกแล้ว คราวนี้ก็มาถึงคิวของการหาอาหารอร่อยๆ กันบ้าง แต่...อนิจจา ไปทริปนี้ไม่ได้หม่ำๆ ของอร่อยๆ อย่างที่หวังไว้เลย และนอกจากจะไม่อร่อยแล้ว ราคาก็สูงเกินไปอีกด้วย (ขออนุญาติไม่เปิดเผยชื่อร้าน เพราะอาจเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวและความชอบในเรื่องรสชาติที่แตกต่างกัน)

ย้อนกลับมาที่ที่พักกันดีกว่า ต้องขอบอกว่าทางรีสอร์ทจัดการสถานที่ได้สวยงามลงตัวดี ถึงแม้ว่าจะมีบางส่วนที่กำลังก่อสร้างต่อเติม แต่ก็ไม่ได้มีสิ่งรบกวนทำให้รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด

ภายในบ้านปลายฟ้า กว้างขวาง เป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ มีทีวีจอ LCD ขนาดกระทัดรัด (ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป) ตู้เย็น (มินิบาร์) แอร์ (เย็นฉ่ำ) ห้องน้ำเล่นระดับ และระเบียงหลังบ้าน (น่าเสียดายที่วิวหลังบ้านไม่สวยเท่าไหร่นัก) การตกแต่งภายในบ้านก็น่ารัก ไอเดียสร้างสรรค์ดี
ภายนอกบ้านพักก็จัดเป็นสวนร่มรื่น แบ่งบ้านพักออกเป็นโซนๆ โซนที่ติดลำน้ำ (เทียม) ก็สามารถลงเล่นน้ำได้เลย และที่สำคัญ มีสนามหญ้าให้จีจี้วิ่งเล่นได้ด้วย

น่าเสียดายอีกแล้วที่จีจี้เพิ่งจะฉีดวัคซีนเข็มแรกมา ทำให้ไม่สามารถอาบน้ำได้ ก็เลยไม่รู้ว่าจีจี้ว่ายน้ำเป็นหรือเปล่า ฮา...

อาหารค่ำคืนนี้ เป็นอาหารจากเมนูของทางรีสอร์ท ตั้งใจจะสั่งเมนูเด็ด ต้มยำไอยรา แต่ทางรีสอร์ทแจ้งว่าวันนี้พ่อครัวไม่ได้ไปจ่ายตลาดเอง ของสดบางอย่างจึงไม่มี T^T

โชคยังเข้าข้างเราอยู่บ้าง เพราะมีรถขายขนมไทยๆ มาขายถึงในรีสอร์ท ขนมหวานอร่อยๆ ราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย (ชิ้นละ 5 บาท)

ได้เวลานอนแล้ว จีจี้ก็นอนหลับสบายอยู่ในตะกร้า (ตัวยังเล็กอยู่ กระโดดออกจากตะกร้าไม่ได้ หุหุ) จีจี้นอนสบายแต่ม่ามี้นอนไม่ค่อยจะหลับเพราะถูกยุงกวน (ไม่รู้แอบบินเข้าห้องมาตอนไหน) ทริปครั้งหน้าเลยตั้งใจว่าจะต้องพกพาสเปรย์ฉีดกันยุงและยาทาแก้คันเอาไว้ติดตัวตลอดเวลาแล้วล่ะ

24 พฤษภาคม 2009
ตอนเช้าอากาศสดใส เมื่อคืนมีฝนพรำลงมาพอให้เย็นสบายๆ ทำให้ต้องออกมาสูดอากาศรับออกซิเจนเข้าปอดกันให้เต็มที่ ให้จีจี้ได้ชื่นชมกับความงามของกิ่งไม้ใบหญ้า นู๋จีจี้ก็ออกสำรวจโลกอีกใบที่แปลกตาไปจากบ้านทรงสี่เหลี่ยมที่เห็นจนคุ้นเคยสายตาทุกวัน ด้วยขาน้อยๆ สั้นๆ ทำให้เดินได้ไม่นานจีจี้ก็เหนื่อยจนต้องนั่งพักเป็นระยะๆ เมื่อเดินชมบริเวณรอบๆ รีสอร์ทจนเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ (ราคารวมไว้กับราคาบ้านพักแล้ว)

สายๆ เราก็เก็บข้าวของเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านกัน ขากลับก็แวะเก็บภาพแนวสันเขื่อนจากทางด้านล่าง ให้เห็นถึงความใหญ่โตอลังการของเขื่อนคลองท่าด่านแห่งนี้ ก่อนจะอำลาด้วยรอยยิ้ม และตั้งใจว่าจะกลับมาเยือนถิ่นนครนายกอีกครั้งเมื่อวันที่มีน้ำเต็มเขื่อน