Episode เด็กบ้านนอก ตอนเมื่อผมโดนสาวขอแต่งงาน
สวัสดีครับ อิอิ ตอนก่อน เป็นเรื่อง เฉียดตายของผม แลกมาด้วยคำว่า Poor Guy ซึ่ง ฉงน งง งวยกับคำแปลเหลือเกิน ล่าสุด อารมณ์ Romantic รับหน้าหนาว เลยไปซื้อ DVD Titanic Collector Edition มาดู มีฉากนึงที่ Rose เปิดสมุดภาพของพระเอก แจ๊ค ดอห้อย เอ๊ย ดอสั้น (Dawson)
แล้ว Jack ก็บอกว่า หญิงเปลือยในรูปเขาวาดตอนไป Paris (Hi so นะน่ะ) น้อง Rose เลยถามแบบ อึกอัก ว่า Paris? You do get around for p
person of limited means. Jack เลยรีบบอกว่า Go on.. poor guy you can say it. สรุป ในหนังเรื่องนี้ ก็ใช้คำว่า Poor guy สำหรับคนที่มันต่ำต้อย ยากจน รันทด อดสู หาดีไม่ได้ ซะนั่น เฮ้อ แบบนี้ ผมก็โดนด่า แน่ๆ (ถ้าไม่รู้เรื่อง ก็ไปอ่าน ตอน Episode วันนี้ผมเกือบตาย นะครับ)
แหะๆ มาเรื่อง ตอนใหม่ ที่เอามาเล่ากันวันนี้ดีกว่า ขึ้นต้นชื่อตอนได้หวาดเสียว สยิวกิ้ว เป็นที่สุด แต่บอกก่อนนะครับว่า เป็นเรื่องจริง เนี่ยตอนเขียน หน้าผมยังแดง แก้มยังเป็นชมพูระเรื่ออยู่เลยเนี่ย ฮิ๊วววว เอ.. เรื่องราวมันเป็นยังไงกันน๊าา เล่าแน่ครับ แต่ใจเย็นๆ วันนี้มาแบบ เบาๆ ไม่ได้มาแบบวันมามาก อิอิ
มาที่เมกานี่ก็ร่วมจะครึ่งปีแล้วนะครับ พี่เพื่อน คิดว่านานไหมครับ ตั้งแต่อ่านตอนแรกของผมมาจนวันนี้ ตอนนี้เด็กบ้านนอก ก็ เริ่มปรับตัว เป็น หนุ่มบ้านนอก ทำไมว่างั้น ก็ อยู่มานานพอที่จะ เริ่มมีกะใจมองหญิงแล้วอ่ะดิครับ ฮิ๊ววว.. (รอบสอง)
มาแรกๆ ผมสังเกตได้อย่างนึงครับ ว่า สาวเมกัน ไม่ค่อยชำเลืองมอง เด็กเอเชียแบบผมเลย ทั้งสาวน้อย และสาวเหลือน้อย ทำเอาผม น้อยใจในชะตาชีวิต (เสีย Self) ก็ ตอนก่อนมา ฝันว่าจะได้ลองชิม Milk จากแหล่งต้นตำรับ ของจริง อิอิ แต่ปรากฏ แห้ว สนิท กลายเป็นเด็กขาดสารอาหารไปซะงั้น แบบว่าอยู่เมืองไทยขายไม่ออก กะว่ามานี่ อาจจะรุ่งเผื่อ ฝรั่งจะชอบของแปลก เคยอ้อนท่าน Thaijoe ให้เป็น ธุระจัดหาให้ ท่านก็หมางเมิน อิอิ เดี๋ยวไปอ้อน ท่านคุณนายคลิคแทนก็ได้ครับ
ฮ่า อ่านมาถึงตอนนี้ ท่านคิดว่า อ้าว เขียนมาแบบนี้ ก็เป็น ไอ้แห้วดิ แล้วใครจะมาขอแต่งงานกะเอ็งฟะ ก็ ขอ อรัมภบท ก่อนดิ หนังดีต้องมี Introduction ใช่ป่ะ
แรกๆ ก็ ได้ เจอน้องหล้า(สาวเมกัน) เพื่อนร่วม Apartment บ้าง แต่ตอนนี้ น้องหล้ามีแฟนเป็นตัวตนไปแล้วครับ ก็เลยไม่ได้เจอกันอีกเลย งื๊ดๆ สรุป เจ้า Landlord เพื่อนผมมันโกหกว่าน้องหล้าเป็น Gay (Lesbian) โหย แปลว่ามันเป็นตำรา สุนัขในรางข้าวโอ๊ต(เผอิญ แถวนี้ Hiso ไม่มีหญ้าอ่ะครับ) กินไม่ได้ แต่ แทงกั๊ก แบบนี้มัน สับขาหลอก นี่หว่า นึกแล้ว เจ็บใจ (ถ้า งง คำว่า สับขาหลอก ไปถาม แฟนบอลเอานะครับ)
เอาล่ะเข้าเรื่องดีกว่า เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า สมัยผมมาเมกาใหม่ๆ ผมไป ซื้อของที่ Walmart เสร็จแล้ว ก็นั่งรอรถที่ป้ายรถเมล์นั่ง ก็ มี ป้ามืด รูปร่างท้วม อายุราว 40 ต้นๆ อยู่ถัดไปไม่ไกล ติดกันก็มี ป้า Philippine คนนึงอายุ พอๆกัน ตัวเล็กๆผอมๆ สองคนนี้ไม่รู้จักกันนะครับ
ระหว่างนั่นรอ ป้ามืด (ชื่อ ป้า พีครับ) ก็ ถามผมว่ากี่โมงแล้ว ตอนนั้น 5.15 ผมก็ ตอบแบบบ้านนอกไปว่า A quarter passed five หึหึ ป้าแก งง คงเป็นเพราะสำเนียง ที่ไม่มี Tone สูงต่ำของผม ก็ผมไม่รู้นี่นาว่า เขาจะนิยมพูดว่า Five fifteen ก็เรียนมาตั้งแต่ อนุบาลยัน ปริญญา ก็ สอนแต่แบบนี้นี่ บ้านเรา เรียนมาแบบท่องจำ เป็น นกแก้ว นกกระตั้ว มีอยู่ครั้งนึง กำลังคิดไรเพลินๆ มีคนทัก Good morning ผมดันเกือบตอบ Very well, sit down. นึกว่าตัวเองเป็น ครู สอนอนุบาลบ้านหมีเห็น ซะแล้ว (ห้ามผวนครับ ไม่ได้ตั้งใจลามก)
ว่าแล้ว ถ้าเรียนจบ ผมก็ต้องกลับไปเป็นครูที่บ้านนอกล่ะครับ คงจะ เป็นครูที่หน้าตาดีพิลึก อิอิ เออ แต่ รุ่นน้องผมมัน เคยเตือนเอาไว้นะ ว่า ไปทำงานเป็นครูใช้ทุนน่ะ ได้เงินน้อย รวยยาก อยากมีบ้านกับเขาก็ต้อง ต้องกู้สหกรณ์ กู้ เงินนอกระบบ โอ๊ย สารพัดจะกู้ แถมมันขู่ผมอีกนะว่า ครูน่ะ กู้ทุกอย่าง ไม่กู้อย่างเดียว คือ กู้ระเบิด
(เอ่อ ไม่ได้ ต้องการลบหลู่ อาชีพครูนะครับ เป็น เรื่องขำขันที่ เล่ากันเท่านั้น) ไม่เป็นไร ผมใช้ชีวิตพอเพียง
(เกาะหม่อมแม่ต่อไป)
เข้าเรื่องต่อ ป้า พีก็ งงที่ผมบอกเวลา ผมก็เลยยื่นนาฬิกาให้แกดูเอาเอง แหะๆ ยื่นให้ดูแต่แรกก็หมดเรื่องนิ แกก็ สัมภาษณ์ผมต่อว่า มาจากไหน ผมก็บอก Thailand แกก็ Oh! Taiwan อือม์ เจอประจำนะ มุขนี้ ระหว่างการสนทนา ป้าปิน แกนั่งเก็บข้อมูลเงียบๆไม่พูดอะไร
ป้าพีก็ ถามว่ามาทำอะไร มานานรึยัง เรียนอะไร โอ๊ย คุยกันออกรสออกชาติ เหมือนเป็น ป้าหลานที่สนิทกันมานาน รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง แบบว่าป้าแกใช้คำ Slang เยอะ ต่อมา ป้าพีถามต่อว่า ยูเรียนภาษาอังกฤษก่อนมานี่ไหม ยูเนี่ย พูดได้ดีนะ ไอ เจอ เอเชียบางคนพูดไม่รู้เรื่อง ประเทศ ยูเนี่ย เรียน English ตั้งแต่ตอนไหน ผมก็ ตอบไปว่า ตั้งแต่ประถม ป้าแกก็ชมว่ามิน่า ยูถึงพูดได้ดีทีเดียว ป้าปินก็เอาเลยครับ บอก โอ๊ว บ้าน ไอน่ะ ใช้เป็น ภาษาราชการย่ะ ทุกคนต้องรู้ ต้องพูดได้ ชั้นเรู้ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ ออกจากท้องแม่ น่านนน โดน Bluff กันเห็นๆ
ต่อมา ป้าพีถามว่า มีเพื่อนไหม ผมบอก ยังไม่มีเลย กำลังพยายามตามหาคนไทยอยู่ แต่ไม่เจอ โทรไปร้านอาหารไทยก็เจอแต่คนลาวเป็นเจ้าของ ไม่มีคนไทย ป้าปินแก คงคันปากอยากแจมมั่ง แกบอก โอ๊ว อี่นี่ ฉาน เอ๊ยไม่ใช่ละ ชั้นมีเพื่อนเป็น คนไทยนะ ทำงานอยู่ IBM เป็นวิศวกรรวยมากๆ ผมก็งงเกี่ยวไรกับรวยเนี่ย เออ แต่ก็ดีใจ มีคนไทยด้วย เย้ๆ
ด้วยความที่ผมมาต่างบ้านต่างเมือง ยังไม่มีคนไทยที่รู้จักเลยสักคน พอรู้ว่า ป้าปิน แกมีเพื่อนเป็นคนไทย ผมก็ พยายามสอบถามว่าเขาอยู่ไกลไหม ช่วยติดต่อให้ผมได้ไหม ผมแค่อยากรู้จักคนไทยด้วยกัน เจอผมถามเยอะเข้า ป้าปินแกเลย อ้อมแอ้มบอกว่า ไอ เพิ่งนึกได้ว่า เพื่อนไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนลาว เฮ้อ ป้าปิน อำผมซะแล้ว
ว่าแล้วรถก็ มาพอดี เราสามคน ก็ขึ้นไป คุยกันบนรถต่อ ผมนั่งกับป้าพี โดยผมช่วยแก ถือของขึ้นไปด้วย แกชมเปาะว่า You are very nice. แหม ป้า เล่นถูกต่อมผมเลยนะน่ะ ผมน่ะมันบ้ายอ อิอิ ระหว่างทาง คุยกันได้สักพัก ป้าพีเริ่มเล่าประวัติตัวเอง ว่า แกแต่งงานแล้ว ต่อมาเลิกกับสามี มีลูกสาว 7 ขวบคนนึง พักแถว Downtown ระหว่างนั้น ป้าปิน พยายามแจม แต่ไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ฟังแล้วพยักหน้า
จู่ๆ ป้าพีก็มากระซิบผมไม่ให้ป้าปินได้ยิน ว่า อยากอยู่ทำงานที่เมกาไหม? ผมก็ก็รีบตอบว่า อยากดิคับ แกก็บอกว่า แกมีวิธีช่วยนะ สนใจไหม
โอ๊ว ความหวังรำไร จู่ๆ สวรรค์ส่งนางฟ้าตุ้ยนุ้ย มาแนะทางสว่างให้ผมหรือนี่ ผมเลยถามไปว่า ทำยังไง แกบอกว่า ยูก็แค่ แต่งงานกับไอ ว่าแต่ ยูจะจ่ายให้ไอได้เท่าไร พอฟังยังงั้น สวรรค์ล่มทันตาเห็นซะแล้วครับ จากป้าจะกลายเป็น ภรรยา แถมต่อรองค่าตัวกันเสร็จสรรพ
กลายเป็น ผมขำไม่ออกไปเลยอ่ะ ได้แต่อายม้วนต้วน กัดผ้าชายเสื้อแบบลืมตัว อ้าว ไม่ใช่ละ แหม จู่ๆ จะมี Package สำเร็จรูป ที่นาผืนน้อย พร้อมเรือพ่วง อีกหนึ่งลำ ทำใจลำบากครับ ผมเลยยิ้มแหยๆ บอกป้าไปว่า ขอไปคิดดูก่อน ป้าพีเลย เอาจดเบอร์มือถือให้ผม แล้วแกก็ยิ้มแบบนางสาวไทย พร้อมกับบอกว่า บอก Call me anytime ดีนะ ไม่มี แถม จุ๊บๆด้วย เฮ้อ ได้เบอร์สาวบนรถเมล์ เสน่ห์แรงจริงๆเลยเรา ส่วนป้าปิน เคยเจอแกหลายหน แต่แกทำเหมือนไม่รู้จักผมอีกเลยอ่ะ ผมว่าแกจำผมได้นะ แต่ คงไม่อยากสนใจเท่าไร
ตกลงเรื่องนี้ ผมโดนขอแต่งงานบนรถเมล์ครับ แหง่วว หลังๆ ได้เจอป้าพี อีกเหมือนกัน แกก็ ถามเชิงตัดพ้อว่า ทำไมไม่เห็นโทรมาหาเลย เฮ้อ เกือบได้ Green Card ซะแล้วเรา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนหล่อ ทำไรก็ดูดี ฮาาา
เด็กบ้านนอกVersion แจ๊ค ดอไม่สั้น
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2549 |
|
12 comments |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2549 8:09:28 น. |
Counter : 1365 Pageviews. |
|
|
|