ตุลาคม 2550

 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
30
31
 
 
II ณ วันที่ฉันเป็น EสุกEใส ll


สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ พี่ ๆ ใน BloGGanG ไม่ต้องสงสัยนะคะ ว่านัทหายไปไหนมาซะนาน เพราะว่านัทหายไปเป็น EสุกEใส มานะคะ ทรมานมาก ๆๆ ปุ่นขึ้นเต็มตัวเลย คันยิบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไปหมดแล้ว ปวดหัวเป็นไข้ ไม่สบาย ทรมานจริง ๆค่ะ เกินมาก็เพิ่งเคยเป็นกับเค้ากัน กินไรก็ไม่ได้ แต่อย่างเพิ่งดีใจนะคะ ว่าในวันนี้ที่นัทมาเขียนบล๊อค อย่าคิดว่านัทหาย อิอิ นัทไม่ได้หายหรอกค่ะ แต่ด้วยความอยากอัพบล๊อค อยากให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้รู้จักว่า EสุกEใส เป็นไงคะ


โรคอีสุกอีใส (chickenpox) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลา มีลักษณะอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามหน้า ลำตัว และแผ่นหลัง และมีไข้
สาเหตุของโรค
เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า วาริเซลลาไวรัส (Varicella virus) หรือ Human herpes virus type 3 เป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดงูสวัด
การติดต่อ
ติดต่อโดยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรงหรือ สัมผัสถูกของใช้ (เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ที่นอน) ที่เปื้อนถูกตุ่มน้ำของคนที่เป็น อีสุกอีใสหรืองูสวัด หรือสูดหายใจเอาละอองของตุ่มน้ำ ผ่านเข้าทางเยื่อเมือกระยะฟักตัว 10-20 วัน
อาการของโรค
เด็กที่เป็นจะมีไข้ต่ำ อ่อนเพลียและเบื่ออาหาร ส่วนผู้ใหญ่มักจะมีไข้สูง มีปวดเมื่อยตามเนื้อตัวคล้ายไข้หวัด ขณะเดียวกันก็จะมีผื่นขึ้นพร้อมๆ กับวันที่เริ่มมีไข้ หรือ 1 วันหลังมีไข้ โดยในระยะแรกจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบก่อน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใสๆ และคัน ต่อมาอีก 2-3 วันก็จะตกสะเก็ด ผื่นและตุ่มเหล่านี้จะขึ้นตามไรผมก่อนแล้วกระจายไปตามใบหน้าและลำตัว แผ่นหลัง บางคนจะมีตุ่มขึ้นในช่องปากทำให้ปากและลิ้นเปื่อย จะเกิดอาการเจ็บคอ บางคนอาจไม่มีไข้ มีเพียงผื่นและตุ่มขึ้นเท่านั้น ผื่นจะขึ้นมากที่สุดที่ใบหน้าและลำตัว เด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่มักจะมีอาการรุนแรงและมีตุ่มขึ้นมากกว่าเด็ก โดยทั่วไปผื่นหายได้โดยไม่มีแผลเป็น ยกเว้นมีเชื้อแบคทีเรียมาแทรกซ้อน โรคนี้เมื่อหายแล้วมักจะมีเชื้อหลบอยู่ที่ปมประสาท ซึ่งอาจจะออกมาเป็น งูสวัด ในภายหลังได้ เนื่องจากผื่นและตุ่มที่ขึ้นนี้จะค่อยๆขึ้นทีละระลอก ไม่ขึ้นพร้อมกันทั่วร่างกาย บางทีจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบ บางทีขึ้นเป็นตุ่มน้ำใสๆ บางทีขึ้นเป็นตุ่มกลัดหนอง และบางทีเริ่มตกสะเก็ด จึงทำให้คนสมัยก่อนเรียกโรคนี้ว่า อีสุกอีใส
อาการแทรกซ้อน
ที่พบบ่อยคือ การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนบนผิวหนัง ทำให้กลายเป็นหนองและมีแผลเป็นตามมา ในบางรายเชื้อแบคทีเรียที่แทรกซ้อนอาจกระจายเข้าไปในกระแสเลือดทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษและปอดบวมได้ ในผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่นได้รับยารักษามะเร็ง หรือ สเตอรอยด์ เชื้ออาจจะกระจายไปยังอวัยวะภายในเช่น สมอง ปอด ตับ ได้
การรักษา
เนื่องจากเป็นโรคที่หายเองได้ โดยอาจจะมีไข้อยู่เพียงไม่กี่วัน ส่วนตุ่มจะตกสะเก็ดและค่อยๆหายใน 1-3 สัปดาห์ ผู้ป่วยจึงควรพักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ ถ้ามีไข้สูงใช้ยา พาราเซตามอล เพื่อลดไข้ได้ ไม่ควรใช้ แอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิดอาการทางสมองและตับ ทำให้ถึงตายได้ ควรอาบน้ำและใช้สบู่ฟอกหนังให้สะอาด ควรตัดเล็บให้สั้นและหลีกเลี่ยงการแกะเกา เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ ในรายที่คันมากๆ อาจให้ยาแก้คัน เช่น คลอเฟนิรามีน ช่วยลดอาการคันได้ ในปัจจุบัน มียาที่ใช้ยับยั้งการเจริญของไวรัส แต่ต้องใช้ในขนาดสูงและราคาแพงมาก นอกจากนี้จะต้องเริ่มใช้ภายในวันแรก มิฉนั้นอาจไม่ได้ผล หรือไม่ได้ผลดี
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับอีสุกอีใส
1. โรคนี้เมื่อเป็นแล้วอาจมีโอกาสเป็น งูสวัด ได้ในภายหลัง
2. ควรแยกผู้ป่วยออกต่างหากเพื่อป้องกันการติดต่อ โดยระยะแพร่เชื้อจะเริ่มตั้งแต่ 24 ชม. ก่อนที่ผื่นหรือตุ่มแห้งหมด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6-7 วัน
3. ไม่มีของแสลง
4. ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรค อีสุกอีใส แล้ว

--------
--------

นัทขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ ส่วน เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่มาคอมเม้นไว้ เอาไว้นัทหายดีแล้วจะกลับไปทักทายนะคะ วันนี้พอก่อน รู้สึกไม่ไหวละคะ อ้อ!! ลืมบอกไปว่า คนที่เคยเป็นแล้ว ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นอีกได้นะคะ จะหาว่านัทไม่เตือนนนน

--ขอให้นัทหายไวไวนะคะ --





Create Date : 26 ตุลาคม 2550
Last Update : 26 ตุลาคม 2550 9:05:25 น.
Counter : 726 Pageviews.

3 comments
  
เคยเป็นตอน ป.2 อืม...
โดย: Jump.Jr วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:10:49:56 น.
  
เคยเป็นตอนอยู่ ม.3

ขึ้นเต็มหน้าเต็มตัวไปหมดเลยค่ะ
นอนไม่ได้ คันมากๆ ร้องไห้ทุกคืน

อาจจะเป็นเพราะว่า เมื่อสมัยก่อน ตอนที่เราเป็นที่บ้านห้ามอาบน้ำ
ไม่ได้อาบน้ำตั้ง 8 วัน
แค่เช็ดตัวทำความสะอาด แต่โชคดีที่ปีนั้นหนาวมากๆ

ตอนที่เป็นใหม่ๆ ก็ทานยาเขียว(เขาบอกกระตุ้นให้มันออกมาให้หมด)
จริงๆ เราก็ไปโรงพยาบาลเขาก็ให้ยามาทาน แต่ไม่ทาน
เรื่องอาหาร เราทานข้าวต้มกับพวกผักกาดดอง ปลาเค็ม เกือบทุกวัน
(จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวหรอก) ขาดสารอาหารนะนั่น แต่เราก็เชื่อ

แปดวันหลังจากนั้น กลับมาโรงเรียน ยังดูไม่ค่อยออกว่าเราเป็นอีสุกอีใส
ทั้งๆ ที่ตอนที่เป็น บนหน้าเรามีตุ่มเต็มไปหมด
โดย: bombik วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:11:52:20 น.
  
หวัดดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ เป็นไงบ้างค่ะ ดีขึ้นแล้วใช่ไหมค่ะ พักผ่อนเยอะๆนะค่ะ ช่วงนี้งานยุงน่ะค่ะ ไม่ค่อยได้มา วันนี้หยุดค่ะ คิดถึงนะค่ะ
โดย: เพราะฉันห่างไกล วันที่: 27 ตุลาคม 2550 เวลา:16:54:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

iTsnaTz
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



●●Ľ๐nεLy²●●- แค่รู้จักรักตัวเองได้ ก็เป็นสุขแล้ว -●● naTtiiεz*Ǥ●●