Bloggang.com : It-ta-tee : Bergen-Belsen เมืองที่ Anne Frank เสียชีวิต

Bergen-Belsen เมืองที่ Anne Frank เสียชีวิต

สาวน้อย เหยื่อสงคราม Anne Frank
ไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัมแบบเช้าไปเย็นกลับ หลังจากซื้อข้าวของ พวกเสื้อผ้า เพราะราคาถูกกว่าที่เยอรมนีมาก ก็ชวนสามีไปบ้าน Anne Frank เดินไปจากสถานีรถไฟ เดี๋ยวเดียวก็ถึง
ค่าเข้าชมนั้นแพงมากทีเดียว เจ็ดยูโร ตาหนูเสียด้วยห้ายูโร ข้างนอกบ้านไม่มีอะไรน่าดูเพราะเขาสร้างกระจกหุ้มปิดทำให้มองไม่เห็น ดูที่ภาพสิคะ เข้าแถวคอยดูนานเกือบสองชั่วโมงทีเดียว พ่อบ้านไม่ยอมเข้าไป บอกเคยเข้าแล้วสมัยเรียนมัธยม มาทัศนศึกษาที่นี่บ่อยๆ
เมื่อเข้ามาข้างในจึงเห็นรูปภาพต่างๆ ห้องทำงานของพ่อแอนน์ แฟรงค์ ซึ่งเมื่อก่อนเป็นโรงงานผลิตผงเจลลาตินทำแยม ยี่ห้อ โอเป็คตา และห้องที่ครอบครัวแอนน์แฟรงค์หลบซ่อนตัว
ในนั้นมีโทรทัศน์ถ่ายทอดสงคราม และบรรยายภาคที่เกี่ยวข้องกับของครอบครัวนี้ และข้อความจากบันทึกของแอนน์

ในบ้าน เขาห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด มีห้องเล็ก ห้องน้อยให้ชม เสียดายไม่มีรูปข้างในมาฝาก

ดูห้องไป อ่านบางส่วนของบันทึกแล้วเศร้า ฝาบ้านบางส่วน แอนน์เอารูปดาราบ้าง นางแบบบ้างมาแปะ ความใฝ่ฝันให้สงครามสิ้นสุดของยายหนูที่ระบายออกมาทางปากกา นั้นเศร้าจริงๆ อ่านไปอดร้องไห้ไม่ได้ ยิ่งเมื่อได้อ่านที่เด็กหญิงวัย สิบสองขวบ เขียนเกี่ยวกับสงคราม และเกี่ยวกับความเป็นยิว ยิ่งอดไม่ได้ ที่จะเศร้าเข้าไปใหญ่ เจ้าลูกชายเองก็เกาะแขนเราแน่น วัยเจ็ดขวบของตาหนูนั้นบริสุทธิ์ และยังไม่เข้าใจลึกซึ้งว่าสงครามคืออะไร
สรุป ให้ลูกฟังคร่าว สงครามเป้นสิ่งเลวร้ายมากๆ ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิต พลัดพรากจากสิ่งที่ตนเองรัก เมื่อตอนเราไปเที่ยวเมืองเขมร ก็ได้เห็นความโหดร้ายของสงคราม ผู้คนไร้แขน ไร้ขาเดินบ้างนั่งบ้างอยู่กลางถนน ขอทานประทังชีวิตไปเด็กๆสามสี่ขวบเดินขอทาน กระโหลกศีรษะที่กองๆให้เห็นในวัดบางแห่งนั้นก่อให้เกิดความคิดต่อต้านสงครามอย่างเต็มที่
สารคดีเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง นั้นถูกวนเวียนเอามาถ่ายทอดทางโทรทัศน์ของเยอรมนีบ่อยๆ คงเพราะอยากจะเตือนไม่ให้โลกลืมว่าความโหดร้ายแห่งสงครามนั้นเป็นอย่างไร

แล้วคนไทยเล่า เมื่อไรจะมีความสามัคคี กลมเกลียว ไม่แบ่งแยกศักดินา ฐานะ ภูมิภาค และ ศาสนา เมื่อไร การจลาจล การลอบก่อการร้ายจะหมดไป เพื่อที่ว่า ผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายจะดำเนินชีวิตต่อไปโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายทำลาย ทรัพย์สิน หรือชีวิตอีก

หลังจากไปเที่ยวบ้านแอนน์ แฟรงค์ แล้ว ขากลับเยอรมนีก็ได้มีโอกาส แวะไปเมือง
Bergen-Belsen.ซึ่งเป็นเมืองที่แอนน์ แฟรงค์เสียชีวิตในค่ายกักกันผูอพยพชาวยิวแห่งเมืองแบร์กเก่น-เบลเซ่น จากโรคไทฟอยด์ สมัยนั้นชาวยิวจะถูกทรมาณทั้งกายและใจ เคยดูโทรทัศน์ถ่ายทอดจากเหตุการณ์จริง แม่อุ้มลูกวัยสองสามขวบ นาซีดึงเด็กที่กอดแม่ร้องไห้แน่นจากอ้อมอก ความรู้สึกนั้นแทบไม่ต้องบรรยายเลย เช็ดน้ำตาอย่างเดียวค่ะ

ข้างหน้าสุสาน จะเป็นอาคารเล็กๆ บรรจุป้ายประกาศ และรูปต่างๆเกี่ยวกับความโหดร้ายแห่งสงคราม บางรูปนั้นโด่งดังไปทั่วโลก หลายๆคนอาจเคยเห็นในหนังสือ อื่นๆมาก่อนก็เป็นได้

บางรูป เห็นแล้ว สลดใจ ในความอำมหิตของฮิตเลอร์ เป็นอย่างมาก

ลูกสาวเขียนลงบันทึกสมุดเยี่ยมลงไปว่า no more war

ที่จำหน่ายหนังสือของผู้เชิญชะตากรรม ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รวมหนังสือของ แอนน์ แฟรงค์

ทางเดินเข้าสุสาน

หลุมฝังศพนั้นมีเยอะแยะ แต่ละแห่ง เขาจะเขียนว่า ตรงนี้ มีผู้เสียชีวิตถูกฝังกี่คน บางหลุมเป็นพันคนก็มี อนาถใจ
เอามาแบ่งกันดูค่ะ จะได้ไม่ลืมว่าสงครามนั้นเลวร้ายอย่างไร

กำแพง สลักจารึกความโหดร้ายแห่งสงคราม

บางแห่งก็มีสถูปของชาวยิวเชื้อสายรัสเซีย ซึ่งมาสร้างหลังจากสงครามสุดสิ้นไปแล้ว

สุสานอันกว้างไกล เดินได้ไม่ทั่ว ค่ะ เพราะเวลาจำกัด

แถมท้าย
สำหรับพวกนักการเมือง ที่บ้าเงิน บ้ายศ บ้าเกียรติ บ้าอำนาจ หยุดสงคราม สานสันติ กันเถิดค่ะ สำหรับพวกที่บ้าเงิน บ้ายศ บ้าเกียรติ บ้าอำนาจ ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ โดนคนด่าขุดโคตรอีกด้วย แบบ ฮิตเล่อร์อย่างไรละคะ

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2549

Last Update : 13 พฤศจิกายน 2549 4:23:42 น.

3 comments

Counter : 1491 Pageviews.

ดีจังเลยเหมือนฝนได้ไปดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาแล้วกับ จขบ ด้วยค่ะ .. ขอบคุณสำหรับรูปและข้อความที่เขียนให้อ่านนะคะ

เรื่องราวของ ฮิตเลอร์ นี่ถ้ามีแปลเป็นภาษาไทยท่าจะดีมาก ฝนอยากไปซื้อมาอ่าน (หรือว่ามีแล้วแต่ฝนไม่รู้นะ)

ฝนแวะมาเยี่ยมค่ะ ฝนอยู่นอร์เวย์ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

โดย: น้ำฝน Malee30 (Malee30

) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:00:16 น.

ดูๆไปแล้ว เหมือนที่กาญจนบุรี ที่ ปทท เลย นี่ล่ะน่ะ
ผลของสงคราม มีแต่ความสูญเสีย

โดย: Raynu

วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:20:42 น.

อ่านเรื่องยิวกับเยอรมันกี่ที่ หรือดูหนังกี่เรื่องๆ ก็เศร้าทุกทีค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าความเหี้ยมโหดของคนบางกลุ่มจะมากมายขนาดนี้ สถานที่น่าสนใจค่ะ ว่าไปแล้วสมัยนี้ก็ยังดีกว่าสมัยก่อนเยอะนะคะ ที่คนมีปากมีเสียงได้ ถ้าเป็นสมัยก่อนคงโดนยิงทิ้งหมดเมืองแน่คะ

โดย: nzmum

วันที่: 14 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:13:24 น.

It-ta-tee

Location :
กรุงเทพฯ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บันทึก และ มุมมองแห่งชีวิต ของ เรา ผู้เป็น แม่และพยาบาล

ในโลกนี้มีอะไรสำคัญกว่าที่ต้องทำมากว่าการนั่งหน้าจอ PC เช่น ขึ้นเวร เวลาขาดคน ถึงได้หยุดก็เถิด หรือ การเล่นและสอนลูกๆ บางครั้งได้มีโอกาสทำประโยชน์ให้คนไทยด้วยกัน
เท่านี้ เราก็มีความสุขมาก
เราเขียนบล๊อกเมื่อมีเวลา หากเพื่อนๆแวะมา comment เราขอบคุณค่ะ
และจะตามไปเยือน เมื่อ โอกาส อำนวยค่ะ
ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่มอบให้

กระทู้ล่าสุด

Thai-deutsches Familienleben

widget

free counter

widget

Friends' blogs

[Add It-ta-tee's blog to your web]

Links

BlogGang.com