ฤดูหวานรัก...Sweet Ogi - Megi วางแผงแล้ว /สนพ. ที่รัก
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2558
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 
บทที่ 4

ขณะสาวเท้าตรงไปยังห้องทำงานพอถึงหน้าห้อง วายุก็ชะงักกึก เมื่อเห็นคอลัมนิสต์สาวคนสวยนั่งยิ้มหน้าแฉล้มอยู่ที่โซฟาหน้าห้องแทบไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะช่างตื๊อได้ถึงเพียงนี้

สองสัปดาห์ที่ผ่านมาสาวสวยช่างมีความอดทนได้อย่างน่านับถือหล่อนสามารถนั่งรออยู่หน้าห้องเขาได้เป็นชั่วโมง โดยไม่ถือวิสาสะกระโจนเข้าห้องเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกคล้ายยอมรับเงื่อนไข การไม่ก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวของเขา แต่...

เขาไม่รู้ว่าควรเรียกสิ่งนี้ว่าการก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวได้หรือไม่เพราะนอกจากจะพบหล่อนนั่งหน้าแฉล้มอยู่หน้าห้องทำงานบ่อยๆ ยังพบหล่อนในหลายที่อย่างน่าบังเอิญในร้านอาหารบ้าง ลานจอดรถ หรือไม่ก็ในลิฟต์ และทุกครั้งหล่อนก็จะส่งยิ้มหวานให้คล้ายประกาศอย่างรู้กันว่านี่คือการตามตื๊อภายใต้เงื่อนไขการไม่ก้าวล่วงความเป็นส่วนตัว

รู้ว่านี่คือการทำงานของหล่อนตื๊อเพื่อให้เขาใจอ่อนยอมสัมภาษณ์เขาสั่งเลขานุการไปแล้วว่าให้แจ้งหล่อนไปทุกครั้งว่าเขาคิวเต็มยาวเหยียดไม่อาจเจียดเวลาให้สัมภาษณ์ได้ บอกปัดไปเรื่อยๆ เดี๋ยวหล่อนก็ท้อใจไปเอง ที่ไหนได้สาวช่างตื๊อคนนี้อึดสุดยอด ยังไม่มีทีท่าจะถอยทัพง่ายๆ

มิหนำซ้ำภายใต้สีหน้าเคร่งขรึมเฉยชา เขากลับพบว่า หัวใจดวงหนึ่งสั่นไหวขึ้นทุกขณะยามเห็นรอยยิ้มสวยซึ้งตรึงใจของเจ้าหล่อน

หลังเลิกงานวันนั้น ระหว่างทางเดินไปยังลิฟต์วายุก็กดรับสายมือถือ “มีอะไร จับตาดูมันไว้ก่อน ฉันก็อยากรู้ว่าหมอนี่บุกรุกเข้ามาทำไม แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติก็คุมตัวไว้เลย”

เมื่อมาถึงหน้าลิฟต์ขณะเอื้อมมือกดปุ่ม มือขาวๆ เล็บเคลือบสีสันสดใส แต่งแต้มลวดลายตามสมัยนิยมของใครคนหนึ่งก็เอื้อมมากดพร้อมกับเขา เหมือนมีกระแสไฟบางอย่างส่งผ่านมือของทั้งสองขณะสัมผัสกันวายุหันมอง ขณะชักมือกลับช้าๆ ประสานสายตากับสาวสวยช่างตื๊อ

“คุณไม่ทำงานทำการหรือไงตามติดผมแจแบบนี้ เจ้านายคุณ ไม่ไล่คุณออกเหรอ” วายุแสร้งทำเสียงระอาทั้งที่เลือดหนุ่มเต้นเร่าดังเช่นทุกครั้งที่ได้พบเจอกัน

หล่อนยกมือขึ้นกอดอกแกล้งตวัดค้อนเล็กน้อยแต่พองาม “เจ้ายนาย ก็คงจะไล่ฉันออกในเร็ววันนี้แหละค่ะถ้าฉันยังไม่ได้คิวสัมภาษณ์คุณสักที”

“แล้วมาเกี่ยวอะไรกับผมด้วย”

“ก็เพราะคิวคุณไม่เคยว่างติดนั่นติดนี่ตลอด ฉันก็อุตส่าห์ติดต่อผ่านเลขาฯ คุณแล้วผ่านไปสองอาทิตย์ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แล้วถ้าฉันทำงานที่เจ้านายมอบหมายมาให้ไม่สำเร็จเจ้านายก็คงไม่รู้ว่าจะจ้างฉันไว้ทำไม”

“แล้วทำไมคุณไม่ผลัดคิวไปสัมภาษณ์หนุ่มคนอื่นก่อนช่วงนี้ผมงานยุ่ง ยังไม่รู้จะมีคิวว่างเมื่อไหร่”

เขาแกล้งทำเสียงขรึม แต่ลึกๆแอบละอายใจ ที่จงใจหลบเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ เหตุผลที่ทำเช่นนี้ นอกจากจะไม่พิสมัยการเป็นคนดังแล้วอีกเหตุผลที่อาจจะสำคัญกว่า คือ หล่อนทำเหมือนกำลังเล่นเกมคล้ายจงใจยั่วให้เขาตกหลุมพรางของหล่อน และเขาไม่ต้องการตกเป็นรอง เพราะนั่นหมายถึงผู้ที่คุมเกมจะไม่ใช่เขาไปในทันที

สาวสวยย่นจมูกและก็น่าแปลกที่ดูน่ารักในสายตาเขา หรือถ้าจะสรุปง่ายๆ คือ หล่อนทำอะไรก็ดูดีน่ารัก ไม่ขัดตาเขาเลยสักอย่าง แต่จำต้องวางมาดเข้มหากหล่อนรู้ว่าท่าทางขึงขังคือการกลบเกลื่อนอาการหัวใจสั่นไหวล่ะก็มีหวังหล่อนคงยิ่งสนุกสนานกับการยั่วเย้าเขาแค่นี้หล่อนก็มาวิ่งเล่นในสมองเขาบ่อยเกินความจำเป็นแล้ว

“ก็ตอนนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนตรึงความสนใจฉันได้เท่ากับดร. วายุ นี่ค่ะ” หญิงสาวจงใจพูดจาเป็นนัย รอยยิ้มยั่วเย้านัยน์ตาฉายแสงแพรวพราว “มีแต่คุณคนเดียว...คนเดียวเท่านั้นที่ฉันอยากจะ...สัมภาษณ์”

ชายหนุ่มตรึงสายตากับนัยน์ตาสวยซึ้งหวานเยิ้มก็อีกนั่นแหละที่ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรดูดีไปหมดในสายตาเขา แม้แต่คำพูดส่อเป็นนัย ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงบอกปัดอย่างไม่ยี่หระ แต่ ณ ตอนนี้สัญชาตญาณของมนุษย์เพศผู้พร้อมจะกระโจนออกมาทำงาน

หรือบางที...ถ้าเขาจะลองโดดเข้าไปร่วมเล่นเกมอย่างที่หล่อนต้องการล่ะจะลองเป็นหมากสักตัวของหล่อนดูสักครั้ง ก็คงไม่น่าจะเสียหายไม่ใช่หรือ แถมน่าจะคุ้มค่าด้วยซ้ำไปในเมื่อผู้หญิงคนนี้สวยพริ้มเพรายิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยรู้จักทำท่าเสนอเชื้อเชิญเสียขนาดนี้ และดูท่าจะไม่เลิกตื๊อง่ายๆ ด้วยสิ

ประตูลิฟต์เปิดพอดีชายหนุ่มผายมือให้หญิงสาวก้าวเข้าลิฟต์ก่อน และขณะอยู่ในลิฟต์กันตามลำพัง หญิงสาวก็เอ่ยถามขึ้น“เมื่อไหร่ ดร. วายุ จะใจอ่อนยอมตกปากรับคำเรื่องให้สัมภาษณ์สักทีละคะ หรือว่าที่คุณถ่วงเวลาอย่างนี้เพราะอยากเห็นหน้าฉันทุกวัน”

วายุส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างอ่อนใจ “คุณไม่พูดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยหรือไง”

หล่อนแกล้งถอนหายใจเนือยๆ “คุณเป็นผู้ชายที่เล่นตัวมากสุดเท่าที่ฉันเคยพบมาเลยค่ะดร. วายุ” พลันก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “เอ่อ ว่าแต่ลิฟต์ที่นี่เคยค้างมั้ยคะ”

เขาชักจะเริ่มชินกับนิสัยสาวสวยที่มีอะไรให้คาดไม่ถึงอยู่เสมอนึกอยากจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ก็เปลี่ยนดื้อๆ “เท่าที่ผมรู้ ยังไม่เคยนะ” วายุตอบไม่ทันขาดคำ ลิฟต์ก็หยุดดื้อๆ หรือ ลิฟต์ค้างนั่นเอง

หญิงสาวแสร้งทำหน้าไม่อยากเชื่อสุดขีด“ดวงเรานี่คงสมพงศ์กันนะคะ ขนาดขึ้นลิฟต์ก็ยังอุตส่าห์มาติดลิฟต์ด้วยกันอีก” แววตาคู่สวยพยายามซ่อนประกายแพรวพราววิบวับพร้อมกับยื่นมือไปกดปุ่มขอความช่วยเหลือ

กดย้ำๆ อยู่หลายที ทุกอย่างก็เงียบกริบเลยแสร้งถอนหายใจดังเฮือก “ปุ่มขอความช่วยเหลือก็ใช้งานไม่ได้ซะด้วยค่ะ”

วายุกลั้นยิ้มแทบไม่มิดพอจะรู้แล้วว่า ชายหนุ่มที่บุกรุกเข้าไปในห้องควบคุมลิฟต์ มีวัตถุประสงค์อะไรไม่คาดคิดเลยว่าสาวสวยจะลงทุนถึงขนาดนี้ นี่ต้องเรียกจอมตื๊อตัวแม่กันเลยทีเดียว แต่ก็แสร้งทำหน้าเรียบเฉย“ผมคิดว่าเดี๋ยวสักครู่ลิฟต์คงใช้งานได้ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”

“ค่ะ”สาวจอมตื๊อตอบรับ ในใจแอบลิงโลดที่แผนเข้าล็อก อุตส่าห์ลงทุนขนาดนี้ พ่อเจ้าประคุณจะไม่ยอมใจอ่อนก็ให้รู้ไปตั้งใจว่าจะให้เขาติดลิฟต์อยู่กับหล่อนสักครึ่งชั่วโมงเพราะหาโอกาสใกล้ชิดเขายากเหลือเกิน เลยจำต้องใช้วิธีนี้ “อืมคุณแน่ใจนะคะว่าแป๊บเดียว ถ้านานเป็นชั่วโมงจะทำยังไงคะเนี่ย แต่จะว่าไปถ้านานเป็นชั่วโมงก็ดีเหมือนกันนะคะ ได้ติดลิฟต์กับดร. วายุ หนุ่มหล่อในฝันของสาวๆไปเล่าให้ใครฟังคงมีแต่คนอิจฉาฉัน”น้ำเสียงหวานใสกังวานเย้าหยอก

วายุส่ายหน้าพลางยิ้มมุมปากพยายามวางมาดนิ่ง เพื่ออำพรางความพึงใจในตัวอีกฝ่ายที่เริ่มก่อตัวมากขึ้นทุกที ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเองกล้าและบ้าบิ่น อย่างที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน

“แต่ผมว่าคงไม่น่านานขนาดนั้นคงไม่น่าเกินสองสามนาที” วายุมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมลิฟต์คงกำลังดำเนินการให้ลิฟต์กลับมาใช้งานได้ตามปกติอย่างรวดเร็ว

‘ยาก ดร. วายุ จอมเล่นตัววันนี้คุณต้องติดอยู่ในลิฟต์กับฉันอย่างต่ำครึ่งชั่วโมงแน่แล้วฉันจะทำให้คุณใจอ่อนยอมให้สัมภาษณ์ให้ได้’

ระหว่างคิดอย่างมั่นใจพร้อมกับทำตาใสซื่อไปพลาง ลิฟต์เจ้ากรรมก็เริ่มเคลื่อนตัว กลับมาใช้งานได้ตามปกติหล่อนหน้าเหลอไปเสี้ยววินาที ก่อนจะปั้นสีหน้าเป็นปกติ

สิ่งนี้ไม่อาจหลุดรอดสายตาของวายุไปได้และเขาก็กลั้นยิ้มจนเมื่อยกรามแทบแย่

“แหมจริงด้วยลิฟต์ใช้การได้แล้วค่ะ” หญิงสาวทำเป็นแย้มยิ้มแต่ยังงุนงงไม่หาย ไม่เข้าใจว่าช่างซ่อมลิฟต์ที่ว่าจ้างมาช่วยในปฏิบัติการครั้งนี้ฟังหล่อนไม่รู้เรื่องหรืออย่างไรหรือ จะบอกจำนวนเวลาผิดไป จำได้ว่าบอกไป สามสิบนาที ไม่ใช่ สามนาทีนี่นา

วายุไม่ได้โต้ตอบอะไรแค่ยิ้มตอบอย่างสุภาพ แต่ประกายในแววตาวิบวับชอบกลในสายตาอีกฝ่าย

เมื่อประตูลิฟต์เปิดตรงชั้นล่างวายุก็ผายมือให้หญิงสาวออกจากลิฟต์ ตามมารยาทสุภาพบุรุษ และขณะสาวสวยก้าวออกมาก็ต้องชะงักงันแน่นิ่งตกใจเมื่อพบว่าชายหนุ่มผู้ช่วยถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนควบคุมตัวไว้คอตกจนน่าสงสาร หล่อนตีสีหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไรและจะช่วยชายหนุ่มช่างซ่อมลิฟต์คนนี้อย่างไรดี

“ว่าไง” วายุสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสอง

“เราพบชายคนนี้ปลอมตัวเป็นช่างซ่อมลิฟต์เข้าไปในห้องควบคุมลิฟต์ครับผมเขาจงใจทำลิฟต์ค้างครับท่าน ไม่มีการพกพาอาวุธอันตรายใดๆจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน แล้วก็เคยเป็นอดีตช่างซ่อมลิฟต์ครับ” เจ้าหน้าที่นายหนึ่งรายงานเสียงดังฟังชัด

สาวสวยเสียหน้าอย่างมากมั่นใจว่าวายุต้องรู้ทันทีว่าทั้งหมดนี่เป็นแผนการหล่อน มิน่าล่ะ นัยน์ตาคมฉายแสงแวววาวเจ้าเล่ห์ชอบกล‘คนบ้า รู้แล้วก็ไม่บอก’

“โอเคพวกคุณไปปฏิบัติหน้าที่ต่อได้แล้ว ที่เหลือผมจัดการเอง”วายุสั่งเสร็จ รอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองผละไปก็หันไปพูดกับตัวต้นเรื่อง “คุณรู้มั้ยว่าการบุกรุกสถานที่ราชการมันผิดซ้ำยังว่าจ้างคนมาทำลิฟต์ค้างอีก คุณอยากไปนอนเล่นในคุกหรือไง” แสร้งใช้น้ำเสียงเคร่งขรึม แต่ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องเอาราวหล่อนกับอดีตช่างซ่อมลิฟต์ผู้โชคร้ายคนนี้พอจะเข้าใจวัตถุประสงค์ของปฏิบัติการบ้าบิ่นครั้งนี้ของหล่อนดี

“ที่ฉันต้องลงทุนทำขนาดนี้ก็เพราะความใจแข็งของคุณนั่นแหละค่ะถ้าคุณใจอ่อนยอมให้ฉันสัมภาษณ์ตั้งแต่ต้น เรื่องก็คงไม่วุ่นวายแบบนี้หรอกแล้วถ้าคุณจะจับฉันไปเข้าคุก ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่อย่าไปเอาเรื่องเอาราวกับช่างซ่อมลิฟต์เลยฉันว่าจ้างเขามาเอง เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย”หล่อนตวัดค้อนใส่วายุอย่างมีจริตจะก้าน พอรู้ว่าเขาก็แกล้งพูดขู่ไปอย่างนั้นเองเพราะสีหน้าคมสันในตอนนี้ ไม่ได้แข็งกร้าวดุดันเหมือนอย่างที่คาดไว้

วายุส่ายหน้าขำๆ อีกครั้ง ดูสิแม่คุณยังโทษว่าเป็นความผิดเขาได้อีก แต่ถ้ามองอีกมุม ก็ถือว่าเป็นความผิดเขาเหมือนกันว่าแล้วก็หันไปพูดเสียงเข้มกับอดีตช่างซ่อมลิฟต์

“นายไปได้แล้วแต่คราวหลังอย่าไปรับจ้างทำงานเสี่ยงๆ แบบนี้อีกล่ะ จะได้ไปนอนในคุกไม่รู้ตัวแน่ไปได้แล้ว”

สิ้นเสียงสั่งช่างซ่อมลิฟต์ก็ยกมือไหว้วายุปลกๆ โล่งใจสุดขีดที่ไม่ต้องไปนอนเล่นในคุกชาตินี้จะไม่หาเรื่องใส่ตัวอีก แค่หวังเงินหมื่น แต่เกือบต้องเสี่ยงกับตะรางพอกันที งานเสี่ยงเงินดี ลาขาดกันชาตินี้

เมื่อช่างซ่อมลิฟต์หันหลังโกยแน่บวายุถอนหายใจดังเฮือก ขณะมองสาวสวยตรงหน้า “ผมควรจะจัดการยังไงกับคุณดี”

“ก็ใจอ่อนยอมให้ฉันสัมภาษณ์สิคะ” หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาท้าทายรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าเขาจะใจอ่อนกับหล่อนในไม่ช้า อุตส่าห์หว่านเสน่ห์ขนาดนี้ถ้าเหยื่อไม่ติดเบ็ด ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

วายุมองหล่อนอย่างไม่อยากเชื่อสายตาผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนใครจริงๆ


^______^ 




Create Date : 13 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2558 13:10:29 น. 0 comments
Counter : 600 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

isaiahland
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add isaiahland's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.