บทที่ 4
เสียงนกร้องจิ๊บๆส่งสัญญาณถึงเช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆส่องทะลุบานกระจกใสจนห้องทั้งห้องอบอุ่นด้วยแสงแดดยามเช้า มรุตหยีตาเมื่อแสงแดงแยงตาขยี้ตาสองข้าง ก่อนก้มมองนาฬิกาข้อมือ หกโมงเช้าแล้ว เขาตื่นเวลานี้ประจำไม่ว่าจะนอนดึกดื่นเพราะดื่มหนักสักแค่ไหน ก็จะตื่นเวลานี้ทุกครั้งมันเป็นแบบนี้มาหนึ่งปีเต็มแล้ว ชายหนุ่มค่อยๆ ลุกขึ้น มือสัมผัสผ้าห่ม เขากำมันไว้มองออกไปด้านนอกผ่านบานกระจกใส สีหน้าครุ่นคิด คิ้วขมวดมุ่น หันมองรอบๆ ห้อง แต่ไม่เห็นใครสักคนทุกอย่างนิ่งสงบ สักพักก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟัน เปลี่ยนมาสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงออกกำลังกาย กับรองเท้าผ้าใบมีผ้าขนหนูผืนเล็กๆ พาดอยู่ตรงต้นคอตั้งใจจะไปวิ่งออกกำลังกายตรงชายหาดสักครึ่งชั่วโมง ขณะเปิดประตูบ้านออกไปก็ต้องสะดุดกับภาพตรงหน้า แม่บ้านของเขากำลังนั่งหลับอยู่ข้างประตูเจ้าเด็กพูดมากนอนหลับปุ๋ยอยู่บนตัก สุนัขสีขาวนอนหมอบอยู่ข้างๆแต่พอได้ยินเสียงเปิดประตูมันก็ขยับตัว เริ่มลุกขึ้น เดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น ความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ได้ว่าคืออะไรผุดขึ้นอยู่ในส่วนลึกและสีหน้าแข็งกร้าวเฉยเมยอยู่เป็นนิจคลายลงโดยไม่รู้ตัว เขามองสาวน้อยกับเด็กที่กำลังหลับสนิทอย่างเพ่งพินิจผู้หญิงคนนี้เป็นแม่คนแล้วหรือ อายุไม่น่าจะสักเท่าไหร่ดูไม่เหมือนเป็นแม่คนเลยสักนิด แต่เด็กพูดมากเรียกหล่อนว่าแม่อย่างว่าพวกชาวบ้านในต่างจังหวัดมักแต่งงานเร็ว หรือไม่ก็ชิงสุกก่อนห่าม เพราะดูจากอายุเด็กแล้ว แม่บ้านเขาคงจะมีลูกตั้งแต่อายุสิบเจ็ดสิบแปดปี กระมัง...แล้วสามีล่ะไปไหนอาจจะไปทำงานในกรุงเทพฯ...เจ้าเด็กน้อยหน้าไม่เหมือนผู้หญิงตรงหน้าเขาเลยสงสัยลูกคงจะเหมือนพ่อ เมื่อเห็นเปลือกตาของสาวน้อยตรงหน้าขยับท่าทางเริ่มงัวเงีย ฟ้องว่ากำลังจะตื่นในไม่ช้า ใบหน้าหล่อเหลาก็เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวโดยอัตโนมัติท่าทีขึงขังกลับมาอีกครั้ง ปุณฑริกค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย ขยี้ตาด้วยมือข้างหนึ่ง ผมยาวดำขลับที่ผูกไว้หลุดลุ่ย ปอยผมบางส่วนตกลงระใบหน้าเจ้าตัวจึงปัดไปทัดไว้หลังหู ว้าย! หล่อนร้องอุทานเบาๆ เมื่อเห็นใครบางคนยืนอยู่เบื้องหน้าและตกใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นเขานั่นเอง ดวงตาโตเบิกกว้างขึ้นกลีบปากอิ่มเผยอเล็กน้อยคล้ายจะพูดอะไร แต่กลับไม่มีคำพูดใดๆ หลุดรอดออกมา เธอนอนอยู่ตรงนี้ทั้งคืนเลยเหรอ เขาถามอย่างเฉยเมย ขณะยืนกอดอก หล่อนคลายความตกใจลงไปมากที่ท่าทางโกรธจัดจนแทบจะระเบิดแบบเมื่อคืนหายไปแล้วและพยายามขยับตัวแต่ไม่ได้เพราะไข่ตุ๋นยังนอนหลับอยู่บนตัก ขอ...โทษค่ะคือเมื่อคืนดิฉันไม่รู้จะไปนอนที่ไหนจริงๆแต่ไม่ต้องห่วงนะคะ...วันนี้จะขอ...ลาสักครึ่งวันเพื่อไปหาที่พัก...คุณคงไม่ว่าอะไรนะคะ แก้ตัวเสียงตะกุกตะกักเพราะกลัวเขาจะโกรธขึ้นมาอีกและอาจคิดไล่หล่อนออกก็ได้ เขาจ้องมองมาอยู่ครู่หนึ่งสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง อย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้ ไหนเธอบอกต้องรอเก็บเงินก่อนถึงจะไปหาที่พักได้ แล้วตอนนี้จะไปหาได้หรือไง หล่อนหลุบตาลงน้ำเสียงเยาะหยันนั่นทำให้รู้สึกด้อยค่า ประกอบกับสภาพในตอนนี้เมื่อเขาอยู่ในชุดลำลองเตรียมไปออกกำลังกาย สะอาดสะอ้าน ดูดี ยืนสูงตระหง่านท่าทางมั่นอกมั่นใจกึ่งยโส ขณะที่หล่อนอยู่ในชุดเสื้อผ้าสีซีด ใส่ตั้งแต่เมื่อวานกำลังนั่งอยู่บนพื้นหน้าบ้านของเขา สภาพไม่น่ามองนักจึงเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่พยายามควบคุมความรู้สึกไว้และกลั้นใจตอบ ดิฉันพอมีเงินนิดหน่อยอาจพอมีสักที่ๆ เขาไม่เก็บค่ามัดจำน้ำเสียงนั่นแทบเป็นกระซิบ แล้วเธอจะทำงานยังไงไหนจะเด็ก ไหนจะหมา จะไหวเหรอ หล่อนใจหายเขาคงคิดว่าหล่อนอาจทำงานให้ไม่คุ้มค่าแรงก็ได้ และอาจเอาเปรียบด้วยการแอบเอาเวลางานไปเลี้ยงเด็กกับสุนัขเขาคงเริ่มอยากเปลี่ยนแม่บ้านใหม่แน่ๆ ไหวค่ะ ไหวแน่นอน ยืนกรานเสียงหนักแน่น จริงๆไข่ตุ๋นเข้าโรงเรียนแล้ว บังเอิญนี่เป็นวันหยุดค่ะ พรุ่งนี้เขาก็ต้องไปโรงเรียนดิฉันแค่ไปส่งเขา มาทำงานแล้วก็ไปรับตอนเย็น ส่วนไข่ต้มไม่มีปัญหาหรอกค่ะคิดว่าเอาไปฝากคนรู้จักได้ ไม่เสียงานแน่นอน แล้วเสาร์อาทิตย์ล่ะเด็กไม่ได้เรียนทุกวันอยู่แล้ว วันหยุดนักขัตฤกษ์อีกล่ะ จะทำยังไง เอ่อ คือ... หญิงสาวลืมคิดถึงจุดนี้ไป ชายหนุ่มช่างคิดละเอียดนักแต่ก็คิดว่าคงพอมีทางออก ...ดิฉันคงจะให้ไข่ตุ๋นไปอยู่...บ้านที่เขารับเลี้ยงเด็กช่วงเวลาทำงานค่ะ ใกล้ๆ แถวนี้มีอยู่หลายที่ ราคาไม่แพงนัก เธอแน่ใจเหรอว่าจะไม่มีปัญหา แน่ใจค่ะ ดิฉันรับรองได้โปรดอย่าไล่ดิฉันออกเลยนะคะ มรุตแน่ใจว่าเห็นน้ำตารื้นขึ้นในดวงตาคู่สวยนั่นสาวน้อยคนนี้คงเข้าตาจนจริงๆ ไม่งั้นคงไม่กลัวโดนไล่ออกขนาดนี้บางครั้งแค่งานบ้านธรรมดาๆ ก็สำคัญกับคนๆ หนึ่งมากมายเกินกว่าที่เราคิด เด็กน้อยตัวป้อมบนตักเริ่มขยุกขยิกน้ำลายไหลย้อยจากมุมปากเล็กๆ เริ่มบิดขี้เกียจ เหยียดแขนขากลมป้อมจนตึง หาวหวอดท่าทางมีความสุขจนเขาอิจฉา แล้วดวงตาไร้เดียงสาก็ลืมขึ้นพึ่บตามด้วยรอยยิ้มสดใสในทันที หนูน้อยไร้ซึ่งอาการงัวเงียเมื่อเห็นเขาก็ส่งยิ้มให้อย่างไม่ลังเล ราวกับลืมสิ้นซึ่งความบาดหมางเมื่อคืนนี้ทว่าเขากลับไม่ได้ยิ้มตอบ และรู้สึกแปลกๆ เมื่อสบตาใสซื่อของเด็กน้อยตรงหน้าแต่เขาลืมบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเด็กคนนี้ไป นั่นคือ... อะรุนชะหวัดคับคุณลุงชีอุ... มือลมกรดของปุณฑริกตะปบปากเล็กๆ ของเด็กทันควัน พลางยิ้มเจื่อนให้เขา เจ้าเด็กปากตะไกร!ก่นประณามอยู่ในใจ โทสะเริ่มก่อตัว แต่เพียงสักพักก็ระงับมันได้จึงถอนหายใจก่อนพูดห้วนๆ แล้วจะนั่งอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ยรีบเข้าบ้านไปได้แล้ว แล้วก็หาอะไรให้ลูกเธอกินด้วย เขาจะได้พูดน้อยๆ หน่อย เขาหันเดินไปไม่กี่ก้าวก็ชะงักหันเสี้ยวหน้ามาเพียงเล็กน้อยก่อนสั่งว่า ฉันจะไปวิ่งออกกำลังกายสักพักกลับมาฉันมีเรื่องคุยกับเธอ หล่อนมองตามงงๆเพราะสับสนในพฤติกรรมของเจ้าของบ้าน เขาเป็นคนที่คาดเดาอารมณ์ได้ยากจริงๆแต่อย่างน้อยก็ไม่มีการแสดงอารมณ์โกรธจัดเหมือนพายุคลั่งแบบเมื่อวานนี้แต่มีเรื่องอะไรจะคุยกับหล่อนนะ จะไล่ออกหรือเปล่าเนี่ย แอบกังวลลึกๆ แต่คงต้องทำใจรับสภาพแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม่เป๋อคับลุงชีอุยทำอะไรคับ เขาชื่อมาร์คหนูต้องเรียกเขาว่าคุณลุงมาร์ครู้มั้ยครับ หล่อนสอนไข่ตุ๋น คับคุณลุงมาร์คทำอะไรอยู่คับแววตาใสมองตามคนโตตัวที่วิ่งเหยาะๆ ไปตามชายหาด ปุณฑริกจับเด็กน้อยให้ยืนส่วนตัวเองค่อยๆ ลุกเพราะเหน็บกินเท้า ต้องรอสักพัก คุณลุงไปวิ่งออกกำลังกายครับ หนูไปวิ่งกับคุณลุงได้มั้ยคับเด็กน้อยถามอย่างไร้เดียงสา ยังมองตามหลังมรุตตาไม่กะพริบ ไม่ได้ครับเราต้องไปอาบน้ำกินข้าวกัน แม่มีงานต้องทำเยอะแล้วไข่ตุ๋นก็ห้ามไปยุ่งกับคุณลุงด้วย รู้มั้ย คุณลุงไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวายกับเขา คับไข่ตุ๋นทำหน้าละห้อย จนอีกฝ่ายแอบขำ หลังจากทั้งสองอาบน้ำเสร็จก็กำชับไข่ตุ๋นให้เล่นอยู่นอกบ้านแถวใต้ร่มไม้ เพราะนี่ยังเช้ามาก อากาศยังสดชื่นไม่ร้อนมาก ส่วนหล่อนก็จัดแจงทำข้าวต้มทรงเครื่องเอาไว้พอเสร็จก็ตักใส่ถ้วยเล็กหนึ่งถ้วย เพื่อเอาไปให้หนูน้อยทานนอกบ้านไม่กล้าให้ไข่ตุ๋นเข้ามาอยู่ในบ้านมากนัก กลัวเขากลับมาแล้วจะไม่พอใจอีกอีกอย่างก็กลัวเด็กน้อยจะพูดจาไม่เข้าหูเขาอีกด้วย หล่อนรู้สึกสดชื่นมากขึ้นขณะรอเขากลับมาจากการวิ่ง อาจเป็นเพราะได้อาบน้ำสระผมก็เป็นได้ผมยาวดำขลับยังไม่แห้งสนิทดี จึงปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง ปกติเจ้าตัวจะผูกอยู่เป็นประจำเพื่อความสะดวกในการทำงานใบหน้ารูปไข่เนียนใส พวงแก้มแดงระเรื่อ ซึ่งหาได้มาจากการแต่งแต้มจากเครื่องสำอางหลายคนมักบอกว่าหล่อนผิวสวยทว่าไม่ค่อยได้มีเวลาใส่ใจกับตัวเองนักเพราะต้องทำงานแทบตลอดเวลา วันนี้หล่อนสวมเสื้อยืดตัวหลวมสีขาวกับกางเกงเลสีกาแฟชายยาวเลยหัวเข่าลงมาเล็กน้อย ดูสบายๆ คล้ายอยู่บนเกาะเมื่อมองไปยังวิวภายนอกผ่านผนังบานกระจกใสก็เหมือนอยู่บนเกาะจริงๆเพราะชายหาดสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าด้านนอกดูเงียบสงบ ไม่มีผู้คนมีเพียงบ้านพักสีขาวตั้งโดดเด่นเป็นสง่าเพียงหลังเดียว กับต้นลีลาวดีต้นใหญ่อีกสองต้นที่ปลูกอยู่ใกล้บริเวณบ้านและอีกหลายๆ ต้นที่ปลูกไล่ไปตามชายหาดปะปนไปกับต้นมะพร้าว จนทำให้ชายหาดแถบนี้ดูสวยงามเป็นพิเศษ ระหว่างรอก็ขึ้นไปห้องนอนใหญ่ด้านบนเพื่อเก็บเสื้อผ้าในห้องลงมาซักสังเกตว่าเจ้าของห้องเป็นคนมีระเบียบ ไม่วางเสื้อผ้าระเกะระกะ ชิ้นไหนใช้แล้วเขาจะวางลงในตะกร้า เสียงหมุนลูกบิดดังขึ้น ประตูห้องเปิดเข้ามาปุณฑริกสะดุ้ง เห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา เหงื่อชุ่มตัวผมสั้นตัดเข้ารูปชื้นไปด้วยเหงื่อ มรุตชะงักไปชั่วอึดใจเมื่อเห็นใครบางคนอยู่ในห้อง คิ้วเข้มขมวดมุ่น แต่พอสังเกตว่าอีกฝ่ายกำลังเก็บเสื้อผ้าเพื่อเอาลงไปข้างล่างก็เลยไม่ได้พูดอะไร เขาสาวเท้าเข้าไปในห้องเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบผ้าขนหนูเตรียมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หล่อนจึงรีบหิ้วตะกร้าเสื้อผ้าขึ้นมาและซอยเท้าเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว จนเท้าเกือบสะดุดแต่พยุงตัวได้ทัน รีบเดินซะขนาดนั้น เดี๋ยวก็ได้หน้าคะมำอีกรอบ เขาปรายตามอง บ่นงึมงำคนเดียวเบาๆ คิ้วเข้มยังขมวดเป็นปม เขาใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็ลงมาด้านล่าง สังเกตว่าไม่มีกระป๋องเบียร์ระเกะระกะเหมือนเมื่อเช้าแล้วห้องรับแขกได้รับการเก็บกวาดเช็ดถูอย่างสะอาด จึงวางแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะกลางพาดเสื้อสูทไว้บนพนักโซฟา เดินอ้อมไปยืนหน้าผนังกระจกใส ทอดมองไปยังวิวด้านนอกพร้อมติดกระดุมข้อมือเสื้อเชิ้ต จะทานอาหารเช้าเลยมั้ยคะดิฉันทำข้าวต้มทรงเครื่องไว้ให้หล่อนเดินเข้ามาถามเสียงเบาตามเคย สองมือประสานไว้ด้านหน้า ก้มหน้าลงเล็กน้อย อือ ชายหนุ่มกินข้าวต้มไปสองถ้วยต้องยอมรับว่าแม่บ้านคนใหม่คนนี้มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหารทีเดียว แล้วเธอล่ะทานข้าวหรือยังลูกเธอด้วย เสียงเฉยเมยดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจนคนเช็ดกระจกทำหน้างงๆ เรียบร้อยแล้วค่ะ หล่อนตอบแล้วก็หันไปทำงานตรงหน้าต่ออย่างขะมักเขม้น หลังจากมรุตกินอาหารเช้าเสร็จก็เดินมานั่งตรงโซฟาตัวยาว เหลือบมองแม่บ้านคนใหม่เช็ดกระจกอย่างขยันขันแข็ง ก่อนจะเบนสายตากลับมายังแฟ้มเอกสารตรงหน้า เธอจะเช็ดกระจกอีกนานมั้ย ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยเขาถามขึ้นทั้งที่ยังมองเอกสารตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่คนถูกถามคิดว่ายียวนแต่ปุณฑริกทำได้แค่รีบวางผ้าในมือลง และเดินอ้อมมาคุกเข่าตรงหน้าเขาแต่เว้นระยะห่างมากพอสมควร เนื่องจากไม่กล้าอยู่ใกล้รัศมีเขามากเกินไปผู้ชายคนนี้เวลาโมโหน่ากลัวมาก อย่างที่ฉันบอกไว้เมื่อเช้าฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอเขาเกริ่นเรื่องขณะพลิกเอกสารตรงหน้าไปมาอย่างตั้งอกตั้งใจ ค่ะใจเต้นตึกตัก ไม่แน่ใจว่าเขาคิดจะไล่เธอออกหรือไม่ ทั้งที่เผื่อใจไว้แล้วแต่ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ ลูกเธอไปไหนซะล่ะ เล่นอยู่นอกบ้านค่ะไม่ได้ให้เขาเข้ามาในบ้าน กลัวจะเล่นซน เธอบอกว่าจะไปหาที่พักใหม่ จะเอาลูกไปฝากเขาเลี้ยง แล้วทำงานที่นี่ต่อเธอแน่ใจเหรอว่าทำได้ แน่ใจค่ะรับรองดิฉันจะไม่ให้งานบกพร่อง จะไม่ให้ไข่ต...เด็กเข้ามาเกะกะในบ้านจะไม่ให้คุณต้องรำคาญใจ พอตกเย็นก็จะพาพวกเขากลับ แล้วถ้าวันนี้เธอยังหาที่พักไม่ได้ล่ะเขาถามห้วนๆ เงยขึ้นจากกองเอกสารตรงหน้า เอ่อ...ยังไงก็ต้องหาให้ได้คุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ถึงหาไม่ได้ ยังไงดิฉันก็พอหาที่พักชั่วคราวได้ หล่อนตอบไปอย่างนั้นทั้งที่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ตามที่พูดหรือเปล่าแต่ตอนนี้ต้องการให้เขาแน่ใจว่าไข่ตุ๋นกับไข่ต้มจะไม่เป็นปัญหาหนักใจสำหรับเขาแน่นอนถึงอย่างไรก็จะให้เขาไล่ออกไม่ได้ เรื่องที่พักวันนี้หาไม่ได้สองสามวันก็อาจจะหาได้ อย่างมากคืนนี้ถ้าไม่มีที่นอน จะต้องนอนข้างถนนก็ต้องทน เขามองมานิ่งๆ ไม่พูดอะไรอยู่ชั่วขณะจนหล่อนอึดอัด เดาไม่ถูกว่าเขากำลังคิดอะไร ท้ายสุดจึงตัดสินพูดขึ้นว่า ดิฉัน...ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ถ้าคุณจะไล่ดิ... ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะไล่เธอออก เขาพูดสวนขึ้น หล่อนโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ค่อยๆเงยหน้าขึ้น เริ่มมีความหวัง แปลว่าคุณยังจะจ้างดิฉันทำงานต่อไปใช่มั้ยค่ะ รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าสวยใส จนเห็นฟันซี่เล็กๆ เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ แล้วก็จะให้เธอพักที่นี่ด้วย เขาหันกลับไปสนใจกองเอกสารตรงหน้าต่อ หญิงสาวไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่าจึงถามกลับว่าอะไรนะคะ ชายหนุ่มถอนหายใจเสียงดังอย่างหงุดหงิดสีหน้าเริ่มรำคาญ หล่อนนิ่งทันที ไม่ถามอะไรต่อเพราะเริ่มรู้นิสัยเขาแล้ว อย่าไปถามเซ้าซี้หรือตอแยผู้ชายคนนี้มากโดยเฉพาะถ้าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี ฉันยังพูดไม่จบฟังฉันพูดให้จบก่อนแล้วค่อยพูดแทรก มีห้องพักข้างห้องป้านวลว่างอีกห้องเธอพักห้องนั้นก็แล้วกัน แต่ไข่ตุ๋นกับไข่ต้ม... ฉันบอกว่าอย่าเพิ่งพูดแทรกไง...ฉันจะให้ลูกกับหมาเธอพักที่นี่ได้ ใบหน้าสวยแสดงความประหลาดใจแล้วก็แปรเปลี่ยนเป็นดีใจสุดขีด รอยยิ้มกระจ่างผุดขึ้นโลกรอบข้างดูสว่างไสวขึ้นมาทันตา...และคุณมาร์คของป้านวลไม่ได้เป็นคนใจร้ายใจดำสักหน่อยนี่นา แต่มีข้อแม้นิดหน่อย เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ข้อแม้อะไรคะ ป้านวลคงบอกแล้วว่าฉันไม่ชอบเด็กกับหมาชอบความเป็นส่วนตัว ชอบความเงียบสงบเพราะฉะนั้นเธอจะต้องไม่ให้พวกนั้นมารบกวนฉันเด็ดขาด คิดว่าทำได้มั้ย ได้ค่ะ หล่อนตอบอย่างมั่นใจ ดิฉันจะกำชับและควบคุมไม่ให้ไข่ตุ๋นกับไข่ต้มไปวุ่นวายกับคุณรับรองว่าคุณจะไม่รำคาญใจแน่นอนค่ะปุณฑริกยิ้มสดใสเพื่อยืนยันคำพูดอันหนักแน่น
^____________^
Create Date : 05 กันยายน 2558 |
Last Update : 5 กันยายน 2558 9:58:43 น. |
|
3 comments
|
Counter : 825 Pageviews. |
|
|
ไม่ชอบ e-book
เพราะมีปัญหาด้านสายตา