ฤดูหวานรัก...Sweet Ogi - Megi วางแผงแล้ว /สนพ. ที่รัก
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
บทที่ 5 นักธุรกิจบ้าหน้าเลือดหรือบ้ากาม?


มาให้สองตอนเลยค่ะ ^^
********

แดเนียลขยำจดหมายและโยนลงถังขยะอย่างไม่แยแส ขณะสนทนาทางโทรศัพท์เคลื่อนที่กับสายคนหนึ่งที่กำลังประจำการอยู่ที่เวียดนาม ไม่แน่อีกสามสี่วัน เขาอาจต้องเดินทางไปที่นั่น เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญ

สักพักได้ยินสัญญาณเตือนสายเรียกซ้อน จึงยุติการสนทนากับสายคนดังกล่าว เพื่อกดรับสายจากทนายความส่วนตัวของเขา “ว่าไงคุณชานน”

“สวัสดีครับ ท่าน ไม่ทราบท่านเห็นจดหมายเปิดผนึกจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนฉบับที่เจ็ดหรือยังครับ” ทนายวัยกลางคนถาม

“อือฮึ ฉันขยำโยนทิ้งลงถังขยะไปแล้ว” แดเนียลตอบเสียงระอา พักนี้เขายิ่งเซ็งสุดขีดอยู่ด้วย ไม่ได้พบหน้า ดอกเตอร์ณิชารีย์คนสวยมาร่วมอาทิตย์ หญิงสาวอ้างว่าติดงานวิจัยทุกครั้ง เรื่องนี้ชวนให้หัวเสียที่สุด

เจ้าหล่อนมีใจให้เขาแน่นอน แดเนียลมองแววตาคู่สวยแกมโศกนั่นออก แต่เขาไม่เคยพบผู้หญิงคนไหนปิดกั้นตัวเองขนาดนี้มาก่อน แต่เอาเถอะ นี่คือความท้าทายที่เขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ ส่วนกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนกลุ่มนี้ก็ตามรังควานเขาไม่เลิกเสียที

น่าเบื่อ!

“ครับ แล้วท่านจะให้ผมทำยังไงต่อไปดีครับ”

“ไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ แบบนี้แหละ ปล่อยให้พวกนั้นร้องแรกแหกกระเชอให้พอใจ พวกนั้นทำอะไรเราไม่ได้หรอก รัฐบาลไทยและสื่อส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยเวียดนาม มากกว่ามาสนใจเรื่องไร้สาระของนักสิทธิมนุษยชนพวกนี้อยู่แล้ว รัฐบาลให้การสนับสนุนที่เราไปร่วมลงทุนกับทางเวียดนามมาตั้งแต่ต้น นักสิทธิมนุษยชนพวกนี้เดี๋ยวก็หายบ้าไปเอง ประสาทหรือไง ที่ไหนในโลกก็มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งนั้น รัฐบาลไหนๆ ก็แอบขโมยข้อมูลกันหมด นักโทษการเมืองมีให้เห็นกลาดเกลื่อน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องตามรังควานแต่ฉันด้วย”

ไม่บ่อยนักที่แดเนียลจะบ่นยาวเป็นหมีกินผึ้งแบบนี้

“ครับ ผมก็คิดว่าอย่างนั้น แต่นักสิทธิมนุษยชนพวกนี้เหมือนจะไม่เลิกตอแยท่านง่ายๆ นะครับ เออ คือ. . .” ทนายความอึกอัก คล้ายลังเลที่จะแจ้งความคืบหน้าในการทำงานของนักสิทธิมนุษยชนกลุ่มนี้

“ทำไม มีอะไร” แดเนียลถามกลับ

“คือ พวกนั้นยื่นจดหมายขอเข้าพบท่านครับ”

แดเนียลหัวเราะหึหึเสียงหยัน “ก็บอกพวกนั้นไปว่าฉันไม่ว่าง หรือถ้าวุ่นวายนัก คุณก็ไม่ต้องไปสนใจจดหมายบ้าบอพวกนั้น”

“ครับ ผมปฏิเสธไปตามที่ท่านบอกแล้วครับ แต่ อืม. . .” ทนายความอึกอักอีกครั้ง

ชายหนุ่มถอนหายใจดังเฮือก ทนายความของเขาเป็นคนลังเลน่ารำคาญไปตั้งแต่เมื่อไรกัน “แต่อะไรอีก”

“เออ คือ พวกนั้นบอกว่าจะบุกไปขอพบท่านถึงที่พักด้วยตัวเองครับ” ชายวัยกลางคนโพล่งออกไปในที่สุด

แดเนียลส่ายหน้าขำๆ แกมระอา “ตลก พวกนั้นขึ้นมาห้องพักผมไม่ได้หรอก คุณก็รู้นี่ แค่ผ่านด่านประตูด้านหน้าของที่พักผมก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่แน่นหนา ไม่อย่างนั้นผมคงไม่เสียเงินมหาศาลซื้อเพนธ์เฮาส์ที่นี่หรอก”

“ครับ ผมก็หวังว่าอย่างนั้น”

“แต่ผมเซ็งพวกนี้จริงๆ ทำไมไม่มีใครออกมาเตือนหรือจับคนพวกนี้ไปสงบปากสงบคำที่ไหนสักแห่งสักพักนะ ปล่อยให้ป่วนเมืองแบบนี้ วันๆ เรียกร้องไม่จบไม่สิ้น”

“นักสิทธิมนุษยชนกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายส่วนหนึ่งของยูเอ็น เลยไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งด้วย ยิ่งตัวแกนนำนี่เอาเรื่องทีเดียวครับ” ทนายความรายงาน

“แกนนำตัวแสบพวกนี้น่าจะจับไปขังคุกให้เข็ดหลาบ โทษฐานดิสเครดิตชาวบ้านอย่างไร้สติ” แดเนียลพูดด้วยความแค้นใจ ยังไม่ลืมว่าคนกลุ่มนี้ประณามว่าเขาเป็นเชื้อโรคร้ายของระบบสังคม เป็นฆาตรกรดีๆ นี่เอง

“แต่ยังไงผมก็อยากให้ท่านระวังไว้ ผมได้ข่าวมาว่าหัวหน้านักสิทธิมนุษยชนกลุ่มนี้ทำงานถึงลูกถึงคน กัดไม่ปล่อย ที่สำคัญมีเครือข่ายเอ็นจีโอในต่างประเทศหลายแห่งให้การสนับสนุน บางทีท่านอาจต้องรำคาญใจไปอีกนานครับ”

แดเนียลยักไหล่ไม่ยี่หระหลังจากวางสาย รำคาญใจไปอีกนาน ขอขำให้กลิ้งตายเถอะ อยากรู้ฤทธิ์เดชของแกนนำกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนคนนี้นัก ชื่ออะไรนะ เขาจำไม่ได้แล้ว ไม่ได้ใส่ใจหลังอ่านจากหนังสือพิมพ์คราวก่อน แต่จำได้ว่าเป็นชื่อผู้หญิง คงหนีไม่พ้นพวกสาวใหญ่ หน้าตาไม่เจริญหูเจริญตา เสียงดัง ปากกล้า

เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น แดเนียลกดรับ

“ท่านครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบท่านครับ เธอบอกว่าชื่อโรสลิน เป็นนักสิทธิมนุษยชนอะไรนี่แหละครับ” ปลายสายรายงาน

“บอกไปว่าฉันไม่อยู่สิ”

“ผมแจ้งไปแล้วครับ แต่เธอยืนกรานว่าต้องพบท่านให้ได้ ไม่ว่าผมจะไล่ยังไง เธอก็ไม่ยอมกลับครับ ดึงดันอยู่ตรงนี้มายี่สิบนาทีแล้ว ผมเลยขู่ว่าจะแจ้งตำรวจครับ”

“ก็ดีแล้วนี่” แดเนียลตอบไม่ยี่หระ ถ้าผู้หญิงชื่อโรสลินคนนี้จะติดคุก ก็เรื่องของหล่อน

“อืม แต่เธอขู่ผมกลับว่า จะแจ้งตำรวจเช่นกันว่าผมข่มขู่เธอ เธอบอกว่า มนุษย์ทั้งหลายเกิดมามีเสรีภาพ เท่าเทียมกันทั้งศักดิ์ศรีและสิทธิ์ ผมจึงไม่มีสิทธิ์ทำกับเธอแบบนี้” เจ้าหน้าที่หนุ่มมีน้ำเสียงลังเลกึ่งงุนงง

“แล้วไง”

แดเนียลถามเสียงเนือย ปวดศีรษะตุบๆ กับศัพท์ในแวดวงสิทธิมนุษยชนจากอีกฝ่าย ที่เขาคาดว่าคงเพิ่งจะได้เรียนรู้เมื่อไม่เกินยี่สิบนาทีที่ผ่านมาและคงเรียนรู้จากใครไม่ได้ นอกจากแม่นักสิทธิมนุษยชนปากกล้าที่ร้องแรกแหกกระเชออยู่ด้านล่างในขณะนี้ เขาลุกเดินเข้าไปในห้องทำงาน เปิดโทรทัศน์ เพื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด อยากเห็นหน้าของสาวแสบสักหน่อย

“คะ. . .คือ ผมไม่แน่ใจว่า เราจะแจ้งข้อหาเธอได้น่ะครับ มันอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนก็ได้นะครับ แต่จะว่าไปเธอก็บุกรุกเข้ามานะครับ สรุป คือผมชักงงแล้วครับ”

“ถ้านายไม่แจ้งความ นายจะให้เธอขึ้นมาหาฉันหรือไง” แดเนียลถามเสียงห้วน

“ครับ เอ๊ย ไม่ใช่ครับ ผมไม่มีทางปล่อยเธอขึ้นไปพบท่านแน่ครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับเธอยังไงน่ะครับ” เห็นได้ชัดว่าปลายสายกำลังอยู่ในภาวะสับสนเพียงไหน

แดเนียลถอนหายใจอีกเฮือก ขณะจ้องมองภาพในจอโทรทัศน์ คิ้วเข้มค่อยๆ ขมวดเป็นปม เขาเพ่งมองภาพผู้หญิงในจอ สาวน้อยร่างเล็ก สวมเสื้อยืดกางเกงยีน ผูกผมเป็นหางม้า กำลังยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเคาน์เตอร์ด้านล่าง ดูคุ้นตา เขาซูมภาพเข้าไปใกล้ จนเห็นใบหน้าชัดเจน

จำได้ในทันทีว่านี่คือแม่สาวหัวดื้อปากกล้าที่ประณามเขาในร้านอาหารเมื่อวันก่อน ที่แท้เธอก็เป็นนักสิทธิมนุษยชนนี่เอง มิน่าล่ะ คืนนั้นในร้านอาหาร ถึงได้พูดจาประหลาดแบบนั้น

ชายหนุ่มหรี่ตาอย่างครุ่นคิด เจ้าหล่อนไม่ใช่สาวใหญ่อย่างที่คิด อายุอานามไม่น่าจะสักเท่าไรด้วยซ้ำ แต่ทำงานดุเดือดเป็นบ้า บุกมาขอพบเขาถึงที่พักเสียด้วย “พวกนั้นมากันกี่คน”

แดเนียลถาม นัยน์ตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์

“เออ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า. . .สรุป สามคนครับ” พนักงานหนุ่มยังไม่หายสับสนในชีวิตสักเท่าไร

“เอาไงกันแน่ ห้าหรือสาม” แดเนียลถามเสียงกร้าว

พนักงานหนุ่มตอบเสียงเจื่อน “สะ. . .สามครับ”

“อนุญาตให้เธอขึ้นมาได้ แต่ให้เธอขึ้นมาแค่คนเดียวนะ”

“แน่ใจหรือครับท่าน เธอ อืม เธอ มีฝีปากเป็นอาวุธนะครับท่าน” พนักงานหนุ่มพยายามเตือนอย่างหวังดี

“ไปบอกเธอตามที่ฉันบอกซะ! ” แดเนียลส่ายหน้าระอาอีกครั้ง หมู่นี้มีแต่เรื่องชวนให้หงุดหงิดใจ ก่อนจะวางสาย

ขณะนั่งรอ อยากรู้เหมือนกันว่าแม่สาวน้อยจอมแสบนั่นจะใจเด็ดถึงขนาดกล้าขึ้นมาหาเขาในห้องเพียงคนเดียวหรือไม่ แต่ค่อนข้างแน่ใจว่าหญิงสาวไม่น่าจะกล้าเสี่ยงทำอะไรแบบนั้น และหวังว่าเธอจะยอมแพ้ ถอยทัพกลับไปในที่สุด

ชายหนุ่มยื่นมือไปกดรีโมต เสียงดนตรีบรรเลงคลาสสิกจากเครื่องเสียงในห้องดังคลอเบาๆ แดเนียลหลับตา ฟังเพลงด้วยอารมณ์สุนทรี เสียงเพลงช่วยบรรเทาอารมณ์ขุ่นมัวของเขาได้ทุกครั้งไป

ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ เสียงกริ่งด้านนอกดังขึ้น แดเนียลลืมตาขึ้นช้าๆ หน้านิ่ว สงสัยว่าใครกันมากดกริ่ง อย่าบอกนะว่าเป็นแม่สาวนักสิทธิมนุษยชน

ว้าว! ถ้าใช่ละก็ ขอนับถือเลย เขากดหาภาพจากกล้องวงจรปิด ยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นว่าใครที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง

แดเนียลลุกออกไปนอกห้อง ตรงไปเปิดประตูห้อง อวดรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ขณะประสานสายตากับแม่สาวหน้าใสตรงหน้า “สวัสดีครับ คุณโรสลิน”

“สวัสดีค่ะ” นัยน์ตาเด็ดเดี่ยวฉายแสงกล้า บ่งบอกความเป็นมั่นใจในตัวเองและไม่เป็นมิตรนัก ขณะประสานสายตากับอีกฝ่ายอย่างแน่วแน่

“คุณคงอยากเข้ามาคุยกับผมในห้อง” แดเนียลผายมือเชื้อเชิญ มืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกง

“ไม่ได้อยาก แต่จำเป็น เพราะคุณไม่ยอมพบเรา” น้ำเสียงใสๆ ของวัยสาว ช่วยให้เสียงแข็งๆ ปราศจากหางเสียง ไม่กระด้างจนเกินไป

แดเนียลยักไหล่พลางยิ้มในสีหน้า อย่างน้อยเจ้าหล่อนเป็นสาวน้อยก็ดีกว่าเป็นสาวใหญ่ หน้าตาไม่เจริญหูเจริญตาเป็นไหนๆ เอาเถอะ ในวันเซ็งๆ แบบนี้ มีเรื่องสนุกๆ ให้ทำแก้เบื่อก็น่าจะดี

โรสลินจับกระเป๋าสะพายสีดำใบเท่ไว้แนบตัวราวกับมันเป็นที่ยึดเหนี่ยวในยามยาก ไม่คลาดสายตาจากดวงหน้าหล่อเหลา ขณะสืบเท้าเข้าห้องช้าๆ และร้องห้ามทันควัน เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะปิดประตู

“คงไม่จำเป็นต้องปิดประตู”

“โอเค” แดเนียลรับปากง่ายดาย และเดินนำเข้าไปนั่งที่โซฟา โดยมีหญิงสาวเดินตามหลังห่างๆ ท่าทางระมัดระวังเต็มที่

แต่เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดดังคลิก โรสลินก็หันขวับ เห็นประตูห้องปิดสนิทไปแล้ว หันขวับมองคนตัวโตด้วยแววตาไม่พอใจและหวาดระแวงทันที

“คุณปิดประตูทำไม”

“ผมไม่ได้ปิด แต่ห้องผมตั้งโปรแกรมปิดประตูอัตโนมัติเอาไว้” แดเนียลตอบเสียงเรียบ ขณะนั่งลงบนโซฟากลางห้อง

“งั้นคงต้องรบกวนคุณไปเปิดค้างไว้ให้หน่อย” โรสลินไม่ยอมง่ายๆ

“เปิดนะเปิดได้ แต่ผมต้องไปตั้งโปรแกรมใหม่ กินเวลาเป็นชั่วโมง ผมคงไม่ว่างขนาดนั้น” ชายหนุ่มตอบไม่แยแส “แล้วคุณมีอะไรก็รีบพูดมา ผมมีเวลาให้คุณสิบนาที ผมมีธุระหลายอย่างต้องไปจัดการ” แดเนียลแกล้งมองนาฬิกาข้อมือ สื่อว่าเขาไม่มีเวลาให้อ้อยอิ่ง

โรสลินปรายตามองเขาก่อนจะพูดเข้าประเด็นอย่างไม่อ้อมค้อม

“ฉันคงไม่รบกวนเวลาคุณมากนักหรอก แค่อยากจะมาคุยกับคุณเรื่องการร่วมลงทุนกับเดอะ วัน เทเลคอมเท่านั้น”

แดเนียลผายมือออกสองข้าง “ยังไง”

“ฉันคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงมาวันนี้ พวกเรายื่นจดหมายเรียกร้องและขอคำชี้แจงจากคุณหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ จากทนายของคุณหรือคุณเลยสักครั้ง”

“ถ้าคุณหมายถึงเรื่องที่ต้องการให้ผมทบทวนเรื่องการร่วมลงทุนกับเดอะ วัน เทเลคอม ของเวียดนามละก็ ผมทบทวนแล้ว และคิดว่าควรเดินหน้าร่วมลงทุนกับเดอะ วัน เทเลคอมต่อไป” แดเนียลตอบชัดเจน

“แต่คุณน่าจะมองในมุมอื่นๆ บ้าง อย่างน้อยก็น่าจะมองในแง่ของคุณธรรม ศีลธรรม สิ่งที่คุณทำ หมายถึง การสนับสนุนให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนทางอ้อม และการละเมิดสิทธิมนุษยชนถือเป็นปัญหาระดับโลก ที่ทุกประเทศควรหันมาใส่ใจในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง”

โรสลินอธิบาย หน้าตาท่าทางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

“ข้อนั้นผมว่าไปคุยกับนักการเมืองหรือรัฐบาลไทยดีกว่ามั้ย” แดเนียลคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงจะเพี้ยนเต็มแก่ กระทรวงต่างประเทศสนับสนุนให้เขาร่วมลงทุนกับเดอะ วัน เทเลคอม

“พวกเขาไม่คุยกับฉัน” โรสลินพูดตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม

“ทำไม”

แดเนียลยิ้มขำในแววตา เธอเป็นผู้หญิงตรงไปตรงมาและหวานน้อยที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา ดวงหน้าใสราวกับสาวรุ่นช่างขัดกับแววตาและท่าทางมุ่งมั่น เธออาจไม่ใช่ผู้หญิงสวยสะดุดตา แต่มีบางสิ่งในแววตาที่มีเสน่ห์ดึงดูด และเป็นอีกครั้งที่คลับคล้ายคลับว่าต้องเคยพบเธอที่ไหนมาก่อนแน่ ในร้านอาหารฝรั่งเศสคืนนั้นไม่น่าจะใช่ครั้งแรกที่เขาเคยพบหญิงสาว

“ฉันคงไม่จำเป็นต้องอธิบายข้อมูลในส่วนนี้”

แววตาคมยังคงเปื้อนรอยยิ้มขำ ถึงเธอไม่บอก เขาก็พอเดาได้ว่าทำไมนักการเมืองหรือรัฐบาลไทยไม่ต้องการพูดคุยกับเธอ นักสิทธิมนุษยชนมักมีแนวความคิดสวนทางกับนโยบายการทำงานของภาครัฐบ่อยครั้ง ในเมื่อผลประโยชน์กับศีลธรรมไม่ต่างจากเส้นขนานที่ยากจะบรรจบ ในสายตาของภาครัฐ บางครั้ง นักเคลื่อนไหวเหล่านี้ก็ไม่ต่างจากตัวประกอบเล็กๆ ของละครฉากหนึ่ง

“คุณอยากดื่มเครื่องดื่มอะไรมั้ย” แดเนียลตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา จู่ๆ ก็นึกอยากให้เธอผ่อนคลายลง ท่าทางแข็งๆ ไม่เหมาะกับหน้าตารูปร่างอย่างเธอเลยสักนิด

โรสลินมีสีหน้างุนงงกับการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยของเจ้าของห้อง “ไม่ค่ะ”

“ทำไม ไม่ไว้ใจผมหรือไง” แววตาคมเป็นประกายระยิบระยับ เขายิ้มอวดฟันขาววาววับ

“ทำไมฉันต้องไม่ไว้ใจคุณด้วย หรือคุณคิดว่าตัวเองไม่น่าไว้ใจ” โรสลินย้อนถาม

“ไม่รู้สิ เหมือนคุณไม่ไว้ใจผม แต่อันที่จริง คุณไว้ใจผมได้ ผมรับรอง” น้ำเสียงห้าวทุ้มกังวานล้อเลียนเล็กน้อย

“ฉันไม่รู้ว่าควรจะเชื่อนักธุรกิจหน้า. . .อย่างคุณดีมั้ย”

“ถ้าผมจะทำอะไรคุณจริง ตอนนี้คงเป็นโอกาสเหมาะสุด”

โรสลินมีสีหน้าระแวดระวังขึ้นอีกเท่าตัว “ฉันขอเตือนคุณไว้ก่อนว่า ถ้าฉันลงไปข้างล่างช้าเกินเหตุ เพื่อนๆ ฉันที่รออยู่ด้านล่างจะโทร. แจ้งตำรวจแน่นอน”

“แจ้งตำรวจ อืม คุณคิดว่าผมจะทำอะไรคุณกัน” แดเนียลถาม กังวานล้อเลียนในน้ำเสียงยังไม่จางหายไป

“คุณเลิกพูดนอกเรื่องเลย มาคุยเรื่องการร่วมลงทุนกับเดอะ วัน เทเลคอม ของคุณดีกว่า”

แดเนียลยักไหล่ พลางพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ พาดแขนข้างหนึ่งไปกับพนักโซฟา

“ก็ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่อาจถอนตัวจากการร่วมลงทุนนั่นได้ ทุกอย่างมันเดินหน้ามาไกลเกินไปแล้ว”

“นั่นเพราะคุณไม่ฟังเสียงเรียกร้องของนักสิทธิมนุษยชนที่ออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้น คุณเดินหน้าเซ็นสัญญา โดยไม่ฟังเสียงจากสังคม”

“แต่ผมว่าผมฟังเสียงจากสังคมส่วนรวมมากกว่านะ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ผมฟังเสียงจากคนส่วนน้อย คุณต้องยอมรับว่า ไทยเป็นมิตรที่ดีกับเวียดนาม ไม่มีใครสนเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนอะไรนั่นมากกว่าผลประโยชน์ระหว่างประเทศหรอก หรืออย่างประเทศมหาอำนาจ อาจออกมาประกาศคว่ำบาตรการกระทำของรัฐบาลเวียดนาม อ้างว่า ประเทศมหาอำนาจ คำนึงถึงเรื่องประชาธิปไตยเป็นหลัก แต่ผมบอกได้เลย เรื่องของการเมืองและผลประโยชน์ระหว่างประเทศ มันซับซ้อนกว่าที่คุณคิด บางทีสิ่งที่คุณเห็น อาจเป็นแค่ภาพลวงตา”

แดเนียลพยายามอธิบายเท่าที่จะทำได้ เขาคิดว่าสาวน้อยคนนี้อุดมการณ์แรงกล้าอย่างน่านับถือ แต่บางทีก็แรงเกินไป และอาจเป็นภัยย้อนกลับมาหาตัวเองได้

“นั่นก็เพราะคุณคิดแบบมุมมองนักธุรกิจที่ยึดผลประโยชน์เป็นหลัก แต่ยึดคุณธรรมเป็นรอง คงเป็นเพราะโลกเรามีแต่คนมีความคิดเห็นแก่ตัวแบบนี้ การเข่นฆ่า ทำลายล้าง เอารัดเอาเปรียบ มนุษย์ด้วยกันเอง ถึงไม่มีวันหมดไปสักที” โรสลินประณามอีกฝ่ายอย่างเต็มเหนี่ยว

แดเนียลถอนหายใจอย่างอ่อนใจ ผู้ที่เดินสายกลางอย่างเขา คงคุยกับผู้หญิงหัวเอียงซ้ายจัดๆ อย่างนี้ไม่รู้เรื่องสักเท่าไร “เอาเป็นว่า ผมคงไม่อาจทำตามข้อเรียกร้องของคุณได้ ผมคงทำได้ดีที่สุดแค่นั้น”

“ฉันเข้าใจว่าคงยากที่จะให้คุณเปลี่ยนความคิดทัศนคติในทันที แต่อย่างน้อยฉันก็อยากให้คุณลองเก็บสิ่งเหล่านี้ไปคิด บางครั้งถ้าคุณลองเปิดใจรับฟัง คุณอาจได้แง่คิดอะไรดีๆ ก็ได้” โรสลินเดินหน้าหว่านล้อม

“โอเค ผมสัญญาว่าจะเก็บไปคิดดู” แดเนียลแกล้งทำเป็นรับปาก เพราะเจ้าหล่อนเซ้าซี้กว่าที่เขาคิด จากตอนแรกที่คิดว่าหญิงสาวมีบุคลิกน่าสนใจทีเดียว แต่ตอนนี้เขาเริ่มอยากปิดฉากการสนทนานี้แล้วสิ มิหนำซ้ำคิดถึงดอกเตอร์ณิชารีย์ผู้ที่อ่อนหวาน ฉลาด และมีเสน่ห์ตรึงใจ ขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ง่ายนักที่เขาจะติดใจผู้หญิงสักคนได้มากขนาดนี้

แม้เจ้าหล่อนไม่อาจซ่อนความพึงใจในแววตาที่มีต่อตัวเขาได้มิดชิดก็จริง แต่นั่นไม่ได้ความว่าณิชารีย์จะยอมเปิดใจรับเขาง่ายๆ ทว่าเขาหลงใหลความท้าทายทุกชนิด และณิชารีย์ คือความท้าทายที่เขาไม่มีทางยอมพลาดแน่ แล้วถ้าเธอไม่ยอมออกมาจากเบื้องหลังกำแพงนั่น เขาก็จะเข้าไปหาเธอเอง แต่เขาจะผลีผลามไม่ได้ ดอกเตอร์สาวสวยคนนี้ แตกต่างจากผู้หญิงอื่นที่ผ่านมาของเขา พวกเธอเหล่านั้นไม่มีการซ่อนเร้นความรู้สึกใดๆ ยินดีเต็มที่ที่ได้เป็นผู้หญิงของเขา พร้อมสนุกสนานด้วยกันสุดเหวี่ยงในค่ำคืนอันร้อนแรงตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกัน

ผู้หญิงสวยหยุดโลกคนนี้คือความท้าทายเร้าใจที่สุดในชีวิตของเขา คิดไม่ผิดเลยที่เขารับทำภารกิจนี้ คงน่าเสียดายที่เส้นทางชีวิตของเขาจะไม่มี ดอกเตอร์ณิชารีย์แวะเวียนผ่านมา

“คุณแค่รับปากแกนๆ ” โรสลินโพล่งออกไปในที่สุด

“เปล่า ผมบอกแล้วไงว่าจะเก็บไปคิดดู” แดเนียลแกล้งยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา เพื่อสื่อทางอ้อมว่าเขาคงไม่มีเวลาคุยด้วยแล้ว “อืม ผมมีธุระสำคัญต้องไปทำต่อ”

นัยน์ตาเด็ดเดี่ยวที่จดจ้องมาอย่างไม่สบอารมณ์ ฟ้องว่าเธอคงดูออกว่าเขากำลังไล่กันทางอ้อม

“ฉันรู้ว่านักธุรกิจอย่างคุณ ทุกวินาทีเป็นเงินเป็นทอง แต่ฉันยังพูดธุระกับคุณไม่จบ และถ้าฉันพูดจบเมื่อไร ฉันก็จะไปอย่างแน่นอน”

แดเนียลประสานสายตากับหญิงสาวนิ่งอยู่ชั่วครู่ ปกติแล้วเขาคงจะไล่แขกไม่ได้รับเชิญที่ดื้อดึงและประณามเขาเสียๆ หายๆ ต่อหน้าธารกำนัล อย่างไม่เกรงใจกันอีกต่อไป แต่อาจเป็นเพราะความแน่วแน่ในแววตาเปล่งประกายกระมังที่รั้งไม่ให้เขาทำในสิ่งที่ควรจะกระทำ

“งั้นคุณมีอะไรก็รีบว่ามา ผมมีเวลาให้คุณอีกสิบนาที”

“ขอบคุณค่ะ ฉันยังคงยืนกรานอยากให้คุณทบทวนการร่วมลงทุนครั้งนี้ โอเค ฉันเข้าใจเรื่องผลโยชน์ของการทำธุรกิจ ฉันยอมรับว่าเรื่องบางเรื่องมันซับซ้อน และตัวแปรก็มากมายเหลือเกิน จนเหมือนไม่มีวันที่เราจะเปลี่ยนกฎเกณฑ์ตายตัวของโลกใบนี้ได้ แต่ฉันไม่เชื่ออย่างนั้น. . .คุณรู้มั้ยในโลกนี้มีคนที่คิดอย่างคุณมากมาย ซึ่งถ้ามองมันในอีกมุมก็คงไม่ผิดหรอก เป็นเรื่องปกติที่คนเรามักเล่นไปตามบทบาท¬ของสังคมส่วนใหญ่ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเรา ก็เป็นแค่เสียงเล็กๆ ที่หวังเพียงความสันติสุขจะบังเกิดแก่โลกใบนี้”

โรสลินหยุดนิ่งชั่วครู่ สบตาเขา ท่าทางราวกับนักพูดชั้นเยี่ยมบนเวทีที่มีชั้นเชิงในการโน้มน้าวใจผู้ฟัง

“นั่นมือถือคุณหรือคะ” โรสลินพยักหน้าไปยังมือถือสุดไฮเทคบนโต๊ะ

“อือฮึ” แดเนียลแค่ตอบรับสั้น เขารับปากแล้วว่าจะให้โอกาสหล่อนพูดธุระสิบนาที

“สวยดีนะคะ ฉันไม่เคยเห็นมีขายในเมืองไทยมาก่อน”

แดเนียลจ้องมองอีกฝ่ายนิ่ง ไม่แน่ใจว่าเธอหยิบยกหัวข้อนี้ขึ้นมาทำไม

“คุณรู้มั้ยมีคนมากมายในโลกนี้ที่ไม่รู้ว่า เรากำลังส่งเสริมการละเมิดสิทธิมนุษยชนทางอ้อม ด้วยการซื้อมือถือแพงๆ พวกนี้มาใช้ อันเป็นผลพวงจากการรุกรานและสงครามที่มีมหาอำนาจตะวันตกหนุนหลังเพื่อเข้าไปควบคุมแร่อันมีค่ามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเพชร, ดีบุก, ทองแดง, ทองคำ โดยเฉพาะโคลแทน (coltan) ซึ่งแทนทาลัมที่สกัดมาจากแร่โคลแทนใช้ผลิตตัวเก็บประจุ เป็นอุปกรณ์เล็กจิ๋วที่จำเป็นอย่างยิ่งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ 80% ของแหล่งแร่โคลแทนในโลกพบอยู่ในประเทศคองโก

ด้วยเหตุนี้กองกำลังทหารของประเทศรวันดาและอูกันดา ที่มีสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง เลยบุกเข้าไปในภาคตะวันออกของประเทศคองโก พอถึงปี ค.ศ. 1998 กองทัพของสองประเทศนี้ก็ยึดครองและควบคุมพื้นที่ทำเหมืองได้สำเร็จ มีข่าวการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่การทำเหมืองออกมาเป็นระลอก แน่นอนว่าบรรษัทเหมืองแร่ข้ามชาติยักษ์ใหญ่มีส่วนกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวคองโก

การข่มขืน การสังหารหมู่และการติดสินบน เป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่บรรษัท
ข้ามชาติเหล่านี้คอยหนุนหลัง แต่ในรายงานด้านสิทธิมนุษยชนกลับไม่มีการเอ่ยถึงบรรษัทเหมืองแร่ข้ามชาติเหล่านี้เลย

และนั่นคือที่มาของสงครามนองเลือดที่ไม่มีวันจบสิ้น อันที่จริงฉันก็เห็นด้วยนะคะที่มีคนเสนอความคิดว่า ควรมีการติดสติกเกอร์ที่มือถือ ข้อความประมาณว่า คำเตือน! อุปกรณ์ชนิดนี้ใช้แร่ธาตุหายากจากแอฟริกากลาง เงินที่ได้จากการขายถูกนำไปใช้ในสงครามนองเลือดเพื่อการยึดครอง ทำให้ลิงกอริลลาสูญพันธุ์ ขอให้ทุกท่านใช้อย่างมีความสุข”

ไม่อยากเชื่อว่า เธอจะเอาโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเขาไปเกี่ยวโยงกับการสูญพันธุ์ของลิงกอริลลา!

“นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เจ็บปวดสำหรับมนุษยชาติ แต่มันก็ยังคงดำเนินต่อไป ด้วยเหตุผลของผลประโยชน์ทางธุรกิจระหว่างประเทศ นี่ใช่มั้ยคะที่คุณบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา หรือ การที่ทางการของเวียดนามอาศัยเดอะ วัน เทเลคอม แอบล้วงข้อมูลข่าวสารของฝ่ายตรงข้าม จับกุมกลุ่มต่อต้าน ทั้งนักการเมือง สื่อ หรือ บรรณาธิการข่าว ขังคุก อย่างอยุติธรรม นี่ใช่มั้ยคะที่คุณพยายามอธิบายให้ฉันเข้าใจว่ามันคือวิถีของโลก และการที่ฉันมานั่งเรียกร้องต่อสู้เพื่อคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และหมดทางสู้ อาจเป็นเรื่องไร้สาระอย่างนั้นหรือเปล่า”

หญิงสาวพูดจบพร้อมกับประสานดวงตาคมอีกครั้งอย่างแน่วแน่

“ผมเข้าใจว่าคุณทำหน้าที่ในฐานะนักสิทธิมนุษยชน แต่คุณคงไม่ลืมว่าผมเป็นนักธุรกิจ มีเรื่องมากมายในโลกใบนี้ที่ผมอยากเปลี่ยนแปลง แต่ผมเพียงคนเดียวคงไม่มีศักยภาพมากพอจะทำมันได้ หวังว่าคุณคงเข้าใจ”

แดเนียลพยายามอธิบาย ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เธอสาธยายมายาวเหยียด แต่เรื่องบางเรื่องก็เกินกว่าความสามารถที่เขาจะควบคุมมันได้

“นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันมาอยู่ตรงนี้ คุณจะมีเพื่อนร่วมคิดเพื่อเป็นพลังในการขับเคลื่อนความคิดด้านบวก กลุ่มของพวกเรายินดีต้อนรับทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเสมอ มีนักธุรกิจหลายคนที่ให้การสนับสนุนการทำงานของเรา และฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณจะเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์อีกคนของเรา”

“โอเค ผมเข้าใจ เอาเป็นว่า ผมจะเก็บไปคิด แต่ตอนนี้ ผมคงต้องขอตัวก่อน” แดเนียลขอตัวเสียงสุภาพ เคยได้ยินกิตติศัพท์ของเจ้าหล่อนว่าทำงานถึงลูกถึงคน และวินาทีนี้ก็เชื่ออย่างไร้ข้อกังขา

“แต่ฉันยังพูดไม่. . .”

“ผมบอกแล้วว่าจะเก็บไปคิด ตอนนี้คุณควรกลับได้แล้ว”

แดเนียลตัดสินใจเชิญสาวจอมตื๊อกลับตรงๆ เขาคงไม่มีเวลามานั่งฟังเธอพร่ำพรรณาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน กับลิงกอริลลา ได้เป็นวันๆ แน่

“ฉันขอเวลาอีก. . .”

“ผมไม่มีเวลาให้คุณแล้ว ผมมีธุระ” หนุ่มหล่อชิงพูดแทรก

“แต่. . .ว้าย! ” โรสลินร้องเสียงหลง เมื่ออีกฝ่ายคว้าหมับที่ข้อมือ ดึงเธอขึ้นจากโซฟา เพื่อลากไปที่ประตู

“คุณทำอะไรของคุณ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ”

แดเนียลถอนหายใจเหนื่อยหน่าย เบื่อผู้หญิงจอมตื้อคนนี้ขึ้นมาตงิดๆ

“คุณควรกลับได้แล้ว” มือใหญ่กุมข้อมือบางแน่นขึ้นเมื่อโรสลินสะบัดข้อมือเต็มแรง

“แต่ฉันยังพูดกับคุณไม่จบเลย”

“คุณพูดจบแล้ว กลับไปซะ” แดเนียลสั่งเสียงห้าวพลางเปิดประตู ตั้งท่าจะรุนเธอออกไปนอกห้อง แต่โรสลินเบี่ยงหลบ ไม่ยอมให้เขาขับไล่ออกจากห้องง่ายๆ

“ฉันขอเวลาอีกแค่สิบนาทีเท่านั้น ฉันรับรอง” โรสลินต่อรอง ท่าทางเหมือนไม่ยอมถอยง่ายๆ

“ถ้าคุณไม่ออกไป ผมจะแจ้งความแล้วนะ” แดเนียลขู่

“ฉันไม่กลัวหรอก ถ้าคุณอยากจะแจ้งความ ฉันขึ้นโรงพักจนชินแล้ว” โรสลินสวนกลับ พร้อมดันประตูปิดลงไปตามเดิม หันยืนประจันหน้ากับคนตัวโต ยืนกรานเจตนารมณ์ว่าจะไม่ยอมกลับออกไปง่ายๆ แน่

ชายหนุ่มยืนล้วงกระเป๋ากางเกง หรี่ตาจ้องมองอีกฝ่าย “แปลว่าคุณจะไม่ออกไปจากห้องผมใช่มั้ย”

“ไม่ จนกว่าคุณจะยอมให้ฉันอธิบายต่อจนจบ”

“แน่ใจนะ”

โรสลินพยักหน้า แววตายังคงมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเช่นเคย


“ผมให้โอกาสคุณแล้วนะ” แดเนียลเตือนอีกครั้งตบท้าย นัยน์ตาคมวาววับเจ้าเล่ห์ จนอีกฝ่ายเริ่มมีสีหน้าหวาดระแวง แล้วทันใดนั้นท่อนแขนแกร่งก็ตวัดเข้ารอบเอวบาง เขาดันร่างบางติดผนังฝั่งหนึ่ง

“กรี๊ด! คุณจะทำอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ! ” โรสลินโวยวายเสียงหลง ท่าทางตกใจสุดขีด กับการถูกเขาประชิดตัว เนื้อตัวสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด

“ก็ผมไล่ให้กลับคุณก็ไม่กลับสักที ก็แปลว่าอยากอยู่กับผมสองต่อสองน่ะสิ” น้ำเสียงกรุ้มกริ่มไม่ต่างจากแววตา แดเนียลทาบฝ่ามือกับผนังสองข้างเพื่อขังโรสลินไว้ ใบหน้าของทั้งสองอยู่ในระยะประชิดจนน่าหวาดเสียว

“คุณมันไอ้โรคจิต! ถอยไปเดี๋ยวนี้นะ! ” เสียงเจ้ากรรมสั่นจนน่าขำ พยายามถอยชิดผนังให้มากที่สุด ทั้งที่ไม่มีที่จะให้ถอย เพื่อหนีใบหน้าหล่อเหลากับลมหายใจอุ่นที่ลอยเข้ามาใกล้ทุกขณะ

“ก็เมื่อกี้ผมบอกให้กลับทำไมไม่กลับ ทีตอนนี้จะมาไล่ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาให้ผมจูบก่อนแล้วกัน” แดเนียลแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เพื่อจงใจแกล้ง กลั้นยิ้ม เมื่อเจ้าหล่อนหันหน้าหนี หลับตาปี๋ ยันร่างเขาด้วยสองมือเล็กสุดแรงเกิด

“ไอ้บ้า! ออกไป! ”

โรสลินกรี๊ดร้องโวยวาย ทันใดนั้นก็ตัดสินใจขึ้นเข่าป้องกันตัว แต่หนุ่มหล่อรู้ทัน หลบได้ทันท่วงที เธอจึงฉวยโอกาสนั้นผลักเขาเต็มแรง และวิ่งไปหมายจะเปิดประตู แต่เปิดไม่ออก หัวใจเต้นระรัว กดปุ่มตัวเลขบนแผงข้างประตูมั่วซั่ว มือไม้สั่นเทา ประตูก็ไม่มีทีท่าจะเปิดออก จึงจนปัญญา หันขวับประจันหน้ากับเขา พร้อมกับที่ช็อตไฟฟ้าในมือ ปั้นหน้าถมึงทึงเต็มที่ แต่ไม่อาจห้ามอาการมือไม้สั่นเทาได้

แดเนียลยืนเท้าเอว มองอีกฝ่ายด้วยสีหน้ายิ้มขำ เธอหาเรื่องใส่ตัวเอง ทำให้เขาต้องใช้วิธีนี้เพื่อไล่ออกจากห้อง

“คุณชอบแบบซาดิสม์หรือไง พกเครื่องช็อตไฟฟ้ามาด้วย” แกล้งยั่วเย้า
“ฉันพกมาช็อตไอ้พวกบ้ากามต่างหาก เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ! ”

“อ้าว คุณไม่อยากถกกับผมเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกแล้วหรือไง ตอนนี้ผมมีเวลาให้คุณทั้งวันเลยนะเอ้า”

โรสลินถลึงตาใส่ราวกับเคียดแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน

“ฉันบอกให้เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะช็อตคุณด้วยไอ้นี่แน่” ชูเครื่องช็อตไฟฟ้าขึ้น สีหน้าไม่ได้ล้อเล่น

“โอเคๆ ผมยังไม่อยากชักกระแด่วๆ หมดฟอร์มอยู่ตรงนี้” แดเนียลแสร้งทำหน้าหวั่นใจ ทั้งที่เจ้าหล่อนไม่มีทางจัดการเขาได้ด้วยเจ้าเครื่องนี้แน่ เขาผ่านการฝึกฝนทักษะด้านศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวมาอย่างหนักหน่วง แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ กับเครื่องช็อตไฟฟ้า ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก

หญิงสาวถอยหลบอย่างระมัดระวัง เมื่อชายหนุ่มตรงเข้าไปกดรหัสบนแผงข้างประตู พอประตูเปิด โรสลินก็พุ่งออกไปอย่างไม่รีรอหรือคิดล่ำลา

ริมฝีปากหยักได้รูปโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม หายเซ็งขึ้นมาในบัดดล หลังจากได้แกล้งแม่สาวจอมป่วน บ้าสิทธิมนุษยชนขึ้นสมอง

“โรสลิน” เขาพึมพำชื่อนั้นเบาๆ เริ่มจะคลับคล้ายคลับคลาแล้วว่าเคยเห็นเธอคนนี้ที่ไหนมาก่อน เขายังไม่ลืมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของร่างในอ้อมกอด เมื่อคราวที่เขาต้องไปปฏิบัติภารกิจบางอย่างที่. . .ปราก (จบบทที่ 5)



Create Date : 19 สิงหาคม 2554
Last Update : 20 สิงหาคม 2554 23:31:34 น. 5 comments
Counter : 438 Pageviews.

 
ฮู้! พระเอกของเราจำนางเอกได้แล้ว แล้วนางเอกของเราจะรู้มั้ยนะว่าพระเอกคือโจรปล้นจูบ

ข้อมูลในการเขียนน่าทึ่งมาก เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ
-อยากทราบว่าวางแผงเมื่อไหร่คะ? อยากได้ไว้ในครอบครอง


โดย: tipfany IP: 124.122.212.234 วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:22:30:37 น.  

 
เริ่มเร้าใจแล้ว พระเอกจำกลิ่นตัวนางเอกได้ อยากอ่านต่อ เป็นรูปเล่ม ข้อมูลแน่นดีค่ะ เรื่องมนุษยชาติ เก่งค่ะ เป็นกำลังใจให้ตลอดไป


โดย: apple IP: 202.91.19.195 วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:0:09:12 น.  

 
ดร.ณิชเค้ามีความลับความหลังอะไรรึเปล่าคะ เป็นปมไหมคะ


โดย: ป้าเล็กขี้บ่น IP: 118.172.12.230 วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:14:10:40 น.  

 
อยากอ่านตอนต่อไปใจจะขาดแล้วละค่ะ


โดย: yaowarat IP: 124.120.146.243 วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:18:37:35 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านค่ะ จะลงให้อ่านต่อ ณ บัดนาวค่า ^^


โดย: อิสย่าห์ (isaiahland ) วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:11:10:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

isaiahland
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add isaiahland's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.