ตรวจการบ้านรอบที่ 7 รอบสุดท้าย แหกกฎเลิกนับแคล

เชื่อรึเปล่าว่า ไม่ชั่ง ไม่วัด ไม่ตวง ไม่นับแคล… กินแบบเด็กนักเรียน ก็ผอมได้นะเธอ

เวลาอยากจะลดหุ่น ใครๆก็บอกว่าต้องระวังแคลอรี่ อย่าทานมาก เพิ่มการออกกำลังกาย บลาๆๆๆ

มันก็จริงค่ะที่ตามหลักการ Calories Out > Calories In เราถึงจะลดน้ำหนักได้

แต่เอาเข้าจริงๆ การนับแคลมันไม่ใช่ปัจจัยเดียวหรือนะคะ ที่จะทำให้เรามีรูปร่างที่ดี กับสุขภาพที่สมบูรณ์

มาเรื่องการนับแคลที่ถูกต้องกันก่อน…การที่เราจะนับแคลลอรี่ได้ จริงๆก็ยุ่งยากไม่ใช่เล่นเพราะมันจะต้องวัด ตวง ชั่ง คำนวนกันยิกๆ อย่างที่เมย์เคยเล่าไปแล้วในบล็อกก่อนหน้านู้น…ซึ่งอุปกรณ์คู่กายของคนนับแคลก็ต้องมี เครื่องชั่ง ถ้วยตวง ช้อนตวง ค่ะ จะนับแคลได้ใกล้เคียงที่สุดเมื่อเราปรุงอาหารเองนะคะ หรือถ้าเป็นอาหารสำเร็จรูปที่มีฉลากบอกคุณค่าทางโภชนาการมา ก็ง่ายอีกหน่อย แต่ต้องดูปริมาณหน่วยบริโภค ถ้าเราทานไม่ตามที่ระบุ ก็ต้องคำนวนกันใหม่
การนับแคลจะยากมากที่สุดถ้าอยากจะนับ อาหารปรุงสำเร็จที่เราไปซื้อทาน เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าใส่อะไรบ้างในปริมาณเท่าไหร่ ไม่ว่าจะไปตามร้านอาหาร หรือแม้แต่อาหารง่ายๆข้างทาง ขนาดแค่หมูปิ้งรถเข็น ก็ยังยากเลยค่ะ เพราะแต่ละเจ้า หมักหมูไม่เหมือนกัน ใช้เนื้อหมูต่างกัน บางเจ้ามัน มากกว่าเนื้อ บางเจ้าหมักด้วยน้ำตาล คำนวนแคลยากจริงๆ

สำหรับเมย์เองแต่จะคำนวนแคลยิกๆๆค่ะ เฉพาะช่วงเตรียมตัวประกวด เพราะการประกวดเพาะกาย เรื่องโภชนาการการแข่งขันนั้่นซับซ้อนกว่า โภชนาการเพื่อสุขภาพ หรือลดความอ้วนค่ะ


ช่วงปกติที่ไม่ได้ประกวด เมย์ก็ทานอาหารแบบไม่เครียด คือ ไม่ชั่ง ไม่ตวง ไม่วัด แต่ “กะ” ปริมาณเอา โดยอาศัยหลักการ “Balance Diet จานหลุมแบบนักเรียนค่ะ”!!

การทานอาหารแบบสมดุล หรือ Balance Diet จริงๆมีมานานมากและนักโภชนาการหลายๆคน(รวมทั้งเมย์ด้วย) ก็ยอมรับว่ามันดีจริงๆ ซึ่งตอนนี้ก็ได้พัฒนาออกมาเป็น แนวการลดน้ำหนักแบบใหม่ที่กำลังฮิตมากๆที่ออสเตรเลีย เรียกว่า The Diet Plateซึ่งหลักการณ์ของมันก็คือการควบคุมปริมาณการกินในแต่ละมื้อ หรือ Portion Control นั่นเองค่ะ

ให้เราเอาจานมา 1 ใบและแบ่งส่วนของจานออกเป็น 3 ส่วนเหมือนตรารถเบนซ์ (แบบเบี้ยวๆหน่อยนะคะ)
ถ้ายังนึกไม่ออกว่าแบ่งยังไง ลองนึกถึงถาดหลุมสแตนเสลสมัยเด็กๆดูนะคะ ถาดแบบสามหลุมแบบนั้นเลยค่ะ


ในแต่ละหลุมจะใส่อาหารตามนี้ค่ะ

หลุมที่ 1 เป็น โปรตีนไขมันต่ำ เช่น เนื้ออกไก่ เนื้อปลา ไข่ขาว
ขนาดของโปรตีนนี้ให้มีขนาดเท่ากับกำปั้นของเราค่ะ แนะนำว่าถ้าเป็นโปรตีนที่มีความแน่นสูงเช่นเนื้ออกไก่ ก็ให้กำมือปกติ แต่ถ้าเป็นโปรตีนเนื้อไม่แน่น เช่นเนื้อปลา หรือไข่ขาวก็ให้กำมือหลวมๆ (มันมาจากแคลอรี่ของเนื้อปลา กับไข่ขาวที่น้อยกว่าเนื้ออกไก่นั่นแหละค่ะ ก็เลยได้กินขนาดที่ไหญ่กว่านิดนึง)

หลุมที่ 2 เป็น คาร์บเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง มันฝรั่ง ขนมปังโฮลวีท
ขนาดของหลุมนี้มีขนาดเท่ากับส่วนที่หนึ่งค่ะ

หลุมที่ 3 เป็นผักใบเขียว ต่างๆ
ขนาดของหลุมนี้จะใหญ่ที่สุด จัดเติมในช่องว่างให้เต็ม

ถ้าไม่ใช้ถาดหลุม…เอาอาหารมาจัดในจานกลมๆ ก็จะประมาณขนาดอาหารในแต่ละส่วนได้ตามนี้ค่ะ
ส่วนที่ 1 = ¼ ของจาน ส่วนที่ 2 = ¼ ของจานเหมือนส่วนที่หนึ่งค่ะ ส่วนที่ 3 = ½ ของจานค่ะ



เอาให้ง่ายขึ้นไปอีก แนะนำให้จัดโปรตีน และ คาร์บ ก่อน


ส่วนที่เหลือใส่ผักลงไปค่ะ


สำหรับไขมัน ให้ทานเป็นแบบ ต่อวัน ถ้าเลือกใช้น้ำมันในการประกอบอาหาร ก็อยากให้เบาๆมือหน่อยค่ะ ยิ่งถ้าต้องการลดน้ำหนักก็ต้องระวังเรื่องน้ำมันนิดนึง

แต่ถ้าไม่ใช้น้ำมันประกอบอาหาร แนะนำให้ทานน้ำมัน/ไขมัน เสริม
เช่น น้ำมันมะกอก/น้ำมันรำข้าว 1-2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วอัลมอนต์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฝักทอง ถั่วลิสง 1 กำมือเล็กๆ
เนยถั่ว เนยอัลมอนต์ 1-2 ช้อนโต๊ะ เป็นต้น

ลองจัดส่วนอาหารให้ได้แบบนี้ในทุกๆมื้อ ไม่ว่าจะทำทานเองหรือไปซื้อทาน แต่ให้เลือกประเภทของอาหารตามที่แนะนำไปในบล็อกก่อนๆ ลองดูนะคะ





เมย์อยากให้ทุกคนทานอาหาร และออกกำลังกายอย่างสมดุลเพื่อรูปร่างและสุขภาพที่จะอยู่คู่กับเราไปอีกนานๆ
และอยากให้เพื่อนๆมีความสุขกับการอาหารเพื่อการลดน้ำหนัก และเพื่อสุขภาพมากขึ้นค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ....

เมย์ก็ขอจบการตรวจการบ้าน(ตรวจนานเหลือเกินเนอะ) แต่เพียงเท่านี้ พบกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ


ป.ล. ต้องขออภัยที่บล็อกนี้ช้าอีกแล้ว…คือใจจริงอยากถ่ายรูปอาหารที่เมย์ทานมาให้ดู แต่ว่าไม่สะดวกจริงๆ…เลยต้องขอยืมรูปจากอากู๋มาก่อน

Create Date : 23 มีนาคม 2554 Last Update : 23 มีนาคม 2554 17:43:57 น. Counter : 2796 Pageviews.		12 comments
Share Tweet