Bloggang.com : Invisible Angel : ชวนเที่ยว Ceske Krumlov

ชวนเที่ยว Ceske Krumlov - Czech Republic

December 30, 2007

วันนี้ เราจะพาเที่ยวชม Cesky Krumlov ประสาทและเมืองที่สร้างขึ้นในยุคกลาง ที่ใช้เวลาสร้างนานกว่า 6 ศตวรรษ และได้ถูกจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1992 เราไปดูกัน ว่าทำไมเมืองนี้ถึงได้เป็นเมืองมรดกโลกกัน

View ข้างทาง จาก Ceske Budejovice ไป Krumlov

เราจะเริ่มต้นทัวร์ของเราที่ประตูทางเข้าด้าน Covered Corridor to Garden นะค่ะ ซึ่งพอเดินผ่าน และเลี้ยวซ้ายเข้าไปจะเจอกับ 5th Courtyard ก่อน (ปกติ คนที่พักค้างคืนใน Krumlov จะเริ่มทัวร์ทางด้าน Red Gate ผ่าน 1st Court Yard ก่อน) ทางด้านขวามือ จะเป็น ส่วนของ Castle Garden ซึ่งถ้าคุณมาช่วงเวลาอื่น ก็คงได้เข้าชม แต่ว่า ฤดูนี้ คงมีแต่หิมะขาวไปหมด เขาจึงงดให้เข้าชมค่ะ

ระหว่างทัวร์ ก็จะขอเกริ่นประวัติศาสตร์กันหน่อย เพื่ออรรถรส ในการชมภาพ (ใครเกลียดประวัติศาสตร์ มีความหลังเคยสอบได้ F ก็ข้ามไปนะค่ะ)

เมือง Krumlov นั้นแต่เดิม (ช่วงปี 1253-1938) ถูกเรียกว่าเมือง Crhumbenowe (บางทีก็เขียนว่า Krumben Ouwe ค่ะ) คำนี้ เป็นคำที่มาจากภาษาเยอรมันโบราญ ที่แปลว่าที่ราบลุ่มอันคดโค้ง เป็นเมืองที่อยู่อาศัยของ 2 ชนชาติ คือ ชาว Czech และ German ต่อมาในศตวรรษที่ 15 ได้เติมคำว่า Cesky ซึ่งหมายถึง Czechเข้าไปค่ะ

------------
ในภาพเป็น 5th Court Yard ส่วนนี้จะเป็นที่ตั้งของ Castle Theatre ค่ะ

เมือง Krumlov อยู่ห่างจาก Pargue ไปทางตอนใต้ของ Czech ประมาณ 300 กม. เป็นเมืองที่น่ารัก มีแม่น้ำ Vltava ไหลผ่านเมือง ประสาท Krumlov เป็นประสาทในยุคกลางที่ใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้น Bohemia รองจาก Pargue Castle ตัวเมือง Krumlov จะแบ่งเป็น 2 เขต คือ เขต Latran ซึ่งอยู่รอบ ๆ ประสาท และอีกเขตหนึ่งอยู่ระหว่าง 2 โค้งน้ำของ Vltava

----------

วิวจากช่องกำแพง

เมือง Krumlov เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่กำเนิดขึ้นปีประมาณปี 1253 โดยตระกูล Vitek ซึ่งได้สร้างปราสาทนี้ขึ้น (ประสาทส่วนเก่า) และได้ปกครองดินแดนนี้ ต่อมาในปีค.ศ. 1302 ได้เปลี่ยนมาอยู่ในการปกครองของตระกูล Rozmberks ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ปราสาทและเมือง Krumlov เจริญรุ่งเรืองมาก ทั้งด้านการค้าและวัฒนธรรม มีการสร้างโบสถ์ สำนักสงฆ์ และอาคารใหม่ ๆ ขึ้น

---------------------
ตอนนี้ เราเดินอยู่ตรง Covered Bridge (ที่เป็นช่อง ๆ บนสุด) นะค่ะ ตรงนี้จะเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่าง 5th courtyard ไปสู่ 4th courtyard

ในยุคนี้เอง ประสาท Krumlov ส่วนบน (Courtyard ที่ 3-5) ได้ถูกก่อสร้างเพิ่มขึ้นในสไตส์ Renaissance และในส่วน Chateau เดิม ซึ่งเป็นสไตส์ Gothic ก็มีการปรับปรุง ตบแต่งใหม่เป็นสไตส์ Renaissance ซึ่งเราจะเห็นตัวอาคารเป็นสไตส์ที่ผสมผสามกัน นอกจากนี้ ในส่วนของตัวเมือง ก็มีการขยาย และพัฒนาเป็นเมืองที่มั่งคั่งและเจริญมากขึ้น

----------------
จากสะพานตรงนี้ เราจะสามารถมองเห็นวิวเมือง Krumlov อันสวยงาม

ต่อมาจนมาถึงยุคผู้ครอง Krumlov คนสุดท้ายของตระกูล Rozmberks ซึ่งก็คือ Peter Vok ก็ยังคงมีการก่อสร้าง ต่อเติมอย่างต่อเนื่อง จนถึงขนาดทำให้ไม่สามารถจ่ายหนี้สินได้ ในปี 1602 เขาจึงตัดสินใจขายทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ Saesar Rudolf II

-------------
ในภาพจะมองเห็น Church of St.Vitus โดดเด่นอยู่ตรงกลาง

หลังจากนั้นไม่นาน Krumlov ก็ตกอยู่ในช่วงสงคราม 30 ปี (The Thirty Years War) และประสาทได้รับความเสียหายจากสงครามดังกล่าว

-----------------------

จากจุดนี้ เราจะเห็น Vltava River, Church of St.Jodocus และตัว Castle ที่รวมอยู่ในภาพเดียวกันอย่างสวยงาม

จากปี 1622 ถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 18 Krumlov ได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูล Eggenberg

ระหว่างสงคราม เขาได้พยายามซ่อมแซมประสาท ที่เกิดจากความเสียหายจากไฟไหม้ จนหลังสงครามสงบ Eggenberg ก็ได้บูรณะประสาท อาคารต่าง ๆ จนกระทั่งต่อมา เมือง Krumlov ได้เปลี่ยนมือไปอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูล Schwarzenberg

จึงถึงปลายศตวรรณที่ 19 การบูรณะครั้งใหญ่ที่ยังคงอนุรักษ์ และรักษารูปแบบดั้งเดิมไว้ได้เสร็จสิ้นลง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ในปี 1963 Cesky Krumlov ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์โดยคงรักษารูปแบบดั้งเดิมเอาไว้

-----------------------

เสียดาย ถ้ามาช่วง Spring-summer คงได้ภาพสวยกว่านี้

และจากประวัติศาสตร์ และความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่านั่นเอง ในปี 1992 Cesky Krumlov ก็ได้ถูกบันทึกไว้ใน World Heritage List โดย UNESCO พร้อม ๆ กับ Prague และ Telc

----------------
ตอนนี้เราเดินเข้ามาที่ 4th Courtyard นะค่ะ ใต้ courtyard นี้คือ ห้องเก็บของค่ะ และจิตรกรรมบนผนังของ courtyard นี้ จะเป็นการวาดภาพบอกเล่าเรื่องราวของกรีกและโรมัน

จบเรื่องราวประวัติศาสตร์เพียงเท่านี้ค่ะ เดี๋ยวลูกทัวร์จะหลับกันหมด

มาต่อที่ 3rd courtyard นะค่ะ ในส่วนนี้ คือส่วนของ Upper Castle จะมีอาคารที่น่าสนใจ ได้แก่ อาคาร Hradek, Administrators’ house, Mint and Dairy ค่ะ

ตัวผนัง จะเป็นผนังเรียบ แต่มีการวาดภาพก้อนอิฐ 3 มิติ เพื่อให้มองดูเหมือนมีการนำอิฐมาก่อสร้างค่ะ

ส่วนนี้ คือ 2nd Courtyard ซึ่งจะเรียกว่า ประสาทส่วนล่าง เป็นส่วนที่ก่อสร้างในยุคแรก ๆ ค่ะ

เดินออกมาอีกหน่อย ก็จะเจอ 1st Courtyard ตรงส่วนนี้จะมีสวน และหอคอยที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวได้นะค่ะ แต่ว่า ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่ประสาทและหอคอยปิดค่ะ เลยอดขึ้นไปชมวิวเลย

ถ้าคุณมาช่วงฤดูอื่น คุณสามารถไต่ขึ้นไปบนหอคอย ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1257 ค่ะ สบายมาก แค่บันได 160 ขั้นเอง แต่ขึ้นไปแล้วคุ้มค่ะ วิวสวยมาก (ดูจากรีวิวของคนที่ได้ขึ้นไปค่ะ)

ที่ประสาท Krumlov มีการเลี้ยงหมี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และปัจจุบัน ก็ยังมีเลี้ยงอยู่นะค่ะ เขาจะสร้างเป็น Moat ไว้ให้เป็นที่อยู่อาศัย (ในภาพ) ซึ่งช่วงนี้หิมะตก เราเลยไม่เจอ ปัจจุบัน หมีที่อาศัยอยู่ที่นี่ มีชื่อว่า Katerina, Vok และ Maria Theresa ค่ะ

ตอนนี้ เราก็เดินออกจากประสาท เพื่อเดินเข้าไปชมในตัวเมืองนะค่ะ

ส่วนที่อยู่ด้านล่างประสาท มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า เขต Latran ซึ่งแต่เดิมเป็นเขตที่อยู่อาศัยสำหรับ คนรับใช้ และช่างฝีมือ ที่ทำงานในประสาท ตรงจุดนี้ เราจะเห็นโบสถ์ St. Jodocus อยู่ข้างหน้า โบสถ์นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 และมีการปรับปรุงในศตวรรษที่ 16 เป็นโบสถ์แห่งแรกที่เป็นคาทอลิกค่ะ

ร้านขายของน่ารัก ๆ ในเมือง

แผนที่น่ารัก ๆ ของเมืองนี้

เดินไปเรื่อย ๆ จะเจอสะพานแรกค่ะ

วิวมองจากสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำ Vltava

Pension น่ารัก ๆ ริมแม่น้ำ

ในเมืองนี้ มีร้านรวงเต็มไปหมดค่ะ ทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร Pension ตั้งแต่ราคาถูกจนถึงราคาแพง ธนาคาร โอ้ว .. นับไม่ถ้วน

ตอนนี้เราอยู่ตรง Svornosti Square แล้วนะคะ ตรงจุดนี้ เป็นที่ตั้งของ Town Hall ค่ะ Town Hall นี้ ได้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และ UNESCO ก็ได้ประกาศให้เป็นเมืองอนุรักษ์ เมื่อปี 1993

ตรง Svornosti Square นี้ จะมี Marian Plague Column กับน้ำพุ ซึ่งสร้างในปี 1715 โดย Matuous Jackel ด้วยค่ะ

เรายังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ นะค่ะ เจอตึกสวย ๆ ก็แวะถ่ายภาพ เจอร้านขายของ ก็แวะชม แวะซื้อ ไม่รีบค่ะ สบาย ๆ แม้ว่าอากาศจะหนาวสุด ๆ แต่ใจเราอุ่นค่ะ (เหอ ๆ ปลอบใจตัวเอง)

Hostel สีสวย

ถนนหนทางของเมืองเก่า จะถูกสร้าง หรือปูด้วยหินเป็นก้อน ๆ แบบในภาพ เหมือนกันแทบจะทั้งยุโรป การเดินในช่วงมีหิมะ หรือฝนตก ต้องค่อย ๆ ย่องค่ะ มิเช่นนั้น อาจลื่นหัวฟาด หินอาจจะแตกได้นะค่ะ

เดินไป เดินมา เจอ Church of St.Vitus ค่ะ แต่ไม่ได้เข้าชมนะค่ะ ภาพนี้ถ่ายจาก Bridge of Dr. E. Benes ค่ะ
Church of St. Vitus สร้างขึ้นในปี 1407 โดย Master Jan มีการก่อสร้างต่อ ๆ กันมาหลายศตวรรษ และเพิ่งสร้างเสร็จหลังสงคราม Hussite

แต่ถ้ามาช่วงหน้าหนาว คุณก็จะได้บรรยากาศแบบนี้ แม่น้ำไหลเอื่อย ๆ เป็นเกล็ดน้ำแข็ง อากาศเยือกเย็น หลังคาบ้าน มีหิมะเกาะอยู่ เป็น unseen แน่นอน เพราะเมืองไทยไม่มี

ถ้าคุณมาเที่ยวในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน จะได้พบกับงาน fair ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “Five Petal Rose Festival” ผู้คนจะแต่งตัวกันสวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนกลับไปสมัยยุคกลางที่รุ่งเรือง

ภาพประสาท เต็ม ๆ

จากนั้น เราก็จะเดินย้อนกลับ และเดินผ่านตัวเมือง ออกทาง State Castle Gate เพื่อเดินทางต่อไปนะค่ะ

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาทักทาย และเล่าเรื่องราวแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะค่ะ

Create Date : 01 มีนาคม 2551

Last Update : 16 พฤศจิกายน 2551 19:24:57 น.

11 comments

Counter : 1889 Pageviews.

เมืองนี้น่ารักเสมอเลยนะคะ ไม่ว่าจะในช่วงฤดูไหน ชอบเมืองนี้มากๆเลยค่ะ

โดย: Aorora

วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:23:22:40 น.

Cesky Krumlov หน้าหนาวหน้าตามันเป็นหยั่งงี้นี่เอง.......... ตอนนั้นเราไปหน้าร้อน.....ช้อปๆเมืองนี้ อย่างกับเมืองตุ๊กตา

ปล. หาตารางรถไฟ กรีซได้ยังคะ

โดย: princess gig

วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:1:09:13 น.

เราอยากเห็น Covered Bridge มากๆเลยคะ สักวันหนึ่งเถอะนะ จะเป็นวันของเรามั่ง หิหิ

โดย: marzo คนชอบเที่ยว (marzo

) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:1:32:37 น.

ตอนที่ไปอากาศสดใสกว่านี้ค่ะ เป็นเมืองที่สวยมาก และได้ไปกินอาหารพื้นเมืองของที่นั้นเป็นสเต็กที่อร่อยมากค่ะ

โดย: nat IP: 203.209.31.163 วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:15:38:39 น.

เมืองสวยจังเลยค่ะ บ้านเรือนของเค้ามีสีสันสดใสดีค่ะ

โดย: PS-pani

วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:19:42:00 น.

เคยไปปรากแล้วชอบมากครับ ตั้งใจว่าจะกลับไปอีก งวดนี้กะว่าจะไปคลุมลอฟด้วย ยังไงขอจองบล็อกนี้เป็นที่ปรึกษาไว้ล่วงหน้านะครับ

โดย: rs IP: 125.25.208.255 วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:15:10:06 น.

กลับมาเเล้วค่า

กลับมาหลังจากวิทยานิพนธ์จบเเล้ว

กำลังจะพ้นสภาพความเป็นนิสิต 555

คิดถึงเพื่อนๆบลอกแกงค์จัง

โดย: This road is mine

วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:3:01:37 น.

วิวสองข้างทางสวยงามน่ารักจังเลยค่ะคุณแอม..
ยิ่งตึกสวยๆริมแม่น้ำด้วยแล้ว สวยงามจริงๆค่ะ..

คิดถึงคุณแอมเสมอนะคะ..

โดย: tiktoth

วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:5:06:07 น.

สวย ถึง สวย ที่สุดเลยครับ ทั้งภาพและคำบรรยาย

โดย: everything on

วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:9:02:46 น.

จขบ สบายดีนะคะ ช่วงนี้ไม่ได้จ๊ะเอ๋ในห้องบลูฯ เลยน๊า

อยากไปมากๆ เลย เห็นกิเลสเกิดทุกที

โดย: sueko

วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:8:10:28 น.

ไปนอนมาหนึ่งคืนครับเมืองสงบมากเลยเข้าไปในปราสาทก็จัดได้ดีมากผมว่าการอนุรักษ์โบราณสถานสุดท้ายก็จะเป็นผลตอบแทนแก่ชุมชนที่คุ้มค่าและกระจายอย่างทั่วถึงนะครับอาหารจีนก็พอกินได้ครับ

โดย: ชินวัฒน์ IP: 113.53.7.34 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2555 เวลา:3:16:59 น.