เล่ม 2 : รั่วซี รอดพ้นจากการเป็นสนม คังซี
แต่กลับถูกส่งไปเป็นนางกำนัลถวายงานน้ำชาหน้าพระพักตร์ที่ตำหนักของคังซีแทน
ทำให้บรรดาองค์ชายที่สนิทสนมและเป็นห่วง รั่วซี ต่างเป็นกังวล
กลัวว่าด้วยนิสัยบุ่มบ่ามใจร้อนจะทำให้ชีวิตน้อยๆของรั่วซีต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ทว่า รั่วซี กลับทำได้ดีกว่าที่ทุกคนคาดไว้มาก เพราะสุดท้ายนอกจากพวกเขา
จะไม่ต้องห่วงเธอแล้ว เธอยังกลายเป็นหัวหน้านางกำนัลคนโปรดของคังซี ไปอีกด้วย
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ ระหว่างรั่วซี กับบรรดาองค์ชายทั้งหลายก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลง
ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก รั่วซี มาถึงจุดที่ต้องเลือก
ทว่าเธอจะเลือกอย่างไรจึงไม่ผิดต่อมโนธรรมและหัวใจของตัวเอง
อ้างอิง //www.goodreads.com/
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เล่ม 3 : ความสัมพันธ์ระหว่าง "รั่วซี"
กับบรรดาองค์ชายทั้งหลายยังคงเปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้ง
และยากจะคาดเดาว่าจะไปไหนทิศทางใด อีกทั้งเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
ศึกมังกรชิงบัลลังก์ที่อายไปด้วยเลือดทั้งราชสำนัก ที่รั่วซีรู้มาล่วงหน้าจากโลกอนาคต
ก็ใกล้เข้ามาทุกขณะ สุดท้ายรั่วซีจะหาทางออกให้กับตัวเองและคนที่นางรักได้อย่างไร
หรือเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้เช่นนั้นหรือ?
อ้างอิง https://www.se-ed.com
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เล่ม 4 : ในที่สุดการเดินทางของ "รั่วซี" ก็มาถึงจุดสิ้นสุด
หลังผ่านความเปลี่ยนแปลงหลายครั้งครา จาก "ยุคคังซี"
มาจน "ยุคหย่งเจิ้ง" ในที่สุดรั่วซีก็เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น
สิ่งที่นางเฝ้าหลีกหนีมาตลอดหลายสิบปีหลังย้อนเวลามา
สุดท้ายก็ยังคงบังเกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
กงล้อประวัติศาสตร์ยังคงหมุนไปตามครรลองของมัน
แล้วสุดท้ายซะตากรรมของรั่วซีจะจบลงอย่างไร?
ติดตามพร้อมกันในเล่ม
อ้างอิง https://www.se-ed.com - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ความรู้สึกหลังอ่านจบ + สปอย
อยากบอกว่า.. ตอนแรกที่อ่านไม่คิดเลยว่า จะมาเสียน้ำตามากมายให้กับเรื่องนี้
เพราะตอนเริ่มเรื่องมา.. เป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวนางเอกที่ีย้อนเวลามาจากอนาคต
จากนั้นก็เป็นบทกุ๊กๆ กิ๊กๆ ระหว่างคุณชายทั้งหลายในราชวงศ์เท่านั้น.. ยังมิมีแววดราม่า
อ่านแบบเพลินดี เหมือนฟังเรื่องเล่า+ คำบ่นมุ้งมิ้งจากผู้หญิงคนหนึ่ง
ในเล่มแรกเปิดเรื่องมานางก็ย้อนมาแล้ว เรื่องนี้ไม่กล่าวถึงชีวิตนางในภพเก่ามากนัก
คือ พูดถึงบ้าง แต่ไม่มีการสลับฉากกลับไปกลับมาอะไร ส่วนใหญ่..
เป็นฉากบรรยายถึงการปรับตัวของนางเอกกับภพใหม่
ว่าแต่บรรดาคุณชายที่มาติดพันนาง... แต่ละหน่อ หล่อๆ ทั้งนั้น เอิ๊กกกก...
เลยทำให้หนอนเพลิดเพลินจำเริญไป เดาไปเรือยว่าผู้บ่าวคนไหนหนอ
ที่เข้าวินมาเป็นพระเอกในเรื่องจริงๆ
มาจนถึงเล่ม 2 คราวนี้ เริ่มได้กลิ่นการเมือง อำนาจ เฉือนคม กันมาตุๆ ละ
แต่ความดราม่าก็ยังไม่มากจ้าา.. ในเล่มนี้ เรื่องก็ยังดำเนินต่อไป
นางเอกได้แสดงความฉลาดและไหวพริบอันดีเยี่ยม
ในสถานการณ์ต่างๆ สลับกับฉาก... สับขาหลอก ของคุณชายทั้งหลายกับตัวเธอ
เล่ม 3 เน้นไปที่.. เรื่องของการเมือง องค์ชายทั้งหลาย
ต่างวางแผนแย่งชิงอำนาจแบบหักเหลี่ยมเฉือนคมกันไปมา+ดราม่าชีวิตนางเอก
เล่มนี้ ชีวิตนางต้องพลิกผลิกผัน เป็นผลมาจากการที่นางเลือก
ที่จะกำหนดชีวิตตัวเองด้วยตัวเอง ไม่สนใคร แม้กระทั่งราชโองการของฮ่องเต้
เรียกได้ว่าเป็นจุดต่ำสุดของชีวิตนางเลยทีเดียว ก้ฝ่าฟันกันไป
เล่มสุดท้ายยยยยยย... จะเป็นบทสวีทปนหวาดระแวงของนางเอก
กับการแสดงอำนาจสุดโหดของฮ่องเต้ แต่ที่ทำให้หนอนตาบวมเป่งสุดๆ ไปเลย..
คือตอนที่นางกลั่นพลังชีวิตที่เหลืออยู่ลุกขึ้นมานั่งเขียน จม. ส่งหาพระเอก...
ตอนนั้น. . . หัวใจมันสะท้านสะเทือน...
อิ้นเจิ้น:
ชีวิตคนเหมือนความฝันและเมฆหมอกบนท้องฟ้า ผิดๆ ถูกๆ
ความรักความแค้นก็ไม่ต่างจากตะวันและจันทราที่ไร้เสียง
สายน้ำที่ไหลผ่านแล้วไม่ทิ้งร่องรอย ยากนักสำหรับผู้ละทิ้ง
ซึ่งมีแต่ความคิดคำนึงอย่างงมงายเท่านั้น!
เมื่อคนผู้หนึ่งพูดคำว่า 'อยากได้' ออกมาอย่างเรียบเรื่อยสบายอารมณ์
เขาได้กำกุญแจสู่หัวใจข้าเอาไว้แล้ว เมื่อเขาโยนร่มทิ้งเป็นเพื่อนข้าทนทุกข์
ทนเจ็บป่วยด้วยกันในสายฝน ข้าก็ได้เปิดประตูหัวใจกว้างไว้ให้เขา
ตอนที่เขาปกป้องข้าโดยเอาหลังของตัวเองเข้ารับธนูนั้น
ชั่วชีวิตนี้ของข้าก็ไม่อาจลืมเขาได้อีก ต่อจากนั้นผิดๆ ถูกๆ ก็เพียงแต่
ยิ่งมายิ่งถลำลึกเท่านั้น
พูดถึงตรงนี้ ท่านอยากถามเรื่ององค์ชายแปดอีกหรือไม่ ?
เพราะรักทำให้เกลียด เพราะรักทำให้แค้น เพราะรักจึงลุ่มหลง
เพราะรักจึงคิดถึง หลังจากกัน ความรู้สึกเกลียด แค้น หลง
กลายเป็นความคิดถึงทุกตารางนิ้ว ไม่รู้ท่านในขณะนี้ ยังโกรธข้าแค้นข้าอีกหรือไม่?
ใต้ซุ้มดอกจื่อเถิงฮัว คืนพระจันทร์สายลมเย็นสบาย
ท่ามกลางพู่กัน น้ำหมึก และกระดาษ ในใจรั่วซีไม่มีฮ่องเต้ ไม่มีองค์ชายสี่
มีแต่อิ้นเจินคนที่เอาจิตวิญญาณทั้งหมดของข้าไปคนเดียวเท่านั้น!
คิดถึง เฝ้ามอง แต่ไม่อาจชิดใกล้
ความรักมักต้องเจ็บปวดเพราะรักมาก
ทุกสิ่งทุกเรื่องเหมือนใจแทบขาดสลาย
ซองจดหมายสีแดงลายมือที่เลือนเลอะ
หวังแต่ว่า.. จะได้พบพานกันอีกครั้ง
รอคอยพบพานทุกวันคืน
รั่วซี
มันอินแบบเว่อออๆ เข้าไปถึงจิตใจของนางเลยว่า
สิ่งที่นางต้องการในการส่งจดหมายหาเขาในครั้งนี้
ไม่ใช่แค่เพียงอธิบายสิ่งที่เข้าใจกันผิดไว้ เท่านั้น แต่ยังต้องการ
ให้พระเอก.. ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่หลังจากนี้
โดยปราศจากความแค้น... ที่ยังค้างคาใจ . . .
การใช้ชีวิตไปแบบนั้น ยากนักที่จะหาความสุขได้
"สิ่งแรกดีที่สุดอย่าได้พบกัน เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต้องมารักกัน
สิ่งสองดีที่สุดอย่าได้รู้ใจกัน เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต้องคิดถึงกัน"
นานแล้วที่ไม่ได้อ่านนิยายแบบพระเอกหรือนางเอก
เสียชีวิตในตอนจบ.. เพราะถ้าปกติรู้ก่อนว่าจะมีใครตาย
ก็เลือกที่จะไม่อ่านเลยทีเดียว เพราะอิชั้นเน้นแนวสุขนิยม 55+
แต่เรื่องนี้ จบได้ดีค่ะ จบแบบกล่าวถึงชีวิตของตัวละครทุกตัว
ถึงแม้มันจะเศร้าสลดหดหู่มากแค่ไหนก็ตาม
ก็ยังยืนยันว่าจบได้ดี..จริงๆ ค่ะ
หิมะปลิวว่อนลมเหนือพัดหวีดหวิว
แผ่นฟ้าและผืนดินกว้างใหญ่
ดอกเหมยเหมันต์
ตระหง่านเด่นกลางหิมะ
ส่งกลิ้นหอมพียงเพื่อใครคนนั้น
รักในสิ่งที่รัก ไม่โทษ ไม่เสียใจ
รักนี้จะเก็บไว้ในใจชั่วนิรันดร์. . .
สรุป ออกไปทางแนวเรื่องเล่าเชิงประวัติศาสตร์
ให้คะแนนเต็มสำหรับการสื่ออารมณ์ของตัวละคร
ยิ่งตอนจบ อินสุดๆ ไปเลย กับความรักของทั้งคู่
เรียกว่า... เศร้าสลด น้ำตาหยดน้ำตาไหล สะอึกสะอื่น ฮั๊กๆ กันไปเลย
แม้ว่าจะจบไม่ Happy Ending แต่เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปถึง
บทสรุปสุดท้าย แบบไม่มีอะไรค้างคาใจค่ะ
เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งที่ได้อ่านทีเดียว
เรื่องนี้ จากที่หาข้อมูลในอินเตอร์เนต มีแต่คนบอกว่า ละครสนุกมาก
เป็นคนละฟิลลิ่งกับหนังสือ เพราะว่าละครมันเห็นภาพ และเหตุการณ์ชัดเจนกว่า
ส่วนในหนังสือ จะสื่อถืออารมณ์ของตัวละครได้มากกว่า.. หนอนยังไม่ได้ดูละคร
เลยไม่รู้ว่าจริงแท้เป็นอย่างไร แต่ ก็แอบอยากรู้ เหมือนกันเนอะ เห็นเค้าว่ากันๆ ว่าดี
มันดีอย่างไร คงต้องไปหามาดูมั่งละ... แต่คงเว้นช่วงสักพัก
ให้ความเศร้าตอนอ่านนิยายมันหายไปหมดก่อนละนะ เอิ๊กกก
f r o m . . . . หนอน
ขอถามนิดนึงนะคะ อยากทราบว่าสำนวนการแปลเป็นยังไงบ้างคะ เราว่าจะซื้อนิยายถงหัวเรื่องใหม่ที่จะออกกับสยามอินเตอร์กลางปีนี้ค่ะ เตรียมทิชชู่ไว้หนึ่งกล่องใหญ่ หวังว่าคงไม่จิตตกเท่าบทเพลงกลางเมฆา
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ