Group Blog
 
 
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
26 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่

โก้วเล้ง ประพันธ์
น.นพรัตน์ เรียบเรียง

ข้าพเจ้าเป็นคนชอบอ่านนิยายตั้งแต่ไหนแต่ไร แม่ปลูกฝังให้ข้าพเจ้ารักการอ่านตั้งแต่เด็ก จำได้ว่านวนิยายเรื่องแรกที่อ่าน คือ เรื่อง กฤตยา ของทมยันตี ตอนเรียนอยู่อนุบาลสอง เรื่องราวของอัยย์ อดีตนักบวชของราชวงศ์อียิปต์ เนเฟอติติ ราชินีผู้เลอโฉม และการปลุกวิญญาณมัมมี่ของฟาโรต์ตุตันคาเมน (ข้าพเจ้าหวังว่าวันหนึ่งคงจะมีโอกาสได้ไปดูปิรามิดกิซ่า ที่ไคโร)

หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ประทับใจความตื่นเต้นสนุกสนาน ตัวละครหลากหลายที่โลดแล่นอยู่บนแผ่นกระดาษ ทั้งจินตนาการ ทั้งความเป็นจริงในนิยายของผู้แต่งหลายๆท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทวิภพ – ทมยันตี รัตนโกสินทร์, ปริศนา – ว.วินิจฉัยกุล ข้างหลังภาพ – ศรีบูรพา กตัญญูพิสวาส, อยู่กับก๋ง – หยก บูรพา ดิฉันไม่ใช่โสเภณี, ครีษมายัน – ประภัสสร เสวิกุล สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน, เดือนช่วง ดวงเด่นฟ้า ดาดาว – วินทร์ เลียววารินทร์ เพชรพระอุมา – พนมเทียน(ซึ่งข้าพเจ้าชอบภาคหนึ่งมากที่สุด รู้สึกว่าภาคสองมีพวกฝรั่งเยอะมากไปหน่อย แถมตอนที่อ่านหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุด ไอ้ฉากกะลังเข้าด้ายเข้าเข็มก็โดนไอ้โรคจิตที่ไหนกรีดไปก็ไม่รู้...เด็กเซ็งไปเรย...)

ข้าพเจ้าอ่านนิยายเกือบทุกประเภท (อยากจะเปลี่ยนบ้านเป็นห้องสมุดนิยายใหญ่ๆสักหลัง แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีงบ ไปยืมวัดอ่านไปก่อนแล้วกัน อิอิ...) ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมเด็ก นิยายสืบสวนสอบสวน วรรณคดี นิยายรักโรแมนติก ความรักข้ามชนชั้น วรรณคดีแปล (อย่าพลาดอ่านรหัสลับดาวินชีนะจ๊ะ...ตอนนี้กะลังรอดูหนังอยู่ด้วย) รวมไปถึงนิยายจีนกำลังภายใน ซึ่งข้าพเจ้ามาเริ่มอ่านเพราะตนเองชื่นชอบหนังจีนกำลังภายในอยู่แล้ว และมาได้รับคำแนะนำจากน้า คุณหมอผู้ชื่นชอบนิยายจีนกำลังภายใน เรื่องแรกๆที่ข้าพเจ้าอ่านก็คงไม่ต่างกับผู้ที่เริ่มอ่านนิยายจีนเท่าไหร่นัก คงเริ่มด้วยเรื่องคลาสสิค เช่น ฤทธิ์มีดสั้น – เซียวลี้ปวยตอ เดชเซียวฮือยี้ – ลูกปลาน้อย จากนั้นก็ต่อด้วย เล็กเซี่ยวหง มังกรหยก เจาะเวลาหาจิ๋นซี มังกรคู่สู้สิบทิศ ฯลฯ และก็มาเล่มล่าสุดที่กำลังอ่านอยู่ในขณะนี้... ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่

ข้าพเจ้าอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนสอบปลายภาคแล้ว แต่ว่ายังไม่จบ (ถ้าอ่านจบ พอดีไม่ต้องอ่านหนังสือสอบพอดีนิ) เลยเอามาอ่านต่อที่บริสทอล ประเทศอังกฤษ (ข้าพเจ้ามาเรียนซัมเมอร์อยู่ที่นี้ ไม่ได้หนีหายไปไหนนะเจ้าคะ อีกสามเดือนจะกลับไปไทยล่ะ อย่าคิดถึงกันมากล่ะจ๊ะ)

โก้วเล้งเขียน ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ โดยดัดแปลงจากเรื่อง The God Father ของมาริโอ ปูโซ นักเขียนอิตาเลี่ยน ซึ่งเขียนถึงเรื่องราวของ ดอน คอร์ลีโอเน ผู้เสนอในสิ่งที่ท่านไม่สามารถปฏิเสธได้ ข้าพเจ้าดูเรื่องเดอะก๊อดฟาเธอร์หลายครั้งแต่ว่าไม่ชอบ อาจเป็นเพราะว่าหนังเก่าเกินไป หรือว่ามีคนบังคับให้ดู จึงเกิดการต่อต้านขึ้น (คงไม่ถึงขนาดนั้น...อิอิ แต่เป็นเพราะข้าพเจ้าไม่ชอบหนังแนวนี้ต่างหาก) เหมือนกับเรื่อง The Lord of the Rings ซึ่งข้าพเจ้าให้เวลาดูนานมาก หลายรอบ แต่ละรอบไม่เคยเกินสิบนาทีก็จะหลับไปซะก่อน...คร้อกฟี้...

นิยายจีนกำลังภายในนั้น จะมีเพียงนักอ่านบางกลุ่มเท่านั้นที่อ่าน เนื่องจากภาษาที่อาจจะเข้าใจยากและลักษณะการเขียนที่แตกต่างไปจากนิยายไทย แต่นิยายจีนมักจะมีข้อคิดที่ลึกซึ้งฝากไว้ให้กับผู้อ่านเสมอ ตัวละครแต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์ เพลงกระบี่ ท่าทางและ ความสามารถพิเศษของตัวเอง โดยที่บางตัวละครบางตัวอาจมีคุณธรรมโดดเนกว่าตัวละครตัวอื่น เรื่องนี้ก็เช่นกัน

ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ เป็นเรื่องราวของ...
นักฆ่าเม่งแชฮุ้น คือ ดาวตก... จรัสฟ้า
สาวงามเซี่ยวเตี๊ยบ คือ ผีเสื้อ... ประดับหล้า
ตัวแทนแห่งอำนาจเล่าแป๊ะ คือ กระบี่... คลุมพสุธา

โกว้เล้งได้สอดแทรกปรัชญาชีวิตและการค้นหาความหมายของชีวิต น.นพรัตน์ ผู้แปลนิยายได้ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้เป็นนิยายจิตวิทยา... ความรักที่ลึกซึ้งตรึงตรา การทรยศหักหลังที่คาดไม่ถึง นี่เป็นบทพิสูจน์ของคำว่า “ศัตรูที่น่ากลัวที่สุด คือสหายที่อยู่ข้างกาย” นั่นเอง

หากคุณจะอ่านนิยายกำลังภายในเรื่องนี้ อย่าลืมว่าควรจะตั้งใจอ่านตั้งแต่ต้นเล่มหนึ่ง ซึ่งอาจจะค่อนข้างน่าเบื่อ แต่จริงๆแล้วซ่อนรายละเอียดต่างๆไว้อย่างมากมาย เมื่อคุณอ่านไปถึงเล่มสอง เรื่องราวต่างๆจะเริ่มกระจ่างมากขึ้น ปริศนาต่างๆจะเริ่มคลี่คลาย คุณอาจจะงงว่า ใครเป็นใคร ทำอะไรไปบ้าง และอาจจะต้องกลับไปอ่านเล่มหนึ่งใหม่


เรื่องนี้มีข้อคิดที่ซุนเง็กแป๊ะ(เล่าแป๊ะ) สั่งสอนไว้มากมาย ประเด็นที่สำคัญที่สุดของเรื่อง คือ สหาย ตำราของขงจื้อกล่าวว่า สหายเปรียบดั่งแขนขา ภรรยาเปรียบดังเสื้อผ้า ตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเล่าแป๊ะ เม่งแชฮุ้น เจี๊ยคุ้ง เอี๊ยบเซี้ยง ฯลฯ ต่างยึดถือความเป็นสหายเป็นสรณะ (จริงเหรอ แต่เราว่าเลือกภรรเมียดีกว่านา... เพื่อนน่ะ ช่างหัวมันเต้อ... เพื่อนจะมาดีกว่าเมียได้งายอ่ะ... เด็กงง)

“คุณธรรม คือ ดีต่อสหาย บุรุษพึงยึดถือคุณธรรม ไม่เช่นนั้นกระทั่งสตรีก็สู้ไม่ได้” (ตอนข้าทาสอันจงรัก)

“มีแต่บุคคลที่สัตย์ซื่อยึดมั่นต่อสหาย จึงควรคู่กับการเคารพยกย่องของผู้อื่น บุคคลที่ยอมกล้ำกลืนฝืนอัปยศเพื่อสหาย ยิ่งไม่เดียวดายตลอดกาล”

ความจริงแล้วการมีสหายมากมายไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากลำบาก คือการมีสหายที่แท้จริงสักคน ที่สามารถร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับเราได้ทุกเวลา ในโลกยุคปัจจุบันนี้ การหาสหายที่จริงใจสักคนนับว่ายากแสนยาก เนื่องจากชีวิตแต่ว่าคน ย่อมมีข้อจำกัดของตนเอง การเป็นเพื่อนกันอาจจะเป็นได้ระดับหนึ่ง แต่หลังจากที่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อนที่รักที่สุดก็อาจจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจก็ได้

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็เช่น เมื่อเพื่อนรักสองคนทะเลาะกันเพื่อแย่งหญิง คดีชู้สาวแบบนี้มีให้เห็นในชีวิตประจำวันทั่วไป หลายคนเห็นว่า เราไม่ควรทะเลาะกันเพื่อแย่งผู้หญิงสักคน ความเป็นเพื่อนย่อมสำคัญที่สุด แต่บางคนกลับยอมแตกหักกับเพื่อนรัก เพื่อให้ได้มาซึ่งหญิงที่ตนรัก ไม่รู้ว่าสวรรค์จะให้อภัยหรือเปล่าหากว่าเพื่อนทะเลาะกับเพื่อนเพื่อหญิง

แต่จะว่าไปแล้วก็แปลกว่า ทำไมผู้ชายจึงสามารถยกหญิงให้กับเพื่อนรักของตนได้ แต่ว่าเพื่อนหญิงส่วนใหญ่มักจะทะเลาะกัน เพื่อแย่งชายคนรักของตน นั่นไม่ผิดหรือไร หรือว่าเป็นเพราะว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผู้หญิงจะเลือกชายที่ตนนัก เลือกครอบครัวมาเป็นอันดับแรก และจัดความเป็นสหายไว้ในอันดับที่รองลงมา ถ้าหากเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

“อุปนิสัยคน ความจริงยากแปรเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง อาจบางทีมีแต่สตรีจึงสามารถแปรเปลี่ยน ความเสียสละเพื่อความรักของพวกนาง สุดที่บุรุษจะคาดคำนวณได้”
(ตอนกลยุทธ์ของสตรี)

เรื่องนี้กล่าวถึงผีเสิ้อ ซึ่งหมายถึง (ซุน)เซียวเตี๊ยบ แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว คงจัดอันดับความสำคัญของสตรีสามนางไว้ในอันดับเดียวกัน ซุนเซียวเตี๊ยบ กอเล่าตั่ว หงส์หงส์ ล้วนมีบทบาทสำคัญยิ่ง

ซุนเซียวเตี๊ยบ... ผีเสื้อน้อยที่งดงาม โบยบินสร้างความสบายตาให้กับผู้คน คนที่รักนางมีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จริงหรือ...ที่สตรีนางหนึ่งที่เป็นที่รักของชายผู้หนึ่ง กลับถูกชายอีกผู้หนึ่งยึดถือเป็นเพียงนางบำเรอ และนางยังถือกำเนิดบุตรให้กับชายผู้นั้น ชีวิตของนางไม่น่าเศร้าสลดหรือไร คนที่เสียใจไม่ใช่มีแต่เพียงนางผู้เดียวเท่านั้น พ่อของนาง และคนที่นางรัก และรักนางก็ย่อมเจ็บปวดใจเช่นกัน แต่ข้าพเจ้าสงสัยยิ่งนัก จะมีชายใดบนโลกที่สามารถรับเป็นพ่อของเด็กที่ตนไม่ได้ให้กำเนิดมาได้บ้าง

“ เม่งแชฮุ้นความจริงเข้าใจว่า ตนเองไม่ปวดร้าวเพราะการนี้ เนื่องเพราะมันรักเซี่ยวเตี๊ยบอย่างจริงใจ ไม่นำพากับอดีตของนาง แต่ตอนนี้มันเพิ่งทราบ มีความปวดร้าวบางประการที่ท่านมิเพียงไม่สามารถทนทานได้ กระทั่งลืมยังลืมไม่ได้ ” (ตอนชีวิตโพ้นทะเล)

เรื่องที่ร้ายแรงเช่นนี้ จะไม่เป็นตราบาปไปตลอดชีวิตของหญิงผู้นั้นหรือไร แต่จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของเธอเช่นกัน ผู้ชายควรจะรับผิด(ชอบ)การกระทำของตนเองมากน้อยเพียงใด หากความสนุกชั่วข้ามคืนของคนสองคน เป็นต้นเหตุให้ฝ่ายหญิงต้องเศร้าเสียใจและทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต นั่นเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้วหรือ...

กอเล่าตั่ว... นางนับได้ว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตของเด็กหนุ่มที่นางช่วยเหลือมา นางเป็นทั้งแม่ ทั้งเพื่อน ทั้งพี่สาว รวมไปถึงคู่ขาอีกด้วย เมื่อเยาว์วัย นางกระทำทุกอย่างแม้กระทั้งขายตนเอง เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูเขาเหล่านี้ เมื่อเติบใหญ่ขึ้น สมควรหรือไม่ที่คนเหล่านี้จะตอบแทนนางเมื่อนางขอร้อง พวกเขาจำเป็นต้องตอบแทนทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องที่ผิดต่อคุณธรรมด้วยหรือไม่

“แต่ละบุคคล ล้วนมีสิทธิ์กำหนดอนาคตของตนเอง (แต่) มันพลันพบว่า หนี้บุญคุณที่มันติดค้างกอเล่าตั่วไม่มีวันชดใช้หมดสิ้น... ผู้ที่ติดค้างหนี้ผู้อื่น อาจบางทียังปวดร้าวกว่าถูกติดค้างอีก” (ตอนกลยุทธ์ของสตรี)

หงส์หงส์... ข้าพเจ้าชอบตัวละครตัวนี้เป็นอย่างยิ่ง (ข้าพเจ้าคิดว่าผู้หญิงอย่างซุนเซียวเตี๊ยบคงไม่มีอยู่แล้วในโลกนี้ ... หรือว่ามี ) นางเป็นสาวงามที่กอเล่าตั้วรับเลี้ยงไว้ในหอนางโลม และได้สอนวิชาความรู้ให้นางเอาตัวรอดบนโลกอันโหดร้ายนี้ได้ วิทยายุทธ์ต่างๆที่นางจะใช้ทั้งบนสนามรบและสนามรัก มารยาหญิงร้อยแปดเล่มเกวียนเพื่อจะเอาชนะใจชาย... “อาชีพ” หญิงงามเมือง ซึ่งนับได้ว่าเป็นอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนี้ ไม่ได้ผิดอะไร นับเป็นการประกอบอาชีพอย่างสุจริต แต่ว่าต้องเปลืองตัวมากกว่าอาชีพอื่นเป็นไหนๆ


ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ กล่าวถึงการขายตนเองอยู่สองประเด็น คือหนึ่ง การขายตนเองของหญิงงามเมือง (ซึ่งเข้าใจได้ไม่ยากนัก) และการขายตนเองของนักฆ่า ผู้ที่เป็นนักฆ่านั้นฆ่าคนให้กับผู้ว่าจ้าง ก็เท่ากับว่าเขายอมขายตนเองเพื่อแลกกับเงินทอง ที่อยู่ สตรี นักฆ่าเหล่านี้กลับไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ในโลกนี้มีเรื่องประหลาดเช่นนี้ด้วยหรือ นักฆ่าที่เก่งกาจอย่างเม่งแชฮุ้นมีแต่ฆ่าคนให้กับกอเล่าตั้ว แต่กลับไม่คิดฆ่าคนที่คนให้กับตนเอง...

“นางคณิกาเพียงถูกคุกคามให้ร่วมรักกับบุคคลที่พวกนางไม่ชอบ เม่งแชฮุ้นกลับถูกคุกคามให้ฆ่าคนที่ตนเองไม่ต้องการฆ่า อาจบางทีค่าตอบแทนของมันสูงกว่า แต่ก็เป็นการขายตนเองเช่นกัน” (ตอนตั่วเจ้ผู้เลอโฉม)

ข้าพเจ้าประทับใจหลายๆประโยคในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และก็คิดว่าคนที่ผ่านความรู้สึกเหล่านี้มาจริงๆเท่านั้น จึงจะเข้าใจประโยคเหล่านี้อย่างกระจ่าง ข้าพเจ้าสำนึกตัวอยู่ตลอดว่าตนเองยังเด็กนัก เมื่อเทียบกับผู้มีประสบการณ์ทั้งหลาย ดังนั้นจึงคิดรวบรวมข้อคิดเพื่อเตือนใจตนเอง และให้ผู้ที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้ทดลองอ่าน เผื่อว่าจะสนใจติดตาม หรือสำหรับผู้ที่ไม่เคยอ่านนิยายจีน นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณอยากอ่านขึ้นมา

ตอนภารกิจเพชฌฆาต

“ไม่ว่าเรื่องใดล้วนสะสางง่ายดาย ที่ลำบากยากเย็นคือการรอคอย แต่ทว่า เพียงสามารถสะกดกลั้นใจรอคอย จะช้าเร็วโอกาสย่อมมาถึง”

“เม่งแชฮุ้นยังไม่เคยใช้เวลากว่าสามเดือนฆ่าคนผู้หนึ่งมาก่อน นั่นมิใช่สืบเนื่องจากเพลงกระบี่ของมันรวดเร็วกกว่าเดิม หากแต่จิตใจมันเยียบเย็นกว่าเดิม ฝีมือก็อำมหิตกว่าเดิม”


ตอนกระจกเงามือสังหาร

“ที่นี้ไม่มีสิ่งใดที่เงินทองซื้อไม่ได้ และไม่มีสิ่งใดที่ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินทอง”
“ต่อให้เป็นบุตรในสายเลือด ก็มิสู้เงินทองในกระเป๋า”

“โอกาสมีเพียงครั้งเดียว หากคลาดแคล้วแล้วจะไม่อุบัติซ้ำ แต่ชั่วชีวิตคนต้องมีโอกาสเช่นนี้สักครา วิงวอนท่าน หากแม้นมีสตรีนางหนึ่งรักท่านอย่างจริงใจ ยินยอมติดตามท่าน ขออย่าได้ปล่อยปละละเลย” (รู้เปล่า... ถ้าคุณจะหาเธอเจออ่ะนะ)

ตอนประมวลอยุติธรรม

“ขอเพียงใจท่านเป็นของเรา ใจเราเป็นของท่าน พวกเราก็ไม่ต้องกลัวทุกเรื่องราว” (จริงเหยอ?...)

ตอนระบบฟันต่อฟัน

“ในโลกนี้ ความจริงมีสตรีประเภทหนึ่งไม่ทราบว่าอันใดคือความอับอาย? อันใดคือความอัปยศอดสู? ผู้อื่นหยามย่ำยีนาง นางกลับเบิกบานใจ หากไม่หยามย่ำยีนาง นางกลับรู้สึกอัปยศอับอาย”

“นางเป็นคณิกาชมชอบขายตัวจริงๆ ทุกวี่วันล้วนคิดขึ้นเตียงกับบุรุษเพศ หากให้นางไม่คบชู้ยังยากเย็นกว่าไม่ให้สุนัขรับประทานอาจม ข้าพเจ้าขบคิดไม่เข้าใจจริงๆว่าม้ออุ้ยนึกหาวิธีใดได้”
“คณิกาที่ปราศจากลมหายใจ ย่อมไม่สามารถคบชู้ได้”

“มีเงินทองไม่มีเงินทอง พึงแต่งภรรยารับขวัญปีใหม่อย่างน้อยในค่ำคืนฤดูหนาว ท่านพอกลับจากเบื้องนอกที่หนาวเหน็บ สามารถมุดเข้าผ้าห่มอันอบอานของภรรยา นางรับรองไม่ขับไล่ท่านออกมา... มีแต่ภรรยาจึงห่มผ้าว่างเปล่ารอคอบท่านกลับไปทุกค่ำคืน” (ถูกต้องนะคร้าบ...) (แต่ถ้าท่านจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติ กรุณาแจ้งให้ภรรยาท่านทราบด้วย ผ้าห่มจะได้ว่าง...ฮะๆ)

“สตรีคล้ายม้าตัวหนึ่ง บุรุษคือคนขี่ ขอเพียงคนขี่มีความสามารถ ไม่ว่าเป็นม้าพยศปานใด สุดท้ายจะกลับเป็นเชื่องเชื่อ ท่านหากให้นางมุ่งสู้ทิศตะวันออก นางรับรองไม่กล้าสู่ตะวันตก” ( หุหุ...)

“การปลิดชีวิตผู้อื่นหามีประโยชน์ต่อตนเองไม่ แต่หากสามารถได้รับความเคารพเชื่อฟังจากผู้อื่น จะเป็นประโยชน์อเนกอนันต์”

ตอนประจันเจ้าหมื่นอินทรี

“เราไม่คิดเข้าใจผู้คนจนซึ้งกระจ่าง เพียงทราบว่าในโลกนี้มีบุคคลสองประเภท หนึ่งคือสหาย หนึ่งคือศัตรู คิดเป็นศัตรูหรือสหาย เราล้วนแต่เลือกเฟ้น ไม่มีหนทางที่สามอีก” (คงเหมือนกับในเรื่องโรมิโอกับจูเลียต คุณไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายไหน คาปูเลต์ หรือว่ามงเตกู พระเจ้าได้เลือกไว้ให้ท่านแล้ว คนที่เหมือนกันมีแนวโน้วที่จะไปอยู่ใกล้ๆกัน... นกกามักจะรวมกลุ่มกันอยู่เช่นไร พวกช่างนินทาก็มักจะรวมกลุ่มกันอยู่เช่นนั้น..สาธุ... )

“ท่านทางที่ประเสริฐสามารถทำให้ศัตรูประเมินขุมกำลังท่านต่ำทรามไป ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เพาะศัตรู มีแต่ชาวชนบทอันโง่งม จึงได้ประดับทรัพย์อยู่บนร่างจนหมดสิ้น” (แต่เวลาท่านเก็บเงินไว้ที่บ้าน ก็มักจะมีขโมยมาขึ้นบ้าน เวลาท่านเก็บเงินไว้กับตัว ก็มักจะถูกล้วงระหว่างทาง... ขออย่าให้เป็นเช่นนั้น)

“หากท่านคิดโค่นทำลายคนผู้หนึ่ง หากไม่อาจชิงจู่โจม ก็ต้องรอจนฝ่ายตรงข้ามคลายใจสนิท”

ตอนมือฆ่าที่เหนือชั้น

“ความล้มเหลวก็มีความสุขที่สืบเนื่องจากความล้มเหลว อย่างน้อยผู้ที่ประสบชัยไม่มีวันเสพทราบได้”

“มันไม่ตอบคำ เนื่องเพราะมันไม่เข้าใจลึกซึ้งเพียงพอ... มันไม่เคยแสดงความเห็นใดๆ ต่อเรื่องที่ตัวเองไม่เข้าใจมาก่อน”
( คุณครูบอกนู๋ว่า Don’t try to be clever.)

ตอนการตอบโต้อันทารุณ

“บุตรชายตกแต่งภรรยาแล้ว เราไม่ชราภาพได้หรือ?”
“คนดื่มสุรามักเห็นใจคนดื่มสุราด้วยกัน” (เหอๆ...)

“การชมเชยผู้อื่น นับเป็นประสบการณ์น่าประหลาดชนิดหนึ่ง ท่านยิ่งชมเชยบุคคลอื่น จะพบว่าตนเองยิ่งได้รับประโยชน์”
(แต่การชมเชยที่ไม่จริงใจ ผู้ฟังก็คงจะฟังออก ดังนั้นอย่าได้...เป็นอันขาด (เติมคำสองพยางค์)

ตอนสองเพชฌฆาตเผชิญหน้า

“บุคคลที่อยู่ในช่วงการเสาะแสวงหาโดยไม่หยุดยั้ง อาการกระเสือกกระสนดิ้นรนในจิตใจ อาจยังรวดร้าวกว่าปลาที่ติดอยู่ปลายเบ็ด เนื่องเพราะมันแม้อยู่ในระหว่างการแสวงหาไม่หยุดยั้ง กลับไม่ทราบว่าที่ตนเองแสวงหาที่แท้เป็นอะไร?” (ประมาณว่า นี่กูกะลังทำอะไรอยู่เนี่ย...)

“ประสบการณ์ คือ บทเรียน ไม่เพียงบันดาลให้ผู้คนฉลาดขึ้น ทั้งยังสามารถช่วยให้ผู้คนมีชีวิตยืนยาวกว่าเดิม... มีแต่ประสบการณ์ที่ได้จากภยันตรายและความปวดร้าวจึงทรงคุณค่าอย่างแท้จริง”

ตอนระหว่างการเลือกเฟ้น

“คนผู้หนึ่งสามารถมอายุยืนยาวปานใด หามีความสำคัญไม่ ประการสำคัญต้องดูว่ามีชีวิตเยี่ยงไร? มีชีวิตอย่างมีคุณค่าหรือไม่?”

ตอนดาวตกคู่ผีเสื้อ

“ ทุกผู้คนล้วนมีความคับแค้นยากจะกล่าว อย่าว่านี่เป็นเรื่องบีบคั้นจิตใจนาง อาจบางทีกระทั่งนางเองยังไม่ปรารถนาคำนึงถึง ท่านผู้เป็นบิดาไยต้องคุกคามนาง” (เครียดแทนเรย...)

“มโนธรรมสถิตในจิตใจคนชั่วนิรันดร์ แผนการร้ายล้วนล้มเหลว” (ชะมะ... พระท่านสอนว่า เราเป็นคนดีซะอย่าง พูดดี ทำดี คิดดี ใครไม่ดีก็จะแพ้ภัยตัวเอง...)

ตอนกระบี่และอำนาจ

“ ความยโสถือดี คือ ความชะล่าเลินเล่อ ไม่ว่าความเลินเล่อเล็กน้อยปานใด อาจเป็นความเลินเล่อถึงแก่ชีวิต”

ตอนรู้จักหน้าไม่รู้จักใจ

“ในโลกนี้ไม่มีเรื่อง “เด็ดขาด” (เรื่องอะไรๆก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ดังนั้น อย่าได้มั่นใจมากไปนัก... ต้องดูกันต่อไปนิ)

“อย่าได้ถ่ายทอดความรู้ของเจ้าต่อบุคคลอื่นจนหมดสิ้น เนื่องเพราะมันหลังจากเรียนรู้ ไม่แน่นักว่าจะใช้ย้อนจู่โจมต่อเจ้า ดังนั้น อย่างน้อย เจ้าสมควรเหลือหมากตาสุดท้ายไว้” (แบบนี้จะเรียกว่า หวงความรู้หรือเปล่านะ...ก็คงไม่หรอก เพราะว่าพวกศิษย์คิดล้างครูมีเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว)

“คนผู้หนึ่ง หากกระทั่งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากยังสามารถตัดใจฆ่าทิ้งเพื่อเสริมสร้างความเชื่อถือที่บุคคลอื่นมีต่อมัน ยังมีเรื่องชั่วร้ายใดที่ทำไม่ได้” (เลวมากๆ...)

“บุคคลที่ผู้อื่นสังเกตโฉมหน้าที่แท้จริงของมันไม่ออก จึงเป็นบุคคลน่าสะพรึงกลัวที่สุด” (พวกหน้าเนื้อใจเสือ ต่อหน้าคนอื่นทำตัวเป็นคนแสนดี... เหอะๆ... ใครจะรู้ว่ามีเบื้องหลังอะไรบ้าง )

“ท่านทราบเรื่องยิ่งมาก ความยุ่งยากยิ่งเพิ่มพูนทวี” (แต่ถ้าไม่รู้ ก็เหมือนโง่ๆน่ะ...ว่าเปล่า)

ตอนชายโฉดหญิงสามานย์

“ไม่ว่าผู้ใดยินยอมมอบโฉนดที่ดินนั้นให้แก่เรา เราจะขึ้นเตียงกับบุคคลนั้น” (น่าสนใจนิ...)

“ท่านสมควรทราบ ต่อให้เป็นสตรีที่สามารถปกปิดความลับที่สุด หลังจากอยู่ร่วมกับบุรุษผู้หนึ่งเป็นแรมปี จะแปรเปลี่ยนเป็นปราศจากความลับใดๆ”

“ท่านหากได้เห็นรอยยิ้มอันแจ่มใสของคนทั้งสอง ย่อมเข้าใจว่าทั้งสองเป็นบุคคลที่น่าสนิทสนมที่สุด... ในโลกนี้ยังมีบุคคลที่ซ่อนดาบในรอยยิ้มอยู่มากหลาย เป็นดาบที่ฆ่าโดยไม่เห็นเลือดชนิดหนึ่ง”

ตอนกลยุทธ์ของสตรี

“บุรุษมักเห็นว่า สตรีคือเพศอ่อนแอ เข้าใจว่าสามารถกำหนดชะตากรรมของสตรี หาทราบไม่ว่าชะตากรรมของบุรุษส่วนใหญ่ กลับตกอยู่ในเงื้อมมือสตรี”

“อิสตรีที่ชาญฉลาดล้วนทราบ กลยุทธ์ที่ใช้จัดการบุรุษเพศที่ดีที่สุด คือ ให้บุรุษรู้สึกว่านางอ่อนแอเปราะบาง ดังนั้น สตรีที่ดูเผินๆอ้อนแอ้นอ่อนแอที่สุด แท้จริงยังเข้มแข็งแกร่งกร้าวกว่าบุรุษส่วนใหญ่มากนัก” (แต่ตอนนี้มีแต่คนคิดว่า โอว... เธอจะเป็นคนที่ดูแลเราไปได้ตลอดชีวิต... เป็นงั้นซะ)

ตอนข้าทาสอันจงรัก

“มันเป็นบุคคลที่ประเสริฐเลิศยิ่ง ทั้งสัตย์ซื่อทั้งจงรัก ทั้งยึดถือคุณธรรม เจ้าหลังจากเติบใหญ่ หากประพฤติได้เยี่ยงมันสักครึ่งหนึ่ง ก็ไม่เสียทีที่เป็นลูกผู้ชายชาตรี”

ตอนชีวิตในจุดอับ

“สตรีหากคิดทำร้ายบุคคลอื่น มักสามารถเสาะแสวงหาถ้อยคำอันชั่วร้ายที่สุดเอื้อนเอ่ยออกมา คล้ายกับธาตุแท้ของพวกนางชั่วร้ายเฉกเช่นกับพิษที่มีมาแต่กำเนิดของงูแมวเซาก็ปาน” (นู๋ไม่เคยคิดทำร้ายใคร... แต่ทำไปบางทีไม่ทันได้คิดอ่า...โต้ดน้าๆ)

“พวกมันมักทำร้ายบุคคลอื่น เพื่อปกป้องตนเอง ที่พวกมันที่พวกมันทำร้าย ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่สนิทสนมกับตนเองที่สุด เนื่องเพราะพวกมันเพียงสามารถทำร้ายคนเหล่านี้ เท่ากับทำร้ายตนเองด้วย”

“ต่อให้เป็นบุคคลที่จัดเจนในการพูดปดที่สุด ดวงตาก็ไม่สามารถโป้ปดหลอกลวง”

“บุรุษในโลก น้อยคนนักที่ไม่ชมชอบการกิน ดังนั้นสตรีที่มือฝีมือในการปรุงอาหารไม่ต้องกังวลหาสามีไม่ได้” (แล้วพวกที่ทำกับข้าวไม่เป็นทำไงละเนี่ยตู... แต่ว่าช่วงหลังพัฒนาขึ้นมากแระ... ไข่เจียวเลิกไหม้แล้ว)

“สตรีหากไม่ชมชอบท่าน ต่อให้ท่านใช้นางเข้าครัวไปผัดผักจานหนึ่ง นางก็ไม่ยินยอมเด็ดขาด”

“บุรุษส่วนใหญ่แม้ไม่ชมชอบภรรยาของตน ยังซื้อเสื้อผ้าสวยงามให้ภรรยาสวมใส่ เพื่อตนเอง เพื่อรักษาหน้าตนเอง ซึ่งความจริงในใจมันปรารถนาให้ภรรยามันใช้เพียงใบไม้ห่อหุ้มกาย”

“ความจริงสตรีส่วนใหญ่ล้วนชาญฉลาด นางหากทราบว่าไม่มีปัญญาโค่นท่านล้ม นางเองจะโอนเอนมายังด้านท่าน” (จะให้ทำยังไงด้าย...)

ตอนพลีชีพทดแทนคุณ

“บุรุษชอบเห็นสตรีทำงานเพื่อมัน เนื่องเพราะมีแต่ช่วงเวลานี้มันจึงพบว่าสตรีนี้ชมชอบมันอย่างแท้จริง มิหนำซ้ำเป็นของมันอย่างแท้จริง” (พวกผู้ชายมักจะชอบแสดงความเป็นเจ้าของ... รึเปล่านะ)

ตอนขันอาสาส่งข่าว

“สตรีและทารกมิใช่บุคคลที่ยอมเสียสละทุกสรรพสิ่งเพื่อปกปิดความลับให้กับบุคคลอื่น”

ตอนเพชฌฆาตใจเพชร

“ระหว่างบุรุษหนุ่มกับชายชรา ความจริงเหินห่างกันช่วงใหญ่... ชายชรามักเห็นว่า บุรุษหนุ่มอ่อนเยาว์มิรู้ความ บุรุษหนุ่มก็คิดเห็นว่า ชายชราบัดซบงมงาย”

ตอนอาคันตุกะอรุณ

“การอบรมที่พวกมันได้รับ ไม่ได้บอกต่อมันว่าเรื่องใดถูกต้อง เรื่องใดไม่บังควร มันเพียงทราบ อันใดคือพระคุณ อันใดคือความแค้น เพียงทราบทั้งสองประการนี้ล้วนไม่อาจติดค้างได้” (บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ - ตังค์ที่ยืมไว้ มีแล้วจะจ่ายคืนนะค้า)

“ในโลกนี้มีเรื่องประการเดียวที่ไม่แปรเปลี่ยนตลอดกาล คือ ความผูกพันฉันสหาย”

ตอนผลที่คาดไม่ถึง

“นกสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน กระต่ายตายฆ่าสุนัขล่าเนื้อ” (เมื่อรบชนะ เหล่าขุนพลก็หมดประโยชน์)

เขียนมายาวมาก ไว้อ่านอะไรน่าสนใจแล้วจะมาแนะนำใหม่นะคะ...
คิดถึงเมืองไทยแระ...จะกลับไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ



Create Date : 26 มีนาคม 2549
Last Update : 1 เมษายน 2549 23:20:12 น. 1 comments
Counter : 425 Pageviews.

 



ยาวมากอะแก อ่านไม่จบซักที ดผล่มาสองรอบละ แต่ว่าที่ห้องสมุดก็ยังมีอ่าน เด๊ยวลองยืมมาดูละกัน


โดย: Mad Monqui IP: 124.120.216.147 วันที่: 8 เมษายน 2549 เวลา:23:51:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mocha Macchiato
Location :
Lyon France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mocha Macchiato's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.