พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 พฤษภาคม 2553
 

ฟิค พีก้อง >> เมื่อไหร่ก็รักคุณ ตอนที่ 1 : เมื่อแสงสว่างส่องใจ ( อีกครั้ง )

แนะนำตัวนิดนึงนะคะ ^ ^

ฟิค พีก้อง >> เมื่อไหร่ก็รักคุณ เป็นฟิค ที่แต่งขึ้นมาเพราะความรักใน ตัวละคร พี - ก้อง มาก ๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยอยากให้ตัวละครนี้อยู่ด้วยกับเราต่อไปน่ะค่ะ และเพราะเป็นฟิค จากละคร คิดว่าลงกลุ่มย่อยละคร น่าจะเหมาะนะคะ ( ขอบคุณพี่เกดด้วยสำหรับคำแนะนำ ^^ )

ฟิคนี้ ลงใน บ้านจิ้น PKC พันทิพย์มาแล้วค่ะ แต่ไม่มีชื่อเรื่อง เลยอยากทำบล็อค รวบรวมทุกตอนไว้ และตั้งชื่อเรื่อง ชื่อตอน ให้มันดูเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย เท่านั้นเองค่ะ แหะ แหะ
ขอแนะนำตัวแค่นี้นะคะ ^ ^


ตอนที่ 1

ก้องบดินทร์ Thinks>>>>

ห้องนอนของผม !!!

ผมยืนอยู่ใน ห้องนอนสีขาวของตัวเอง ด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก หลังจากเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้ผมสูญเสียการมองเห็น และต้องไปรับการรักษาตาที่อเมริกากับพี ผมดีใจที่ในที่สุดผมก็ได้กลับมาเห็นมันอีกครั้ง
แต่การที่ผมตอนนี้ ต้องมายืนถอนหายใจอยู่คนเดียวในห้องนี้ ก็เพราะว่าผมมีเรื่อง ที่ต้องจัดการกับอารมณ์ตัวเองนี่สิ !!
________________

ตอนสายวันนี้ที่สนามบิน ผมยังจำความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้า แม่ พี่แก้ว และทุกคนอีกครั้งหลังจากที่คิดว่าจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว ผมตั้งใจจะยิ้มให้เต็มที่ แต่ในนาทีนั้นที่พบหน้ากัน ทั้งผม แม่ พี่แก้ว พี่ตุ่ม พี่เจ๋ง ก็กลับร้องไห้กันอย่างกลั้นไม่อยู่ คนรอบข้างหันมามองพวกเราเป็นตาเดียว พอรู้สึกตัวอีกที พวกเราก็รู้สึกอายจนต้องรีบพากันเดินออกจากตรงนั้น..

แต่กับคนที่ยืนข้าง ๆ ผม นอกจากจะไม่อายแล้ว กลับหัวเราะน้อย ๆ ยิ้มกว้างอวดเขี้ยวเสน่ห์ เนียนมาโอบไหล่ ใช้นิ้วมือไล้น้ำที่ยังคงเหลือรอยชื้นตรงหางตาของผมแผ่วเบา ก่อนยกกลับไปแตะที่ริมฝีปากเขาเอง

“น่ารัก.. ”

เขาใช้ชั่วขณะที่ผมกำลังอึ้งอยู่ก้มลงมาบอก แล้วก็หัวเราะหนักกว่าเก่า ก่อนจะเดินผ่านไปประจบประแจง แม่ผมหน้าตาเฉย
เหมือนเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ.. .ผมไม่รู้.. ไม่รู้ว่าอะไรน่ารัก และไม่รู้ ไม่รู้เลยว่าทำไมหน้าผมมันถึงร้อนได้ขนาดนั้น


และบนโต๊ะกับข้าวเย็นนั้นของบ้านเรา จัดเป็นปาร์ตี้เล็ก ๆ หน้าบ้าน มีแม่ พี่แก้ว พี่ปอ พี่ผึ้ง คุณธันวา พี่ตุ่ม และพี่เจ๋ง เป็นปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข พี่แก้วบอกว่าแม่ลงมือทำกับข้าวทุกอย่างที่ผมชอบด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้พี่แก้วหรือใคร ๆ ช่วยเลย

“เป็นอะไรล่ะก้อง ไม่อร่อยหรือลูก” แม่ถามผม เพราะเห็นว่าผมทานอะไรได้น้อย

“เปล่าหรอกครับแม่ ก้องเค้าคงตื้นตันจนทานไม่ลงมากกว่า ก่อนกลับนี่ก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับตั้งสองคืนแน่ะ”

‘เว่อร์เกินแล้วพี’ ผมหันไปย่นคิ้วใส่เขา แล้วดุเบา ๆ นั่นทำให้คุณพีรวิชญ์ กลับยิ้มกว้างกว่าเก่า

“ก็ผมมีความสุขนี่คร้าบบ ได้กลับมาพร้อมหน้าครอบครัว” เสียงลากยาว แบบอ้อน ๆ ของพี ทำให้เกิดเสียงหัวเราะ บ้างก็อมยิ้มเอ็นดูให้กับเราสองคน

เนียนเป็นคนในครอบครัวกันง่าย ๆ อย่างนี้เลยเหรอครับ ผมได้แต่หมั่นไส้คุณพีรวิชญ์อยู่ในใจ

“แหมน้องก้องขา อย่าไปว่าน้องพีเลยค่ะ เป็นพี่ พี่ก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเป็นอาทิตย์เหมือนกันล่ะค่ะ” เจ๊ตุ่มว่า

“ใช่สิ เพราะเจ๊ กินมากจนอาหารไม่ย่อย นอนไม่หลับไง”

“หยุดเลยไอ้เจ๋ง เดี๋ยวแม่เอาก้ามปูยัดปาก ว่าแต่น้องพีล่ะคะ นอนหลับบ้างมั้ยคะเนี่ย”

หลังจากหันไปสั่งสอนพี่เจ๋งแล้ว พี่ตุ่มก็หันมาถามคนที่กำลังตักอาหารใส่จานให้ผม โดยไม่สนใจ สายตาดุ ๆ ที่ส่งไปห้ามของผมเลยแม้แต่น้อย

“ก้องเค้าไม่นอน แล้วผมจะนอนได้ไงล่ะครับ” พี ยิ้มกว้างตอบพี่ตุ่ม

และเพราะคำพูดของ ‘น้องพี’ ก่อให้เกิดเสียง หัวเราะและเสียงแซวเล็ก ๆ จากทุกคนรอบโต๊ะ แต่ตอนนั้น ผมฟังไม่รู้เรื่องหรอกนะ เพราะหูเริ่มอื้อ และหน้าคงจะแดงไปถึงหู ผมรู้สึกไม่กล้ามองหน้าทุกคนบนโต๊ะขึ้นมาซะอย่างนั้น

“พี” ผมลงเสียงหนัก ๆ เรียกเขา

“ทำไมล่ะก้อง ผมพูดผิดตรงไหน แค่คุณไม่นอน ผมก็นอนไม่ได้ ก็แค่นั้นเอง” รู้สึกคุณพีรวิชญ์จะสนุกถูกใจเป็นนักหนากับคำพูดตัวเอง

ไม่ผิดหรอก !!

เพราะพีก็พิสูจน์ตัวเองจนได้รับการยอมรับ ให้เป็นคนในครอบครัวของเรา เหมือนกับที่ทุกคนยอมรับพี่ปอ และทุกคนก็รับรู้ในความสัมพันธ์ของเราสองคนดี พีเองก็เคยมาดูแลเอาใจ ใกล้ชิดผมต่อหน้าทุกคน
และเขาก็เป็นคนที่ทำให้โลกที่มืดมนของผม กลับมาสว่างไสวไปด้วยความสุข และความหวังอีกครั้ง

แต่ถึงผมจะเริ่มชินกับคำพูดหวาน ๆ ซึ่งบางครั้งมันก็เน่าสนิท และการเอาใจใส่ของคุณพีรวิชญ์ แต่นั่นมันก็ตอนที่เราอยู่กัน 2 คน ไม่ใช่ในที่ ๆ ทุกคนรวมตัวกันอยู่เต็มโต๊ะแบบนี้ และไม่ใช่ตอนที่สายตาของผมสามารถมองเห็นสายตาที่ส่งมาของทุกคนแบบนี้ด้วย

ก็...เพราะตอนนั้น ผมมองอะไรไม่เห็น

ใช่...เพราะตอนนั้นผมมองอะไรไม่เห็น และเพราะไม่เห็น ผมเลยไม่รู้สึกอย่างนี้..

ไม่รู้สึกเขิน จนวางตัวไม่ถูก ไม่รู้สึกประดักประเดิดกับ สายตาเย้าแหย่ ของแม่ ของพี่แก้ว และทุกคนที่มองมา เหมือนอย่างกับตอนนี้ และนั่นทำให้ผมต้องขอตัวขึ้นมาล้างหน้า ข้างบนบ้านอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านั้น

เพราะถ้าขืนอยู่ต่อ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะยิ้ม หรือ จะเหวี่ยง ดีกันแน่ เฮ้อออ..

.____________

ตอนนี้ ผมยืนถอนหายใจแล้วมองห้องของตัวเองอีกครั้ง อย่างไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง ผมรู้ดีว่าทั้งหัวใจของผม และคนในบ้าน ยอมรับพีเข้ามา อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่การที่ผมต้องหงุดหงิด กับสถานการณ์แบบนี้นี่ ผมต้องโทษให้เป็นความผิดของคุณ.....พีรวิชญ์

“ เป็นอะไรไปก้อง”

พี คุณจะปล่อยให้ผมจัดการกับความรู้สึกตัวเอง ซักครู่ไม่ได้เลยใช่มั้ย ฮึ่ยยย !!!

“เป็นอะไร ก้อง”

เพราะหงุดหงิดผมเลยไม่ตอบเขา แต่คุณพีรวิชญ์ ผู้ไม่เคยละความพยายาม ก็ถามซ้ำ น้ำเสียงเริ่มมีแววกังวล
ผมถอนหายใจ พยายามปรับอารมณ์ ก่อนจะหันไปหาเขา ที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู

“เปล่า ไม่มีอะไร ผมแค่เพลีย เลยเข้ามาล้างหน้า และมองห้องตัวเองเพลินไปหน่อย ผมคิดถึงห้องของผมน่ะ รู้สึกเหมือนกับว่าไม่ได้เห็นมันมานานแล้ว” ผมตอบไปอีกเรื่อง

และนั่นเรียกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จาก มุมปากของคุณพีรวิชญ์

“ผมก็คิดถึงเหมือนกัน” พีพูดขึ้นลอย ๆ

“คิดถึงอะไร” ผมสวนกลับเพราะหงุดหงิดกับรอยยิ้มของพี แล้วก็ต้องกัดปากตัวเอง ด้วยความเจ็บใจ

‘ไม่จำซักทีนะก้องบดินทร์ ถามกลับแบบนี้ ก็เข้าทางคุณพีรวิชญ์เขาน่ะสิ’

“ก็ คิดถึง ... คิดถึง วันที่ผมช่วยติดกระดุมให้คุณน่ะ คุณจำได้มะ”

พีถาม พร้อมเข้ามายืนใกล้ ๆ


เอาแล้วไหมล่ะ !!!


“ว่าไง จำได้มั้ยก้อง จำได้มั้ย ๆๆๆ” พี เซ้าซี้ถาม น้ำเสียงออกอ้อน ๆ พร้อมกับเอาไหล่มากระแทก กระแซะ ๆ ผมเบา ๆ นี่ก็เป็นอีกบุคลิกนึงของเขาที่ผมเริ่มซึมซับ ว่า นอกจากยียวนกวนประสาทจนผมโมโห และบางครั้งก็หวานซะจนผมทำตัวไม่ถูกแล้ว คุณพีรวิชญ์ ยังเพิ่มบทบาทหนุ่มขี้อ้อน เข้ามาอีกอย่างนึง

“ไม่รู้..”
“ทำไม ทำไมไม่รู้ล่ะคร้าบบ” พีทำท่าผิดหวัง แต่ผมรู้นะว่าคุณเสแสร้ง ก็ตาคู่นั้นน่ะ มันยังหัวเราะอยู่เลย
แล้วมามองผมด้วยสายตาแบบนี้ ผมจะไปยังไงดีล่ะเนี่ย!!

“ก็... ก็ตอนนั้น ผมมองไม่เห็นนี่ มันมืดไปหมด ผมก็เลย จำอะไร ไม่ค่อยจะได้ ถึงจะจำได้ก็ไม่ชัดเจนน่ะ”
ผมแกล้งตอบเสียงอ่อน แต่ทำน้ำเสียงจริงจัง แบบที่เขาต้องเชื่อสนิทแน่ ๆ ว่าผมพูดจริง

นั่นไงล่ะ !! ดูหน้าคุณพีรวิชญ์สิ เริ่มจะหมดแววล้อเล่นแล้ว สะใจจริง ชอบแกล้งคนอื่นให้ลำบากใจดีนัก

“คุณพูดจริงเหรอก้อง คุณจำช่วงเวลาพวกนั้นไม่ได้จริง ๆ เหอ”
น้ำเสียงและสีหน้าคุณพีรวิชญ์ เริ่มจริงจัง และถ้าผมคิดไม่ผิด กำลังจะเข้าสู่ อารมณ์น้อยใจนะนั่น

“เอ่อ !! พี บางครั้งความรู้สึกช่วงนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนฝันร้ายน่ะ มันทำให้ผมรู้สึกแย่ ๆ จนจิตใต้สำนึกของผมมันอาจจะสั่งให้จิตใจผม ลบมันไปล่ะมั้ง”

“แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาที่เราใช้ฟันฝ่าอุปสรรค และทำให้ทุกคนยอมรับเรานะก้อง !! คุณบอกว่าจำไม่ได้งั้นเหรอ ”
พีเริ่มเสียงดังขึ้นนิดหน่อย ก่อนจะรู้ตัว แล้วปรับอารมณ์ลงมา

“เอ่อ ! ผม ...ผม ขอ..”

“ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดหรอกก้อง งั้นแค่เรื่องเดียว คุณจำวันที่ผมบอกคุณว่าจะพาคุณไปรักษาตา ที่เมืองนอกได้มั้ย”

“จำได้สิ วันนั้นที่สวนหลังบ้าน ผมจำได้ว่าผมดีใจมากเลยล่ะ”

“จำได้ว่าดีใจมากเหรอ แล้วหลังจากนั้นล่ะ”

“หลังจากนั้นเหรอ .. ไม่รู้สิ ผมแค่จำได้ว่า ผมรู้สึกดีใจจนบรรยายไม่ถูก หลังจากนั้นมันก็ดูลอย ๆ ไปหมด อาจเพราะผมมองไม่เห็นมั้ง เลยไม่มีภาพอะไรติดตา พอนานไป เลยอาจจะลืม แล้ว หลังจากนั้น..มันมีอะไรที่สำคัญหรือพี”

พีมองหน้าผมอึ้ง ๆ อย่างค้นหา หาแววล้อเล่นจากคำพูดของผม แต่เชื่อเถอะ เขาไม่ได้เห็นมันหรอก....

บางครั้ง ผมก็รู้สึกว่าผมนี่ก็ร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ !!

หน้าพีตอนนี้แสดงอาการผิดหวัง หมดแรงได้ชัดเจนสุดๆ เขายกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง แล้วเหมือนทำท่าจะจับแขนผม แต่แล้วก็กลับเปลี่ยนใจปล่อยลงข้างตัว ตามเดิม

“ช่างเถอะ มันอาจจะเป็นเรื่องไม่สำคัญอะไร คุณเลยอาจจะจำไม่ได้.... เราลงไปข้างล่างกันเถอะ ทุกคนจะเป็นห่วง เพราะคุณขึ้นมานานแล้ว”

น้ำเสียงเขาสิ้นหวัง.... พูดจบคุณพีรวิชญ์เค้าก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่ใบหน้าเค้าก่อนที่จะหันหลังเดินน่ะ มันบ่งบอกว่าน้อยใจ อย่างปิดไม่มิด.........


เอาล่ะนะพี !! ถึงคุณจะทำให้ผม ทำตัวไม่ถูกและลำบากใจ ต่อหน้าคนอื่น จนต้องแอบมาหลบอยู่คนเดียวแบบนี้

แต่เอาเถอะนะ!! ตอนนี้ผมถือว่า ผมได้เอาคืนคุณพอหอมปากหอมคอแล้วล่ะ เราหายกันก่อน ก็ได้...

“เดี๋ยว พี”

ผมเรียกชื่อเขา พร้อมกับวิ่งไปดักหน้า ก่อนที่เขาจะเดินถึงประตู พอดิบพอดี !!
และวินาทีนั้นเอง ที่สัมผัสแผ่วเบาจากใบหน้าของเราปะทะกัน เป็นรอยสัมผัสที่รวดเร็ว และบางเบาเหมือนในวันนั้น แต่ เป็นสัมผัสที่ชัดเจนในความรู้สึกของเราสองคนมาจนถึงวินาทีนี้...


ผมเห็นพี ทำหน้าอึ้ง เหวอ!! ไปชั่วขณะ ก่อนที่รอยยิ้มเต็มตื้น ที่น่ามองที่สุด จะค่อย ๆ ปรากฎขึ้นบนหน้าเขา !!

ผมสบตา ส่ง ยิ้มกวน ๆ และยักคิ้วใส่ตาคู่นั้น พร้อมทั้งเอากำปั้นตัวเอง ชกเบา ๆ ไปที่ท้องเขาทีหนึ่ง

“ชัดไหมล่ะ”

ผมพูดก่อนที่จะวิ่งลงบันไดบ้านไป ได้ยินเสียงหัวเราะของตัวเอง ปนกับเสียงของคนข้างหลัง ไล่ตามลงมา

“ก้อง !!! คุณนี่มัน”

ผมไม่ได้หันไปมองเขา แต่กลับรู้ได้ ว่าตอนนี้ หน้าของพีจะเป็นแบบไหน แต่ขออย่าให้เขารู้เลยนะว่าหน้าของผมตอนนี้น่ะ มันเป็นแบบไหนอยู่.........


พีรวิชญ์ Thinks >>>

ผู้ชายร้องไห้ น่ารัก....

หรือผมควรจะปรับคำพูดซะใหม่ ว่า ก้องร้องไห้ แล้วน่ารักมากกว่า เพราะถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นมาร้องไห้ แง ๆ อ้อนแม่ อ้อนพี่สาว ต่อหน้าผมแบบนี้ ผมคงขนลุก พิกล ... แต่นี่เพราะเป็นก้อง !! ที่ไม่ว่าจะทำอะไร ผมก็...รู้สึกว่า น่ารัก น่าเอ็นดู ไปหมด

…เมื่อก่อนนี้ เวลาเห็นก้องร้องไห้ทีไร ผมจะรู้สึกปวดในใจจนแทบจะตาย เพราะผมสัมผัสได้ถึงความทรมานใจของเขา .... แต่วันนี้ ผมกลับรู้สึกอีกอย่าง เพราะผมรู้ รู้ว่าน้ำตาของก้อง มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข และผมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความสุขของเขากลับคืนมา...

ความรู้สึกอ่อนหวานที่เกิดขึ้นในใจผม มันทำให้ผมอดที่จะแสดงออกให้ตัวต้นเหตุรับรู้ไม่ได้ .... และผลที่ได้ก็คือ ใบหน้าน่ารัก เป็นสีเข้มขึ้นมาทันตา ...

ก้องควรจะขอบคุณผมนะนี่... ที่ทำให้เค้าสุขภาพแข็งแรงวัน แข็งแรงคืน เพราะมีเลือดสูบฉีด ไหวเวียนดีขนาดนี้!

.....................

เฮ้อออ.. ทำไมก้องจะต้องส่งสายตาดุ มองผมด้วยนี่ ผมพูดอะไรผิดไปตรงไหนกันล่ะ กับประโยคที่ว่า
“พร้อมหน้าครอบครัว” ผมไม่ได้พูด แค่เพราะต้องการแซวสนุก ๆ เล่น ๆ เท่านั้นนะ แต่เพราะผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ แล้วยิ่งตอนนี้ที่ทุกคนยอมรับในความรักของเราได้แล้ว ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุข ที่จะได้แสดงออก โดยที่ไม่ต้องคอยปิดบัง ไว้อีกต่อไป

แต่ดูท่าทางว่าก้อง คงจะไม่ได้คิดแบบเดียวกันกับผม !!!

“ก้องขอตัวขึ้นไปข้างบนแป๊ปนึงนะ แม่ ...” ก้องลุกพรวดขึ้นแล้วพูดขอตัวสั้นๆ ก่อนจะเดินขึ้นบ้านไปอย่างรวดเร็ว

ไม่รู้ว่าหน้าผมเหวอไป หรือเจื่อนสนิท หรือยังไง ถึงทำให้ทุกคนหลุดขำกันมาซะยกใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่แม่ฟอง

“คงจะเขินน่ะพี ก้องเค้าก็เป็นคนขี้อาย แบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ใช่มั้ยแก้ว ตอนอยู่อนุบาล เคยโดนเพื่อน ในห้องขโมยหอมแก้มต่อหน้าคนทั้งห้อง เพราะเข้าใจผิดคิดว่าแก้มป่อง ๆ นั่นเป็นแก้มผู้หญิง ก้องผลักเด็กคนนั้นล้มตึง แล้วไม่พูดด้วยอีกเลย ตั้งนานแน่ะ” เป็นพี่ผึ้ง หวานใจคุณธันวา ที่คงตั้งใจจะเล่าเรื่องสมัยเด็กของก้องให้ฟังเพื่อปลอบใจผม

แต่ผมว่าถ้าไม่ได้ฟังผมจะรู้สึกดีกว่านี้นะ... ไอ้ผู้ชายคนไหนเนี่ย ที่กล้ามาหอมแก้ม นักกายภาพบำบัดของผม !!

“ ใช่ค่ะ ใช่ พี่ตุ่มจำได้ เด็กคนนั้นร้องไห้ใหญ่เลย แม่เค้ายังมาโวยวายที่บ้านเลย ใช่มั้ยคะ ว่าน้องก้องรังแกลูกชายเค้าน่ะ” พี่ตุ่มพยายามช่วยอีกคน

‘นี่พี่ตุ่มกำลังจะสื่อให้ผมฟังว่า ดีแค่ไหนแล้ว ที่ผมบังอาจแซวคุณก้องต่อหน้าทุกคน แล้วไม่โดนชกคว่ำไปอย่างนั้นรึเปล่าครับ’

และไม่พอแค่นั้น เพราะเหล่าพลพรรคสารานุกรมก้องบดินทร์ ต่างช่วยกันถ่ายทอด ประสบการณ์ เซี้ยว ๆ ของเด็กน้อยมาดนิ่ง คุณหนูก้องบดินทร์ ให้ผมฟังกันอย่างสนุกสนาน แต่ผมรู้สึกเสียวสันหลังวูบ ๆ ยังไงก็ไม่รู้

“ผมว่าผมขึ้นไปตามก้องดีกว่า มั้ยครับ” ผมอาสา หลังจากรอมานานก็ไม่มีทีท่า ว่าก้องจะกลับมาซักที จนตอนนี้พี่ตุ่ม กับเจ๋ง เริ่มจะอ้อแอ้ พูดไม่รู้เรื่อง ขำได้กับกุ้งกับหมึก เพราะฤทธิ์ไวน์ที่ผมหอบหิ้วมาฝาก....


_______________


ผมคิดผิด หรือถูกกันแน่!!! ที่ขึ้นไปตามก้อง เพราะผลจากเรื่องนั้น มันยังทำให้ผมหยุดยิ้มไม่ได้ มาจนถึงตอนนี้

....ถึงมันจะทำให้ผมโดนค่อนขอดว่า......

.... “เป็นอะไร” จากก้องบดินทร์ แต่ผมเห็นนะก้อง ว่าคุณแอบอมยิ้ม...

.... “เอ๊ !! ข้างบนมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นเหรอค้า น้องพี” อันนี้จากพี่ตุ่ม

.... “ทำหน้ามีความสุขเกินไปรึเปล่าพี พี่อิจฉานะ” และนี่จากพี่ปอ

...ผมยอมรับ ผมมีความสุข ทั้ง ๆ ที่ตอนแรก ผมแทบจะช็อค ที่คิดว่าก้องลืมเรื่องราว ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้เพื่อให้ได้รับการยอมรับ ของเราทั้งสองไป แต่ไม่ถึงนาทีต่อมา วิธีการตอกย้ำจากก้องบดินทร์ ว่าเค้าเองก็จดจำช่วงเวลาปนสุข ปนเศร้า เหล่านั้น ได้ดีแค่ไหนน่ะ....

... มันทำให้ใจของผมพองฟู และ รู้ว่า คงไม่มีใครอีกแล้วที่จะทำให้ผมเกิดความรู้สึกที่หลากหลายได้มากมายเท่ากับก้องบดินทร์คนนี้...
____

ผม ยืนมองแผ่นหลังของเขา ที่นั่งหันหลังให้ผม หน้าที่เงยขึ้นมองท้องฟ้าที่ผมมองเห็นจากด้านข้างนั้น มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก

“ก้อง” ผมเรียกเขา

“อื้อ ... พระจันทร์ สวยเนอะ...” ก้องบอกหลังจากที่ผม นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกับเขา

มาแปลก... ธรรมดา แล้ว ไอ้ไดอะล็อก โรแมนติก ๆ แบบนี้ มันต้องเป็นผมสิน่า ที่เป็นคนเริ่ม...

“สวยสิ...” ผมตอบ

“ ใช่ และมันสวยมาก เมื่อผมได้นั่งมองมันอีกครั้ง ด้วยดวงตา ของผม ในบ้านของผม”

สงสัย คืนนี้อารมณ์ของก้อง คงจะอยู่ ในอารมณ์นี้ทั้งคืนแน่ ๆ กับอารมณ์ซาบซึ้งในความรู้สึกที่สามารถมองเห็นอีกครั้งนึงของเขา ไม่ว่าจะเป็น ห้องของผม ตาของผม และนี่ก็บ้านของผมอีก

ผมคิดว่าผมเข้าใจนะ ว่านี่อาจจะคล้ายกับความรู้สึกของคนที่ตื่นจากฝันร้าย แล้วได้กลับสู่ความเป็นจริง ที่แสนสุขอีกครั้ง เลยอยากจะซึมซับกับช่วงเวลาดี ๆ เหล่านั้นไว้

“เหรอ ผมคิดว่า เพราะได้นั่งมองพร้อมกับผมซะอีก ” ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำลายบรรยากาศของเขาจริง ๆ นะ..สาบานได้

“เฮ้อ..”

ผมยิ้มกว้าง เมื่อเห็นอาการ ถอนใจดัง ๆ อย่างจงใจของก้อง เมื่อได้ฟัง คำพูดของผม

“อ้าว ! ถอนใจทำไมล่ะก้อง ไม่จริงเหรอ หรือว่าความสุขของคุณ จะมีก็เพราะครอบครัวเท่านั้นเหรอ ผมไม่มีส่วนทำให้คุณมีความสุขด้วยรึไง ” ผมแกล้งงอนเขาบ้าง

ไม่รู้ว่าเพราะก้องกำลังอยู่ในอารมณ์ซึ้ง หรือเพราะวันนี้เขาได้แกล้งผม จนพอใจแล้วหรือยังไง ...
เขาถึงได้ตอบประโยคที่ทำให้ผม คิดว่า ตัวเอง คงไม่สามารถยิ้มกว้าง ไปกว่านี้ได้อีกแล้ว.....

“แต่ก่อนนะพี ความสุขของผม ก็คือครอบครัวเท่านั้น แต่ตอนนี้ ความสุขของผมน่ะ ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ผมคงไม่ต้องบอกหรอกนะ ว่าอีกส่วนนึงน่ะ ...อยู่ที่ใคร”

กับคำพูดนี้ของก้อง ทำให้ผมรู้สึกอิ่มในหัวใจจริง ๆ ... ผมถอนหายใจเบา ๆ เพื่อผ่อนความสุข ที่มันล้นจนหัวใจจะระเบิด เอนตัวพิง แล้ววางแขนของผมให้พาดไปตามความยาวของพนักเก้าอี้ ในส่วนที่ก้องนั่งอยู่

“ผมรู้ ก้อง แล้วผมก็สัญญา ว่าต่อจากนี้ไปผมจะไม่ยอมให้คุณต้องขาดความสุขไป แม้แต่ส่วนเดียว.. ผมสัญญา”

ก้องยิ้มน้อย ๆ ให้ผม ก่อนที่เราจะมองสบตากันอยู่นิ่งนาน ผมใช้แขนที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้ โอบไหล่ก้องไว้เบา ๆ
แม้จะมีแสงสาดมาตรงนี้แค่เล็กน้อย แต่ผมก็คิดว่าผมเห็นก้องหน้าแดงระเรื่อ และดวงตามีประกายคู่นั้นของก้องได้ดี...
ผมคงไม่สามารถทนแรงดึงดูดนี้ได้หรอกนะ ผมโน้มหน้าเข้าไปใกล้ ในขณะที่หน้าของเราใกล้จนแทบจะไม่เหลือระยะห่างกันนั้น ก้องก็หลบหน้าไป ก่อนจะพูดกับผมว่า....



“อย่าเนียนพี เอามือออกไปเลย”


‘โธ่ !! ก้อง นี่มันใช่เวลาเขินเหวี่ยงที่ไหนกันเล่า................ผมได้แต่ตะโกนอยู่ในใจ.....’





Create Date : 28 พฤษภาคม 2553
Last Update : 31 พฤษภาคม 2553 0:22:50 น. 10 comments
Counter : 1068 Pageviews.  
 
 
 
 
อ่านแล้วมีความสุขมากๆเลยนะคะ ความรักของก้องกับพีช่างงดงามเหลือเกิน จนเราเองอยากมีความรักอย่างนี้มั่งจัง
ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องราวดีๆ อย่างนี้ให้อ่าน และจะเป็นกำลังใจให้แต่งตอนต่อไปนะคะ
ด้วยความที่รักน้องฟลุคกับน้องโอในพรุ่งนี้ก็รักเธอมากโดยเฉพาะน้องฟลุคชอบเป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าน้องเขาเป็นเด็กดี มีความสามารถ และน่าสงสารที่ไม่มีผู้ใหญ่คอยให้การสนับสนุน ไม่มีโอกาสเหมือนศิลปินคนอื่นๆเลย
จากจุดนั้นจึงได้ติดตามข่าวคราวของน้องฟลุคตลอดแล้วก็ต้องดีใจที่ชอบและรักศิลปินที่ชื่อว่าฟลุค เดอะสตาร์ เพราะตัวจริงเขาเป็นคนที่มีจิตใจดี มีความกตัญญู และมีความจริงใจไม่เสแสร้ง (ชอบอ้อนแฟนคลับอีกต่างหาก) อยากให้คุณบอยได้เห็นและมองอย่างเราบ้างจังเลย น้องฟลุคจะได้มีผลงานออกมาเยอะๆ

ได้ติดตามอ่านฟิคก้องพีจากเวปของพันทิพ แต่ไม่ได้เข้าไปสมัครแอบซุ่มอ่าน (สมัครไม่เป็นอายจัง) แต่ก็อ่านทีไรก็มีความสุขและขอชื่นชมทุกคนนะคะว่าแต่งได้
น่ารักและน่าติดตามมากๆ เหมือนได้ดูภาค2 ของละครเลยยังไงก็จะติดตามอ่านฟิคของคุณตลอดไปนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้คะ แล้วมาต่อตอนต่อไปเร็วๆ นะคะ จะรอคะ
 
 

โดย: นา IP: 124.121.32.18 วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:16:46:42 น.  

 
 
 
ในที่สุด จาก็เอามาลงใน blog ดีใจจัง
จะได้ติดตามฟิคพี-ก้องได้ตลอด

บอกถึงความรู้สึกนึกคิดของ ก้อง-พี ได้อย่างละเอียดดีจัง
อ่านไปนึกถึงหน้า 2 หนุ่ม แล้วต้องอมยิ้มทุกครั้ง
 
 

โดย: tipjang วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:18:12:15 น.  

 
 
 
อ่านแล้วมีความสุขค่ะ อยากให้มีพีก้องภาค 2 ติดตามอ่านในพันทิปช่วงหลังๆแล้ว ดีใจที่ได้อ่านช่วงแรกของเรื่องค่ะ
 
 

โดย: ภัทร IP: 124.122.245.187 วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:10:55:40 น.  

 
 
 
แต่งได้น่ารักมากกกก ^^'

คิดถึง คิดถึง คิดถึง

ก้องพี ... ที่สุด

ขอบคุณนะคะ .. ^_^

ป.PK ตามหา ก้องพี .. ตั้งนานนนนแน่ะ ดีใจที่หาเจอ ^^'
 
 

โดย: yenyung ^^' IP: 124.121.111.143 วันที่: 10 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:23:00 น.  

 
 
 
สนุกมากมากเลยค่ะ
คิดถึงพี ก้องจัง
อยากให้เล่นด้วยกันอีก
 
 

โดย: minmin IP: 118.172.195.26 วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:15:21:39 น.  

 
 
 
ชอบมากอ่านทีไรก็อดยิ้มไม่ได้มันมีความสุขมันบอกถูก(แต่อดสงสารน้องฟลุคไม่ได้พี่ขอให้น้องอดทนสู้สู้)
 
 

โดย: my love IP: 88.203.122.132 วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:0:13:56 น.  

 
 
 
กลับมาอ่านทีไรก็ยิ้มไปกับความน่ารัก........
ของสองหนุ่ม ก้อง-พี ทุกครั้งเลย..............
เป็นกำลังให้กับน้องจานะคะ.....................
อ้อ///เป็นกำลังให้น้องฟลุ๊คด้วยนะคะ........
 
 

โดย: keamdeang1@smile IP: 58.9.110.31 วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:16:37:40 น.  

 
 
 
เช่นกันนะคะ อ่านทีไร ใจมันยังกระตุกอยู่เสมอ ขอบคุณมากมายค่ะ writer. ^___^".
 
 

โดย: lek^lek. IP: 223.206.239.118 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:4:14:13 น.  

 
 
 
น่ารักมากๆคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ แต่งมาเยอะๆน้า
 
 

โดย: ducky IP: 115.87.201.173 วันที่: 6 เมษายน 2555 เวลา:11:24:24 น.  

 
 
 
ตามมาอ่านจ้า จะไล่อ่านใหม่ตั้งแต่แรกเลย ขอบคุณมากๆๆคะ
 
 

โดย: lekworld IP: 58.8.120.162 วันที่: 17 กันยายน 2555 เวลา:8:53:15 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ยังคงรักจะยืนอยู่ตรงนี้
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add ยังคงรักจะยืนอยู่ตรงนี้'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com