กลุ่มเยาวชนชาวนาชาวไร่สากล ออกแถลงการณ์มุ่งคุ้มครองภาคเกษตรและสิทธิชุมชน
ประชาไท เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2550 กลุ่มเยาวชนขององค์กรชาวนาชาวไร่สากลภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออก (La Via Campesina South East Asia and East Asia) ร่วมกับสมัชชาคนจน ได้ออกแถลงการณ์แสดงเจตนารมย์ ขึ้นที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมสัมมนาเวทีเยาวชนเรื่อง บทบาทเยาวชนกับการปกป้องอธิปไตยทางอาหารและสิทธิของชุมชน (Food Sovereignty and the Role of Youth in Protecting Rights) ในวันที่ 20-25 ต.ค. 2550
มีผู้เข้าร่วมเป็นแกนนำเยาวชนจากองค์กร Nuominran จากประเทศญี่ปุ่น องค์กรชาวนาผู้ชาย (KWPA) กับองค์กรชาวนาผู้หญิง (KPA) จากประเทศเกาหลี ตัวแทนจากองค์กรของอินโดนิเชีย, ฟิลิปปินส์, ติมอร์ตะวันออก และประเทศไทย ซึ่งก่อนที่จะมีการแถลงการณ์ ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในประเด็นของเยาวชนและชุมชนในยุคปัจจุบัน
ในวงคุย รศ.อรรถจักร สัตยานุรักษ์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้มาพูดถึงเรื่องบทบาทและความสำคัญ ของเยาวชนในปัจจุบัน โดยกล่าวว่าคนกลุ่มเดิมที่เคยทำการต่อต้านสงคราม ต่อต้านทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ในยุค 60s ก่อนนั้นได้อ่อนล้าลงไป เช่นเดียวกับที่เราไม่สามารถทิ้งภาระไว้ให้คนยุคเดือนตุลาฯ ได้อีกแล้ว การเดินขบวนเรียกร้องก็ไม่สามารถมีพลังได้เท่าเดิม ศัตรูก็ซับซ้อนมากขึ้น ไม่ได้มีแบ่งแยกไว้ชัดเจนเหมือนแต่ก่อน Globalization ก็ซับซ้อนมากขึ้น ภาระของเยาวชนในยุคนี้จึงยากกว่า และหนักกว่าคนรุ่นก่อน
รศ.อรรถจักร ได้กล่าวอีกว่า เยาวชนผู้มีบทบาทจะต้องคิดซับซ้อนมากขึ้นเพราะมันไม่มีคำตอบสำเร็จรูป แล้วการเคลื่อนไหวของคนในรุ่นปัจจุบันจะไม่เห็นผลง่ายๆ ในวันนี้ หรือในยุคนี้ แต่จะได้เห็นในยุคของลูกหลานต่อไป
จากนั้น มาดามยูน ตัวแทนผู้ปฏิบัติการองค์กรชาวนาชาวไร่สากล จากประเทศเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวถึงปัญหาเรื่องการที่คนชนบทย้ายเข้ามาทำงานในเมือง อันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกในยุคทุนนิยมเสรี โดยยกตัวอย่างที่ประเทศญี่ปุ่นกับเกาหลี ซึ่งทำให้เกิดปัญหาท้องที่ชนบทขาดคน เยาวชนในชุมชนปัจจุบันกำลังถูกทำลายโดยเสรีนิยมใหม่ หลายคนย้ายเข้าทำงานในเมืองหรือย้ายออกไปต่างประเทศ ทำให้เยาวชนในท้องที่หายไปจากการทำงานภาคการเกษตร เมื่อไม่มีเยาวชน ก็ไม่มีชุมชน และเมื่อชุมชนหายไป ค่านิยมและวัฒนธรรมของคนในชุมชนก็หายไปเช่นกัน
นอกจากนี้ มาดามยูน ยังได้กล่าวอีกว่า ต้องมีการส่งเสริมให้เยาวชนมีบทบาทในการสร้างชุมชนขึ้นด้วย การส่งเสริมให้เยาวชนกลับมายังชนบท กลับมายังชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้ยังควรพยายามสร้างชุมชนให้มีพลังมีบทบาททางการเมือง
จากนั้น นายอาคม ตรีแก้ว ตัวแทนจากเยาวชนเครือข่ายป่าไม้ภาคอีสาน สมัชชาคนจน ได้ออกมาอ่านแถลงการณ์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแสดงจุดยืนปกป้องอธิปไตยทางอาหาร ปัญหาการลดจำนวนลงของเกษตรกรในประเทศที่พัฒนาแล้ว ขณะที่เยาวชนที่สนใจทำการเกษตร ขาดที่ดินทำกิน ความรู้ด้านการผลิต และผลผลิตไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
นอกจากนี้แถลงการณ์ยังได้พูดถึงการที่กระบวนการเกษตรถูกครอบโดยบรรษัทข้ามชาติ ซึ่งทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิปัญญาท้องถี่น เพิกเฉยต่อสิทธิมนุษยชน การตลาดแบบพันธะสัญญา ทำให้ชาวนาเป็นหนี้ การเปิดตลาดเสรีรวมถึง FTA ก็ทำให้ราคาพืชผลการผลิตตกต่ำ เกษตรกรยากจน การส่งเสริมการตัดแต่งพันธุกรรม (GMOs) หรือการใช้ยาฆ่าแมลงก็ยังได้ส่งผลเสียต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
แถลงการณ์ เยาวชนองค์กรชาวนาชาวไร่สากล
ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออก
La Via Campesina South East Asia and East Asia
องค์กรชาวนาชาวไร่สากล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมจัดเวทีเยาวชนที่เชียงใหม่ วันที่ 20-25 ตุลาคม 2550 โดยมีผู้เข้าร่วมจากแกนนำเยาวชนจากประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลี ญี่ปุ่น และติมอร์ตะวันออก ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนสถานการณ์และบทบาทของเยาวชน รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยทางอาหาร
ขณะนี้สถานการณ์ทางการเกษตรระดับโลกอยู่ในช่วงวิกฤติ ประเทศพัฒนาแล้วอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลี กำลังประสบปัญหาจำนวนเกษตรกรลดลงทุกปี เยาวชนต้องอพยพจากชนบทเข้าสู่เมืองหรือต่างประเทศเพื่อหางาน งานที่หาได้ส่วนใหญ่เป็นงานที่ไม่มั่นคงหรือค่าแรงต่ำ ส่วนเยาวชนที่สนใจการทำการเกษตรนั้น ไม่มีที่ดิน ทั้งยังขาดความรู้ด้านการผลิต จึงทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่สามารถแข่งขันกับผลผลิตที่นำเข้ามาจากต่างประเทศได้ เยาวชนในชนบทจึงแทบไม่มีความหวัง
เราต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ เพียงเพื่อผลประโยชน์ของบรรษัทข้ามชาติเท่านั้น ทั้งยังเพิกเฉยต่อสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กปรากฏการณ์การปลูกพืชเชิงเดี่ยวนำไปสู่ภาวะโลกร้อน และระบบเกษตรแบบพันธะสัญญา ทำให้เกิดภาวะหนี้สินของครอบครัวชาวนาที่ยากจนอีกด้วย
องค์กรการค้าโลกทำให้ราคาผลผลิตทางภาคเกษตรตกต่ำ เป็นผลที่ทำให้เกิดความอดอยาก ความยากจน และความทุกข์ยากของเกษตรกรจำนวนนับล้านคน การเปิดตลาดเสรี รวมถึง FTA ส่งผลกระทบต่อชาวนาชาวไร่ และวิถีชีวิตของตนเอง กากมลพิษทางเคมีและการใช้สารเคมีในการผลิตก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม
เยาวชนองค์กรชาวนาชาวไร่สากลซึ่งได้ใช้เวลาร่วมกันกับเยาวชนไทย เพื่อเรียนรู้และปฏิบัติการในชุมชนแม่ทาและแก่งเสือเต้น เราได้เรียนรู้วิธีการของชาวบ้านในพื้นที่ในการใช้ชีวิตร่วมกับผืนป่า และรักษาทรัพยากรธรรมชาติ การเคารพวัฒนธรรมชุมชนและปกป้องอธิปไตยของชุมชน
ระบบการศึกษาซึ่งไม่เคยทำให้เยาวชนแก้ไขปัญหาในชีวิตจริงได้ เยาวชนที่เรียนจบสุดท้ายจะกลายเป็นเพียงคนงานรับจ้างในโรงงานหรือ พนักงานในบรรษัทข้ามชาติที่ส่งเสริมเมล็ดพันธุ์ดัดแปลง GMO หรือใช้ยาฆ่าแมลงที่สร้างผลเสียให้กับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
เรา เยาวชนเวีย แอมปาชินา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออก จึงมุ่งมั่นที่จะแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการต่อสู้ในทุกระดับดังนี้
1. ต่อต้านลัทธิเสรีนิยมใหม่ทุกรูปแบบ ที่ถูกส่งเสริมโดย องค์กรการค้า WTO , EPA/FTA , IMF , ธนาคารโลก
2. ส่งเสริมให้เยาวชนกลับสู่ท้องถิ่นและทำการเกษตร และปลูกฝังให้เยาวชนมีการเผยแพร่เรื่องอธิปไตยทางอาหาร เพื่อปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
3. คัดค้านการทำเกษตรเชิงเดี่ยว การผูกขาดเมล็ดพันธุ์ ระบบเกษตรแบบพันธะสัญญา เพราะสิ่งเหล่านี้นำไปสู่ภัยพิบัติ ภาวะหนี้สินของครอบครัวชาวนาที่ยากจน และการสูญเสียที่ดิน
4. ส่งเสริมระบบเกษตรอินทรีย์ และสร้างแนวร่วมในชุมชนระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค
5. สำหรับคนเอเชียเกษตรกรรมคือ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เพียงสินค้าที่ซื้อขายได้ในตลาด
6. ปกป้องสิทธิของชุมชนในการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ และมีสิทธิในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่ออธิปไตยของปวงชน
7. สร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายเยาวชน และสร้างพื้นที่เยาวชน
8. สนับสนุนความเท่าเทียมกันระหว่างชาย หญิง และตระหนักถึงบทบาทผู้หญิงในชุมชน
ถึงเวลา สำหรับอธิปไตยทางอาหาร
เยาวชนเวีย แคมปาชินา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออก
ร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ประชาธิปไตยทางอาหารเป็นจริง
เชียงใหม่ 25 ตุลาคม 2550
ที่มา : ประชาไท วันที่ : 26/10/2550
Create Date : 26 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 26 ตุลาคม 2550 18:08:38 น. |
|
2 comments
|
Counter : 742 Pageviews. |
|
|
ขอบคุณที่นำสาระดีดีมาฝากเสมอ
หลับฝันดีเน๊าะ