Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
20 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
ธงชัย วินิจจะกูล : โจทย์ที่แท้จริงของการลงประชามติและทางเลือก

ธงชัย วินิจจะกูล





1. เดินไปไหน?

คนส่วนใหญ่คงกำลังเบื่อการเมืองจนสุดจะทน และคงอยากไปให้พ้นความขัดแย้งที่น่าอึดอัดเสียที



โฆษณาอื้อฉาวของ สสร. เป็นการหากินกับความเบื่อหน่ายของประชาชน คือ พยายามสื่อสารว่า “รับซะจะได้เดินหน้าสู่ภาวะปกติ (คือ มีการเลือกตั้ง) ซะที”



แม้แต่ปรมาจารย์ทางรัฐศาสตร์ยังบอกว่าจะลงมติรับรัฐธรรมนูญของ คมช. ทั้งๆ ที่เห็นว่าเนื้อหาถอยหลัง แต่เพราะอยากไปให้พ้นความน่าอึดอัด อยากเดินหน้าซะที



ปัญหามีอยู่ว่า จะเดินไปทางไหน? การลงมติรับจะไปพ้นความขัดแย้งที่น่าอึดอัดได้จริงหรือ?



หลายคนเคยต้อนรับการรัฐประหาร 19 กันยา เพราะเชื่อว่าจะได้พ้นไปจากความตึงเครียดของวิกฤตการเมืองเสียที กว่าปีที่ผ่านมา คงประจักษ์แล้วว่า ความขัดแย้งตึงเครียดมิได้หมดไป อาจแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ



ข้อที่ว่าต้องการเดินหน้านั้นก็มีปัญหาว่า เรากำลังหันหน้าไปถูกทางหรือเปล่า หรือกำลังหันกลับไปหายุคทหารครองเมือง เพราะหากเรากำลังหันหลังให้ประชาธิปไตยอยู่ ยิ่งเดินหน้าคือยิ่งผิดทาง



สิ่งที่ควรทำอันดับแรกคือ หันหน้าให้ถูกทางเสียก่อน





2. จำยอมถอยหลัง?

ความเสียหายใหญ่หลวงนับจาก 19 กันยาปีก่อน ไม่ได้อยู่ที่ความหน่อมแน้มของรัฐบาล แต่การรัฐประหารและกฎหมายต่างๆ ที่พยายามสถาปนาระบอบทหารนั่นแหละคือความเสียหายที่สุด



คนที่หวังว่ารัฐประหารจะเป็นการกดปุ่มเริ่มประชาธิปไตยกันใหม่นั้น คงเห็นอยู่ตำตาว่า ประชาธิปไตยกำลังผลิบาน หรือการเมืองไทยกลับถอยกรูดสู่ยุคทหารครองเมืองกันแน่



พ.ร.บ. ความมั่นคงที่ให้อำนาจล้นฟ้าแก่กองทัพ จะผลักการเมืองไทยย้อนหลังไปอย่างน้อยๆ 30 ปี รัฐธรรมนูญ คมช. ไม่ไว้ใจประชาชน แต่กลับฝากความหวังสุดๆ ไว้กับตุลาการและวุฒิสภาแต่งตั้งภายใต้ระบบการปกครองที่มีทหารคุมอยู่ทุกจุด การรื้อฟื้นอำนาจอำมาตยาธิปไตยท้องถิ่น การเพิ่มงบลับงบเปิดให้กองทัพมหาศาลเหมือนยุคเผด็จการแต่ก่อน การใช้อำนาจบาตรใหญ่ของทหารรังแกประชาชน เช่น กรณีปิดเขื่อนปากมูน และอื่นๆ อีกมากมาย



ทั้งหมดนี้เป็นการถอยกรูดกลับไปหายุคทหารครองเมืองชัดเจน ไม่มีทางปฏิเสธได้ และ อาจต้องสู้กันอีกหลายชีวิตกว่าจะเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้



การลงมติรับเพื่อเดินหน้าในขณะนี้จึงเป็นการยอมจำนนว่า ยุคทหารครองเมืองคือการถอยหลังที่เราต้องยอมรับอย่างสงบเสงี่ยม





3. รัฐธรรมนูญ คมช.จะพาประเทศไทยไปทางไหน?
รัฐธรรมนูญของ คมช. เป็นการสถาปนาระบอบทหารหรืออำมาตยาธิปไตยที่ไม่ให้โอกาสแก่สังคมประชาธิปไตยได้เรียนรู้ปรับตัวแก้ปัญหาตามกระบวนการ ไม่ไว้ใจประชาชนแต่กลับเชื่อถือให้อำนาจแก่อภิชน ขุนนางข้าราชการผู้ใหญ่ เป็น Guided Democracy แบบหนึ่งซึ่งก่อความเสียหายมหาศาลมาแล้วในหลายประเทศ



ระบอบการเมืองถอยหลังแบบนี้จะส่งผลต่อประเทศชาติในระยะยาวอย่างไร?



ผู้เขียนมีข้อคาดการณ์เพื่อการถกเถียงว่า ระบบการเมืองย้อนยุคเช่นนี้ อาจทำให้ไทยอยู่ในภาวะคล้ายฟิลิปปินส์ กล่าวคือ ตกต่ำจากที่เคยเป็นดาวรุ่งแห่งเอเชียทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง กลายเป็นแค่ประชาธิปไตยปลอมๆ ในอุ้งมือทหาร การเมืองจะทุลักทุเลไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง จนเป็นปัจจัยทำให้เศรษฐกิจลุ่มๆ ดอนๆ



เพราะอำมาตยาธิปไตยไม่สามารถรับมือกับความซับซ้อนผันแปรของสังคมสมัยนี้ที่เต็มไปด้วยความคิดและผลประโยชน์ต่างๆ กันมหาศาลได้ เพราะผู้นำทหาร อภิชน ขุนนางราชการผู้ใหญ่หลงตนเองว่าสูงส่งรู้รอบกว่าประชาชนและติดอยู่กับความคิดว่าประเทศชาติคือครอบครัวขนาดใหญ่ที่พวกเขาต้องดูแลแบบพ่อบ้าน



ระบอบการเมืองนี้ยังเป็นบ่อเกิดของคอร์รัปชั่นขนานใหญ่และการใช้อำนาจฉ้อฉลอย่างฝังราก เพราะใช้ความกลัวบวกบารมีปกครองจนประชาชนและสื่อมวลชนยอมจำนน ปิดปากต่อความฉ้อฉลของขุนนางและอภิชนน้อยใหญ่ทั้งหลาย



ต่างกับนักการเมืองซึ่งประชาชนและสื่อมวลชนจ้องตรวจสอบได้เสมอไม่ว่าจะเกลียดแค่ไหนก็ตาม



ที่สำคัญที่สุด และไม่กล้าพูดถึงกัน ทั้งๆ ที่ซุบซิบกันทุกวี่วันก็คือ ความผันผวนในสังคมไทยกำลังมาถึงแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว เพราะไม่มีใครฝืนธรรมชาติได้ ในภาวะเช่นนั้นทหาร อภิชน ขุนนางและหางเครื่องทั้งหลายจะยิ่งเถลิงอำนาจด้วยข้ออ้างความมั่นคง ซึ่งจะยิ่งฉุดการเมืองไทยให้จมปลักลงไปอีก



ระบบการเมืองล้าหลังเช่นนั้นจะเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ไม่ช้าก็เร็ว เพราะเป็นระบบการเมืองที่ฝืนการเปลี่ยนแปลง ความผันผวนไม่แน่นอนจะสะสมรอการระเบิด



ระบบการเมืองล้าหลังบวกความผันผวนไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องคือสูตรของความตกต่ำครั้งใหญ่



ดังนั้นยิ่งปล่อยให้อภิชนอำมาตยาธิปไตยอยู่ในอำนาจนานเท่าไร จะยิ่งกลายเป็นระเบิดเวลาในอนาคต



การเดินหน้าขอเพียงให้พ้นความอึดอัดแบบปัจจุบัน จึงเป็นแค่การซื้อเวลาชั่วคราวเท่านั้นเอง



หากมองจากอนาคตย้อนเวลามาถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์จะพิสูจน์ว่า การถอยหลังถลำลึกคราวนี้เป็นก้าวผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงของสังคมไทย





4. โจทย์ที่แท้จริงของการลงประชามติ

มีหลายคนออกมาตำหนิฝ่ายปฏิเสธรัฐธรรมนูญ คมช. ว่าไม่ทันดูเนื้อหาก็ปฏิเสธซะก่อนแล้ว



ท่านเหล่านี้มีสติปัญญาพอที่จะรู้อยู่ว่า ข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ใช่สาเหตุของการยึดอำนาจ จึงไม่จำเป็นต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่เลย แต่ต้องร่างใหม่ตามธรรมเนียมให้ดูเหมือนว่าคมช.ต้องการประชาธิปไตย



สาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ คมช. ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเดิม อ.เสน่ห์ จามริก ยังยอมรับว่าถอยหลังกว่าเดิม แถมยังไม่ได้เป็นหลักประกันอะไรต่ออนาคตของประชาธิปไตยไทยเลยสักนิด แม้แต่ผู้หนุน คมช. อย่าง อ.ชัยอนันต์ สมุทวณิช ก็ยังยอมรับว่า การรัฐประหารคงมีอีก และอำนาจทหารคงอยู่ไปอีกนาน



ประเด็นสำคัญขณะนี้ จึงไม่ได้อยู่ที่เนื้อหารายละเอียดของรัฐธรรมนูญอย่างที่คมช. พยายามตีกรอบ



โจทย์ที่แท้จริงคือ คำถามว่าจะเอายังไงกับอำนาจทหาร อภิชน อำมาตยาธิปไตยในการเมืองไทย



ผู้คนที่เบื่อหน่ายกับการเมืองอยู่ในขณะนี้ คงไม่ได้ตัดสินใจรับหรือไม่รับเพราะรายละเอียดของรัฐธรรมนูญ ต่อให้เนื้อหาถอยหลังกว่าเดิมก็อาจจะรับ หากเขาเชื่อว่าเป็นหนทางออกไปให้พ้นภาวะอึดอัดในปัจจุบัน



คนที่หนุนคมช. และเกลียดทักษิณมาก จะลงมติรับโดยไม่ได้สนใจรายละเอียดของรัฐธรรมนูญเช่นกัน เพราะสิ่งที่คนพวกนี้ต้องการ คือการยืนยันว่ารัฐประหารที่ตนสนับสนุนเป็นสิ่งถูกต้อง ยืนยันว่าตนเองไม่ได้คิดผิดทำผิด เชียร์มาแล้วก็ต้องเชียร์ต่อไปให้ตลอดรอดฝั่ง บริกรและหางเครื่องของ คมช. ต้องเกาะระบอบทหารเพราะกลัวโดนคิดปัญชี ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับรายละเอียดของรัฐธรรมนูญเลย



กระทั่งฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสสร. เองก็ไม่สนใจเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญเช่นกัน



โจทย์ที่แท้จริงขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่รายละเอียดของรัฐธรรมนูญคมช. แต่อยู่ที่คำถามว่าจะเอายังไงกับอำนาจทหาร อภิชน อำมาตยาธิปไตยในการเมืองไทย



เกษียร เตชะพีระ กล่าวได้ถูกต้องว่า อย่าดูเพียงแค่รายละเอียดเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ แต่ต้องดูทั้ง “แพคเกจ” ว่าระบอบคมช.ได้ผลักดันกฎหมายสำคัญเพื่อสถาปนาอำนาจยุคทหารครองเมืองอีกครั้ง การเลือกตั้ง สภาและประชาธิปไตยหลังจากนี้จะเป็นแค่ไม้ประดับเพื่อให้ระบอบทหารครองเมืองยุคนี้ดูดีขึ้นแค่นั้นเอง



แต่ คมช.และลูกคู่บริกรทั้งหลายต้องป่าวร้องเน้นให้ดูรายละเอียดของรัฐธรรมนูญ เพราะ คมช. กลัวการที่ประชาชนจะมองเห็นโจทย์ที่แท้จริงแล้วเปลี่ยนความหมายของการลงประชามติ คมช. ต้องการตีกรอบจำกัดความหมายของการลงประชามติไม่ให้กลายเป็นการประท้วงระบอบทหาร





5. เปลี่ยนประชามติเป็นการต่อสู้กับระบอบทหาร

การลงประชามติที่จะมาถึงเต็มไปด้วยการขู่ขวัญทางการเมือง เช่น



“ไม่รับก็ไม่มีเลือกตั้ง ไม่รับก็ไม่กลับสู่ภาวะปกติ ถ้าไม่เอาฉบับที่อยู่ตรงหน้า ก็อาจได้ฉบับซ่อนข้างหลังที่เลวกว่า ไม่รับจะยิ่งวุ่นวาย ใครไม่รับคือพวกไม่รักชาติ”



ทั้งหมดนี้คล้ายกับเจ้าพ่อมาเฟียยื่นข้อเสนอที่ห้ามเราปฏิเสธ ทั้งขู่ขวัญว่าหากปฏิเสธอาจเจ็บตัวและสิ่งเลวร้ายอาจเกิดกับเราก็ได้



แถมยังเป็นการลงประชามติโดยที่กว่าครึ่งประเทศยังอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ซึ่งทหารคุมหมดทุกอย่าง



นี่มันประชามติแบบมาเฟียชัดๆ ไม่กล้าพอแม้แต่จะสู้กันอย่างแฟร์ๆ



ทำราวกับประชาชนเป็นคนในบังคับเจ้าพ่อ หรือเป็นนักโทษในประเทศตัวเองโดยมีผู้คุมชื่อ คมช.



แทนที่นักวิชาการหรือนักหนังสือพิมพ์คนสำคัญจะออกมาท้วงติงท่าทีแบบมาเฟียอันน่ารังเกียจเหล่านี้ หลายคนกลับออกมารับอย่างหงอๆ ว่า ควรลงมติรับเพราะไม่อยากให้แย่ไปกว่านี้



แทนที่จะตำหนิการขู่ขวัญ หลายคนกลับทำท่าวางตัวเป็นกลางระหว่างมาเฟียกับผู้ถูกรังแก พวกเขาพากันหดหัวสงบเสงี่ยมกับคำขู่ฟอดๆ ของผู้มีอำนาจ บางคนอวดเบ่งร่วมตะคอกซ้ำใส่ผู้เสียเปรียบ



แทนที่จะเรียกร้องให้เลิกขู่ ให้ยกเลิกกฎอัยการศึกให้หมด และสู้กันอย่างแฟร์ๆ อย่าใช้เงินภาษีโฆษณาชวนเชื่อฝ่ายเดียว พวกเขากลัวทหารยิ่งกว่ากลัวนักการเมือง แต่ไม่กล้ายอมรับ



ประชามติแบบมาเฟียสะท้อนเป็นอย่างดีถึงอำนาจแบบมาเฟียที่ปกครองคนด้วยความกลัวในขณะนี้



แต่ทว่าในสถานการณ์ที่ไม่มีช่องทางอื่นมากนักในการต่อสู้กับอำนาจทหาร และไม่มีโอกาสลงประชามติว่าจะเอาระบอบทหารหรือไม่ ประชาชนกลับสามารถต่อสู้ด้วยการรณรงค์เปลี่ยนโจทย์เปลี่ยนความหมายของการลงประชามติ ช่วงชิงให้กลายเป็นการออกเสียงประท้วงปฏิเสธระบอบทหาร



รณรงค์ตรงไปตรงมาว่า ร่วมประท้วงปฏิเสธระบอบทหารด้วยเสียงไม่รับรอง ในทิศทางที่เครือข่าย 19 กันยาทำอยู่นั่นแหละ



การต่อสู้ด้วยการเปลี่ยนความหมายของการลงประชามติ คือการปฏิเสธไม่ยอมอยู่ในกรอบของคมช. จึงไม่ใช่การยอมรับหรือให้ความชอบธรรมแก่กระบวนการของคมช.แต่อย่างใด



ลูกคู่หน้าใสของคมช. กลัวการที่ประชามติกำลังถูกเปลี่ยนความหมายให้กลายเป็นการออกเสียงประท้วงปฏิเสธระบอบทหาร ถึงกับต้องออกมายุแยงว่าถ้าค้านการรัฐประหารก็อย่ามาร่วมการลงประชามติ และพยายามตีกรอบว่าประชามติเป็นแค่เรื่องรัฐธรรมนูญ ห้ามให้ความหมายไกลกว่านั้น



ต่อให้ผลของประชามติออกมาตามคณะทหารจัดแจงไว้ล่วงหน้า ก็มิได้หมายความว่าเสียงปฏิเสธระบอบทหารเหล่านี้ต้องเปลี่ยนความคิดหรือยอมหุบปากหรือยอมรับระบอบทหารปัจจุบันหรือหลังจากนี้ ย่อมมีสิทธิที่จะยืนยันความคิดของตนและต่อสู้ต่อไป



การจัดประชามติแบบมาเฟียทำนองนี้มีมาแล้วหลายแห่งทั่วโลก กรณีที่ประชาชนช่วงชิงเอามาเป็นการประท้วงคณะทหารจนสำเร็จก็มี อาทิ เช่น ที่ชิลีในปี1988 ซึ่งจอมเผด็จการปิโนเชต์หวังใช้ประชามติสร้างความชอบธรรมแก่การต่ออายุอำนาจของคณะทหาร ฝ่ายต่อต้านเผด็จการขัดแย้งกันในระยะแรกว่าจะร่วมลงประชามติดีหรือไม่ แต่ในที่สุดพวกเขารวมพลังสำเร็จ แม้จะถูกข่มขู่รังแกสารพัด ประชาชนชาวชิลีข้างมากลงประชามติไม่ต้องการให้คณะทหารสืบอำนาจอีกต่อไป นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของอวสานของปิโนเชต์



ประชาชนพม่าที่ลงคะแนนให้พรรค N.L.D. ของอองซานซูจีเมื่อปี 1989 ก็เช่นกัน พวกเขารู้อยู่เต็มอกว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรมและแบบมาเฟีย คือคณะทหารข่มขู่ตลอดเวลาว่าหากเลือกพรรค N.L.D. พม่าจะไม่มีวันกลับคืนสู่ภาวะปกติ แต่แล้วชาวพม่าอาศัยการเลือกตั้งแบบมาเฟียนั่นเองเป็นการออกเสียงประท้วงอำนาจเผด็จการทหาร ด้วยการเลือก N.L.D. จนชนะถล่มทลาย





6. ทางเลือก

การลงประชามติคราวนี้ถึงที่สุดคือ ท่านคิดอย่างไรกับอำนาจทหาร อภิชน อำมาตยาธิปไตยในการเมืองไทย กล่าวคือ



1) หากท่านเห็นว่าระบอบทหาร อำมาตยาธิปไตยเหมาะสมดีกับสังคมไทยต่อไปนานๆ และ/หรือ ท่านเกลียดการเลือกตั้ง เกลียดนักการเมืองเข้ากระดูกดำ ท่านควรลงมติรับรัฐธรรมนูญคมช.ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอ่อนแอ และต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของอภิชนและขุนนางข้าราชการผู้ใหญ่ทั้งหลายผ่านทางวุฒิสภาและตุลาการทั้งหลาย



2) หากท่านเชื่อว่าอำนาจเก่าของระบอบทักษิณจะกลับมา และจะพาประเทศสู่ความวิบัติฉิบหาย แถมประชาชนไม่ฉลาดพอจะรับมือได้ ระบบการเมืองอภิชนอำมาตยาธิปไตยพอรับได้มากกว่า ท่านควรลงมติรับรัฐธรรมนูญของ คมช.



3) หากท่านไม่ชอบ แต่ไม่ถึงขนาดเกลียดกลัวทั้งระบอบทักษิณและ คมช. แต่ท่านเห็นว่าการปกครองโดยคณะทหารมาไกลพอแล้ว หากมากกว่านี้ นานกว่านี้ อาจส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติ ท่านควรส่งเสียงดังให้ คมช. รู้ว่าพอแล้ว ไปได้แล้ว ด้วยการลงมติไม่รับรัฐธรรมนูญ คมช. และร่วมเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540



4) หากท่านปฏิเสธอำนาจเก่าคร่ำครึของระบอบทหาร อำมาตยาธิปไตย และ/หรือเห็นว่าการรัฐประหาร 19 กันยาและระบอบ คมช. เป็นความผิดพลาด ท่านควรลงมติไม่รับ ไม่ว่าท่านจะชอบหรือไม่ชอบทักษิณก็ตาม



5) หากท่านยังลังเลระหว่างอำนาจเก่าของทักษิณ กับอำนาจเก่ากว่าของระบอบทหารและข้าราชการผู้ใหญ่ การตัดสินใจของท่านขึ้นอยู่กับการประเมินของท่านว่า



- ทักษิณน่ากลัวขนาดไหน และมีโอกาสกลับมาอีกมากน้อยแค่ไหน

- ระบอบทหารและข้าราชการผู้ใหญ่จะเป็นทางออกหรือเป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตยไทยกันแน่แค่ไหน ระบอบนี้กำลังมีอำนาจอยู่และมีโอกาสอยู่ต่อไปอีกนาน ท่านต้องการเช่นนั้นหรือไม่





7. ไม่รับรัฐธรรมนูญคือ การปฏิเสธระบอบทหาร


การลงประชามติคราวนี้ถึงที่สุดคือ ท่านคิดอย่างไรกับระบอบทหาร อำมาตยาธิปไตยในการเมืองไทย



รับ-ไม่รับรัฐธรรมนูญจึงเป็นการออกเสียงต่อระบอบทหาร อำมาตยาธิปไตยในการเมืองไทย



เราท่านส่วนใหญ่ไม่ใช่พวกขี่หลังเสือจนต้องกลัวโดนคิดบัญชีกลับอย่างผู้มีอำนาจใน คมช. ผู้นำพันธมิตรฯ หรือบริกรทั้งหลายของ คมช. แต่เราท่านส่วนใหญ่คือประชาชนผู้ต้องทนอยู่กับผลกระทบของปัจจุบันไปอีกนานในอนาคต



การลงประชามติที่กำลังจะมาถึง แม้จะเป็นประชามติแบบมาเฟีย แต่ก็เป็นโอกาสที่จะต่อสู้อย่างสันติเพื่อส่งเสียงว่าเราต้องการอนาคตแบบไหน



คิดให้รอบคอบ คิดให้ไกล และกล้าหาญ



อย่าคิดเพียงแค่ว่าการลงมติรับจะเป็นการหลุดพ้นจากความอึดอัดปัจจุบัน เพราะแท้ที่จริงเป็นแค่การซื้อเวลาเพื่อรอการระเบิดในอนาคต



อย่า “หงอ” กับท่าทีแบบมาเฟียที่ขู่เราว่า “ไม่รับอาจเจ็บตัว” หรือมีดาบซ่อนอยู่ข้างหลัง



ขอทุกท่านที่ไม่ต้องการระบอบทหารครองเมือง มาร่วมกันออกเสียง “ไม่รับ” เพื่อบอกทหารว่า



“กลับกรมกองเสียเถิด อย่าให้ประเทศชาติพินาศไปกว่านี้เลย”


ที่มา ประชาไท.คอม //www.prachatai.com วันที่ : 17/7/2550



Create Date : 20 กรกฎาคม 2550
Last Update : 20 กรกฎาคม 2550 18:39:51 น. 0 comments
Counter : 387 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Darksingha
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





Click for use Graphics comment


Darksingha ที่แสดงถึงอำนาจและความมืดมัว ผมให้แทนคำว่า Age of Doubt หรือยุคแห่งความสงสัยก็แล้วกัน ดังนั้นBlogนี้จึงเป็นแดนสนธยาที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งคำถาม และการละเล่น เพื่อแสวงหา ?


TV3 Live CH5 Live CH7 Live Modernine TV Live NBT LIVE - CH11 TPBS - Public Channel ASTV1 New11 - Online News 24 hours Nation Channel DMC.TV - Buddhistic Television ASTV5 - Suvarnbhumi ASTV7 - Buddhistic Television  True New 24 Channel  skynew  cnnibn Channel  cnn Channel  bbcnews_island Channel  cctv  Channel  bfmtv  Channel  ntv  Channel  fox8 Channel  foxnews5 Channel  cspan  Channel  france24 Channel  world_explorer Channel  discovery_channel Channel  nasa  Channel kimeng-channel dmc-channel ebr-channel research-channel utv-channel michigan-channel at-florida-channel islam-channel peace-usa-channel bbc-panorama-channel CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live

music is life

ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต

Friends' blogs
[Add Darksingha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.