Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
ยุทธวิธีชาตินิยมกับอันตรายของการต่อสู้ทางการเมือง

ยุทธอักษร : โดย รถประจำทางสายแดง

“เมื่อชนชั้นกรรมาชีพรัสเซียยึดอำนาจรัฐด้วยวิธีการปฏิวัติเรียบร้อยแล้ว ชนชั้นนี้จะขยันทำงานเพื่อประสานเป้าหมายและชะตากรรมของชาติตัวเองกับเป้าหมายในการสร้างสังคมนิยมทั่วโลก เป้าหมายการปฏิวัติสากลไม่เพียงแต่เป็นเป้าหมายที่ตรงกับจุดยืนสากลนิยมของกรรมาชีพเท่านั้น แต่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการเอาตัวรอดของชนชั้นกรรมาชีพรัสเซีย ชนชั้นกรรมาชีพรัสเซียจะไม่พ่ายแพ้ และจะสามารถต่อสู้จนถึงจุดหมายปลายทาง ถ้าให้ความสำคัญกับเงื่อนไขการขยายการปฎิวัติออกนอกกรอบและขอบเขตของการปฏิวัติระดับชาติไปสู่การปฏิวัติและชัยชนะของกรรมาชีพทั่วโลก”
จาก Leon Trotsky “On the Paris Commune” (1987) Pathfinder Press , New York(4)

ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมาหากเราติดตามการเคลื่อนไหวของขบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยุทธวิธีในการต่อสู้หลักของเขาอย่างหนึ่งคือการเอาประเด็นเรื่องชาตินิยม ในกรณีที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา (Joint Communique) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2551 มาสร้างความชอบธรรมและแสวงหาแนวร่วมที่ถือเป็นปัจจัยหลักในการต่อสู้ทางการเมือง ภายใต้คำขวัญ พันธมิตรประชาชนเพื่อ ชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้จะสำรวจในประเด็นอันตรายของการเอายุทธวิธีชาตินิยมในการต่อสู้ทางการเมืองภายในมาใช้เพื่อเอาชนะทางการเมือง

ลัทธิชาตินิยมคืออะไร กล่าวอย่างกว้างที่สุด คือ การถือมั่นพึงพอใจในอัตลักษณ์หรือตัวตนรวมหมู่ (collective identity) ชนิดหนึ่ง หากถือมั่นพอใจมากก็อาจกลายเป็นการยึดมั่นถือมั่นในตัวกูของกูชนิดหนึ่ง เรียกว่าหลง (ชาติพวก) ตัวเอง หากหลงหนักกว่านั้นก็อาจกลายเป็นความคลั่งชาติ ความหลงพวกตัวเองที่เรารู้จักกันทั่วไป ได้แก่ สถาบันนิยม ซึ่งหากอาการหนักก็อาจนำไปสู่การยกพวกตีกัน หรือตามล้างแค้นเพื่อพวกพ้องร่วมสถาบัน

เรามักไม่ค่อยคิดว่าลัทธิชาตินิยม คือ ความหลงประเภทเดียวกันกับสถาบันนิยม เพราะในสังคมไทยมักถือว่าชาตินิยมเป็นสิ่งดี แม้แต่นักวิชาการโดยทั่วไปยังมักอธิบายว่า "ชาตินิยมมิใช่ความคลั่งชาติ", "รักชาติไม่เป็นไร อย่าคลั่งชาติแล้วกัน" เอาเข้าจริงความต่างระหว่างความยึดมั่นทั้งหลายนี้เป็นปริมาณนิดเดียวเท่านั้น รักชาติ หลงชาติ คลั่งชาติจึงอาจเปลี่ยนไปมาฉับพลันแทบไม่ทันรู้ตัว แถมบ่อยครั้งเราอาจไม่รู้ตัวเลยว่า แค่รัก หรือหลง หรือคลั่งเข้าแล้ว

ส่วนลัทธิชาตินิยมไทย คือ ความยึดมั่นถือมั่นหรือหลงความเป็นไทยว่าดีกว่าสูงส่งกว่า ประเสริฐกว่าอัตลักษณ์รวมหมู่อย่างอื่น ลัทธิชาตินิยมไทยหรือชาติใดก็ตาม จึงเป็นเรื่องของความเชื่อความศรัทธาที่สังคมหนึ่งบ่มเพาะปลูกฝังแก่สมาชิกรุ่นแล้วรุ่นเล่า เพื่อสร้างพลังทางสังคมของชุมชนนั้น ในแง่นี้ลัทธิชาตินิยมเป็นอุดมการณ์ชนิดหนึ่งคล้ายศาสนา ชาตินิยมจึงมีพลังด้านบวกสูงมากแบบเดียวกับศาสนา แต่ความหลงหรือคลั่งชาติจึงมีอันตรายมหันต์แบบเดียวกับศาสนา นักประวัติศาสตร์บางกลุ่มเรียกลัทธิชาตินิยมว่าเป็น political religion หรือ socralized politics ปัญหามีอยู่ว่าเราอาจไม่รู้ตัวเลยว่า แค่รัก หรือหลง หรือคลั่ง เข้าแล้ว (1) ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกฟาสซิสต์มักนำไปใช้เป็นอุดมการณ์ทางการเมืองเพราะพวกนี้มักมุ่งเน้นความเป็นชาติที่มีความหมายถึงประชาชนที่มีเชื้อชาติเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทางการผลิตมากที่สุดภายในเวลาที่น้อยที่สุด เพราะภายใต้ฟาสซิสต์ สังคมจะดำเนินไปพร้อมๆกันภายใต้จุดหมายเดียวกัน ไม่มีใครคัดค้านการนำของผู้นำสูงสุด ฟาสซิสต์และลัทธิคลั่งชาติ รวมถึงชาตินิยมจึงเป็นอุดมการณ์ที่อันตราย เพราะไม่มีฝ่ายใดช่วยถ่วงดุลการใช้อำนาจของผู้นำไว้ได้เลย

ลัทธิชาตินิยมจึงเป็นเรื่องของความเชื่อความศรัทธาที่สังคมหนึ่งบ่มเพาะปลูกฝังแก่สมาชิกรุ่นแล้วรุ่นเล่า เพื่อเป็นเครื่องมือของเหล่าชนชั้นผู้ปกครองใช้ในการควบคุม แต่บางยุคก็ถูกใช้ในการต่อสู้กับจักรวรรดินิยมทำให้สิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีพลังมาก ด้วยเหตุนี้ชาตินิยมจึงมักถูกใช้เป็นยุทธวิธีสำคัญของการต่อสู้ทางการเมืองภายในประเทศ โดยมักเล่นในประเด็นในเรื่องของการทำให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นอื่นหรือไม่มีส่วนร่วมในอัตลักษณ์หรือตัวตนรวมหมู่ เช่นการกล่าวหาว่าบุคคลนั้นไม่ใช่คนไทย คนไทยหรือปล่าว ฯลฯ และสิ่งที่เรามักเห็นเป็นประจำคือการกล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามบ่อนทำลายในอัตลักษณ์หรือตัวตนรวมหมู่ เช่น ขายชาติ ทำลายชาติ การล้มล้างสถาบันที่ถูกทำให้เป็นอัตลักษณ์หรือตัวตนรวมหมู่ การเสียดินแดน เป็นต้น ถูกสร้างมาพร้อมกับความเป็นรัฐชาติสมัยใหม่และ “ถูกผลิตซ้ำ” เรื่อยมา

การสร้างความพึงพอใจในอัตลักษณ์หรือตัวตนรวมหมู่ดังกล่าว ยังต้องหาเหยื่อเพื่อสำแดงความอหังกาของตน เช่น ตัวอย่างจากในภาพยนตร์เรื่อง Life is Beautiful ก็คือ การที่ลัทธิฟาสซิสต์ นาซีของเยอรมันยึดมั่นว่าชาติของตนเองอยู่เหนือกว่าชนชาติยิว และพยายามที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว รวมทั้งคำพูดของนายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในรัฐบาล คมช.ที่พูดบนเวทีพันธมิตร เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า “มัน(รัฐบาลไทย)เอาเงินภาษีของเราไปช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชา ทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่เนรคุณที่สุด ใช่ไหมครับพี่น้อง มันเผาสถานทูตเรา มันทำร้ายพวกเรา และมันยังจะมาแย่งแผ่นดินเราอีก ประเทศแค่หยิบมือเดียว ทำไมคนเหล่านี้จึงไปยอมจำนน เพราะมันไปมีประโยชน์กับเขา และมันรู้แล้วว่าทักษิณจะอยู่ในแผ่นดินไทยไม่ได้ มันจึงอาจจะไปอยู่กับกำนันเป๊าะ” (2) ถึงแม้ในประโยคดังกล่าวจะเป็นการโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยอาศัยอำนาจของลัทธิชาตินิยม แต่เราก็จะเห็นถึงภาคปฏิบัติการจริงของลัทธินี้คือการทำให้ชาติอื่นด้อยไปหรือเป็นศัตรูไป ดังคำว่า “มันเอาเงินภาษีของเราไปช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชา ทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่เนรคุณที่สุด” นอกจากนี้เรายังได้ยินคำพูดที่ออกมาจากเวทีเดียวกันที่ต้องการให้ไปรื้อร้านค้าของชาวเขมรในบริเวณเขาพระวิหารด้วย เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าบทบาทของเขมรตอนนี้ไม่ต่างจากสิงคโปร์ในปี 49 ซึ่งพันธมิตรก็ใช้ยุทธวิธีเดียวกัน

ทั้งนี้พลังในการทำลายล้างของลัทธิชาตินิยมนอกจากส่งผลต่อศัตรูทางการเมืองภายในแล้ว ยังส่งผลต่อเหยื่อที่ถูกใช้ในการปลุกกระแสอีกด้วย ซึ่งหากเราความจำไม่สั้นเราคงไม่ลืมบ่ายวันพุธที่ 29 มกราคม 2546 กรณีเหตุการณ์จราจลเผาสถานฑูตไทยในกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นเหยื่อทางการเมืองตอนนี้ ซึ่งตอนนั้นเราวิจารย์เขมรว่าใช้ลัทธิชาตินิยมมาเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางการเมืองภายใน จนทำให้เกิดความเสียหายแก่เรา จากกรณีดาราสาวชื่อดังขวัญใจ "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" ถูกสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเกี้ยวกราด หาว่าพูดจาดูหมิ่นประเทศกัมพูชาอย่างร้ายแรง ถึงขนาดห้ามละครของกบ-สุวนันท์ แพร่ภาพทุกสถานี และรามไปถึงนักศึกษาเขมรประมาณ 1 พันคนชุมนุมประท้วงหน้าสถานฑูตไทยในกรุงพนมเปญ พร้อมกับเผารูปดาราสาวไทยและธงชาติไทย รวมถึงเผาทำลายกิจการค้าของไทนอีกหลายแห่งเสียหายเป็นอันมาก

พลังในการทำลายล้างของมันนอกจากการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิว ในกัมพูชา ในระวันดา ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วแล้ว ปัจจุบัณจากข้อมูลของ Sova องค์กรพัฒนาเอกชนที่ศึกษาด้านอาชญากรรมจากการเหยียดเชื้อชาติ ที่มีฐานอยู่ในมอสโค พบว่ากลุ่มเหยียดเชื้อชาติหัวรุนแรงในรัสเซียได้ทำร้ายแรงงานข้ามชาติ เสียชีวิตไป 57 คน และบาดเจ็บอีก 117 คน ในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ สถิติอาชญากรรมจากการเหยียดเชื้อชาตินี้ถูกเก็บรวบรวมตั้งแต่ปี 2007 และตอนนี้มีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 80 คนแล้ว และยังพบว่าแรงงานจากเอเชียกลางกลายเป็นแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ที่เข้ามาหางานในรัสเซียแทนที่กลุ่มแรงงานผิวดำ และประชาชนจากคอเคซัสเหนือเหล่านี้กลายเป็นเหยื่อส่วนใหญ่จากอาชญากรรมเหยียดเชื้อชาติ โดยเหยื่อที่ถูกสังหาร 57 คน 31 คนมาจากอุซเบกิสถาน, ทาร์จีกิสถาน และเคอร์กิสถาน(3) เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของอันตรายหรือพลังในการทำลายล้างที่เกิดจากลัทธิชาตินิยม ซึ่งมันยังสามารถพัฒนาตัวเองกลายเป็นลัทธิจักวรรดินิยม ที่เป็นการขยายอิทธิพลของชาติหนึ่งเข้าครอบครองดินแดนของอีกชาติหนึ่งทางด้านการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ วัฒนธรรม นำไปสู่สงครามในรูปแบบต่างๆ

คำถามคือปัญหาที่สำคัญตอนนี้คืออะไร? ชาติที่พันธมิตรฯอ้างนั้นเอาเข้าจริงมีไว้เพื่อใคร? เพื่อประชาชน? เพื่อประชาธิปไตย? แล้วชาติของพันธมิตรและชนชั้นนำทั้งหลายกับชาติของชนชั้นล่างมันเป็นชาติเดียวกันไหม? แต่คงกล่าวได้ว่าเป็นคนละชาติมิฉะนั้นพันธมิตรฯคงชูประเด็นเรื่องปากท้อง การปฏิรูประบบสังคม เศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่เป็นธรรมในสังคมที่มากกว่าแค่พูดหาแนวร่วมไปวันๆ มาเป็นยุทธศาสตร์หลักในการเคลื่อนไหวไปนานแล้ว สุดท้ายเอาเข้าจริงชาตินิยมก็เป็นอุดมกาณ์ที่มีไว้ขวางกันความคิดแบบสากลนิยมและความสามัคคีของชนชั้นล่าง ขบวนการของกรรมาชีพที่จะรวมสร้างอำนาจที่เป็นอิสระของตนเองเพื่อสร้างโลกใหม่ด้วยนั่นเอง

เอกสารอ้างอิง
(1)ธงชัย วินิจจะกุล ประวัติศาสตร์ชาตินิยมไทย อันตรายของลัทธิชาตินิยมไทย
(กรณีเหตุการณ์รุนแรงที่ปัตตานี) ที่มา //www.midnightuniv.org/midnight2545/newpage30.html
(2) ประชาไท ยุทธการ 9 ทัพประชิดทำเนียบ พันธมิตรฯ ประกาศชัยชนะ (อีกแล้ว) วันที่ : 21/6/2551 //www.prachatai.com/05web/th/home/12598
(3)วิทยากร บุญเรือง. รายงาน: ชาตินิยม นีโอนาซี และอาชญากรรมแห่งความเกลียดที่รัสเซีย. ประชาไท วันที่ : 16/6/2551 //www.prachatai.com/05web/th/home/12527
(4) Leon Trotsky “On the Paris Commune” (1987) Pathfinder Press , New York แปลโดย ใจ อึ๊งภากรณ์ ที่ //trotsky.org/thai/archive/trotsky/perm-rev/ch02.htm



Create Date : 23 มิถุนายน 2551
Last Update : 23 มิถุนายน 2551 13:01:22 น. 0 comments
Counter : 776 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Darksingha
Location :
สมุทรสงคราม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





Click for use Graphics comment


Darksingha ที่แสดงถึงอำนาจและความมืดมัว ผมให้แทนคำว่า Age of Doubt หรือยุคแห่งความสงสัยก็แล้วกัน ดังนั้นBlogนี้จึงเป็นแดนสนธยาที่เต็มไปด้วยหมอกควันแห่งคำถาม และการละเล่น เพื่อแสวงหา ?


TV3 Live CH5 Live CH7 Live Modernine TV Live NBT LIVE - CH11 TPBS - Public Channel ASTV1 New11 - Online News 24 hours Nation Channel DMC.TV - Buddhistic Television ASTV5 - Suvarnbhumi ASTV7 - Buddhistic Television  True New 24 Channel  skynew  cnnibn Channel  cnn Channel  bbcnews_island Channel  cctv  Channel  bfmtv  Channel  ntv  Channel  fox8 Channel  foxnews5 Channel  cspan  Channel  france24 Channel  world_explorer Channel  discovery_channel Channel  nasa  Channel kimeng-channel dmc-channel ebr-channel research-channel utv-channel michigan-channel at-florida-channel islam-channel peace-usa-channel bbc-panorama-channel CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live CH7 Live

music is life

ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต

Friends' blogs
[Add Darksingha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.