Bloggang.com : interclub : เจาะตลาดโลก (ประเทศญี่ปุ่น)

เจาะตลาดโลก (ประเทศญี่ปุ่น)

1. ลักษณะโดยทั่วไป
ญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะ ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยประมาณ 3,900 เกาะมีเนื้อที่ประมาณ 377,835 ตารางกิโลเมตร โดยมีลักษณะเป็นรูปโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยวประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยประมาณ 3,900 เกาะ โดยมีเกาะใหญ่ที่สำคัญ 4 เกาะ อันได้แก่ หมู่เกาะฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ และคิวชู ซึ่งหมู่เกาะทั้ง 4 ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น

ลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นภูเขาโดยร้อยละ71 ของพื้นที่ทั้งหมดของญี่ปุ่นเป็นภูเขา มีพื้นที่ราบเพียงร้อยละ 25 ซึ่งใช้เป็นพื้นที่ทางการเกษตรเพียงร้อยละ11 เท่านั้น โดยญี่ปุ่นเป็นภูเขาไฟมากประมาณ 1 ใน 10ของทั้งโลกโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาไฟมากทำให้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเสมอ

ประเทศญี่ปุ่นมีประชากรประมาณ 127,619,000 คน ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่8 ของโลก โดยประชากรส่วนใหญ่มีอัตราการรู้หนังสือถึง ร้อยละ 99.9

2. รสนิยมความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภค
คนญี่ปุ่นมีความเป็นชาตินิยมสูงมาก และยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณ รักพวกพ้อง มีความอ่อนน้อม เชื่อมั่นในตนเอง และอดทนสูง ถึงเศรษฐกิจ เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งแฟชั่นจะมีความล้ำหน้าเพียงใดแต่เมื่อถึงวันสำคัญ หรือประเพณีสำคัญต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับความเป็นชาติญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นก็จะพร้อมใจกันให้ความสำคัญและสืบทอดประเพณีอันเก่าแก่ให้สืบต่อ ๆ กันไป

ดังนั้น จึงส่งผลต่อรสนิยมและพฤติกรรมการบริโภคของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมากคนญี่ปุ่นจึงมักนิยมใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศไม่นิยมบริโภคสินค้าสำเร็จรูป มักจะชอบใช้สินค้าประเภท HAND MADE หรือ สินค้าซึ่งแสดงออกถึงความเป็นวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาในแต่ละท้องถิ่น

3. ช่องทางการจัดจำหน่าย
การกระจายสินค้าเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นนั้นสามารถทำได้หลายช่องทาง ซึ่งช่องทางที่เหมาะสม ได้แก่
1. การส่งออก สามารถจำแนกได้ 2 ประเภท
1.1 การส่งออกทางตรง คือ การส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในญี่ปุ่น โดยตัวผู้ผลิตเอง
1.2 การส่งออกทางอ้อม คือ การส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น โดยการผ่านตัวแทนจำหน่าย
2. การทำสัญญาข้อตกลง
2.2 การให้สิทธิในการผลิต Licensing อันได้แก่ การให้ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการการค้า
2.3 การให้สิทธิทางการค้า Franchising ซึ่งจะมีการวางแผนทางด้านการจัดการทางการตลาดให้
3. การร่วมลงทุน คือ การร่วมลงทุนของ 2 กิจการขึ้นไปเพื่อประกอบธุรกิจโดยมีอำนาจการบริหารและรับผิดชอบร่วมกัน มีสัดส่วนถือหุ้นอย่างชัดเจนแต่การกระจายสินค้าเข้าสู่ญี่ปุ่นโดยการเข้าไปลงทุนโดยตรงถือว่าเป็นช่องทางที่ยากมากเนื่องจากญี่ปุ่นมีความจำกัดด้านพื้นที่และยังมีอุตสาหกรรมภายในประเทศอยู่แล้ว นอกจากนี้คนญี่ปุ่นยังมีกระแสต่อต้านนักลงทุนจากต่างชาติอีกด้วย

4. โอกาสทางการค้า
จุดเด่นของญี่ปุ่น
1. มีความเจริญก้าวหน้าด้านวิชาในแขนงต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยด้านอุตสาหกรรม และประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีความเจริญทางด้านเทคโนโลยีรวดเร็วมาก
2. ปัจจุบันโครงสร้างการผลิตในประเทศเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อทดแทนจุดอ่อนในด้านค่าจ้างแรงงานที่สูง และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต
3. พื้นที่ประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขามีพื้นที่ราบเพียงร้อยละ 25 จึงทำให้ไม่มีพื้นที่ทางการเกษตรที่เพียงพอ
4. มีฤดูที่แตกต่างจากไทย
5. มีประชากรที่หนาแน่นมากกว่าไทยเป็น 2 เท่า
6. ญี่ปุ่นกับไทย มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันทั้งทางด้านการเมืองเศรษฐกิจการค้าและเปิดการค้าเสรีระหว่างกัน
โอกาสทางการค้า / ผลประโยชน์
1. จากการค้าและความร่วมมือระหว่างไทย กับ ญี่ปุ่น จะช่วยพัฒนาเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้มากขึ้น
2. เป็นโอกาสที่แรงงานไทยจะเข้าไปสู่ตลาดที่ต้องการแรงงานในสาขาต่าง ๆ และเป็นโอกาสในการผลิตชิ้นส่วน เทคโนโลยีต่าง ๆ
3. สินค้าเกษตรของไทยเช่น เนื้อไก่แช่แข็ง ผลไม้ ยางพารา สามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างเต็มที่เพราะเป็นสินค้าที่ญี่ปุ่นต้องการในการบริโภค
4. จากฤดูที่แตกต่างทำให้ไทยสามารถผลิตสินค้าส่งไปยังญี่ปุ่นได้ในช่วงฤดูที่ผลิตไม่ได้ เป็นการระบายสินค้าภายในประเทศสร้างมูลค่า และรายได้ให้ประชากรเพิ่มขึ้น
5. จากการที่มีจำนวนประชากรที่มากและพื้นที่ทางการเกษตรที่น้อยดังนั้นสินค้าที่ต้องการในการบริโภคจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการต้องมีการนำเข้าและไทยมีศักยภาพในการส่งออกสินค้าทางด้านการเกษตร
6. จากการเปิดเสรีทางการค้าญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ใหญ่ มีเทคโนโลยีและเศรษฐกิจที่ดีเป็นโอกาสที่จะเข้าไปเปิดตลาดและมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเป็นการพัฒนาผู้ผลิตในประเทศต่อไป

Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2549

Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2549 22:33:43 น.

2 comments

Counter : 4376 Pageviews.

โดย: un IP: 124.120.5.97 วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:52:47 น.

อยากทราบจังเลยค่ะว่าข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากไหนคะ จากกระทรวงพาณิชย์ หรือกรมการค้าส่งออกรึเปล่าคะ

โดย: แก้วใส IP: 111.84.73.203 วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:14:03:18 น.

ชื่อ :

Comment :

*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

รหัสส่งข้อความ
กรุณายืนยันรหัสส่งข้อความ