เล่าละไม..

<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ธันวาคม 2551
 

บางกอก..ซีวิว

กินอะไรที่ไหนดี"
วันหยุดตรงกัน ที่นานๆเกิดขึ้นที หลังจากทำธุระของคนอื่น ..ที่ฉันเป็นฝ่ายต้องทำเสร็จ เค้าก็ถาม
"คุณอยากกินอะไร"
"ไม่รู้ เราไม่ค่อยคุ้นแถวนี้ คุณแนะนำสิ" ..ฉันไม่คิดอีกเหมือนเดิม..

"..แถวนี้เหรอ ..ก็มี หมูสะเต๊ะเจ้านึง เพื่อนเคยถ่ายรูปส่งลิ้งค์มาอวด ก็น่ากินนะ"
"มีอย่างอื่นมะ นอกจากหมูสะเต๊ะ"..อารมณ์อาร์ตตัวแม่เริ่มทำงาน
"อีกที่ที่เพื่อนมันแนะนำมาก็ บางกอกซีวิว ต้องนั่งเรือไปกินกลางทะเล แต่ก็ไกลนะ แถวพระรามสองโน่น"
...พระรามสรง พระรามสองอะไรฉันไม่สนหรอก ..ระบบเนวิเกเตอร์ในหัวทำงานซะที่ไหนล่ะ
"ไปอันนี้แหละ ฟังดูน่าสนในดี"
"มันไกลเอาเรื่องเหมือนกันนะคุณ"
"ว่างทั้งวัน จะกลัวอะไร..น่า ..นานๆทีหยุดพร้อมกัน ใช้วันหยุดร่วมกันหน่อย" ..ฉันประเหลาะ แน่นอน..คู่สนทนามีหน้าที่ตามใจเท่านั้น

เจ้าตัวเกริ่นไว้ว่าทางแย่... ซึ่งทางที่ไป ..ก็แย่จริงๆ สงสารก้แต่ลูกอ๊อด เพิ่งลากไปต่างจังหวัดแบบ non-stop มาแท้ๆ ต้องมาเจอทางที่กำลังก่อสร้าง เต็มไปด้วยหลุมบ่อ..
มารู้ทีหลัง ว่ามีทางเข้าทางวัดพันท้ายนรสิงห์อีกทาง อ้อมหน่อย แต่ดีกว่ากันเยอะ

ระหว่างทาง เปิดดูกระเป๋าสตางค์ ฉันมีติดตัวแค่สองร้อย
"คุณติดตัวมาเท่าไหร่"
"หกร้อยกว่าอ่ะ"
"แวะกดหน่อยดีไหม"
"รูดก็ได้มั้ง"

..เพราะคำว่ามั้งเนี่ยแหละ ทำให้ไม่สบายใจ เมื่อดั้นด้นไปจนถึงจุดขึ้นเรือไปร้าน สิ่งที่ถามเป็นสิ่งแรกคือ "รูดได้ไหม"
"ไม่ได้ค่ะ สัญญาณไม่ดี รับเฉพาะเงินสด"
...เราสองคนมองหน้ากัน ..อีกสามสิบนาทีเรือจะมารับ
"ค่าเรือเก้าสิบก็จะเหลือเจ็ดร้อย สองคนน่าจะพอนะ" อีกฝ่ายออกความเห็น เพราะตู้เอทีเอ็มที่ใกล้สุดห่างออกไปราวๆ 4 กม.แต่ทางแย่ ทำให้รู้สึกไม่อยากไป เราตัดสินใจนั่งรอเรือ..
สิบห้านาทีต่อมา ..มองหน้ากัน แล้วพยักหน้า
"ไปกดตังค์ดีกว่า"

พอกลับเข้ามา ปรากฏว่าเรือที่มารับเพิ่งออกไปได้ซักเดี๋ยว อีกลำยังตอบไม่ได้ว่าจะมาเมื่อไหร่ เพราะต้องรอให้มากกว่า10คนถึงจะมารับ ตอนนี้มีแค่สองคน

ไม่ถึงสองนาที เรือหางยาวลำเล็กมาส่งของที่ร้าน
"ลุง ฝากไปสองคนได้ป่ะ" เด็กที่ร้านลองหยั่งเชิงแบบแซวๆ
"ตกค้างเรอะ" คุณลุงหันมาถาม โต้ตอบกับเด็กที่ร้านสองสามประโยคก่อนจะหันมา"มะ เดี๋ยวจะไปส่งที่เรือ แป๊บเดียวก็ทัน"

น้ำสีเขียวจัดไม่เห็นพื้นทำให้เสียวได้พอสมควร สำหรับคนที่ว่ายน้ำโคตรจะไม่แข็งอย่างฉัน ไม่ต้องอธิบายต่อว่าเรือๆเล็กๆ ที่แล่นเร้วพอสมควร เลี้ยวทีเอียงวูปที เวลาเจอคลื่นจากเรือลำอื่นก็กระดอนตุบ ตุบ จะบันดาลความเสียวได้แค่ไหน..

"คุณกลัวเหรอ" ..คนที่มาด้วยถาม
"อื้อ" ฉันยิ้มแหยๆตอบ แต่ในใจคิด..แหกตาดูไม่รู้รึไงยะ เกร็งจนมือหงิกขนาดนี้แล้ว

ถ้าตัดเรื่องประสาทเสียกับเรือไปได้ นับว่าบรรยากาศดีเลยทีเดียว สองข้างทางเป็นป่าชายเลน(โกงกางหรืออะไรไม่ทราบได้ อิฉันไม่รู้จัก) ที่ปลูกเป็นแนวอยู่หลังรั้วซีเมนต์(เห็นเค้าเขียนแปะว่าไอ้รั้วนี้คือเขื่อน)
มองลอดเข้าไป (คาดว่า)มีทางให้เดินศึกษาธรรมชาติตามแนวป่าหลังรั้ว เพราะมีมีท่าน้ำยื่นออกมาเป็นระยะ นกแถวนั้นบินอวดความขาวไม่ขาดตา(ส่วนมากมันสีขาวน่ะ)

ซักพักก็ถึงร้านอาหาร ..ไม่ได้กลางทะเลอย่างที่คิด ตัวร้านยื่นเข้าไปในทะเล ฉันแอบเห็นราวไม้สองราวทอดยาวขนานกันเข้าไปในฝั่ง คือล่างมีท่อนนึง บนอีกท่อนนึง คิดวาน่าจะเป็นทางที่ชาวบ้านใช้เดินทาง

ร้านค่อนข้างกว้าง โต๊ะเป็นแคร่ไม้ไผ่หยาบๆตั้งอยู่บนยกพื้นฝั่งเดียวกันยาวออกไป มีเบาะผ้าวางรองให้นั่งกับพื้น เห็นแขกบางคนที่อยู่ก่อนนอนเอกเขนก บางคนหลับจริงจัง

ไกลออกไปกลางทะเล มีแท่นอะไรโผล่ขึ้นมากลางน้ำ ฉันชี้ถาม
"หลักเขตน่ะ" คนตอบตอบแค่นี้

บรรยากาศเข้าขั้นรื่นรมย์ อาหารแม้จะออกเค็มไปนิดสำหรับฉัน ไม่นับรวมที่โดยหัวตะปูที่ยื่นมาข่วนหัวเข่า แล้วก็เอาเท้าเปล่าแกว่งได้เสี้ยนปักมาเล่นๆ แต่ทั้งหมดก็ไม่มากพอจะทำลายบรรยากาศ

ฉันกับผู้ร่วมทาง ควักมือถือมาถ่ายรูปแลกกัน ก่อนที่อีกฝ่ายจะหลับไป ฉันหยิบเอาหนังสือออกมาอ่านเล่นฆ่าเวลา
พนักงานร้านเดินมาถามเป็นระยะ เวลาที่มีเรือเข้า ..เราตอบปฏิเสธไปเรื่อยๆ จนเริ่มเย็น คนที่ร้านเริ่มหนาตา และเพื่อนร่วมทางนอนอิ่มแล้วเราจึงกลับ

ระหว่างนั่งเรือ ชี้นกชมไม้กลับมา ทันไดนั้น สายตาฉันก้ไปปะทะกับสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ชนิตหนึ่ง
"มัน"นอนทอดตัวยาวเอกเขนกเหนือรั้วซีเมนต์ริมน้ำ อย่างไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ขนาดที่กะด้วยตา หัวจรดหางน่าจะราวๆสองเมตร
...ฉันแว้กๆ ชี้โบ๊ชี้เบ๊ นึกว่าจระเข้ คนขับเรือปรายตามองอย่างไม่สนใจ คนข้างตัวก็มีแค่"ตัวใหญ่ว่ะ".. เลยถึงบางอ้อ ว่าน่าจะเป็นอีกชนิดที่ไม่อาจขานนาม

อย่างไรก็ตาม ลืมเรื่องความคิดเดินศึกษาธรรมชาติได้ทันที
..และ ฉันก้มมองดูสายน้ำสีเขียวขุ่นด้วยท่าทางสยองหนักกว่าเดิม..


....ลืมบอกไป ..ค่าอาหาร 835บาท ...เกือบได้ล้างจานแล้วไหมล่ะ






...ขากลับ มานั่งแคะเสี้ยนออกจากเท้า...โคตรเจ็บเลยอ่ะ


Create Date : 11 ธันวาคม 2551
Last Update : 11 ธันวาคม 2551 21:26:15 น. 1 comments
Counter : 460 Pageviews.  
 
 
 
 
แหม อาร์ตตัวแม่ออกฤทธิ์ได้ใจจริงๆ
ในรูปมีความสุขมากมาย
 
 

โดย: Escobar วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:22:04:14 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

monsil
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




.. คนละคนกับที่เป็นนักเขียนนะคะ ..
[Add monsil's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com