แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
2 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

บทที่ 4 ผม(ชั้น)มันโง่


บทที่ 4 ผม(ชั้น)มันโง่


“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”


ชั้นแผดเสียงแปดหลอดลั่นห้องทำงานในโรงแรมหรูกลางเมืองพัทยา ขณะคุยโทรศัพท์ของเพื่อนเกย์ร่างถึกที่โทรมารายงานความเป็นไปในกลุ่มเพื่อนเกย์เร
“ผีปอบเข้าสิงแกรึไง ร้องซะแก้วหูฉันจะแตก”
“แหม ก็คนมันตื่นเต้น อูย ยุให้เอากันตั้งนานไม่ยอมสมสู่ ชิ พอเหนียงใกล้ยานเพื่อนเอกกับเพื่อนเก่งกลับมาเอากันเอง คริคริ”


“นั่น ออกแนวเม้าท์ร้าย ไอ้กอล์ฟสิ แฟนมันนะ หน้าตาน่ารักมาก หล่อใสๆแบบเทรนเกาหลีเลยล่ะ แมร่งโครตโชคดีเป็นบ้า”
“จริงดิ แกเจอแล้วหรือไง”
“ใช่ เจอแล้วเฟ้ย วันก่อนแวะไปหามันที่ข้าวสาร ดูเหมาะกันมากเลย จบวิดวะเหมือนกันด้วย คงมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกันล่ะ”


“เอ๊ะ แต่ขอโทษนะได้ข่าวว่า เดี๋ยวก่อนนะ ชั้นเอามือเคาะโต๊ะสามครั้งก่อนพูด”
“ป็อก ป็อก ป็อก”
“ไรของแกนี่ ถือเคล็ดไรอีกล่ะ”
“ก็คนเมืองเขาถือว่าถ้าจะพูดไรไม่ดี ให้เอามือเคาะสามครั้งก่อน แล้วสะบัดออกไปจากตัวเอง สิ่งที่เม้าท์ร้ายไว้จะได้ไม่เข้าตัวเองไง”


“จ้า แม่กะเทยเมจิก”
“คืองี้ถามๆมันไง มันบอกว่าเขาเป็นโปลิโอที่ขาอ่ะ เรื่องจริงป่ะ”
“เออ ใช่ แต่ถ้าไม่สังเกตไม่รู้หรอก เขาก็เดินค่อนข้างปกติ”

“เอ เป็นแต่ที่ขาใช่ไหม ที่อื่นคงไม่ลีบเล็กหรอกมั่ง ไม่งั้น
ไอ้กอล์ฟคงไม่เอาหรอกว่าไหม คริคริ”
“อีนี่ กูจะฟ้องไอ้กอล์ฟ”
“เชิญค่ะ แล้วแกล่ะ ว่างๆไม่กลับไปเยี่ยมลูกของแฟนเก่ามั่งหรือ ท้องตอนปีสองใช่ป่ะ ป่านนี้ก็เจ็ดขวบแล้วสิ กรีซซซซซซซซซซซซซ ขอใบจองไว้เลยสิ ไม่ได้พ่อก็เอาลูกมันเลย”


“ไมวกมาเรื่องนี้ว่ะ”
“แหม แตะไม่ได้เลยนะ ยังไม่ลืมเขาอีกหรือไง นี่ล่ะน้า พวกได้หน้าแล้วลืมหลัง ยิ่งพวกหลังบานๆเขายิ่งลืมง่าย อิอิอิ”
“แกนี่เป็นกะเทยที่น่าตบที่สุดเท่าที่ชั้นเคยคบมาเลยนะรู้ไหม ไม่เอาล่ะ เดี๋ยวไปทำข่าวต่อแล้ว พังแน่ตลาดหุ้นทรุดฮวบๆ”


“เอ่อ บายจ๊ะ”


นี่ก็เหมือนเดิมทุกทีไป พอชั้นถามเรื่องความรักของมันบ้างกลับรีบชิงวางสายไป เฮ้อ ก็คงยังมีแกคนเดียวนี่ล่ะมั้งชาย ที่ยังโสดเหมือนชั้น โสดมาแต่อดีต ถูกหลอกมาถึงปัจจุบันและจะเป็นอีโง่ต่อไปอีกในอนาคต
ตั้งแต่ลืมตาออกมาดูโลกสีชมพู ชั้นก็รู้ว่าชั้นไม่ใช่คนธรรมดา ชั้นมีชื่อกิ๊บเก๋ว่า เจ็ท ชื่อล้ำไปออกแนวภาษาอังกฤษทั้งๆที่ชั้นเป็นกระเทยล้านนา เกิดที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา อย่าโกรธคุณแม่ชั้นเลยที่ท่านอาจหัวก้าวหน้าไปนิดส์สสส ที่บังเอิญตอนคลอดชั้น ท่านกำลังเช็ดพื้น คำ
เมืองเปิ้นฮ้อง เจ้ดปื้น อิอิ ชั้นก็เลยได้ชื่อว่า เจ้ด พอเข้ามา


ในเมือง เพื่อความทันสมัยแบบกระเทยไอที ชั้นเลยเปลี่ยนเป็น เจ็ท เพื่อความเนียนงามดั่งวงหน้าขาวๆของชั้น แต่ไม่วายชื่อชั้นคงสั้นไป เพราะเพื่อนๆชอบเติมศักดินานำหน้าให้ว่า “อีเจ็ท” ตลอดเลย


สมัยตอนเด็กชั้นก็เกิดมาเปรี้ยวจี๊ด จำได้ว่าเจอชุดกระโปรงของพี่สาวชั้นก็แต่งหน้าทำผมออกมาเดินนวยนาดเช็ดถูบ้าน สร้างความประหลาดใจปนความอับอายให้กับพ่อแม่พี่น้องเป็นอย่างยิ่ง แต่แค่นั้นยังไม่พอ ชั้นเริ่มเลียนแบบความเป็นหญิงจากสองศรีพี่สาวมาเรื่อยๆ ความช่างประดิษฐ์ประดอย รักสวยรักงาม พี่ทำไร แม่เป็นแบบไหนชั้นเอาเยี่ยงหมด ส่วนพ่อก็ได้แต่ส่ายหัว ก่อนจะยอมรับด้วยอาการงงๆว่าตกลงบ้านนี้มีสามสาวสามใบเถา


ถึงชั้นจะเป็นกระเทยบ้านนอก แต่ชั้นก็มีเชื้อความใฝ่ดี จะด้วยเพราะถูกล้อจากเพื่อนๆมากกระมั้งที่ทำให้ชั้นอยากเอาชนะทุกคน วิธีการที่ชั้นใช้นั่นก็คือเรียนให้เก่งมากที่สุด โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ เพราะรู้ๆกันว่าเด็กบ้านนามักโง่อิ้ง พอชั้นสามารถเรื่องเรียนผู้ชายทุกคนก็ต้องย่อมมาสิโรราบยอมเป็นข้ารับใช้ เห็นไหมแผนการณ์ของชั้นสูงส่งแค่ไหน



ตอนมอต้น ชั้นได้รับการคัดเลือกจากโรงเรียนให้เข้าไปแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษที่โรงเรียนในจังหวัด ซึ่งก็เหมือนเป็นการประกาศว่าช้างเผือกตัวจริงอยู่ในป่า ชั้นกวาดรางวัลชนะเลิศมาครอง ทำให้พวกโรงเรียนในเมืองที่มีซิสเตอร์ฝรั่งคอยสอนค้อนขวับให้หลายตลบ


พอเวลาผ่านไป ชั้นก็ทำเรื่องให้ชาวบ้านได้อึ้งกันอีกครั้ง เมื่อชั้นกลายเป็นเด็ก(กะเทย)คนแรกของหมู่บ้านที่สอบติดโควต้าเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลในตัวเมืองเชียงใหม่ สร้างชื่อเสียงเกียรติคุณให้กับครอบครัวของชั้นเป็นอย่างยิ่ง พ่อยอมรับชั้นอย่างเต็มใจ ส่วนแม่นั้นก็ภูมิใจที่ลูกสาวคนสุดท้องเป็นสาวมั่นมากความสามารถ คิดถึง

บ้านขึ้นมาทีไรก็อดใจหายไม่ได้ นี่ก็นานมากแล้วนะที่ชั้นไม่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่เลย มัวแต่มาหลงระเริงกามกะเด็กผู้ชายอยู่ในเมืองท่องเที่ยวริมหาดแห่งนี้
คิดไปแล้วเศร้า เวลาบ่ายๆอย่างนี้แสนง่วงนอน แอบเล่นเนทดีกว่า ชั้นรีบปรีเข้าเวปไซต์ที่คุ้นเคย ชิ รัฐบาลเต่า ต่อให้กวาดล้างบล็อกเวปแค่ไหน ชั้นก็หาวิธีการเข้าได้อยู่ดี เสียงเพลงในจังหวะแดนซ์ดั่งกระหึ่มออกมาจากลำโพง ชั้นรีบกดปิดเสียงแทบไม่ทัน ไม่วายสายตาของชะนีเลขาจ้องมาจิกเข้าเต็มตา


“ทำอะไรหรือคะ คุณเจ็ท”
“เปิดเพลงผิดอ่ะ ไม่มีไร อิอิ” ฉันแกล้งยิ้มกลบเกลื่อนไป ก่อนรีบเอาหูฟังเข้ามาสวมที่หู อยู่ในโลกส่วนตัวของชั้นแล้ว
“เอ้า เข้ามากันแล้วก็โชว์กันหน่อย นิดๆหน่อย พอเป็นน้ำจิ้ม เข้าไปข้างในมีไรดีๆอีกเพี๊ยบ” นั่นดีเจเชิญชวน แต่


ตอนนี้ชั้นอยู่ที่ทำงานจะให้ชั้นมาแก้ผ้าต่อหน้าคอมฯก็คงไม่ไหว เอาไงดีล่ะ อยากเข้าไปดูก็อยาก
“ลังเลรีรอ ไม่มั่นใจ ไปไกลๆตีนเลย” กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดถูกด่าเลยชั้น ชิ ไม่ดูก็ได้ หึ ไว้กลับห้องก่อนเถอะ ชั้นจะไปโชว์ลีลานางแมวยั่วสวาทเอาให้อึ้งทึ่งเสียวกันไปทั้งห้องเลย ชิ



ลมทะเลพัดแรงๆเข้ามาตรงช่องหน้าต่าง อาบเอากลิ่นความเค็มของน้ำโชยเข้ามาด้วย อากาศแสนบริสุทธิ์ ชั้นแอบออกไปยืนตรงหน้าต่างเหม่อมองไปยังขอบฟ้าที่กว้างไกลสุดสายตา คนภูเขาอย่างชั้นฝันอยากเห็นขอบฟ้าแสนไกลที่ไร้สิ่งใดกั้นให้อึดอัด ส่วนลูกทะเลก็คงอยากมองภูเขาเขียวๆท่ามกลางทะเลหมอก มองขอบฟ้าที่มีจุดสิ้นสุดไม่อ้างว้างอย่างอย่างท้องทะเล


ฝรั่งเป้าตุงนอนแผ่สองสลึงอยู่ที่เตียงข้างสระน้ำ ชั้นแอบกลืนน้ำลายเอือกๆเมื่อมองเห็นน้ำส้มแก้วโตที่พนักงานกำลังเดินไปเสริ์ฟ อยากกินทั้งสองอย่างพร้อมกัน คริคริ คิดแล้วก็ขนลุก รีบกลับมาสงบสติอารมณ์ที่โต๊ะ นี่หละชั้น คิดเรื่องดีงามได้แค่ 30 วิ นอกนั้นเรื่องจู๋ล้วนๆ คิดแต่เรื่องนี้ จนกลายเป็นจุดอ่อนที่น่าสมเพชของตัวชั้นเองตั้งเป็นสาวจี๋จนบัดนี้เริ่มเป็นสาวเฒ่า


ยิ่งถ้าพูดถึงเรื่องความรักแล้ว ชั้นน่ะบัดซบที่สุดในกลุ่ม แค่การสารภาพรักครั้งในชีวิตของชั้นกับคนที่แอบชอบมานานก็ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย
“เรารักโอเลย์นะ” จู่ๆชั้นก็พูดขึ้นมาในคืนดูฝนดาวตกที่ดาดฟ้าของหอพัก ท่ามกลางแสงดาววิ่งผ่านฟากฟ้าดั่งจะพุ่งชนดอยสุเทพ ชั้นจ้องมองหน้าของชายหนุ่มที่ชั้นหลงรักเขามาตลอด 3 ปี ตั้งแต่เริ่มรับน้อง เขายังเงียบไม่พูดอะไรสักคำ ทิ้งให้ชั้นเป็นอีบ้า หน้าเริ่มชา ก่อนที่เขาจะเดินช้าๆลงไปจากดาดฟ้า ทิ้งไว้เพียงคำพูดว่า “ผู้ชายกับผู้ชายจะมารักกันได้ไง เราว่าเจ็ทควรไปหาจิตแพทย์”


จากนั้นในใจของชั้นก็เหมือนถูกอุกกาบาตพุ่งเข้าชน น้ำตาไหลเหมือนหอยทากถูกโยนเข้ากองไฟ ก่อนที่แสงของฝนดาวตกห่าสุดท้ายจะมอดดับลง ชั้นก็วิ่งกระแซะๆดั่งนางเอกมิวสิคค่ายอาร์เอสลงมาชั้นล่าง ตรงดิ่งเข้าไปที่ห้องของชาย แล้วจากนั้นเสียงร้องไห้จากหัวใจอันชอกช้ำก็ดังครวญครางแข่งกะเสียงชะนีโหยหวนจากสวนสัตว์เชียงใหม่ ท่าทางจะบรรเลงเสียงอันแสนสยองมาก จนแม่บ้านหอพัก มาเชิญให้ออกไปสงบสติอารมณ์ ก่อนที่ชายจะพาชั้นไปขี่รถรอบๆเมืองเชียงใหม่



รถเครื่องวิ่งช้าๆไปในอ้อมกอดของไอหมอก ชั้นกอดชายไว้แน่น น้ำตาไหลลงอาบที่ไหล่ของเพื่อน ตอนนั้นชั้นเหมือนคนบ้า นั่งร้องไห้ แต่พอถึงไฟแดง เจอกะเทยหัวโปกสองนางคงเพิ่งกลับจากเที่ยว ชั้นกลับด่าน้องเขาอย่างเสียสติ จนชายต้องรีบบึ่งรถหนี เป็นทำไมกะเทย ทำไมชั้นต้องเป็นแบบนี้ ชั้นตะโกนไปตามท้องถนน จนไปถึงข่วงประตูท่าแพ นรกก็มาเยือน


“อีบ้า อีกระเทยชั้นต่ำ อีวอก” ชั้นแผดเสียงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเห็นกระเทยหลายนางยืนเรียงรายกันตามเสาไฟฟ้า คอยกวักมือเรียกแขก
“อีนี่ มึงอยากตายหรือไง”
“พวกเราตบมัน”
“แน่จริงมึงอย่าหนีสิ อีกะเทยชั้นต่ำ”


จากนั้นคล้ายๆเหมือนมีรองเท้าปลิวว่อนตามหลังชั้นมา ชายบิดรถหนีสุดชีวิต ก่อนไปจอดดับเครื่องลงที่ร้านไก่โลกแตกที่ชั้นชอบมากินประจำ

ไก่ 2 หมู 1 ไส้ 2 น้ำพริกหนุ่ม 2 ข้าวนึ่ง 2 ชั้นมองอาหารอยู่อย่างเงียบ น้ำตาไม่มีแล้ว มีแต่ความหิว ร้องไห้จนหิว
“เออๆๆๆ....ดีแล้ว กินๆมันเข้าไป เฮ้อๆ ถึงอกหักไงก็ต้องอยู่ให้ได้ เป็นกระเทยต้องอดทน ไม่มีอะไรที่กระเทยทำไม่ได้ จำได้ไหมที่กระเทยรุ่นพี่เคยบอกเราตอนรับน้องหอพัก แกต้องผ่านมันไปให้ได้นะ” ชายพูดปลอบในขณะที่ชั้นไม่พูดอะไรเลย เพราะไส้เต็มปาก


“ชั้นมันโง่ ชาย ชั้นมันเป็นอีโง่ ดูสิ ชั้นรักมันแค่ไหน ทุ่มเทให้ทุกอย่าง รายงานก็ทำให้ หิวก็ออกมาซื้อไก่ไปให้กิน พอบอกรัก มันกลับว่าชั้นเป็นคนโรคจิต” ชั้นเริ่มครวญอีกครั้ง ทำให้หลายโต๊ะเริ่มพุ่งความสนใจ
“เออ....ฉันเข้าใจแกนะ ฉันก็เคยอกหัก”
“ไม่เหมือนกัน แกไม่เคยรักใครขนาดชั้น”


“เออ....แต่มันก็เหมือนกันล่ะเจ็ท รักที่ไม่สมหวังมันก็เหมือนชีวิตที่ล้มเหลว เวลาเจ็บคนทุกคนย่อมเหมือนกัน ความรู้สึกมันคงไม่ต่างกันหรอก”
“แต่แกเข้มแข็งกว่าชั้น แกมันควายกว่าชั้น”
“เออ....เอ๊ะ...อีนี่ว่ากู”
“เออ...ล้อเล่น ถ้าชั้นไม่มีแกในคืนนี้ชั้นคงเป็นบ้ามากกว่านี้
นะ ว่าไหม”


“อืม ก็เพื่อนกันนะ ยังไงก็ไหวอยู่แล้ว”

“ไง ได้ข่าวว่าถูกหักอกหรือเจ็ท”
“มาได้ไงกอล์ฟ ฉันอุตส่าอยากปิดเงียบ”
“แหม เรื่องเลวร้ายขนาดนี้กะไม่บอกเพื่อนๆเลยหรือไง นั่นมันหมูติดปาก โห มากินไก่โลกแตกทั้งทีไม่ยอมชวนเลยน้อยใจแล้วนะ”


“บ้าน่าเอก คนกำลังอกหักนะ แกช่วยกันบิ้วอารมณ์ร่วมหน่อยสิ”
“ไม่เอา ไม่ไหว ไม่อยากเห็นเจ็ทเศร้านะ เพราะเจ็ทคือเสียงหัวเราะของพวกเรานะ รู้ไหม”
“เก่งก็พูดซะเว่อร์เลย มาๆกินกัน กินไก่ไล่ผู้ชาย กินหมูสู้ต่อไป เป็นกระเทยไม่สวยยังเป็นได้ ก็ต้องทนอกหักได้นะ ว่าไหมเพื่อนๆ ฮือๆๆ”
“อย่าร้องสิ อีเจ็ทกูอายโต๊ะอื่น”


หลังจากเรื่องเมื่อคืนนั้น ชั้นก็แทบมองหน้ากะเขาไม่ติด เวลาเรียนเขานั่งแถวบน ชั้นก็ไปแถวล่าง ชั้นชอบทำตัวร่าเริงเกินสนุกสนานเกินกว่าเหตุเพื่อประชดเขา แถมยังไปอี๋อ๋อกะเพื่อนๆผู้ชายของเขาด้วย เพื่อความสะใจ แต่ยิ่งทำชั้นเองต่างหากที่ยิ่งเจ็บ เพื่อนสนิทของชั้น ทั้งเอก เก่ง กอล์ฟ ชาย พลอยเกลียดขี้หน้าหมอนี่ไปด้วย เมื่อได้รู้เรื่องราวทั้งหมด


“แกยังไม่ลืมมันอีกหรือไง ทำไมต้องไปมองมันแบบนั้นด้วย โธ่ คงนึกว่าหล่อ เดี๋ยวมันก็ภูมิใจจนจุกอกตายหรอก”
“ใช่ชาย ฉันเห็นด้วย หน้าเหมือนเขียดตอนถูกย่าง ลืมมันซะ เดี๋ยวติดต่อเพื่อนวิดวะให้”
“จริงๆนะกอล์ฟ แกอย่าหลอกชั้นนะ เผื่อชั้นได้เกียร์ห้อยคอมั่ง”


“เอาไปทำไมเกียร์ ใส่แล้วเหมือนหมา”
“เอ๊ะ มึงกำลังลบหลู่คณะฯกูนะไอ้ชาย”
“ทำไมล่ะ แหม ว่าไรไม่ได้เลย เลือดหมูนี่เข้มเชียวนะ หึ”
“สรุปพวกแกกำลังปลอบชั้นหรือกัดกันเอง ฮึ”
ชั้นแทบอยากให้ชั่วโมงเรียนคาบนี้หมดไปไวๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าผ่านสอบมิดเทอมมาจนไม่สามารถดร็อปวิชานี้ได้แล้ว ชั้นคงหนีไม่ยอมเรียนไปแล้วแน่ๆ ยังดีที่ชายกับกอล์ฟมาลงเรียนเอาเกรดด้วย จึงช่วยลากชั้นให้ยอมมาเรียนด้วยกันได้


“นี่แกไม่รู้อะไร ตอนนี้มันไอ้โอเล่ย์นะ มันไปจีบเพื่อนฉันด้วย”
“จริงดิ แกรู้ได้ไง”
“มันไปรอตอนดึกๆทุกคืนเลย ช่วงนี้พวกฉันทำละครขยับปีกไง เห็นมันไปรับไปส่งกันตลอด จะเอาไงดี ไม่ชอบหน้ามันเลย”


“แกล้งปล่อยข่าวไปเลยดิ แกเรียนอยู่แล้วนิ ให้เขาลือว่ามันเป็นเกย์ ให้เพื่อนแกระแวงอย่าให้มันอยู่อย่างสงบสุข”
“เอางั้นเลยหรือกอล์ฟ แกนี่มันชั่วจริงๆ”
“พอๆกันเลยทั้งคู่ ขอบใจมากในความหวังดี แต่อย่าไปทำอะไรเขาเลย แค่นี้ชั้นก็แทบจะมองหน้าเขาไม่ติดอยู่แล้ว ยังไงก็เคยเป็นเพื่อนกัน วันข้างหน้าก็ยังคงต้องพบเจอกันอีก อย่าให้มีเรื่องบาดหมางใจกันไปมากกว่านี้เลย”


“เจ้า แม่นางเอกแสนดี ใจอ่อนซะอย่างนี้ หัดเข้มแข็งเสียบ้างนะ จะได้ไม่เสียรู้ผู้ชาย”
ชายพูดด้วยสีหน้าชวนเอาเรื่อง ทำให้กอล์ฟพลอยเงียบลงไปด้วย บ่อยครั้งที่ชั้นแอบมองเขา ก่อนที่สายตาที่คุ้นเคยคู่นั้นจะหันมามองตอบ พร้อมด้วยแววตาสื่อความหมายมากมายที่อยากพูด แต่จะให้ชั้นทำอย่างไรดี แค่คำว่า “รัก” มันทำให้เราทั้งสองคนต้องมาเกลียดกันเลยหรือ ความรักเป็นสิ่งสวยงามไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้การสารภาพรักครั้งแรกของชั้น มันจึงมีผลลัพท์ออกมาในรูปแบบนี้


ตุ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ภายในดังมาถี่ๆ ทำให้ชั้นตื่นจากการนึกถึงวัน เก่าๆ ชั้นกดรับ
“คุณเจ็ทค่ะ มีแขกมาขอพบค่ะ”
“เป็นใครรึ” ชั้นทำเสียงดุดั่งนางพญาผมขาว
“เด็กผู้ชายค่ะ บอกว่าชื่อบอย เรียนเทคนิค เขาบอกว่าให้ข้อมูลแค่นี้ คุณเจ็ทจะรู้เองและจะรีบแจ้น ออกไปหาเขาที่ล็อบบี้โรงแรมแน่นอนค่ะ” กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ชั้นกรีดร้องในใจ พยายามควบคุมสติอารมณ์ก่อนออกห้อง ผ่านหน้าโต๊ะเลขา ชั้นแจกยิ้มสยองที่มุมปากให้หล่อน 1 ที



“อ้าว หวัดดีเพ่ ไม่เจอกันตั้งนาน สวยขึ้นนะนี่” ชั้นรีบปรี่เข้าไปจับที่ต้นแขน
“มานี่ ไปคุยกันที่อื่น” ชั้นอาศัยห้องพักพนักงานเป็นที่ส่วนตัว
“โห....จะขังผมไว้ที่นี่หรือพี่”
“มาทำไมอีก หายหัวไปตั้งนาน พี่นึกว่าแกตายแล้วซะอีก”
“ผมมีปัญหานิดหน่อย พอดีที่บ้าน...”


“หยุด ไม่ต้องมาตอแหลพี่อีก พี่ไม่เชื่อแกอีกแล้ว กลับไปซะ อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีก แค่นี้ พี่ก็ทุกข์ใจมากพอแล้ว กับความรักจอมปลอมของแก”
“พี่คราบบ ผมรักพี่นะครับ พี่เห็นใจผมหน่อย ไหนพี่บอกว่าจะดูแลผมอย่างดีไงครับ พี่ลืมไปแล้วหรือครับ ว่าเราเคยมีความสุขด้วยกันแค่ไหน พี่จะทิ้งผมจริงๆหรือครับ” บอยพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า พลางเดินเข้ามาโอบกอดชั้นไว้ ความรู้สึกอบอุ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่าง


“ไม่ ไม่ มันไม่มีอีกแล้วบอย พี่จะไม่ยอมกลับไปยืนตรงจุดนั้นอีกแล้ว กว่าพี่จะผ่านมันมาได้ พี่ต้องเสียใจแค่ไหน ต้องร้องไห้กี่ครั้ง บอยไม่เคยเห็นหรอกว่าพี่ต้องช้ำแค่ไหน”
“บอยรู้ครับ บอยถึงอยากให้พี่ให้โอกาสบอยอีกสักครั้ง ให้บอยได้กลับมาเริ่มต้นใหม่กับพี่อีก บอยจะไม่หนีไปไหนอีกแล้วครับพี่ บอยสัญญา”

“ไม่ก็คือไม่”
“พี่เจ็ท ผมรักพี่จริงๆนะครับ ถ้าผมทำอะไรผิดไป แล้วพี่ให้อภัยผมไม่ได้ ผมถือโอกาสมาขอโทษพี่ก่อนจากพี่ไปล่ะกันครับ ขอบคุณมากครับที่พี่ดูแลผมอย่างดีตลอดมา ผมมันเลวเอง”

“บอย”

“พี่เจ็ท ขอโอกาสผมอีกสักครั้งเถอะนะครับ ผมสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของพี่ จะเชื่อฟังพี่ทุกอย่าง นะครับพี่ ชีวิตผมไม่เหลือใครอีกแล้วนอกจากพี่คนเดียว”
“ไม่”
“จะต้องให้ผมพิสูจน์ตัวยัไง ผมยอมทุกอย่างครับ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะครับ ผมคิดถึงพี่ตลอดเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยครับ นึกเสียว่าสงสารผมเถอะนะครับพี่เจ็ทคนดีที่สุดในโลกของชีวิตผม”

“จริงเปล่านี่” ชั้นตอบไปพลางนึกด่าตัวเอง โธ่...ทำไมชั้นเป็นคนแบบนี้ พอตอนมันหนีไปจากชั้นก็ช้ำเสียจนเหมือนคนบ้า โกรธจนคิดว่าชาตินี้จะไม่เจอกันอีกแล้ว แต่พอเขามายืนอยู่ตรงหน้าพูดจาหวานๆไม่กี่คำชั้นก็ลืมทุกอย่างจนหมด

“พี่ครับ งั้นผมกลับห้องก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่เลิกงานแล้วรีบกลับนะครับ ผมจะรอทานข้าวด้วย ขอกุญแจพี่ด้วยครับ”
“รอพี่นะ 5 โมงเย็นไปกินข้าวด้วยกัน”
“รักพี่จังเลยครับ”บอยจับมือชั้นไปจุมพิตเบาๆ คล้อยหลังบอยเดินออกไปชั้นก็เดินตัวปลิวกลับห้องทำงาน ผ่านชะนีเลขาหน้าห้อง หล่อนทำหน้างงๆกับอาการกระเทยลิงโลดของชั้น พอถึงห้องก็รับกดมือถือส่งเสียงไปหาชายทันที


“หวัดดีเจ้า ว่างอยู่ก่อ”
“เออ...ว่าง ตอนนี้ตลาดหุ้นปิดอยู่จะเปิดอีกทีบ่ายๆ มีไรรึ น้ำเสียงระรื่นเหมือนพระโคได้กินหญ้ามา”
“5555555 จะโทรมาบอกว่า ดวงความรักชั้นก็ไม่ได้เลวร้ายไรมากมายนะ น้องบอยกลับมาหาชั้นแล้ว”
“อะไรนะ กลับมาอีกแล้ว แก....นี่คราวก่อนที่มันหลอกเอาเงินแกไปเสียค่าเทอม หลอกว่าพ่อป่วย แม่ตาย บ้านไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เฮ้ย ไม่ใช่ น้ำท่วม แกยังไม่เข็ดอีกหรือ”


“เอาน่า ยังไงชั้นก็รักมัน ชั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ชั้นมันคนอ่อนแอไง แกก็รู้”
“เฮ้อ...ฉันไม่รู้จะบอกจะเตือนแกยังไงดีนะ เตือนไปกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ต่อไปฉันจะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีกแล้ว”
“เอ๊ะ ทำไมแกพูดแบบนี้ เป็นเพื่อนกันหรือเปล่า”
“เพราะเป็นเพื่อนแกไง ฉันถึงไม่อยากเห็นเพื่อนโง่อยู่ได้ แค่นี้นะ”


“โกรธเหรอ อืมๆก็ได้ ฉันจะพยายามดูแลตัวฉันเองล่ะกัน หึหึ ให้มันรู้ไปว่าเพื่อนมันจะทิ้งกันก็ตามใจ” ชั้นกดวางแล้วหลับตาลง นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชั้นเชื่อมั่น ขอให้ลูกช้างสมหวังในเรื่องความรักสักครั้งเถอะเจ้าประคู้นนนนนน แต่เอ๊ะ ขอขมาลาโทษด้วยนะเจ้า ชั้นรีบถอนคำขอ เมื่อนึกถึงคำพูดตอนเรียนของชายขึ้นมาได้


“ไหว้ครูบาว์เมื่อกี้แกขอพรอะไรหรือ”
“ขอเรื่องความรักล่ะ”
“นี่ รีบถอนคำขอเลยนะ เขาห้ามขอเรื่องนี้รู้ไหม”
“อ้าว ทำไมล่ะ ก็คนมันไม่สมหวังเรื่องนี้เรื่องเดียวนี่นา เรื่องอื่นๆก็ดีหมด เรียนก็เกียรตินิยมเหรียญทอง”

“พอๆรู้แล้วว่าเก่ง พี่กระเทยที่คณะฯบอกตอนวันรับน้องขึ้นดอยไง ว่าครูบาว์ศรีวิชัย ท่านเป็นพระสงฆ์ ท่านละซึ่งกิเลศแล้ว ฉะนั้นห้ามพวกเกย์ กระเทย ทุกนาง ขอเรื่องความรักเด็ดขาด เพราะนอกจากไม่ได้แล้วยังจะโดนสาป”
“ขนาดนั้นเลยหรือ”

“อื้ม เชื่อป่าวล่ะ”
“เออๆก็ได้ ไม่อยากเสี่ยง แล้วจะทำไงดีล่ะ ชั้นไม่ได้หน้าตาดีเหมือนไอ้กอล์ฟนี่ จะได้มีแต่คนมาชอบ”
“เอาน่า ถ้ามีคนใครสักคนมามองเห็นความงามที่ซ่อนอยู่ลึกๆมากของแก เขาก็คงรักแกเองล่ะ”
“เอ๊ะ ยังไง เหมือนจะพูดดีนะ”

เพื่อนนะเพื่อน ไม่ว่าเพื่อนจะเป็นยังไง พวกแกก็ยังยอมรับในสิ่งที่ชั้นเป็นได้ ชั้นล่ะละลายใจกับพวกแกจริงๆเลย แต่ทำไงได้ ตอนนี้หัวใจของชั้นมันเต็มไปด้วยพลังแห่งรัก ร้าย มันมีพลัง พร้อมจะให้ชั้นทำอะไรได้ทุกๆอย่าง นั่นขอก็อปเพลงร็อกตอนเด็กๆเป็นนางแมวยั่วสวาทมาซะหน่อย อิอิ


จากวันนั้น โลกของชั้นก็เป็นสีชมพู ชั้นมาทำงานด้วยความร่าเริง จนเพื่อนร่วมงานสงสัย มีแต่ชะนีสู่รู้เลขาของชั้นเองที่รู้ความจริงว่า ชั้นกลับมาหวามหวานๆกะส๊ะมีอีกครั้ง เวลาคนมีความรัก โลกนี้ทั้งโลกก็เหมือนมีแต่เราเพียงสองคน ชั้นไม่แปลกใจเลยที่เขาว่า เวลารักกันชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ แต่บอยมันไม่ใช่แค่ชี้นกชี้ไม้น่ะสิ


“พี่ครับ ขอค่าเทอมด้วยครับ พรุ่งนี้บอยต้องลงทะเบียนแล้ว เงินที่บอยขอพี่นี้ บอยไม่ได้เอาเฉยๆนะครับ บอยขอยืมก่อน พอบอยเรียนจบ บอยทำงานมีรายได้แล้ว บอยจะคืนพี่ ถึงตอนนั้นบอยจะดูแลพี่เองครับ”

“พี่ครับ บอยอยากได้มือถือใหม่ เอารุ่นนี้นะครับ เอาที่มีกล้องความละเอียด 2 ล้าน บอยจะได้ถ่ายภาพพี่แล้วเซทเป็นหน้าวอเปเป้อ เวลาไปไหนมาไหนพี่จะได้อยู่ใกล้ๆบอยเสมอไงครับ”

“พี่ครับ น้ำหอมกลิ่นนี้หอมจัง พี่ซื้อให้ผมหน่อยดิ ผมอยากให้มันเป็นกลิ่นประจำตัว เวลาพี่เหนื่อยๆมาจากที่ทำงานแล้วมากอดผมจะได้หอมสดชื่นไงครับ”

“พี่ครับนาฬิการเรือนนี้สวยจังครับ ผมอยากได้มั่งจัง เวลาไปสอบทีไรเจอห้องไม่มีนาฬิกาแขวนไว้ให้ ผมงี้บริหารเวลาไม่เป็น ทำข้อสอบไม่ทันทุกที นะพี่นะ”

“พี่ครับ เสื้อตัวนี้สวยจังครับ ผมอยากได้ ถ้าใส่เสื้อตัวนี้แล้ว เวลาผมเดินควงพี่ไปไหนมาไหน ทุกคนคงอิจฉาพี่แน่ๆที่มีแฟนหล่อ แถมแต่งตัวดีอีก”


เคลิ้มเจ้า รู๊ด ปรี๊ด รู๊ด ปรี๊ด จากนั้นก็มีเสื้อผ้าอาภรณ์ ทุกๆสิ่งที่บอยอยากได้ รวมถึงเงินรายเดือนที่บอยไม่ต้องมีบัตรเอทีเอ็ม แค่แบมือมาก็สมารถกดเงินสดจากชั้นได้เสมอ
พอแฟนกลับมา เพื่อนๆก็เหมือนหายไปจากชีวิตชั้นหมดเลย เอ๊ะ...หรือชั้นเองที่หายไป พอโทรไปหาชาย มันก็ไม่ยอมรับสาย จะโทรไปหาเอกกะเก่งก็อยู่บนดอยไร้
สัญญาณมือถือ คงมีแต่กอล์ฟที่พอจะติดต่อได้ แต่อาการก็คงอินเลิฟแบบเดียวกะชั้นทำให้ไม่ค่อยรับสายใครเลย โทรหาแฟนดีกว่า


กด กด กด ไม่รับ กดอีก กดอีก ก็ยังเงียบ เอ๊ะ..ยังไง เวลานี้น่าจะกลับได้แล้วนี่นา โทรไปไม่รับ ไม่โทรกลับ กดวางสาย มันหมายความว่าไง ชั้นเริ่มคุ้มคลั่ง


ตี 2 บอยในสภาพเมามาย พยุงร่างกายตัวเองมาซบอยู่ประตูหน้าห้อง ชั้นรีบออกไปพยุงบอยเข้ามา กลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั่วห้อง ชั้นจับแก้ผ้าออกยังกะลูกลิง แล้วเช็ดตัวให้ ชายคนที่ชั้นรักและทุ่มเทหัวใจให้นอนเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้า วัยที่กำลังโตเป็นหนุ่มเต็มที่ทำให้แม้ยามนอนกล้ามท้องก็ขึ้นเป็นลอนสวย วงหน้าเข้ม ไรเคราเขียวอ่อน ริมฝีปากที่อวบอิ่มที่เคยจูบอย่างดูดดื่มยามนี้ไม่สามารถระงับความโกรธในใจของชั้นได้อีกล้ว


ชั้นพยายามเรียกสติบอยให้ลุกขึ้นมาคุยกัน แต่บอยกลับหลับไป ชั้นทั้งทุบทั้งตบตีสารพัดก็ไม่มีวี่แววว่าบอยจะตื่น จึงตัดสินใจเลิกแล้วมาเก็บกวาดห้องต่อ ก่อนหันไปหยิบมือถือของบอยมาดู ภาพแรกที่ชั้นเห็น มันไม่ใช่หน้าชั้นซะหน่อย ชั้นเป็นกระเทยผมสั้น แต่ที่เห็นในรูปมันชะนีผมยาว ชั้นหน้าหวาน อีในรูปหน้าเน่า กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดชั้นเริ่มเสียสติ กระโจนขึ้นเตียงไปขย้ำๆบอย


“นี่มัน รูปใครบอกมานะ”
“อือ หือ อือ” สภาพบอยตอนนี้คงไม่สามารถคุยได้จริงๆชั้นตบที่หน้าหลายครั้งก็ยังไม่ดีขึ้น จนชั้นหมดแรง ทิ้งตัวลงนอนข้างๆน้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้ม เวลานี้โลกของชั้นไม่มีใครอีกแล้ว มันหยุดนิ่ง เงียบ จนอยากจะไปจากที่ตรงนี้ อีกแล้วหรือนี่ อีกครั้งแล้วที่ชั้นถูกความรักทำร้าย ชาตินี้ชั้นจะไม่สมหวังกับเขาบ้างเลยหรือไง



ชั้นยังนอนมองบอยอยู่เงียบๆ เรือนร่างของเขาอยู่ข้างๆชั้นนี่เอง แต่ทำไมเวลานี้ชั้นกลับไม่รู้สึกรักผู้ชายคนนี้อีกแล้ว หรือว่าเพราะชั้นเจ็บจนใจมันไม่อาจทานทนได้อีกต่อไป ชั้นพยุงร่างกายและจิตใจอันช้ำๆของชั้นลุกขึ้น กดมือถืออีกครั้งในเวลาตี 2 กว่าๆ ชั้นหวังว่าจะมีเพื่อนสักคนรับสายในวันที่ความรักของชั้นล้มเหลวลงอีกครั้ง


ชะนีเลขาปิดมือถือ กอล์ฟไม่รับสาย ชั้นกดเมสเสสอย่างละอายใจถ่ายทอดความทุกข์ไปให้เพื่อนๆ ในยามนี้ชั้นไม่เหลือใครอีกแล้ว ตอนนี้ชายก็คงกำลังโกรธชั้นอยู่ที่ชั้นรั้นไม่ยอมฟังคำตักเตือนของมัน แต่จะให้ชั้นทำอย่างไรได้ ชั้นจะผ่านคืนนี้ไปคนเดียวได้อย่างไร เพราะชั้นมันคนอ่อนแอ ชั้นไม่อาจเรียกร้องให้เพื่อนๆมาอยู่กับชั้นมาปลอบชั้นเหมือนคืนที่ไปกินไก่ด้วยกันได้อีกแล้ว ยิ่งคิดชั้นก็ยิ่งเศร้าน้ำตาก็ไหลลงมาจนชั้นแทบจะกลายเป็นคนบ้า ชั้นรวบรวมความกล้า ทั้งๆที่รู้ว่าชายกำลังโกรธชั้นอยู่กดโทรไปหาเพื่อนของชั้น


“ตื้ด ตื้ด ตื้ด” ดังสม่ำเสมอ ไม่รับสาย ชั้นวางโทรศัพท์ลงอย่างสิ้นหวัง ชั้นคงไม่เหลือใครสักคน ทำไมชีวิตชั้นต้องเป็นแบบนี้ด้วย ชั้นนั่งเงียบมองเข็มนาฬิกาที่ค่อยๆเคลื่อนผ่านหน้าปัดไปอย่างเชื่องช้า


จนเกือบตี 3 ชั้นตัดสินใจที่จะไปปลุกบอยอีกครั้ง ยังไงคืนนี้ชั้นก็คุยให้รู้เรื่อง ชั้นจะไม่ยอมเป็นอีโง่อีกต่อไป
“ตื้ด ตื้ด ตื้ด” โทรศัพท์ชั้นดัง ชั้นรีบปรี่เข้าไปคว้ามาไว้แนบหู ที่ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนเสียงดังขึ้น
“มีไร โทรมาดึกๆแบบนี้”

“ชาย แก..ชั้น...”
“ฉันรู้ล่ะ อาการแบบนี้ แก..ถึงเวลานี้ฉันก็ยังยืนยันคำเดิมนะ ความรักมันเป็นเรื่องบังคับจิตใจกันไม่ได้ ชาย-หญิง ว่ารักกันแค่ไหน เขายังไปจากกันได้ง่ายๆแล้วประสาอะไรกะชีวิตอย่างพวกเรา ความรักของผู้ชายกับผู้ชายมันย่อมยากที่จะเป็นไปได้ แกต้องยอมรับให้ได้ เพราะถ้าแกยอมรับได้ แกจะเข้มแข็ง”


“ชาย....ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งมันก็ยังเหมือนเดิม ชั้นยังเจ็บเหมือนเดิม ชั้นจะทำยังไงดี”
“ทุกคนที่ผิดหวัง เจ็บกันทุกคน แต่เราน่าจะเลือกที่จะเจ็บเพื่อจดจำความรู้สึกเอาไว้ ไม่ให้มันย้อนกลับมาทำร้ายเราอีก”


“ขอบใจแกมากนะ”
“ไม่เป็นไร ใจเย็นๆนะ ค่อยๆคุยกัน ตอนนี้ไปนอนก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เช้าทุกอย่างจะดีเอง” ชาย ปลอบชั้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ชั้นรู้สึกผิดต่อเพื่อนๆเหลือเกิน ชั้นยังเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นตอนเรียนหรือตอนนี้
ฉันเคยแอบหวังลึกๆว่า ถ้าวันหนึ่งถ้าฉันเรียนจบ มีเงินมีทอง มีหน้าที่การงานที่ดี คงทำให้ฉันสามารถเอาสิ่งเหล่านี้ไปปรนเปรอให้ผู้ชายสักคนยอมรักชั้นอย่างจริงจังได้ ชั้นมันช่างโง่สิ้นดี ไม่ผิดอะไรที่ชายมันจะด่าชั้นหลายต่อหลายครั้ง รู้ทั้งรู้แต่ชั้นก็แกล้งโง่ เพียงเพราะชีวิตนี้ชั้นไม่เคยมีความรักที่สมหวังเลยสักครั้ง จะมีใครสักคนไหมหนอที่เกิดมา เพื่อที่จะมารักคนแบบชั้น นั้นมันก็คงยากมากพอกับหาปลาบึกในอ่าวไทย


“เอาผัวฝรั่งไปเลยแก อยู่แถวนั้นอยู่แล้ว ฝรั่งเพี๊ยบ ไม่สนใจหรือไง” กอล์ฟเสนอไอเดียอันแจ่มจรัสมาให้ฉัน
“ใช่ๆ อยู่กับเด็กๆนะมันหลอกแดกแกไปเรื่อยๆ แล้วทำไมแกยังทนอยู่ได้ แกนี่มันคนหรือควายกันแน่” ไอ้เก่งมาแนวโหดสมกับเป็นทหาร

“เบื่อที่จะเตือนแกแล้วนะ โตๆกันแล้ว” ชายถอนหายใจตอนพูดแบบปลงๆ
“ฉันอยู่ไกลแต่เอาใจช่วยนะ” ส่วนเจ้าเอกก็คงได้แค่นี้ สรุปเพื่อนๆทุกคนหวังดีต่อชั้นมาก ชั้นทั้งซึ้ง รับรู้และเข้าใจ แต่ทำไม่ได้ เพราะเห็นดุ้นมาอ้อนทีไรก็ใจอ่อนทุกที


เสียงลมทะเลพัดเข้ามาปะทะม่านหน้าต่าง ทำให้ชั้นเริ่มรู้สึกตัว อีกไม่นานท้องฟ้าก็คงสว่าง ชั้นกำลังจะลุกขึ้นจากที่นอน แต่ถูกอ้อมแขนของบอยรั้งโอบไว้ ชั้นมองหน้าบอยใกล้ๆบอยในยามหลับเหมือนเด็กไม่มีผิด ใบหน้าขาวเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือจางๆของชั้นประทับตราไว้อยู่ ชั้นผลักบอยออกจากอ้อมอก จนบอยงัวเงียตื่นขึ้นมา

“พี่เป็นไรครับ ทำไมตื่นแต่เช้าจังครับ” ชั้นไม่ตอบ ยืนมองดูบอยอย่างสมเพช
“ตื่นแล้วหรือบอย พี่ว่าเราต้องมีเรื่องคุยกัน” ชั้นพูดนิ่งๆก่อนเดินไปหยิบมือถือแสนแพงที่ชั้นรูดบัตรเครดิตซื้อให้
“นี่..รูปใครหรือบอย” ชั้นโยนไปให้อย่างไม่แยแส บอยรับมาดูหน้าเริ่มซีด

“เออ....รูปเพื่อนครับ พอดีไปกินเหล้ากะเพื่อน เพื่อนเอามือถือไปถ่ายรูปครับ”
“อ๋อเหรอ....เพื่อนเหรอ เพื่อนสนิทมากสินะ ถึงขั้นเอามือถือไปถ่ายรูป เอาไปเล่นได้”
“เพื่อนจริงๆครับพี่ พี่อย่าโกรธผมเลยนะครับ เดี๋ยวผมลบออกก็ได้ แล้วเซทเป็นรูปพี่เหมือนเดิมครับ” บอยรีบกดๆหารูปชั้น

“ไม่ต้องแล้วล่ะบอย มันคงไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะ ตลอดเวลาเหมือนพี่วิ่งตามหาความรักจากบอยตลอด แต่ยิ่งวิ่งตามบอยก็ยิ่งวิ่งไกลออกไปจากพี่ พี่รู้ตัวแล้วว่าความรักมันคงซื้อหากันไม่ได้หรอก บอยฟังพี่นะ บอยไปตามทางของบอยเถอะ เราเลิกกัน”

“พี่ครับ บอยรักพี่ บอยไม่เลิกกับพี่หรอกครับ บอยขอโทษ บอยผิดไปแล้ว” บอยพูดพลางวิ่งเข้ามากอดชั้น
“พอเถอะบอย มันจบแล้ว” ชั้นผลักบอยออก

“เย็นนี้ พี่กลับมาพี่ขอให้บอยออกไปจากชีวิตพี่ พี่ไม่อยากเจ็บไม่อยากช้ำใจอีกแล้ว พอกันที พี่จะไม่ยอมเป็นอีโง่ของบอยอีกต่อไปแล้ว” ชั้นยื่นคำขาดแล้วเดินออกจากห้องมาด้วยใจที่สิ้นหวังอีกครั้ง ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับครั้งแรกที่อกหักชีวิตชั้นไม่เคยสมหวังในเรื่องความรัก


ชั้นเดินทอดน่องลงไปที่ชายหาด แสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเช้าแสนสวยงาม เม็ดทรายใหญ่น้อยคลอเคลียที่ฝ่าเท้าให้ชั้นรับรู้ถึงการมีชีวิตอยู่ ชั้นนั่งเงียบให้สายลมเป็นเพื่อนอยู่ตรงชายหาดน้ำตาที่เคยไหลเหือดแห้งไปหมดแล้ว

“เป็นไรหรือเปล่า” เสียงทักมาจากข้างหลัง
“ชาย แกมาได้ไง” ชั้นทักด้วยน้ำเสียงกึ่งตกใจ
“เป็นห่วง พอดีกอล์ฟโทรมาบอกว่าแกโทรหามันตั้งหลายครั้งแต่ไม่ได้รับสายเลยเป็นห่วง”
“ชั้นไม่เป็นไรแล้วล่ะ ชั้นเลิกกะน้องเขาแล้ว” ชายขมวดคิ้ว มองหน้าชั้น

“จริงๆนะ ครั้งนี้ชั้นซีเรียส ชั้นไม่เอาแล้ว ชั้นเจ็บมามากพอแล้ว”
“คิดได้งั้นมันก็ดี แกนะรักแต่คนอื่น ทุ่มเทเพื่อความรัก คราวนี้ลองกลับมารักมาดูแลตัวแกเองบ้าง แล้วก็ครอบครัวของแกล่ะ พ่อแม่พี่น้องที่รออยู่ที่บ้าน เอาความรักทั้งหมดมาทุ่มเทเพื่อท่านบ้าง” ชายเริ่มพูดให้ชั้นคิด

“ชั้นจะพยายาม ชั้นจะไม่อ่อนแออีกแล้ว เกิดเป็นกระเทยควรเข้มแข็ง เพราะเราต้องเจอชีวิตที่มันหนักหนาสาหัสกว่าใครๆ”

“เออ...แล้วทำไมคราวนี้ แกตัดใจเลิกล่ะ”
“เอ๋อ ก็ชะนีแฟนมันนะสิ เอามือถือที่ชั้นซื้อให้ไปถ่ายรูปแล้วก็เซทเป็นรูปตัวเองไว้หน้าจอ”
“อ้าว แกรู้ได้ไง ว่าเขาเป็นแฟนกัน อาจจะเพื่อนกันก็ได้”
“รู้สิ มันเขียนข้อความแปะหน้ารูปว่า กูแฟนบอยนะ อีโง่ แล้วมันก็ลบรูปชั้นในเครื่องหมดเลย แค้นนัก”

“อูย อีวอก น่าตบ อย่าให้เจอนะ จะตบไม่แบมือ” ชายเริ่มแตกสาว ทำให้ชั้นพลอยขำหัวเราะออกมา
“ชาย ขอบใจมากนะ ที่มาหาชั้น”
“อืม ก็เพื่อนกันนะ ยังไงก็ไหวอยู่แล้ว” ชายบอกชั้น




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2550
3 comments
Last Update : 2 มิถุนายน 2550 9:30:30 น.
Counter : 369 Pageviews.

 

eieieiei very nice story krab pom

 

โดย: cherdmonae@hotmail.com IP: 70.19.77.248 3 มิถุนายน 2550 11:24:42 น.  

 



มีเพื่อนดีอย่างนี้มีความรักกี่ครั้งก็ไม่ต้องกลัว สักวันเราก็ต้องเจอรักแท้ รักที่เราเป็นเรา ขอให้ศัรทธาในความรักมันไม่หมดไปซะก่อนนะ นกก็เชื่อว่ามันมีจริง

5 5 5 แต่แบบว่าขอขำอ่ะ ขาลีบแต่อย่างอื่นไม่ลีบ โดนใจที่สู๊ดดดดดดดเลย

แล้วยังมีอีก ตบไม่แบมือ 5 5 5


 

โดย: นก IP: 203.146.209.6 26 กรกฎาคม 2550 11:56:12 น.  

 

อิอิ..อ่านเเล้วมันส์มากเลยค่ะ รออ่านต่อนะ

 

โดย: เเมงเม่าฯ (primavera369 ) 1 ตุลาคม 2550 4:00:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.