ที่เหลืออยู่คือความว่างเปล่า
"เก็บของมาให้หมดแล้วนะ"
"นัดน้องเขามาที่อนุสสาวรีย์ชัยฯ"
"ขอบใจมาก"
จบการสนทนาสั้นๆกับเพื่อน "กล" กำลังจะเดินทางไปสิงคโปร์ เพื่อเที่ยวพักผ่อนประจำปี แต่ไหนๆก็ลงมากรุงเทพฯแล้ว เลยขอให้เพื่อนช่วยไปเก็บเอาข้าวของทุกอย่างจากห้องของน้องมาเก็บรักษาไว้ให้ด้วย
เสื้อหลายตัว เป็นความทรงจำตอนเรียนอยู่มช. ภาพถ่าย เอกสารต่างๆ เกี่ยวกับการขอวีซ่ามาเมกา หวังว่ามันจะไม่สูญหายไปไหน รอเวลาที่จะเดินทางกลับบ้าน กลับไปเชียงใหม่อีกครั้ง เพื่อไปเก็บทุกอย่างรักษาไว้เป็นอย่างดี
อยู่ๆก็คิดถึงบีบีขึ้นมา "บีบี" เป็นน้องหมาที่เลี้ยงไว้ ก่อนมาฝากไว้กับเพื่อน เพราะถ้าให้บีบเดินทางไกลไปอยู่ร้อยเอ็ดก็คงไม่สะดวก คล้อยหลังเดินทางมาอยู่นิวยอร์คไม่ทันไรก็รู้ข่าวร้าย บีบี ถูกรถชนตาย อยู่กับเรามา 3 ปีเต็ม อยู่บ้านหลังเก่าๆด้วยกันกลางป่า พอแยกจากกันมา กลับกลายเป็นการลาจากตลอดชีวต
น้องแมว 3 ตัว ที่ไปฝากเพื่อนไว้ที่ลำปางก็หายไปอีกเช่นกัน สรุป การเดินทางไกลครั้งนี้ เราต้องแลกกับการสูญเสียสิ่งต่างๆรอบตัวหลายอย่าง
ล่าสุดก็คงเรื่องของความรักที่ปิดฉากลงไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ที่เหลือก็คงเป็นเศษเสี้ยวของความทรงจำที่ยังคงฝังแน่นอยู่ รอเวลาที่จะลบเลือนมันออกไปจากใจ
"ดีขึ้นหรือยัง" ก้อบถามขึ้นมาในตอนเช้า ก่อนออกไปทำงานที่ร้าน
"ขอเวลาหน่อยนะ ตอนนี้ขอแค่ประคับประคองตัวเองไปก่อน เท่าที่เป็นอยู่ ไม่กระทบไปถึงงานก็ดีแล้ว"
"อืม เข้าใจ เวลามันจะช่วยแกได้ ฉันกว่าจะลืมได้ก็เป็นปีๆ"
"ขอบใจมาก"
ก้อบออกไปทำงานแล้ว กว่าจะกลับก็คงหลังตี 1 คืนนี้วันศุกร์ วันบีซี่แขกเยอะสุดในรอบสัปดาห์ แต่เป็นวันหยุดของเรา ดีเหมือนกันได้พักผ่อน เพราะทำงานมาทั้งสัปดาห์ ทั้งเครียดทั้งเหนื่อย
ทำงานบริการ หน้าชื่น อกตรม ต้องต่อสู้ รองรับอารมณ์ของลูกค้า คนเรามีล้านแปด ร้อยพ่อพันแม่ แต่กับคนที่ต่ำต้อยกว่า ก็พร้อมที่จะแสดงออกถึงสันดานอันแท้จริง
"ฉันสั่งต้มข่า ทำไมได้ต้มยำมา" จู่ๆพ่อมืดก็โวยขึ้นมา "นี่ต้มยำครับ คุณสั่งต้มยำ ไม่เอาเห็ด" "ไม่ใช่ ฉันสั่งต้มข่า" "คงเข้าใจผิดแล้วครับ ต้มยำ มันรสชาติเผ็ด มีเห็ด ท่านเลยบอกว่าไม่เอา ส่วนต้มข่า มันทำมาจากกะทิ ไม่มีเห็ดด้วย ผมไม่ได้รับออเด้อร์ผิดแน่นอน"
"ไม่รู้ ฉันไม่กิน เอาไปเปลี่ยน" "ได้ครับ ผมจะสั่งต้มข่าให้ ส่วนต้มยำ จะแพ็กทูโกให้และคงเปลี่ยนให้ไม่ได้ เพราะเป็นความผิดพลาดจากคุณเอง"
เราเดินออกมาจากโต๊ะ ด้วยความเซ็ง ไม่น่ามาเจอลูกค้างี่เง่าเลย ต่อมความอดทนยิ่งพิกลพิการอยู่ อย่านะ โมโหมากๆไม่ต้องสั่งให้กินซะเลย
"ต้มข่าครับ"
กินๆ จนถึงเวลาจ่ายเงิน เราก็เอาเช็คไปวาง โวยอีกรอบ ทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆยังมีราคาอาหารต้มยำ
"ใช่ครับ เราะถือว่าคุณสั่งอีกรายการ ต้มยำก็ต้องยังอยู่ ไม่ใช่การเปลี่ยนอาหาร"
หน้าเริ่มออกอาการโกรธ เราก็เช่นกัน เอาไงเอากันวันนี้ ลูกค้าเลวๆแบบนี้ ไม่ต้องมาร้านก็ไม่เจ๊ง มาทำให้งานยุ่ง การบริการลูกค้าโต๊ะอื่นๆแย่อีกต่างหาก
"โอเค เพื่อความชัวร์ ว่าผมสั่งไม่ผิด เลดี้" ฉันจิกสายตาไปที่คุณเมียพี่มืด
"เมื่อกี้แฟนคุณสั่งต้มยำใช่ไหม แล้วยังย้ำฉันอีกว่าไม่เอาเห็ด ใช่ไหม มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ใช่ไหม"
แก ทำหน้าหงึกๆ พยักหน้า ฉันเปรยหางตาไปที่ผัว
Thank you Good nite
แปลเป็นไทยแบบใส่น้ำเสียงคือ ขอบคุณไปนอนตายซะ
ทั้งผัวเมียเดินออกนอกร้านไปอย่างไร้ไมตรีจากเวททุกคนในร้าน พอไปถามเพื่อนๆที่จำหน้าลูกค้าคนนี้ได้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบเปลี่ยนอาหารเป็นประจำ
น้องโอ๋ เคยต้องจ่ายค่าข้าวผัดให้ เพราะมันบอกว่า กินหมู ไม่ได้ แล้วมรึงจะสั่งมาทำวิญญาณพ่อมันหรือ
นี่ล่ะ.....กว่าจะได้เงินมาแต่ละเหรียญ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต่อให้รักในสัมมาอาชีพที่เราทำอยู่แค่ไหน มันก็ต้องมีบ้างที่ทนความงี่เง่าของลูกค้าไม่ไหว
อดทน อดทน ถ้ามีไรที่ทำให้ทนไม่ได้ ก็ต้องทนต่อไป ทำงานร้านอาหารนี่ทำให้เรากลายเป็นคนใจเย็นไปเยอะเลย แถมแต่ล่ะวันต้องแก้ไขสถานการณ์ปัญหาเฉพาะหน้าไม่มีเว้น
แต่ก้ดี ทำงานยุ่งๆ วุ่นวาย จะได้ไม่มีเวลามาคิดมากเรื่องของความรัก จบก็คือจบ
อีกไม่กี่วัน ของทุกอย่างของเราก็คงกลับไปรออยู่เชียงใหม่ รอเวลาที่เราจะกลับไปอีกครั้ง ก่อนเดินทางมานิวยอร์ค เราเคยไปขอพรพระธาตุดอยสเทพฯ ขอให้เราได้กลับมาอยู่เชียงใหม่อีกครั้ง
หากแม้ว่าวันนั้นมาถึง เราจะมาเดินขึ้นดอย เพื่อเป็นการแก้บน
สาธุ ขอให้ความตั้งใจของเราเป็นจริงด้วยเถอะ
ปล.คืนนั้นตอนแบ่งตังค์ทิป จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงที่คุ้นเคย
"ฉันทำโทรศัพท์ตกที่ร้านยูหรือเปล่า" "ไม่มีนะคะ" "ฉันนั่งโต๊ะ 23"
"พี่เอาโทรศัพท์มานี่"
"ไม่มีแน่นอน" "ยูรู้ได้ไง"
"ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ฉันเก็บโต๊ะ 23 เอง และถ้าตกอยู่ ยูโทรเข้ามามันก็ดังลั่นร้านแล้วดิ ไม่มีแน่นอน"
"หาก่อนสิ"
"แน่นอน หาอยู่ แต่ไม่มีแน่ๆ เพราะฉันจำพวกคุณได้ ต้มยำไม่เอาเห็ดไง"
เงียบๆ
"ลองไปหาที่อื่นนะ โชคดี บาย"
ชิ กดโทรศัพท์วางลงอย่างสะใจ สมน้ำหน้า กรรมอีเอ็มเอส สวัสดี
Create Date : 27 กรกฎาคม 2550 |
|
3 comments |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2550 0:07:14 น. |
Counter : 734 Pageviews. |
|
|
|
เป็นเวทเหมือนกันเข้าใจดี วันนี้เพื่อนร้องไห้เพราะ็โดนลูกค้าด่า ทั้งๆที่ไม่ไ้ด้ทำไรให้มันเลย เ็ซ็งพวกมัน ดูถูกคนทำงานสุจริตอย่างเราๆ