เกริ่นหัวไว้ล่ะ เรื่องราวก็จะเป็นไปตามที่จั่วหัว
แนะนำตัวคร่าวๆ นะคะ
สมัยสาวๆ อีฉันมีความฝัน
ฝันว่าจะทำงานวงการสื่อสารมวลชน ทุ่มเท ทุ่มทน ทุ่มสุดตัว
ล่าฝันจนสำเร็จ
เริ่มต้นหาเศษเงิน ที่เนชั่น ตอนสมัยเรียน
และเปิดตัวแบบ full time ที่แรก ณ บ้านเจเอสแอล
จากนั้นก็ออกมาทำครีเอทีพรายการโทรศัพท์
ตามด้วยโปรดิวเซอร์ โปรเจคเมเนเจอร์
แล้วก็หมดไฟ เหนื่อย นอยส์
ลาออกไป
ซะงั้น
แล้วก็พลิกผันตัวเองมาทำงานด้านการตลาดบ้าง
ทีนี้ก็ตั้งแต่ดูงานโฆษณา และประชาสัมพันธ์
เริ่มตั้งแต่ executive ไปจนตำแหน่ง manager
แล้วก็..........
เบื่อ นอยส์ ปวดหัว เมื่อย
จ้างกุมาทำงาน รึมาประชุม
จากกุมาเขียนรายงานรึว่าไร
ตีกันกับเจ้านาย ลูกน้อง และลูกค้า
เมื่อยปาก เมือยมือ เมื่อยสมอง
นอยส์
ลาออก
ออกมาทำไรที่มันสบายๆ
ไม่ต้องกังวลกับเจ้านาย ลูกน้อง และงานประชุม
เอาแบบมีรายได้สบายๆ
ทำงานสบายๆ
ก็ออกมาทำฟรีแลนส์
รับงานโฆษณา จัดงาน โน่น นี่ นั่น
แรกๆ งานก็เยอะ เงินก็ดี
บางที งานก็หาย กำไรก็หด
อดเลย
อะหุ อะหุ
นั่นล่ะอีฉันล่ะ
แล้วก็มาพิจารณาตัวเองว่า
อายุก็สามสิบกว่าๆ แล้ว
ทำไรดี ที่ได้ไปเมืองนอก
au pair เขาก็ไม่เอา เพราะหมดเกณฑ์
จะบินไปเองก็จนกรอบ วีซ่าก็คงจะยาก
คิด
...
ละก็คิด
ได้ใจความว่า "หมดนวด"
มีเพื่อนสาวหลายคน
ทิ้งอาชีพเดิมๆ ที่เมืองไทย ไปทำงานนวด
แรกๆ เราก็ยังมองว่า นวด รึ นาบ ว่ะ
พอศึกษาดีๆ แล้ว
มันอยู่ที่เราจะเลือก
เลยไปลงเรียนนวดแผนไทย
ไปเรียนแบบไม่มั่นใจว่าจะชอบไหม
เลยลงเรียนอันที่ไม่เสียตังของ กทม ก่อน
เรียนได้อาทิตย์แรก หลงรักนวดไทยในทันที
มันเป็นศาสตร์ที่ อะแมซิ่งมากๆ
ลงเรียนนวดไปสักพัก
ก็ออกหาเก็บสะสมชั่วโมงบินตัวเอง
และหางานไปด้วย
อันว่าที่จริงแล้วจะสมัครไปทำงานกับเพื่อนก็ได้
แต่ก็ต้องรอจังหวะคนว่าง และไม่ค่อยจะอยากทำเท่าไหร่
เลยลองสมัครงานทางอินเตอร์เน็ต
หาเฉพาะงานโรงแรมด้วยเหตุผลเดียว
ไว้ใจได้ ไม่มีนาบ และไม่มีหลอก
ก็เลือกเฉพาะที่โรงแรมห้าดาว ที่เรารู้จัก
สมัครไม่นานก็มีโทรมาสัมภาษณ์
โน่น นี่ นั่น
แล้วก็ถึงวันโชคดี
สัมภาษณ์งานผ่าน แบบอะแมซิ่งมาก เพราะไม่เทสมือ
น่านแหละ เลยเข้าข่ายสงสัย
ถูกหลอกรึป่าวตู
รอสามเดือน
เพราะประเทศนี้ ต้องให้ CID รึ ตำรวจ ตรวจประวัติก่อน
และก็มาจนได้
ไว้รอบต่อไปจะมาเล่าเรื่องราวชีวิตทำงาน Go-Inter
มันส์ๆ ให้ฟัง
วันหยุดหน้านะพี่น้อง
สำหรับวันนี้
สวัสดี
แค่เริ่มต้นก็สนุกแล้ว