3คืน 4 วัน ที่เชียงราย เริ่มจาก มีวันหยุดยาว วันที่2-5สิงหาคม2555

เบื่อๆค่ะ คิดว่าคงต้องออกเดินทางเพื่อเป็นยาชูกำลัง

นึกถึงแม่สายขึ้นมา เพราะไม่เคยไป และคิดต่อไปว่า จะไปที่ไหนต่อได้อีก ในเวลาที่น้อยนิดของเรา

เมื่อเริ่มหาข้อมูลการเดินทาง (หาข้อมูลเยอะมาก) สามารถไปดอยแม่สลองได้ มีรถขึ้นถึงดอย แจ๊คไม่รอรี เพราะชอบขึ้นดอยอยู่แล้ว

วางแผนการเดินทางคร่าวๆ นอนแม่สาย1คืน แล้วค่อยขึ้นดอย ตั้งใจว่าจะนอนบนดอย1คืน แล้วค่อยไปต่อ    

แต่ต้องหยุดไว้แค่ดอยแม่สลอง เพราะหลงไหลความงาม ความสงบ  ผู้คน สรุปว่าชอบทุกๆอย่างที่นี่ ขอข้ามแม่สาย มาเล่าถึงดอยแม่สลองก่อนนะคะ พร้อมยังคะ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ

แจ๊คออกเดินทาง วันที่1สิงหาคม2555 จากหมอชิต กว่ารถจะออกก็เกือบ2ทุ่ม 

วันที่ไปซื้อตั่วล่วงหน้า ไปถาม 4ที่ เต็มหมดเลย เริ่มเครียดค่ะ ถามเรื่อยๆจนมาได้ของโชครุ่งทวีทัวร์ 640บาท ธรรมดาค่ะ

ไม่ถึงกับห่วย แล้วแจ๊คก็ไม่เรื่องมากอะไรอยู่แล้ว ไปได้หมดค่ะ^^

ถึงแม่สายเช้าวันที่2/8/2555 อากาศชื้น ฝนตกปรอยๆ เช้าๆ หมอกลงจัดปกคลุมภูเขา มองไป2ข้างทาง สดชื่นมากๆ 

ถึง บขส.แม่สาย 7โมงกว่าๆ แล้วก็ต่อรถไปแถวๆด่าน 15บาท หาที่พักไกล้ๆด่านนั่นแหระค่ะ สะดวกดี มีให้เลือกเยอะ

แจ๊คออกจากแม่สายเช้าวันที่ 3  นั่งรถ2แถวมาบขส. แล้วต่อรถไปแม่จัน เพื่อขึ้นรถ2แถว ขึ้นดอยแม่สลอง 

คือวันนั้นไม่มีใครขึ้นดอยเลย มีแต่ไปหมู่บ้านเทอดไทย ลุงคนขับรถบอกให้เหมา 500 (เฮ้ยยยยยจะบ้าหรอลุง )

นั่งรอจนถอดใจก็ไม่มีใครขึ้นดอย แต่พี่คนขับรถคันที่กำลังจะออก เค้าบอกว่า ให้ไปลงทางขึ้นดอย แล้วค่อยต่อรถเข้าไป

นั่งรถ2แถว 30บาท ไปลงบ้าน3แยก ตรงนั้นมีหมู่บ้าน แล้วก็ด่านตรวจ  ไม่น่ากลัวค่ะ

ชาวบ้านแถวๆนั้นเค้าขับมอไซค์ รับจ้างพาคนขึ้นดอยด้วยค่ะ 150บาท ตอนแรกก็คิดว่า กดราคากันสุดๆ

แต่ก็ต้องไป แต่ขึ้นไปนี่รู้สึกว่า150บาท ให้ลุงแกไปเห๊อะ เพราะขับยาก ทางชันมากๆๆ

(แต่ความจริงที่แจ๊คหาข้อมูลมาเค้าบอกรถสองแถวจากตลาดแม่จัน60บาท แจ๊คก็ยังงงๆ และเพิ่งมาถึงบางอ้อตอนวันกลับ คุณป้าเจ้าของลิตเติ้ลโฮมที่แจ๊คไปพัก  เรียกรถมาให้ เป็นรถสองแถวสีเขียว และ ลงคนละทางกับที่แจ๊คมา อ่อ มันมีคิวรถ2คิว และขึ้นได้2ทาง   เราไปขึ้นรถผิดคิวนี่เอง 5555)

นาทีแรกที่ขึ้นดอยมา มีสิ่งที่ประทับใจคือ อากาศเย็นสบาย วิวตลอดข้างทางที่สวยงาม ไร่ชาตามไหล่เขาเขียวขจี เทือกเขาที่สลับซับซ้อน สุดลูกหูลูกตา 

มีหมอก ปกคลุมยอดเขา ท้องฟ้าเป็นฟ้าที่สดใส ตัดกับสีเขียว แจ๊คแอบคิดว่านี่มันสวรรค์ชัดๆ ได้สูดอากาศเต็มปอด และมันเป็นภาพที่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเจอ
ไม่เคยเห็นเว็ปไหนรีวิวไว้(หรืออาจจะมีแต่เราไม่เคยดู) สรุปว่า มันทำให้หัวใจพองโต และเกิดอาการตกหลุมรัก

คุณลุงจอดให้ถ่ายรูปด้วย อิอิ

แต่ได้มุมไม่สวย เพราะถ่ายอยู่ข้างถนน รีบๆถ่ายค่ะ เกรงใจลุง 

มุ่งหน้าไปที่พักก่อนค่ะ (บ่าย2แร้วววววว เดี๋ยวจะไม่มีเวลาเที่ยว) ชื่อลิตเติ้ลโฮม(อ่านรีวิวจากเว็ปอื่น ส่วนใหญ่จะชื่นชมที่นี่มาก แจ๊คก็เลยลองไปพักดู)คุณป้าและครอบครัว ต้อนรับเหมือนเป็นลูกหลาน เป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ ไม่ผิดหวังจิงๆ

บังกะโล หลังละ500 น่าอยู่มากๆค่ะ

ชอบนั่งหน้าห้องค่ะ เงียบๆคิดอะไรเพลินๆ ไปคนเดียว นะคะ รูปนี้ตั้งเวลาถ่ายเอง อิอิ

เค้าให้เราพักผ่อนก่อนซักพัก ค่อยไปตรงเคาท์เตอร์ เค้ามีแผนที่ให้และแนะนำว่าเราจะเดินไปไหนได้บ้าง และมีชาร้อนรสชาติดีให้ดื่ม(ปกติแจ๊คไม่ค่อยชอบดื่มชาซักเท่าไร)แต่ได้ลองชาที่นี่รู้สึกว่ามันโอเคมาก

ช่วงบ่ายแก่ๆแล้วเค้าแนะนำให้ ไปบนพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี  เดินขึ้นไปจากวัดสันติคีรี

เดินขึ้นเขาด้วยทางบันได(เค้าบอกว่า718ขั้น) เหนื่อยมากๆ

เง้อออออออออ ขึ้นไปถึงขั้นบน ได้พบกับ ภาพนี้ เฮ้ยตกลง กี่ขั้น 55555

ท้องฟ้าไม่ค่อยใส ภาพที่ได้ยังไม่จี้ดถึงใจแจ๊ค  รู้สึกเหมือนอกหัก555 คิดว่าพรุ่งนี้ขึ้นไปอีกรอบดีมั้ย มีต่อนะคะ เดี๋ยวมาเล่าต่อ 

เนื่องจากแบตกล้องหมด แบตโทรศัพก็หมด ฝนก็ตก โอ้ยยยยยย อะไรกันนักหนา แจ๊คก็เลยลงมา และอีกอย่าง ทางเดินขึ้นลงไม่มีไฟ ถ้ามืดแล้วจะน่ากลัวววววว ลงมาก็เริ่มมืดพอดี กลับมานั่งซักพัก
คิดว่าถ้าเราจะกลับพรุ่งนี้ คงน่าเสียดาย เพราะยังไม่ได้ไปไหนเลยยยยยย รูปสวยๆก้ยังไม่ได้ จึงตัดสินใจ อยู่ต่ออีก1คืน

ตอนนี้เมื่อยขามากๆ อ่อ ลืมบอก ตอนอยู่แม่สายก็เดินขึ้นพระธาตุดอยเวามา มันติดๆกัน ขาหมดแรงเลยค่ะ หาอะไรกินก่อนดีกว่าค่ะ ที่ลิตเติ้ลโฮมนี่แหละค่ะ

ผัดหมี่ยูนนานเสริฟกับชาร้อน อร่อยค่ะ

ทานอาหารอิ่มแล้วก็กลับเข้าห้องค่ะ นั่งคิดอะไรเพลินๆหน้าห้อง ฝนตกทั้งคืน

ออกไปไหนไม่ได้ ก็เก็บบรรยากาศจากหน้าห้องละกัน อากาศเย็นจนหนาว นอนที่นี่ 2 คืนไม่ต้องเปิดพัดลมเลยค่ะ

เช้าแรกที่ดอยแม่สลอง (4/8/2555) ตั้งใจตื่นเช้า เผื่อจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ผิดหวัง ฟ้าปิดค่ะ

ขนาดสายๆยังไม่เห็นพระอาทิตย์เลย

ที่นี่มีตลาดเช้าอยู่ไกล้ๆ ไปหาอะไรกินดีกว่า ตลาดเช้า ก็จะขายของสดของแห้ง อาหารเช้า กาแฟ ปลาท่องโก๋ ทั่วๆไปล่่ะค่ะ

ชาวบ้านออกมาจับจ่ายซื้อของ ยืนรอทำบุญตักบาตร

แจ๊คเห็นผักแปลกๆที่ชาวบ้านเอามาขาย และมันมีเพียงแผ่นพลาสติดปูรองพื้น โอ้วขายกันงี้เรยหรอ

เช้าๆ ชาวบ้านออกไปทำงาน น่าจะไปเก็บชา โดยที่เขาจะมารวมตัวกันรอรถมารับ 

เด็กเล็กไม่มีใครเลี้ยง คุณแม่ก็ต้องสะพายใส่หลังไปด้วย 

น่ารักอ่ะ เจ้าหนูคนนี้

มาดูวิวกันบ้างค่ะ

หลังจากเดินเล่นในหมู่บ้าน ขากลับที่พัก แวะร้านเบเกอรี่หาขนมกินเล่น ร้านนี้มีโปสการ์ดขายด้วย ดีใจมากๆ แจ๊คเห็นอยู่ร้านเดียวอ่ะ จัดมา2ใบ (เวลาไปไหน แจ๊คจะเขียนโปสการ์ดส่งให้ตัวเอง มันเป็นการเก็บความทรงจำอีกอย่างหนึ่งของแจ๊คค่ะ)

 มุมนี้น่านั่งมากๆค่ะ

แต่แจ๊คกลับมานั่งเล่นหน้าห้อง รอให้ฝนหยุดจริงๆซะก่อน แจ๊คจะเริ่มเดินเที่ยวต่อ แต่มันก็ตกเบาๆ เรื่อยๆ มาเป็นพักๆ

แจ๊คว่าถ้ารอให้หยุดสนิทคงไม่ได้ออกไปแน่ๆจึงตัดสินใจออกไป จะรอทำไม ไปกันเลยดีกว่า

เดินตามแผนที่ไปสุสานนายพลต้วนค่ะ

ทางเล็กๆสำหรับคนเดินค่ะ

เจอแล้วววววทางเข้า

รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในป่าดิบชื้น เพราะอากาศชื้น ทางเดินเต็มไปด้วยตะไคร่

ไร่ชาข้างทางค่ะ

ยิ่งขึ้นไปยิ่งน่ากลัว ป่า2ข้างทางเป็นป่าทึบ มีแจ๊คเดินอยู่คนเดียว

ไม่มีผู้คนเลย มันเงียบมากๆ คิดว่ามาผิดทางรึป่าวเนี่ย แอบกลัวนิดๆ แต่หันหลังกลับไปมองทางที่เดินผ่านมาแล้วคิดว่า เฮ้ย เดินมาตั้งขนาดนี้เราจะเดินกลับไปหรอ ไม่ล่ะค่ะ ต้องไปให้ถึงค่ะ (ใจถึงก็ไปถึง) แล้วมันก็ถึงจริงๆ

พอไปถึงข้างบน เจอคนอยู่4คน คนขายชา3คน แล้วก็คุณลุงเฝ้าสุสาน1คน 5555 คุณลุงแต่งตัวชุดทหาร แนะนำการเคารพศพ และเล่าประวัติให้ฟังด้วยน้ำเสียง แข็งขันแบบทหาร ขาลงมาเดินได้นิดนึง คุณลุงขับมอไซค์ลงมาพอดี
คุณลุงเลยให้ติดรถลงมาด้วย ลงหน้าทางขึ้นสุสาน ก็เดินไปเรื่อยๆค่ะ กะว่าเหนื่อยก็จะกลับ

มาดูบรรยากาศกันค่ะ

ของฝากส่วนใหญ่เป็นชา แล้วก็ผลไม้อบแห้ง

อีกาตัวนี้ดุมาก ใครเข้าไกล้มันจะไล่จิกค่ะ คนแถวนั้นเค้าบอกว่า ขนาดน้องหมามันยังไล่จิกเลย
มันอยู่แถวทางขึ้นพระธาตุอ่ะค่ะ(ทางฝั่งรถยนต์ค่ะคนละ ฝั่งกับทางที่แจ๊คเดินนะคะ)

เอ้ะ ทำไมเราเพิ่งมาเจอป้ายยินดีต้อนรับสุ้ดอยแม่สลอง(ก็เพราะมีทางขึ้น2ทางหนะสิ่ ที่เพิ่งถึงบางอ้อเมื่อวันกลับ)

หิวแล้วค่ะ แวะกินข้าวซอยร้านคุณป้า เข้าไปนั่งกิน เอ๊ะ ป้าแกฟังเพลงจีน ซักพัก เฮ้ยยยแกร้องตามด้วยอ่ะ

มีคุณยายคนนึงมาซื้อของ อ้าวพูดจีนอีก 

แจ๊คจึงเริ่มสังเกตุ คนที่นี่ และพบว่า คนที่นี่เวลาเขาคุยกันคุยภาษาจีน ฟังเพลงจีน ดูทีวีจีนด้วย (บางอารมณ์ก็รู้สึก เหมือนอยุ่หมู่บ้านชนบทในจีน )  ว้าววววว ชอบจัง บรรยากาศชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบชาวจีนแถบมณฑลยูนนาน มันเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับแจ๊ค อิอิ

พอเริ่มปวดขาคิดว่ากลับดีกว่าปวดขามากๆ เดินกลับไปหากาแฟเย็นดื่มให้ชื่นใจซะหน่อย ก็ร้านเดิมล่ะค่ะ 

กลับมานั่งพักเขียนบันทึกการเดินทางเก็บไว้

และคิดว่าจะขึ้นไปบนพระธาตุอีกรอบดีมั้ย และตอนนี้ก็มีฝนมาเรื่อยๆฟ้าก็ปิด
ความคิดว่าอาจจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินเหลือน้อยมาก ทันทีที่มีแดด แจ๊ครีบออกมาสำรวจท้องฟ้า แจ่มมากๆ

นั่งคิดอยู่พักหนึ่ง แจ๊คตัดสินใจเดินขึ้นไปบนพระธาตุอีกครั้ง
อย่างนี้เรียกว่าบ้าพลงรึป่าว 5555

มาดูกันค่ะว่าครั้งนี้แจ๊คจะได้ภาพที่ประทับใจรึป่าว

ทันทีที่เห็นวิวในครั้งนี้ ทำให้หัวใจพอโตอีกครั้ง ตื้นตันใจ ลืมความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในทันที แจ๊คยืนนิ่งๆอยู่เป็นชั่วโมงเหมือนโดนมนต์สะกด ได้สูดอากาศที่ไร้มลพิษ และชื่นชมความงามที่ไม่อาจละสายตา
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ รุ่งกินน้ำ ก้อนเมฆ ฟ้าสีสดใส ไร่ชาสีเขียวเรียงรายสลับซับซ้อน

หันไปมองพระธาตุประกอบกับท้องฟ้าก็เป็นภาพที่ดูงดงามและยิ่งใหญ่

พระบรมธาตุ เจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี

ถ่ายมาหลายมุมค่ะ โอ้ยยยยยอธิบายความรู้สึกเป็นคำพูดไม่ถูก มาภาพกันเลยดีกว่า ^__^

(เป็นครั้งที่2ที่ต้องคิดว่านี่มันสวรรค์ชัดๆ) 
ทุกอย่างสวยงาม แจ๊คเก็บภาพด้วยความทรงจำ และกล้องถ่ายรูป และมันจะตราตรึงใจตลอดไปจนทุกวันนี้ก็ยังไม่ลืมค่ะ

จะมืดแล้ววววว กลับดีกว่า

เกือบทุกบ้านจะมีโคมไปแขวนหน้าบ้าน ได้อารมณ์จีนสุดๆ

มาหาอะไรกินเติมพลังซะหน่อยค่ะ ครัวลิตเติ้ลโฮมที่เดิม คุณป้าเจ้าของ
ถามว่า สนุกมั้ย ป้าไม่เห็นหนูเลย แจ๊คเล่าให้คุณป้าฟังว่าไปไหนมาบ้าง คุณป้าบอกว่า หนูเดินเก่งมากๆ มีคนไทยน้อยคนที่จะเดินแบบหนู 
อาหารมาแล้ววว วันนี้ลองทาน ข้าวผัดยูนนาน เป็นหมูสับผัดกับผัก9หรือ8ชนิดนี่แหละค่ะ จำไม่ได้ละ ผักอะไรบ้างก็ไม่รู้ค่ะ เค้าหั่นละเอียด ที่สัมผัสได้มีผักกาดดอง แค่นี้แหระค่ะ แต่อร่อยค่ะ

ไม่ได้ผัดรวมกับข้าว ทำไมเรียกข้าวผัดนะ

อิ่มแล้วกลับห้อง ไปนั่งเขียนโสการ์ด เก็บของเตรียมตัวกลับ รถเที่ยวแรก7โมง แต่คงไม่ทัน

ชอบคอนเซ็ปเค้าจัง อาร์ตดี 

รองเท้าคู่ใจ เน่าแล้วค่ะ

ไม่กล้าเอารองเท้าวางหน้าห้องเลยค่ะ 555

ตอนเช้าไปทานข้าวเช้าให้คุณป้าเรียกเที่ยว9โมงให้ เช้านี้ข้าวผัดค่ะ(เยอะจัง) ทานข้าวเสร็จ กลับห้องไปเตรียมตัวกลับ ไกล้ถึงเวลาก็ออกมานั่งรอรถ

คุณป้ามอบชาอีก1แก้วนั่งจิบชารอรถ รถมา9โมงนิดๆ ค่ะ

จบแล้วค่ะเรื่องเล่าจากดอย ^__^ ลาก่อน ดอยแม่สลองแล้วเราจะกลับมาอีกนะ รักอ่ะ