หนีอากาศร้อนช่วงซัมเมอร์ อินดี้ชวนไปคลายร้อนบนภูเขาสูงกันค่ะ
ชมหิมะคลุมยอดเขา & ธารน้ำแข็งสวยๆ เห็นแล้วชื่นใจ
ฤดูร้อนปี 2012 เราไปพักผ่อนที่
Chamonix – Mont Blanc กันหนึ่งอาทิตย์เต็มๆค่ะ
เที่ยวป่าเที่ยวเขา ทำกิจกรรม outdoor อิ่มแอลป์เห็น Mt. Blanc ทุกวัน
ตื่นมาก็เจอ ก่อนนอนก็เจอ อิ่มวิวกันไปเลยจ้า
บล็อคนี้จะพาไป
Plan de l'Aiguille จุดสต๊อบระหว่างทางขึ้นไปชมมองบลังค์/มงบลองค์ใกล้ๆ
ส่วนบล็อคหน้าถึงจะจัดเต็มภาพจาก Aiguille du Midi อีกหนึ่งยอดสุดฮิตของยุโรป
ทัศนียภาพห้อมล้อมด้วยเทือกเขา Alps เห็นได้ไกลไปถึงสวิสเซอร์แลนด์ - อิตาลี
เฟรนช์แอลป์ (French Alps) สวยไม่แพ้ที่ไหนๆเลย รอชมแบบเต็มๆตอนหน้านะคะ
เดินเท้าจากที่พักใจกลางเมืองชาโมนี (Chamonix) ไปสถานีเคเบิลคาร์ แต่เช้า
เคเบิลคาร์ (TH) : Cable car (EN) : Téléphérique (FR)เริ่มต้นจากเมือง Chamonix ที่ความสูง 1035 m
ไปยัง stop แรกคือ Plan de l'Aiguille (2300 m)
จากนั้นต้องเปลี่ยน Cable car อีกอันเพื่อขึ้นไป Aiguille du Midi (3842 m)
เคเบิลคาร์ตัวนี้สูง & เสียวได้ใจ เป็น The highest vertical ascent cable car in the world ด้วยค่ะ
บนนั้นรับรองได้ชม
Mt. Blanc (4810 m) สมใจ
ภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรป (Western Europe/European Union)
ความสูงของมองบลังค์จะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลนะคะ หน้าหนาวหิมะทับถมหนาก็จะยิ่งสูง
มีการวัดเก็บสถิติอยู่เรื่อยๆค่ะ
ในภาพ... จะไม่เห็นยอดมงบลังค์เพราะสีหิมะกลืนไปกับสีเมฆอ่ะค่ะ
ซื้อตั๋วกันก่อน เลือกตามใจชอบเลย
อินดี้ซื้อ
Mont Blanc MultiPass นะคะ เพราะจะขึ้นและทำกิจกรรมอีกหลายอย่าง
แบบ Consecutive pass หรือพาสแบบวันต่อเนื่อง ประหยัดและคุ้มค่ามากๆเลย
แต่ถ้าไม่ใช่หน้าร้อนไม่แนะนำนะคะ เพราะสภาพอากาศบนเขาสูงเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
เดี๋ยวฟ้าใส แดดจ้า ซักพัก เมฆมาฟ้าหม่น อีกเดี๋ยวลมแรง พายุหิมะถล่ม ยากจะคาดเดาค่ะ
แต่ถ้ามาเที่ยวช่วงซัมเมอร์ก็จัดไปอย่าให้เสีย วีคที่อินดี้ไป 7 วันฝนตก ½ วัน โอเคเลย
หรือจาก
Aiguille du Midi (3842 m) จะข้ามไป
Pointe Helbronner (3462 m) ที่ฝั่ง Italy ก็ได้จ้า
แต่ช่วงนี้ยังไม่อนุญาตให้ลงเที่ยวฝั่งอิตาลีนะคะ แค่นั่ง Gondola หรือเคเบิลตู้เล็กๆแบบนี้
เน้นชมวิวนั่งไปแล้วก็นั่งกลับ เมื่อครั้งอดีตเคยมีให้ข้ามไปแต่ไม่รู้หยุดไปเพราะปัญหาอะไร
สมัยที่ยังไม่รวมกันเป็นเชงเก้น ประทับตราข้ามแดนในพาสปอร์ตกันที่ ตม. บนยอดเขามันนี่แหละ
เก๋ชะมัด เริ่ดอ่ะ โม้ยาว ยังไม่ได้ไปไหนเลย ฮ่าๆ
หน้าสถานี
Téléphérique de l'Aiguille du Midi คนเพียบแล้วววว
ฮ๊อตจริงๆ
โฉมหน้า PASS ของเรา เป็นบัตรแข็ง
แค่แปะกับเครื่อง ปิ๊งๆแล้วก็เดินผ่านโลด ไม่เสียเวลา
.. ป้ า ย ต้ อ น รั บ ..
เอกุย ดู มิดี้ ยอดที่มีเสาสีทอง กับแบล็คกราวด์มองบลังค์แจ่มๆด้านหลัง
ตื่นเต้น ๆ
เช็คสภาพอากาศและอุณหภูมิกันหน่อย
ต้นทางที่เรายืนอยู่นี้ 14 องศา อากาศเย็นสบายแม้ในหน้าร้อน ชอบจริงๆ
ส่วนปลายทาง อะจึ๋ย...
-1 องศา เหมือนคนบ้าเลย จัดกระเป๋าเที่ยวซัมเมอร์แต่ต้องเอา jacket ไปด้วย 555+
ขนาดว่าจุคนร่วมร้อย แต่ผู้คนก็ล้นหลามอย่างที่เห็น
ตารางเวลาวิ่งถี่นะคะ แต่หน้าร้อนนักท่องเที่ยวมากจริงๆ
Bye Bye Chamonix
สถานีต้นทาง ไม่กี่วินาทีก็เล็กเท่ามดมองไม่เห็นแล้ว
เจออีกเคเบิลคาร์สวนลงมาอย่างไว แต่แช๊ะทัน อิอิ
เวลาเห็นเสาก็เตรียมเสียวได้เลยจ้า
ช่วงส่งผ่านเปลี่ยนเสาจะมีอัตราเร่งเยอะเป็นพิเศษ
ชันและสูงมาก ตอนนี้เห็นเมือง Chamonix ทั้งเมืองเหลือนิดเดียวลิบๆนู่น
เมืองชาโมนี สมรภูมิเป็นไข่แดงห้อมล้อมด้วยภูเขาสูงอย่างแท้จริง
ตอนนี้ไต่ระดับขึ้นมาใกล้เคียงกับ
Le Brévent (2525 m) ในเทือกเขา
Aguilles Rouges อีกฝั่ง
ตรงสถานีเคเบิลคาร์ที่ซูมไปคือ
Planpraz จากฝั่งตรงข้ามได้ภาพมงบลังค์สวยมากเหมือนกันและยังเป็นจุดโดดร่มอีกด้วย
แล้วจะมารีวิวในบล็อคต่อๆไปนะคะ
ถึงแล้วค่ะ
Plan de l'Aiguille (2300 m) !!!
ชัดๆ Cable car ตัวที่พาเรามาส่ง
สีดำ – แดง ตัดกับหิมะ
รับส่งนักท่องเที่ยวนักปีนเขา ขึ้นลงตลอดทั้งวัน
ด้านนี้มองไปทาง ฝั่ง
Switzerland พร้อมป้ายบอกพิกัดชื่อภูเขาต่างๆ
หลายคนไม่ขึ้นไปสถานีสูงสุด หยุดแค่ที่ Plan de l'Aiguille นี้
โดยเฉพาะนักเดินเขา ในเส้นทางยอดนิยม
Plan de l'Aiguille – Montenvers Mer de Glace ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2.5 - 3 ชม.
เพื่อไปชมทะเลน้ำแข็ง Mer de Glace และนั่งรถไฟลงเขากลับมาที่เมืองชาโมนี
อินดี้ขอโฆษณาว่า... สวยประทับจิตมาก ชมได้ในบล็อคต่อๆไป (อีกแล้ว ^^’)
เส้นทางไป แมร์ เดอ กลาส (Mer de Glace)
จะผ่าน
Refuge du plan de l'aiguille หลังนี้ด้วย
ย้ายมาดูวิวอีกฝั่งกันบ้าง
จากมุมนี้ ...ยังไม่ใช่ยอดมองบลังค์นะคะ
สังเกตง่ายๆยอด Mt. Blanc จะปกคลุมด้วยหิมะหนาตลอดปี (ตลอดชาติ555+)
ที่ความสูงระดับ 23xx m. ในหน้าร้อน
มีสัตว์(ตามธรรมชาติ?)และต้นไม้เขียวสดใสให้ได้เห็นค่ะ
Hilight อีกอย่างของสต๊อบนี้คือ
เราสามารถชมธารน้ำแข็ง
Glacier des Bossons ได้อย่างชัดเจน
ถ้ามองจาก Aiguille du Midi จะเป็นอีก Point of view เพราะเหมือนมองลงล่าง
คือเห็นจุดเริ่มต้นที่ธารน้ำแข็งมันเคลื่อนตัวลงมา วิวจะต่างกันกับตรงนี้
อินดี้ว่ามุมมองจากด้านล่างแบบนี้สวยกว่านะคะ
ภาพนี้สูงชันชวนเสียวได้โล่ห์
ทุกครั้งที่เห็นภาพหรือหนังสารคดีระหว่างการก่อสร้าง
ทึ่งกับความสามารถทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ของมนุษย์เราจริงๆ
สำหรับที่นี่เคยครองแชมป์เคเบิลคาร์ที่สูงที่สุดในโลกถึง 2 ทศวรรษ
Cable car ช่วงที่สอง
Plan de l'Aiguille (2300 m) to Aiguille du Midi (3842 m)ไม่มีเสาระหว่างสถานีเลยค่ะ (without any support pillars)
อิชั้นอึ้งไปสามวิ หน้าตาเหมือนเคเบิลคาร์ขาแรกที่พาขึ้นมาเลยนิ ^^
ชอบรูปนี้ ให้อารมรมณ์...
ฝูงชนรอคอยการมาถึงของอะไรบางอย่าง
เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนที่ลงมาแล้ว
ท่าทางวิวข้างบนจะ Impressive ไม่ใช่น้อย
** กระจกเคเบิลคาร์ขุ่นได้อีก แถมรอยขูดขีดจากสกีเพียบ ขออภัยที่รูปไม่คมชัดจ้า
จังหวะแรกที่หลุดจากสถานี นึกในใจ ...
เร็วไปมั้ยคะคู๊ณณณณณ กลัวความสูง แต่ก็ชอบนะ !
กระท่อมภูเขา (Mountain hut) วิวดีจริงๆ
ส่วนใหญ่เป็น
ป่าสน ชมวิวเขียวๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน
ณ ตอนนี้ระดับความสูงของเราไต่ขึ้นมาสูงกว่าเทือกเขาอีกฝั่งอย่างชัดเจน
ชันมว๊ากกกกกก
แต่ยอมรับว่านุ่มและนิ่ม รู้สึกปลอดภัยดีค่ะ
อาจมีโคลงบางเวลาลมแรงปะทะ ได้อารมณ์สวนสนุกนิดๆ 555+
Wowwww...โลกของเราใบนี้ช่างสวยงาม
ธรรมชาติสรรสร้างภูเขาหิมะรูปทรงต่างๆ
และนี่คือสิ่งที่ตั้งใจจะมาเห็น
สวยแต่เต็มไปด้วยอันตราย
รอการท้าทายจากใครหลายคนที่ความสามารถและประสบการณ์ถึงพร้อม
พิชิตยอดเขามองบลังค์ ลมแรงพัดมาที... อินดี้หล่ะเสียวสันหลังแทนคุณพี่พวกนี้จริงๆ
เห็นนักปีนเขาตัวเล็กเท่ามด น่าสนุกเหมือนกันนะคะ
คงเป็นประสบการณ์ที่สุดยอด และลืมไม่ลง
มัวเพลินกับวิวงามๆรอบตัว
หันมาอีกที ...ป๊ะกับ ยอดเอกุย ดู มีดี้ ...จะถึงแล้วจ้า
ถึงสถานีโดยสวัสดิภาพที่ความสูง 3777 m
ต้องต่อลิฟท์ไปยัง
Summit 3842 m อีกนิดนะคะ
ขอต่อภาคสองหละกัน จัดหนักวิวเต็มๆแบบ 360 องศาบน Aiguille du Midi กันในบล็อคหน้า
โ ป ร ด ติ ด ต า ม จ้ า ...
~ Travel with Indy ~All stories and photos byIL & PEL | indyland.bloggang.comขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า
บายๆ
-: You may also like :-