สวัสดีค่ะเพื่อนๆ บล็อคนี้จะพาไปชิมของอร่อยจากทริปช่วงซัมเมอร์ 2013 นี้ค่ะ
พูดถึง
เ ค ร ป (Crêpe) หลายคนคงเคยชิมกันเนอะ
อร่อยๆมีให้เลือกทั้งคาวทั้งหวาน แต่บล็อคนี้ไม่มีเครปเค้กสุดฮิตของบ้านเรานะคะ ^^
ต้นตำรับเครปแท้ๆอยู่ที่ทางตะวันตก/เหนือของฝรั่งเศส
แคว้น
Bretagne (Brittany) อ่านประมาณว่า เบรอตาญ/บริตทานี่
อินดี้มีโอกาสไปเที่ยว เลยจะพาไปทานร้านดังที่นั่นกันจ้า
Crêperie la Frégate| Le Faou ชื่อร้าน
Frégate มาจากเรือฟริเกต
เรือใบสมัยโบราณขนาดใหญ่ที่ติดใบเต็มอัตราสามเสา
ร้านนี้กวาดมาแล้วหลายรางวัล
ได้ชื่อว่าเป็นร้านเครปหรือว่าเครปเปอร์รี่ที่ดีที่สุดของแคว้นเลยหล่ะค่ะ
... ร้านน่ารักจัง
ไปก่อนแล้วหนนึง แต่มื้อเย็นวันนั้นโต๊ะเต็ม
จะขอบุ๊คล่วงหน้าวันรุ่งขึ้นก็คิวเต็มอีก ดีที่มื้อกลางวันยังว่าง
เดี๋ยวรู้กันว่าจะอร่อยถูกปากอินดี้มั้ย
เมือง
Le Faou อยู่ในลิสต์เมืองสุดสวยของฝรั่งเศส (Les plus beaux villages de France) ด้วยนะคะ
แต่รีวิวเที่ยวเมืองนี้ขอยกยอดไปรวมกับอีกร้านนึง
ทั้งทริปทานเครปไปทั้งหมด 3 ร้าน อิอิ บรรยากาศในร้าน อบอุ่น นั่งสบายๆ
ประดับภาพเรือใบ ผ้าม่านลูกไม้ยังถักเป็นเรือใบเลยค่ะ
มื้อเที่ยงคนยังหลวมๆ แต่มื้อเย็นไม่จอง...อดแน่ๆ
เครื่องดื่มที่เข้ากับเครปที่ซู้ด
ไซเดอร์ (Cider/Cidre) น้ำแอปเปิ้ลหมัก
ชิมมาหลายยี่ห้อ ขวดนี้พวกเราชอบถึงกับตามไปหาซื้อถึงแหล่ง 555+
เมนูจะแบ่งเป็น
เครปของคาว (Galette de blé noir) และ
เครปของหวาน (Crepe)
ส่วนเมนูแนะนำประจำวันหรือตามฤดูกาลเทศกาลต่างๆ
จะเขียนอยู่ตามฝาผนังหรือตั้งตามโต๊ะแบบนี้ค่ะ
อะไรว่าเด็ด... เราก็จัดปายยยย
.. Crêpe Terre et Mer ..Crêpe avec artichauts pétoncles poêlées et saucisse de Molène
ชื่อเมนูตรงๆคือ
Land and Sea Crepeประกอบด้วย Artichoke, scallop และ Molène sausages
น่าทานมากๆ ตู้มๆเต็มไปด้วยเครื่อง
ธงที่ปักเป็นธง Breizh ธงประจำแคว้นนั่นเอง
อธิบายรสชาติเล็กน้อย...
แป้งเครปบัควีท (Buckwheat) ไม่เนียนมาก เนื้อแป้งพรุนๆ
จะกรอบนิดๆ แต่ส่วนที่เปียกก็จะนุ่มๆน่ะค่ะ
อาร์ติโช๊กทำสุกแต่ยังคงความกรอบ
หอยเชลล์ไซส์เล็ก ตัวน้อยๆแต่กระหน่ำมาแบบแน่น กระชับทุกพื้นที่
ส่วนไส้กรอกโมเลน (Molène เป็นชื่อเกาะที่อยู่ในแคว้น Bretagne)
เห็นพนักงานว่าเป็นไส้กรอกที่ผ่านการรมควันกับสาหร่ายทะเล
ทำจากเนื้อหมู เนื้อแน่น หอมกลิ่นรมควัน อร่อยเชียวหล่ะ
ส่วนซอสขลุกขลิกเป็นแนวครีมมี่ หวานมันเค็ม
มีมุมสลัดเล็กๆ ร้านนี้จะเสิร์ฟเคียงกันไปในจานเลย
อีกจานสั่ง
.. Crêpe LOcéane ..Fondue de poireaux, sauce maison pétoncles, champignons,
beurre blanc avec noix poêlées à la minute
เครปที่มีซีฟู้ดจะแพงหน่อย แต่ถ้าเบสิคแฮมชีสพวกนั้นไม่ถึง 10 ยูโรค่ะ
จานนี้แพงสุดในร้าน (14 ยูโร)
เป็นเมนูที่หาทานได้ยากสักนิดนึงในแคว้นอื่นๆของฝรั่งเศส
ที่สำคัญหาร้านที่ทำอร่อยๆยากด้วยค่ะ
หลักๆนอกจากหอยเชลล์แล้วก็มีเห็ดแชมปิญอง
ซอสสำหรับตัวไส้ปรุงจากกระเทียมต้น (Leek) หอมมันอร่อยๆ
ขออภัยไม่มีภาพด้านใน หิวจัดจ้วงหมดอย่างไว 55ด้านบนคัดเฉพาะสแกลลอปตัวเป้งๆนำมาจี่ไฟ สุกเฉพาะขอบๆ
เนื้อเด้งเนื้อหวานนุ่มสุดฤทธิ์ ของสดๆจากทะเลแถวนั้น
ซอสที่ราดด้านบนเป็น Beurre blanc หลักๆจากเนย ไวน์ขาวและครีม
อร่อยมากมาย แต่ตินิดเดียวที่แป้งเครปนุ่มอย่างเดียว อยากให้กรอบซักนิด
เห็นแบบนี้อิ่มสุดๆเลยนะคะ
จานใหญ่มากแถมข้างในไส้อัดแน่นสุดคุ้ม
สาวๆหุ่นบางเมืองไทย ไซส์นี้สั่งมาแชร์กันได้ 2-3 คนสบายๆ
รสชาติโดยรวมก็อร่อยแบบฝรั่งอ่ะนะ ไม่จัดจ้าน
ครีมๆชีสๆแต่เค้าก็เสิร์ฟมากับสลัดช่วยตัดเลี่ยน
หมดของคาวก็ต่อของหวาน
เริ่มจากเบสิคสุดๆ เนย น้ำตาล
Crêpe Beurre Sucreพื้นฐานคลาสสิกง่ายๆแบบนี้ ไว้เช็คความอร่อยของร้าน
ตามมาด้วย
.. Crêpe Amandine ..Chocolat, poire and amandes
แต่งจานเป็นรูปสัญลักษณ์ของแคว้น Bretagne เก๋ไก๋ๆ
ไส้และหน้า
ลูกแพร์ ช็อคโกแลต และอัลมอนด์จับคู่ pear&chocolate ทีไรได้เรื่องอร่อย
อีกคู่ที่ชอบคือกล้วย ช็อคโกแลต แต่ร้านนี้ไม่มีในเมนู
แป้งเป็นคนละตัวกับแบบของคาวนะคะ
แป้งบาง นุ่มหนึบ อร่อยมาก ต่างกับร้านทั่วๆไปจริงๆ
ของหวานจานสุดท้าย
.. Crêpe la Romanoff ..Fraises, glace vanille, nougatine, Chantilly
ไม่มีไส้นะคะ โป๊ะทั้งหมดที่หน้าเครปอย่างเดียว
ประกอบด้วย
strawberry จาก Plougastel แหล่งปลูกสตอร์เบอร์รี่ริมทะเล
ลูกไม่ใหญ่แต่หอมหวานสุดๆ เนื้อและรสชาติต่างจากสตอเบอร์รี่นำเข้าจริงๆ
ร่วมด้วย Vanilla ice-cream, brittle และ whipped cream
สั้นๆว่าอร่อยมากมายยย
มื้อนี้ไม่ได้สั่งแบบ flambée รอชมเครปพ่นไฟได้บล็อคต่อๆไปจ้าคาวหนึ่งหวานหนึ่ง คนละแค่ 2 จานแต่แทบกลิ้งออกจากร้าน
ภารกิจต่อไปตามล่าหา
Local cider หิ้วกลับไปเป็นของฝาก
เจ้าของร้านชิลมาก อยู่ในสวนหลังร้าน
ปล่อยลูกค้าเดินกันตามสบายไม่มีมาถามไถ่หรือกดดันใดๆ
จะซื้อก็กดกริ่ง ฮีถึงจะมา
คิดเงินเสร็จฮีก็กลับ
เดินออกจากร้านก่อนพวกเราซะอีก 555+
เมา
เอ้ย! เหมามาลังนึง ทั้งหมด 1 โหล
เจอดอกนี้ปลูกอยู่หน้าร้าน
จุ๋มจิ๋ม สีสันและหน้าตาน่ารักมาก
ใครพอจะรู้ชื่อดอกไม้นี้
รบกวนบอกอินดี้ด้วยนะคะ
จากนั้นก็ขับรถเที่ยวไม่ไกลจากนี้ กะจะแค่ย่อยอาหาร
แวะ
Le cimetière des navires de Landévennecเป็น อ่าวแคบๆ ที่ทางกองทัพเรือฝรั่งเศสใช้จอดเรือ
สมัยสงครามเพื่อเคลียร์เรือที่ปลดระวางก่อนจะจมเรือลงทะเล
แต่สมัยนี้แค่จอดหลบพายุก่อนเอาไปทำลาย
... อินดี้เห็นแต่ละลำก็ยังดูดีอยู่เลยนิ
แล้วก็ไปแวะศาสนสถานเก่าแก่ริมทะเล
Abbaye Saint-Guénolé de Landévennecทางเข้า ...ต้นไม้เขียวร่มรื่นสงบร่มเย็นมากๆ
เสียดายไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านในและหลายจุดเป็นเขตหวงห้าม
ตัวอาคารก็ไม่ได้เห็นเต็มๆ แต่ถ่ายจากรูปถ่ายอีกทีมาฝาก
วิวริมทะเลเลยค่ะ เงียบสงบเหมาะจะปฏิบัติศาสนกิจ
จุดสุดท้ายของวัน แวะไปชิลทะเลใกล้ๆที่
Landévennecเสียดายเป็นช่วง Low tide น้ำลงเรือเกยตื้นตรึม
น้ำลดแบบนี้ชายหาดเลยไม่ค่อยจะสวย
แต่น้ำใสแจ๋ว ที่สำคัญเย็นยะเยือก
แอบดูเด็กๆมาหัดแล่นเรือ เรียงกันเป็นแถวเชียว
เก็บตกบ้านสวยๆริมทะเล
แถบ Brittany จะเห็นบ้านเรือน
หลังคาหินชนวนหรือหินกาบมากมาย
(FR: Ardoise EN:Slate)
แทบจะร้อยเปอร์เซนคาดว่าคงเป็นไปตามกฏ
ในสายตานักท่องเที่ยว... อินดี้ชอบนะคะ ดูมีเอกลักษณ์ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดี
ถ้านั่งเครื่องบินผ่าน มองลงมาก็จะเห็นดำทั้งหย่อมเลยจริงๆ
อีกอย่างที่นึกถึงก็
ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) ที่ปลูกกันได้อลังการมาก
มีหลายสีหลายเฉด บางหลังพุ่มใหญ่กว่าตัวบ้านซะอีก
ใบนี้ยัง softๆ นะคะ เจ้าของบล็อคเลยขอแอ๊กซอร์ฟๆเข้าซีนด้วย อิอิ
ขอบคุณที่แวะมาอร่อยด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า
บายๆ
~ Dine Out with Indy ~All stories and photos byIL & PEL | indyland.bloggang.com