สวัสดีค่ะเพื่อนๆ



หายไปนานสองนาน ติดภารกิจเดินสายร่วมงานแต่งงานเพื่อนค่ะ

ซัมเมอร์เป็นฤดูกาลแห่งการแต่งงานของคนที่นี่เลย
ต่างกับบ้านเราที่นิยมแต่งกันหน้าหนาวนะคะ

ขับรถไปแถวช่องแคบอังกฤษ ระยะทางไกลพอสมควร
เลยอยู่เที่ยวต่อ Brittany – Normandy ซะเลย อิอิ

ถือโอกาสนี้ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมาอวยพรวันเกิดในบล็อคที่แล้ว
Wishing you all the best !
ขอให้เพื่อนๆมีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ




บล็อคนี้ขอบันทึกย้อนหลัง HBD Dinner วันคล้ายวันเกิดของตัวเองที่เพิ่งจะผ่านไปจ้า


Ursulines| Autun


เล็งร้านนี้มานานนน แต่มีเหตุให้คลาดมาตลอด

เคยมา Winter ช่วงเที่ยง >>> แขกน้อยเลยเปิดแต่มื้อค่ำ ...อดซะงั้น
เคยมา Spring แวะทางผ่าน >>> ปิดจัดงานอะไรซักอย่าง ...อดอีกและ
เคยมา Summer ไม่จองล่วงหน้า >>> เต็มแต่หัววัน ...อดตามเคย

คราวนี้วันเกิด 10/08/2013 ฤกษ์งามยามดี ...ได้ชิมซะที วะฮ่าๆ

ใครสนใจคงต้องจองล่วงหน้าซะหน่อยนะคะ ร้านเค้าฮ๊อตมากช่วงซัมเมอร์

โต๊ะมีไม่มาก เฉพาะแขกของโรงแรมก็เต็มแล้วหล่ะ












บรรยากาศโดยรวม


มีให้เลือกแบบร่มในห้องอาหาร
&
แบบกลางแจ้งในสวน














ซัมเมอร์ขนาดนี้อากาศดีขนาดนั้น

ขอนั่งหม่ำในสวนสวยสไตล์ฝรั่งเศส (Jardin à la française)

อุ่นไอแดดรับแสงสุดท้ายก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

* เอารูปตอนไปเก้อมาแจมด้วย
สังเกตว่าต้นไม้เลื้อยตามตึกเขียวสวยช่วงนี้ซึ่งต่างกับหน้าหนาวลิบลับ
แต่คิดว่า Autumn ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีน่าจะสวยที่สุด














บรรยากาศสบายๆยามเย็น

จัดไป 4 คอร์ส ... เจริญอาหาร

จานหลักจัดทั้งเนื้อทั้งปลา นั่งกันยาาาาาาาาาาวๆ














ขนมปังที่เลือก... ก่อนเริ่มยกแรก












มาพร้อมๆกับ Amuse Bouche เรียกน้ำย่อยเบาๆ

Queues de crevettes sur une écume crémeuse


กุ้งในโฟมซอสใส่ Ciboulette

เริ่มต้นเบาๆ ครีมเค็มๆมันๆไม่ข้น

ทานกับกุ้งเนื้อเด้ง รสชาติใช้ได้เลยค่ะ













ต่อเนื่องจานแรก

.. Entrée ..

Trilogie de melon accompagnée de quelques framboises


เมล่อนสามแบบสามสไตล์

แบบแรกที่อยู่ในแก้วทรงกระบอก

เป็นน้ำเมล่อนรสมิ้นท์ แปลกลิ้นแต่ก็โออยู่นะคะ

แก้วกลาง เป็นเมล่อนบอลแช่ในแอลกอฮอล์ปอร์โต้ (Porto)

สุดท้าย เป็นเมล่อนเต๋าซอยไซส์จิ๋ว ทานคู่กับ Raspberry และ Jambon Cru

จานนี้พระเอกคือ Melon หวานหอม แต่แฮมดิบใช้เกรดไม่ดีเท่าที่ควร

และอันที่แช่ในปอร์โต้คุณ PEL ว่าอ่อนไปนิด น่าจะราดมาเลย 555+














จานต่อไปเป็น Starter ของอินดี้

Tartare de saumon mariné à l'huile d'aneth,
espuma en deux façons, vinaigre de framboise et moutarde verte


เป็นทาทาร์แซลมอนหรือแซลมอนดิบ

อร่อยมาก เนื้อน้องสมรมันๆน่าจะเป็นส่วนพุง อิอิ

หอมกลิ่นสไปซ์ที่หมัก ไม่หนักเกินไป

ส่วนมะนาว เลม่อน และส้ม ที่แต่งจาน เอามากินแกล้มช่วยตัดเลี่ยน

ทานไปพร้อมๆกับผักอองดีฟ (Endive/Chicory) สีแดงชมพู

รสฝาดนิดๆกรอบอร่อยเข้ากันดีมากๆ













ต่อจานปลาบ้างนะคะ

.. Poisson ..

Saint Jacques poêlées, pois gourmands juste saisis,
sauce à l'encre de seiche et badiane


เป็นสแกลลอป 2 ชิ้นอวบ จี้ไฟเกรียมด้านนอก ด้านในนุ่มอร่อย

ตัวฐานที่รองนั้นทำมาจากถั่วลันเตาซอย เคี้ยวกรอบกรุบกริบ

ซอสสีออกคล้ำๆทำจากหมึกดำ (Black squid Ink) ร่วมด้วยโป๊ยกั้กอบเชย

แต่งจานด้วยไข่ปลาสีแดงและสีดำ

จานนี้ติที่ให้หอยเชลล์มาแค่สอง ไม่จุใจเลย อิอิ














อีกหนึ่งจานปลา

Daurade royale rôtie, risotto crémeux au safran,
réduction de crustacés à la citronnelle légèrement crémée


เป็นปลา Daurade/Dorade ย่างกระทะ

ทานกับริซ็อตโต้ครีมหญ้าฝรั่น (Saffron)

ซอสหลักๆเคี่ยวจากซีฟู้ดตระกูลกุ้งและตะไคร้

ด้านบนมีสไลด์แครอทและมันฝรั่งม่วงทอดกรอบแบบ Chips 

จานนี้ปลาสดเนื้อนุ่มอร่อยตามมาตรฐาน ซอสก็หวานเค็มกำลังพอดี

แต่ข้าว Risotto ไม่เป็นเม็ดเลย และออกจะแฉะเกินไปมาก














C h e e r s  !














ต่อจานหลักอีกจาน

.. Viande ..

Roulé de volaille fermière aux petits légumes,
les fameuses "trois purées du couvent" :
brocolis - carotte - pomme de terre


จานนี้ไก่ ม้วนทำเหมือนโรลค่ะ

เนื้อแน่น เนื้อนุ่ม รสชาติไม่ได้พิเศษอะไรมากมาย

แต่แต่งจานเครื่องเคียงทั้งสามกองซะน่ารักเชียว

กอบล็อคโคลี่ กอแครอท และกอมันฝรั่ง














จานเนื้ออีกจาน

Carré d'agneau rôti à la sauge,
 légumes mijotés en ratatouille fondante


จานนี้ Lamb ของโปรด ไม่เหม็นสาปน้องแกะแม้แต่นิดเดียว

ปรุงด้วยการอบ+ย่างด้วย sauge ใบเขียวๆที่เห็นปักอยู่ในจาน

แกะเป็นส่วนซี่โครงแบบนี้ แคะแทะแงะมันนักแล อร่อยๆ

ทานคู่กับสตูว์ผักหรือราตาตุยนุ่มๆ เข้ากันดีค่ะ

ซอสอร่อยเข้มข้น จานนี้ชอบเลย














Summer เริ่มมืดราวๆสี่ทุ่ม

 พนักงานเอาเทียนมาจุด

อิ่มมากมาย โรแมนติกมากมี

ระหว่างรอของหวาน  ชักภาพซักใบสองใบจ้า ^^














แสงน้อยมากๆ ขออภัยที่ Noise กระจาย ไม่อยากเปิดแฟลชน่ะค่ะ

.. Dessert ..

Souvenirs d'enfance en verrine :
mousse au chocolat, île flottante, riz au lait orangé,
crème catalane, crème pistache, gaufre grand-mère


 มาเป็นถาดอย่างละนิดละหน่อย บนกระดานชนวนให้ได้ชิมกันจุบจิบ

ชื่อเมนูก็เก๋ไก๋ ‘ของหวานย้อนวันวาน’ ประมาณว่ารวมขนมที่วัยเด็กเราเคยชอบๆ

(คงหมายถึงเด็กฝรั่งอ่ะนะ เพราะถ้าเด็กไทยอย่างอินดี้จานนี้คงต้องมี
ฝอยทอง ตะโก้ กระเบื้อง กล้วยบวดชี ทำนองนี้ ไล่ไม่หมดเลย ฮ่าๆ)

เริ่มจากซ้าย waffle ในเมนูสื่อว่าเป็นวาฟเฟิลสูตร Grandmom เชียวนา

ที่วาฟเฟิลพิงอยู่เป็น กระปุกใส่มูสช็อคโกแลต ของหวานสุดคลาสสิค

ขวาบนเป็นขนม Floating Island หลักๆทำจากไข่ขาว

ราดเครมอองเกร+คาราเมล เด็กๆชอบกันนัก

ด้านล่างจากซ้ายไปขวา

คัสตาร์ดครีมพิสตาชิโอ หวานๆไม่มีอะไรมาก

เครมคาตาลัน  ซึ่งก็คือๆกันกับเครมบรูเล่ (Crème brûlée) นั่นแล

โดยรวมอร่อยทุกอย่าง

ถ้วยสุดท้ายไม่ชอบเท่าไหร่ เป็นข้าวเคี่ยวในนมผสมเปลือกส้มขูด

ก่อนเติมน้ำตาลกับไข่ประมาณนั้น














ขนมหวานอีกเซต
Déclinaison de fruits rouges :
gaspacho de fraise, tuile aux amandes, vodka fraise tagada,
quenelle de sorbet myrtille, sablé breton et mousse framboise



ชื่อเมนูประมาณ 'รวมมิตรเหล่าเรดฟรุ๊ต' สีหว๊านหวาน

ที่อยู่ในแก้วสูงเป็นกัสปาโช่ Strawberry รสชาติประมาณนม+โยเกิร์ต

แก้วเตี้ยเป็นคล้ายๆลูกอม (fraise tagada) แช่ใน Vodka

ส่วนแผ่นบางๆที่รองด้วย Raspberry เป็นขนมเบื้องฝรั่งเศส (tuile)

ร่วมด้วยไอศครีมเย็นๆเป็น Blueberry Sorbet

สุดท้ายคุ้กกี้เนย หน้ามูสครีมราสพ์เบอร์รี่

อร่อยเกือบทุกอย่าง ยกเว้นลูกอมแช่วอดก้า มิไหวจริงๆ

ชิมไปนิดเดียว แทบจะเซ แรงส์...














หม่ำของหวานใต้แสงจันทร์

ภาพนี้เพ่งดูดีๆ ดาวเต็มฟ้าเลยค่ะ

ถ่ายยากจัง
อยากเก็บภาพทั้งฟ้าว่ามีดาวมากแค่ไหน

อากาศเย็นสบาย สิบองศาต้นๆ

ต้องพกแจ๊คเก็ตมาด้วยแม้จะหน้าร้อนก็เต๊อะ


*จริงๆจะมีของว่าง petits fours ตบท้ายและชากาแฟปิดมื้อ
แอบเห็นเป็นพายไส้ต่างๆจานใหญ่เลยปฏิเสธไปเพราะอิ่มและดึกมากแล้ว
ใจจริง... อยากขอห่อกลับบ้าน เอิ้กๆ














จบด้วยภาพโบสถ์สำคัญประจำเมือง

อินดี้เคยมาทานข้าวที่เมือง Autun ลงรีวิวไปแล้วอีกสองร้าน
 (CLICK ย้อนดูได้นะคะ )

@ Le Chapitre

@ La Tête Noire

ถ้าไม่นับบรรยากาศ ชอบ Le Châpitre มากกว่าค่ะ

ร้านนี้อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง รสชาติไม่คงที่

บริกร/บริการดีสุภาพมากแต่ก็ช้ามากกกๆๆ

ทานเสร็จปาไปเกือบเที่ยงคืนแน่ะ (เข้าร้านตอนสองทุ่ม ><)

ถือซะว่าได้เห็นดาวเต็มฟ้าเป็นโบนัสหละกันเนอะ ^^ 

 สรุปก็แฮปปี้อยู่ดี ฉลองวันเกิดต่างแดนอีกหนึ่งปีของอินดี้













 ขอบคุณที่แวะมาอร่อยด้วยกันนะคะ

แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า

บายๆ

~ Dine Out with Indy ~


All stories and photos by
IL & PEL | indyland.bloggang.com