วันที่ 17 มีนาคม 2552 วันที่แม่ปูหัวใจแทบจะสลาย อินชอนจ๋าวันนี้แม่ขอเขียน
เรื่องราวของการศูนย์เสียลุงไมเคิลก่อนนะคะลูกและแม่ขอทำใจให้ได้ก่อนแล้ว
แม่จะมาอัพบล็อกให้ลูกเมื่อใจของแม่เข็มแข็งขึ้นนะคะลูกแต่แม่ก็ไม่รู้ว่าอีก
นานแค่ไหนวันนี้พรุ่งนี้หรือเป็นเดือนถ้าพ่อพอมีเวลาว่างแม่อาจจะวานพ่อให้
อัพบล็อกให้ลูกแทนแม่ก่อนนะคะคนดีของแม่ วันนี้ช่วงสิบโมงเช้าทางโรง
พยาบาลเกษตรฯโทรมาบอกพ่อให้ไปดูใจลุงเคิลที่อาการทรุดหนักหลังจากที่ลุง
เคิลเข้าโรงพยาบาลมาอาทิตย์กว่าๆเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 8
มีนาคม 2552 วันนั้นแม่จำได้ว่าลุงเคิลไม่ได้มีท่าทีป่วยเลยยังคงร่าเริงดีแม่ให้
พ่อพาลุงไปตรวจสุขภาพเหมือนเดิม แต่พอตอนเย็นคุณหมอทศพลเจ้าของไข้
บอกให้ลุงเคิลอยู่โรงพยาบาลเพราะตรวจพบเบาหวานและโรคอีกหลายๆโรค
มากมายพ่อเลยให้ลุงเคิลอยู่ในความดูแลของคุณหมอที่โรงพยาบาล จากวันนั้น
เราจะไปหาลุงเคิลที่โรงพยาบาลกันทุกวัน นี่เป็นครั้งแรกที่ลุงเคิลต้องไปนอนที่
อื่นโดยไม่มีครอบครัวของเราและพี่หัวเทียนบอดและพี่กังฟูลูกชายสองตัวของ
ลุงเคิล เวลาที่แม่เข้ามาในบล็อกของเราแม่ก็จะย้อนไปดูเรื่องราวในการแนะนำ
สมาชิกในบ้านของเราและเรื่องกฎทองของหมาที่แม่เคยเขียนที่ผ่านมาและ
พยายามทำใจว่าคนเราก็ต้องมีจากกันไม่ช้าก็เร็ว ต้องเป็นไปตามวัย แต่แม่ก็
เฝ้าแต่หลอกตัวเองว่าขอเวลาหน่อยเถ่อะที่จะอยู่ด้วยกันให้นานหน่อย หลังมานี้
พอแม่มีเวลาแม่ก็จะมานั่งที่น่าคอมตลอดโดยได้แต่ทักทายพี่ๆน้อยกว่าเดิม
มากยิ่งแม่มีลูกอินชอนแม่ก็เอาเวลาส่วนใหญ่ให้ลูก โดยไม่อยู่กับพี่ๆน้องหมา
ตลอดเวลาเหมือนเดิมถึงแม้นเราจะอยู่บ้านเดียวกันก็ตาม ในขณะที่แม่เขียน
เรื่องราวในวันนี้หัวใจของแม่รู้สึกอ่อนแอเต็มทน อาจมีคนมากมายที่เค้าไม่
เข้าใจหรือมองเห็นหัวใจของแม่และครอบครัวเราและคิดว่ากับแค่หมาตัวเดียว
ยอมเสียเงินไปหมื่นกว่าบาทแล้วเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเค้าหรือแม้นแต่ที่เห็น
แม่นั่งร้องไห้ในทุกๆวันเหมือนคนบ้า แต่แม่ไม่แคร์หรอกลูกจ๋า เพราะแม่คิดว่า
คนเหล่านั้นเค้าไม่มีหัวใจเลย วันนี้แม่ได้มองเห็นหัวใจของลุงเคิลที่รักแม่และ
อยากกลับบ้านของเราแล้วว่าลุงอยากกลับแค่ไหนทั้งๆที่ทุกๆวันที่เราไปเยี่ยมลุง
เคิลลุงเคิลจะดีใจมากจะเล่นกับลูกและมาอ้อนนอนตักของแม่หรือแม้นจำได้ว่า
รถของเราทั้งสองคันจอดตรงไหนและเดินไปเพื่อพยายามจะขึ้นรถของเรากลับ
บ้านแต่หมอก็ไม่อนุญาติจนกระทั้งจากหน้าตาที่สดใส วิ่งเล่นได้ หม่ำข้าวได้
แต่สามวันที่ผ่านมาลุงกลับเริ่มแย่เพราะสามวันนี้เราไปเยี่ยมลุงเย็นมากเลย ลุง
เคิลคงจะรอให้เรารับกลับบ้านทุกๆวัน เมื่อคืนนี้พอแม่อุ้มลุงเคิลกล่อมไปมา
ลุงเคิลจะเอาหัวซบที่อกของแม่และทำเหมือนมีความสุขมากแต่พอหมดเวลา
เยี่ยมแม่จะพาลุงเคิลเข้าห้องที่ลุงเคิลอีกในโรงพยาบาลลุงเคิลจะสั่นตลอด
เหมือนกลัวไม่อยากเข้าไป ก็จะไม่กลัวได้งัยต้องถูกเจาะเลือดทุกสองชั่วโมง
และก็ต้องนอนโดยปราศจากพวกเรา จนมาถึงวันนี้ที่หมอบอกว่าลุงเคิลอาการ
แย่ลงมากแม่กับครอบครัวของเรารีบขับรถขึ้นทางด่วนไปเพื่อจะไปหาลุงเคิล
เมื่อลุงเคิลเห็นเราจากนอนซมก็รีบลุกขึ้นเลยเมื่อแม่สั่งหมอว่าแม่จะหยุดการ
รักษาและพาลุงเคิลกลับบ้านเรา ทีแรกหมอจะไม่ยอมแต่แม่ก็ขอยืนยันแบบนี้
เพราะแม่รู้แล้วว่าลุงเคิลไม่อยากอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะความคิดถึงบ้าน ลุงเคิ
ลอยู่ก็ยิ่งทรุดเพราะลุงเคิลคิดถึงบ้านเมื่อเปรียบเทียบตั้งแต่วันไปจนถึงวันนี้ เมื่อ
ตอนกลับบ้านเรากลับมาพร้อมน้ำเกลือสองขวดและแม่ทราบว่าไตลุงเคิลเริ่มไม่
ดีแล้วรวมถึงระบบภายในต่างๆด้วยค่ะลูกจ๋า
ก่อนที่จะเข้าบ้านแม่ก็ยังให้ลุงเคิลอยู่กับหมอตุ๊กตาหน้าหมู่บ้านเราเพราะกลัวลุง
เคิลจะจากแม่ไปไวถ้าแม่ไม่มีความรู้เรื่องแพทย์เนื่องจากต้องให้น้ำเกลือกับลุง
เคิล แต่เปล่าเลยพอลุงเคิลรู้ว่าแม่จะให้ลุงเคิลอยู่กับหมอหน้าหมู่บ้านแล้วไม่ได้
กลับบ้านอาการลุงเคิลก็แย่ลงแย่ลง แม่ก็ยังคิดว่าเป็นไปตามอาการป่วย สุดท้าย
ซักพักนึงลุงเคิลก็หายใจแรงๆและลืมตานิ่งเกร็งและหยุดหายใจ แม่พร่ำร้อง
เรียกลุงเคิล ว่าเคิลจ๋าอย่าจากแม่ไปนะลูกถ้าหนูไม่ไหวแม่รู้แล้วว่าหนูอยาก
กลับบ้านแม่ยอมแล้วถึงแม้นลูกจะพูดไม่ได้ก็ตาม แม่มองเห็นความจงรักภักดีที่
ลูกมีต่อแม่และครอบครัวของเราแล้วลูก ไมเคิลจ๋า ถ้าลูกทนไม่ไหวก็กลับไปนะ
ลูกกลับไปตายที่บ้านของเราแล้วอยู่กลับแม่ที่บ้าน หมอตุ๊กตาเค้ามองเห็นหัวใจ
รักที่แม่มีต่อลูก และลูกมีต่อแม่ก็เลยพยายามปั๊มหัวใจลูกไปเรื่อยๆปั๊มอยู่นาน
ไม่มีอะไรตอบสนองกลับมา แม่นั่งร้องไห้ใจแทบจะขาดหลายวันมานี้แม่เป็น
ห่วงลูกมากนะครับไมเคิล ชิชิ๋วของแม่ จะนอนก็นอนไม่ค่อยจะหลับ จะกินก็กิน
ไม่ค่อยจะลงเฝ้าภาวนาขอให้ลูกมีอาการดีขึ้น แม่พูดไปอย่างนั้นซักพักก็เกิด
ปาณิหารณ์ลูกเคิลของแม่ก็ฟื้นขึ้นมาโดยที่แม่ใหญ่ป้าปลาของอินชอนบอกว่า "
เคิลอยากกลับบ้านไหมถ้าอยากกลับแข็งใจลุกขึ้นไปอยู่บ้านเราตายที่บ้านของ
เรา " แล้วลูกเคิลของแม่ก็ลุกขึ้นทำตัวเหมือนตัวเองแข็งแรงจริงๆพร้อมกับส่ง
เสียงดีใจและเห่าด้วยความดีใจอยู่ในรถพอรถเข้าจอดภายในบ้านลูกเคิลก็เริ่ม
กระตุกแม่รีบพาลูกไปนอนที่ของลูกที่ลูกเคยอยู่หน้าห้องรับแขกภายในบ้านของ
เราและได้เจอลูกๆของเคิลแล้วหนูก็ค่อยๆจากแม่ไปอีกครั้ง โถ!แม่ยอมแพ้แล้ว
ลูกแม่เลี้ยงคนมามากมายที่อยู่ในบ้านของเราเค้ายังไม่อยากอยู่กับแม่เท่ากับลูก
เลยไมเคิล หนูช่างซื่อสัตย์ หนูช่างรักแม่ รักบ้าน และรักครอบครัวของเราเหลือ
เกินถึงแม้นจะถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตหนูก็ยังอดทนทำหน้าที่ของหนูอย่างดีที่สุด
ไมเคิลจ๋า เราอยู่กันมาสิบปีไม่เคยมีซักครั้งเลยลูกที่หนูจะสร้างความไม่สบายใจ
หรือทำตัวไม่ดีเลย เคิลครับเคิลทำดีมาตลอดนะลูก แม่ไม่เคยเสียใจที่ต้องเสีย
น้ำตาให้กับความรักและความซื่อสัตย์ของหนูนะเคิล แม่ไม่เคยเสียดายเงินว่าจะ
ต้องเสียเงินรักษาหนูแค่ไหน และไม่เคยเสียดายหัวใจของแม่ที่แม่มีลูกและเลี้ยง
ลูกมาตลอด หลับเถ่อะนะครับ หลับให้สบายถ้าชาติหน้ามีจริงหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
รับรู้ได้ขอให้ลูกเคิลกับมาเป็นคนและกลับมาเป็นลูกของแม่นะครับ แม่รักหนูนะ
ลูกและหนูจะอยู่ในหัวใจของแม่ไปตลอดชีวิตที่แม่มีอยู่และแม่สัญญาว่าแม่จะมี
เวลาให้ลูกชายสองตัวของลูก กังฟูและหัวเทียนบอดให้มากกว่านี้และสัญญาจะ
ไม่ให้ห่างไกลแม่ไปไหนอีกแล้ว ลูกรักของแม่ อยู่บ้านช่วยคุ้มครองแม่และน้อง
อินชอนรวมถึงครอบครัวของเราด้วยนะคะลูก แม่รักหนูที่สุด ไมเคิลลูกรักของ
แม่
1.ชีวิตของฉันอย่างมาก ก็สิ้นสุดเพียงแค่ 10-15ปี เท่านั้น การต้องแยกจากเธอไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ นับเป็นความปวดร้าวอย่างยิ่งของฉันจึงโปรดสังวรให้จงหนัก...ก่อนจะรับฉันเข้ามาในชีวิต
2. ให้เวลากับฉันสักหน่อย เพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าเธอต้องการอะไรจากฉัน
3. จงเชื่อมั่นในตัวของฉัน เพราะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความเป็นอยู่ของฉัน
4. อย่าโกรธฉันให้นานนักและอย่าลงโทษฉันด้วยการกักขัง เธอมีทั้งหน้าที่การงาน ความบันเทิง และมิตรสหายแต่ฉันนั้นมีเพียงเธอ
5. พูดกับฉันบ้าง แม้ฉันจะไม่เข้าใจคำพูดแต่ฉันก็เข้าใจเธอได้จากน้ำเสียง
6. พึงระลึกอยู่เสมอว่า...ไม่ว่าเธอจะปฏิบัติอย่างไรต่อฉัน ฉันจะไม่มีวันลืมเลือนเธอเลย
7. โปรดอย่าทุบตีฉัน เพราะว่าฉันจะทุบตีเธอกลับไม่ได้แต่ฉันสามารถกัดหรือข่วนตะกุยเธอได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากกระทำเลย
8. ก่อนจะดุด่าฉันสำหรับท่าทีที่คล้ายไม่เชื่อฟังดื้อดึง เกียจคร้าน ขอจงได้ถามตัวเองก่อนว่าเกิดสิ่งผิดปกติกับตัวฉันหรือไม่ บางทีอาจจะมาจากเรื่องของอาหารหรือถูกทิ้งไว้กลางแดดนานเกินไปหรือหัวใจของฉันแก่ชราและอ่อนล้าเสียแล้ว
9. ดูแลฉันเมื่อยามแก่เฒ่าด้วยเพราะวันหนึ่งเธอก้ต้องเป็นเช่นนั้น
10. อยู่กับฉันเมื่อช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตมาถึงขออย่าได้พูดเป็นอันขาดว่า " ฉันทนดูไม่ได้ขออย่าให้มันเกิดขึ้นต่อหน้าเลย " เพราะเรื่องราวทั้งหมดจะง่ายขึ้นหาก...มีเธออยู่ด้วย.. ( ขอขอบคุณผู้ที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาสำหรับคนรักหมาทุกคนค่ะ ) .....
Create Date : 18 มีนาคม 2552
80 comments
Last Update : 18 มีนาคม 2552 0:54:14 น.
Counter : 1152 Pageviews.