กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
โฮจิมินห์ กลางวันเห็นประวัติศาสตร์
24-26 ม.ค. ที่ผ่านมามีโอกาสไปเที่ยวเวียดนามใต้
ไปเที่ยว 2 เมือง คือ โฮจิมินห์และมุยเน่ (อำเภอหนึ่งของฟานเทียต)

ตอน 1 ขอลงโฮจิมินห์ก่อนนะคะ ได้เที่ยวที่นี่ 2 วัน 2 คืน
สิ่งที่ได้จากเมืองนี้ คือ
เที่ยวตอนกลางวัน ได้เห็นประวัติศาสตร์
เที่ยวตอนกลางคืน ได้เห็นแสงสีและวัฒนธรรมค่ะ

เริ่มต้นถ่ายรูปการเดินทางในเครื่องบินจากสุวรรณภูมิไปโฮจิมินห์
รูปแรกถ่ายที่สุวรรณภูมิ ตอนแปดโมงกว่า



รูปต่อมาถ่ายระหว่างสุวรรณภูมิและโฮจิมินห์ เกือบๆ เก้าโมง




รูปสุดท้ายถ่ายที่โฮจิมินห์ เก้าโมงกว่าๆ



ข้อมูลโฮจิมินห์
เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำใหญ่ที่สุดของเวียดนาม อยู่บนสันดอนของแม่น้ำโขง
ห่างจากทะเลจีนใต้ไปทางทิศเหนือ 40 กม. ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า
2,000 ตารางกม. ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง ชาวเวียดนามที่อาศัย
อยู่ในอเมริกา ฝรั่งเศส ออสเตรเลียและเอเชีย ได้ให้ความช่วยเหลือ
ด้านเศรษฐกิจ จนทำให้เมืองนี้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่เหยียบย่างเข้าโฮจิมินห์ก็เที่ยวเลยนะคะ

1. สถานที่แรก คือ ตลาดเบนถานค่ะ
ระหว่างที่อยู่ที่นี่ผ่านตรงนี้เกือบสิบรอบได้มั้ง
ซื้อของฝากบางอย่างและแวะดื่มกาแฟเวียดนามแก้วแรกที่นี่ค่ะ



ด้านหน้า ด้านข้างและฝั่งตรงกันข้ามค่ะ





ตลาดแห่งนี้ใหญ่ที่สุดในโฮจิมินห์ มีหอนาฬิกาอยู่ด้านหน้า
ขายของหลากหลาย แทบทุกอย่าง

2. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และสวนสัตว์ค่ะ
อยู่ในรั้วเดียวกัน แต่เนื่องจากวันที่ไป (วันจันทร์) พิพิธภัณฑ์ปิด
จึงถ่ายได้แต่รอบนอก แต่แค่นั้นก็สวยแล้วนะคะ



ส่วนรูปนี้เป็นอาคารที่อยู่ตรงกันข้ามค่ะ




ส่วนรูปนี้เห็นป้ายสวยดีก็เลยถ่ายมา ไม่รู้ความหมายหรอกค่ะ



ที่เห็นนี้คือ ทางเข้าสวนสัตว์ค่ะ
ถ่ายมาแต่ป้าย ไม่ได้เข้าไปดูหรอกค่ะ เพราะคิดว่าสัตว์ชาติไหนๆ
ก็คงหน้าตาเหมือนๆ กันแหละ อิอิ



3. พิพิธภัณฑ์สงคราม
แค่ชื่อก็ดูไม่น่าเข้าแล้วเนอะ สถานที่นี้เก็บบันทึกเรื่องราว
ความบอบช้ำจากสงคราม มีภาพประวัติศาสตร์เยอะแยะมากมาย
ทุกภาพเศร้าสลดใจ เห็นถึงความเหี้ยมโหดของมนุษย์ด้วยกัน
ทั้งคนชาติเดียวกันและคนต่างชาติ

ขอให้ประวัติศาสตร์เตือนให้เราทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีขึ้น
ไม่ใช่คนเวียดนามเท่านั้น แต่คนทุกชาตินั่นแหละ













รูปสุดท้ายนี้ สิ่งเดียวที่บ่งบอกว่าอยู่เวียดนาม คือ หมวกค่ะ



หมายเหตุ : ตั้งแต่ซื้อของฝากตามสถานที่ต่างๆ ในเวียดนาม
พบว่าของที่ระลึกที่นี่ถูกที่สุดค่ะ

4. โบสถ์นอทเธอร์ดาม
โบสถ์คาทอลิกแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินต์
แขกไปใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปที่นี้กันทั้งสิ้น
บริเวณหน้าโบสถ์จึงเต็มไปด้วยรถบัสและผู้คนมากมาย
ที่ทยอยกันมาเป็นกรุ๊ปๆ

โบสถ์แห่งนี้เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2420
และมาสำเร็จในอีก 6 ปีต่อมา



กว่าจะหามุมถ่ายได้ก็ใช้เวลาพอสมควร



และแล้วสิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ โบสถ์แห่งนี้ไม่ว่าจะถ่ายรูปจากมุมไหนก็สวย







อิทธิพลของฝรั่งเศสทำให้ใจกลางเมืองนี้มีมุมถ่ายรูปที่งดงามมากมาย
โดยที่ถ่ายแล้วไม่นึกเลยว่ากำลังอยู่ในเวียดนาม

5. ไปรษณีย์กลาง
สถานที่นี้ก็อยู่ข้างๆ โบสถ์เมื่อกี้นี้เอง
ตามธรรมเนียมทุกคนไปก็ต้องถ่ายภาพด้านในแบบนี้
ด้านหลังจะเป็นภาพของโฮจิมินห์
ซึ่งจริงๆ ภาพของลุงโฮ มีแทบจะทุกอณูของเมืองนี้เลยก็ว่าได้





ภาพนี้ถ่ายจากบริเวณด้านข้าง จะมีอนุสาวรีย์เล็กๆ อยู่ด้วย



ส่วนภาพสุดท้ายนี้ทำให้รู้ว่า ... คนดีไม่เคยตาย
แม้คนดีที่เรารัก ตัวเขาจะตายจากเราไปแล้ว
แต่คุณงามความดี และความทรงจำของเขาจะอยู่กับเราตลอดไป



6. โอเปร่าเฮ้าส์
โรงละครโอเปร่ากลางเมืองอีกเช่นกัน
สถานที่ 4,5,6,7 อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน เดินถึงกันได้แบบไม่เหนื่อยนัก
ขณะที่อยู่ในโฮจิมินต์ก็เวียนไปเวียนมาแถวนี้หลายรอบ
เพราะมีคนแนะนำว่าให้ถ่ายรูปทั้งกลางวันและกลางคืน
จะได้บรรยากาศความงดงามที่ต่างกัน (แล้วเราก็เชื่อเขา 555)

ปัจจุบันก็เปิดใช้อยู่ แต่เผอิญว่าเราไฮโซไม่พอ
ไม่ต้องดูด้านในหรอก ถ่ายด้านนอกก็พอล่ะ





น้ำพุตรงนี้อยู่ในถนนตรงข้ามโอเปร่าเฮ้าส์
พอเลี้ยวขวาถัดจากนี้ไปก็ไปถึงอีกสถานที่หนึ่งแล้ว



7. People Committee Hall ... ศาลาว่าการเมือง
ที่นี่แหละที่ว่าเลี้ยวขวามาจากน้ำพุ
ด้านหน้าอาคารก็เป็นรูปปั้นโฮจิมินห์อีกเช่นเคย
แหม ชื่อเมืองก็บอกแล้วเนอะ ว่าเมืองของใคร



อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่งดงามได้ใจทั้งคนไทยและคนเวียดนาม





8. อุโมงค์กูจี่
อีก 1 สถานที่ๆ ไปถึงโฮจิมินห์แล้วไม่มีทางที่จะพลาดได้
เป็นสถานที่ๆ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง
กูีจี่ คือ ชื่ออำเภอหนึ่งในโฮจิมินห์ (ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กม.)
ไม่มีรถประจำทางผ่าน ต้องซื้อทัวร์เท่านั้น



อุโมงค์นี้เป็นที่มั่นหลักและฐานบัญชาการของเวียดกง
มีโรงพยาบาลและหมู่บ้านใต้ดิน มีเครือข่ายใต้ดินยาวกว่า 200 กม.
ทหารเวียดกงกลางวันเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่กลางคืนเป็นทหารกล้า

เมื่อเข้าไปถึงจะมีอุโมงค์ใต้ดินลักษณะนี้มากมาย
ใช้เป็นสถานที่อธิบายเรื่องราวต่างๆ ของที่นี่
รวมทั้งมีการเปิดวีดีโอให้ฟังบรรยายในภาษาของแต่ละประเทศด้วย
ตอนเราไปถึงเขาก็เปิดประวัติเป็นภาษาไทยให้ฟัง






ด้านหลังนี้มีภาพให้เห็นรายละเอียดของฐานทัพใต้ดิน
(เหมือนรังมดเลย)



ส่วนภาพต่อไป เป็นอุโมงค์ที่ใช้หลบภัย ได้ทีละคน
และต้องเป็นคนที่ไม่อ้วนด้วยจึงจะสามารถลงไปแล้วปิดอุโมงค์ได้มิด
ทหารของเขาตัวเล็ก แต่วันนั้นฝรั่งผู้หญิงคนหนึ่งยังลงไปได้เลย







บริเวณรอบๆ ก็เต็มไปด้วยซากของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นรถถัง
หรือปืน รวมไปถึงอุปกรณ์ทรมานศัตรูในรูปแบบต่างๆ
ที่เวียดกงพัฒนาจากอุปกรณ์อันทันสมัยของอเมริกานั่นแหละ








ส่วนต่อมา คือ โรงอาหารของทหารที่นี่
ไกด์ที่เป็นทหารของที่นี้ ให้เราล้างมืออย่างดี
และเตรียมเสริฟอาหารแบบเดียวกับที่ทหารในเวลานั้นกิน
อันได้แก่มันและน้ำชา ... ขอบอกว่าอร่อยค่ะ








ในที่สุดก็ต้องปิดท้ายด้วยคนนี้ค่ะ
ขอบอกว่าประทับใจสถานที่นี้เป็นพิเศษ
เบื้องหลังของประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกของเวียดนาม
คือ ความอุตสาหะของคนที่รักประเทศอย่างแท้จริง
คนไทยน่าจะมาดูที่นี่เยอะๆ จะได้มีสำนึกรักประเทศกันบ้าง



ปิดท้ายโฮจิมินห์ในแบบที่เที่ยวกลางวันเห็นประวัติศาสตร์
ด้วยภาพของสนามบินก่อนกลับกรุงเทพฯ นะคะ





โปรดติดตามการเที่ยวแบบกลางคืน
ที่ทำให้เห็นแสงสีและวัฒนธรรมด้วยค่ะ



Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2554 8:31:57 น.
Counter : 2162 Pageviews.

4 comments
  
เห็นภาพแล้วคิดถึงเวียดนามจังเลยค่ะ
โดย: แม่น้องพี IP: 223.206.99.72 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:47:26 น.
  
คุณแม่น้องพีไปเที่ยวเมืองไหนมาคะ
แบ่งปันรูปถ่ายและประสบการณ์ได้นะคะ
^^ ขอบคุณที่แวะมาเมนท์ค่ะ
โดย: InceAraya วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:11:32 น.
  
มีแผนจะไปค่ะ อยากทราบข้อมูลค่ะ ออกจากสุวรรณภูมิแลกเงินดอลไปแล้วค่อยไปแลกเงินดองเอาที่นู่นดีกว่าใช่ไหมค่ะ แล้วได้ไปเที่ยวเมืองใกล้โฮบ้างไหมค่ะ เดินทางสะดวกหรือป่าว
โดย: bumbb IP: 61.7.147.18 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:18:46:49 น.
  
ใช่ค่ะ นำเงินดอลไปแลกเงินดองที่โน่นค่ะ
ตอนนั้นรู้สึกจะแลกที่สนามบินเลย
เที่ยวที่โฮจิิมินต์และมุยเน่ค่ะ

เนื่องจากเดินทางเป็นกรุ๊ปใหญ่ เลยจองทัวร์
การเดินทางเลยไปรถตู้ตลอดค่ะ สะดวกดี
เที่ยวให้สนุกนะคะ
โดย: InceAraya วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:1:25:05 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

InceAraya
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]