หนูเริ่มหัดอ่านเมื่อไหร่ดี
เด็กเล็ก ๆ จะชอบหนังสือภาพ( wordless picture book) มากค่ะ เพราะแกสามารถแต่งนิทานเองได้เป็นเรื่องเป็นราวทั้งที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก โดยจินตนาการไปตามรูปภาพที่แกเห็นนั่นเองค่ะ
หนังสือภาพที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องสีฉูดฉาด เพียงแต่เป็นภาพลายเส้นง่าย ๆ แต่มีรายละเอียดที่จะสื่อกับเด็กได้โดยยกเอาสิ่งที่เด็กคุ้นเคยมาดำเนินเรื่อง เด็กเขาจะพยายามสังเกตุ คาดเดา และรวบรวมความคิดแต่งเป็นเรื่อง ได้ฝึกภาษา และภาคภูมิใจ เพราะคราวนี้แกเป็นคนเล่าให้คุณแม่ฟังบ้างแล้วล่ะ แล้วแกก็อยากจะอ่านซ้ำและต้องแต่งคำพูดกันใหม่ โดยมีการปรับปรุงคำพูดให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เป็นที่ชอบอกชอบใจของผู้เล่าเลยล่ะค่ะ
ลูกสาวคนโตตอนนี้ย่าง 7 ขวบ เริ่มอ่านหนังสือได้ดีแล้วค่ะ แกสามารถอ่านวรรณกรรมของเด็ก 8-10 ขวบได้สบาย ทั้งที่ตอนอายุ 4- 5 ขวบ เด็กคนอื่นในโรงเรียนที่เร่งเรียนสามารถอ่านบทเรียนกันได้แล้ว แต่แกยังอ่านได้แค่คำที่เห็นบ่อย ๆ และคำง่าย ๆ ส่วนลูกสาวคนเล็กตอนนี้ 4 ขวบ a-z ยังไม่คล่องเลยนะคะ แต่ดิฉันมิได้เร่งลูกแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าวันหนึ่งแกก็จะเหมือนพี่สาวที่ดิฉันไม่เคยเร่งเช่นกันค่ะ
อีกทั้งดิฉันยังเห็นด้วยกับข้อความจากปกหลังของหนังสือ "สู่ความเป็นมนุษย์ ผู้สร้างสรรค์" ของโจน ออลมอน แปลและเรียบเรียงโดย จันทร์เพ็ญ พันธุ์โอสถ ใจความว่า...
"พ่อไม่แน่ใจ... ในประโยชน์ของการหัดอ่านหนังสือ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในเมื่อพ่อเป็นครู...ดิฉันแน่ใจเช่นนั้น พ่อเห็นว่าทันทีที่เด็กรู้ว่าสามารถหาข้อมูลได้จากหนังสือ เด็กก็จะเลิกใช้สติปัญญาของตัวเองในการสังเกต ความจำและคิดไปเสีย ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงถูกปล่อยให้ใช้การสังเกต ความจำ และการคิดหาเหตุผลอยู่อีกนานหลังจากที่เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันอ่านออกเขียนได้กันหมดแล้ว"
ซิลเวีย ทาวน์เซนต์ วอร์เนอร์ เขียนเกี่ยวกับบิดาของเธอใน Scenes of Childhood
เรามาดูตัวอย่างเล่มที่เรามีกันดีกว่าค่ะ เรื่อง "Pancake for breakfast" โดย Tomie DePaola ค่ะ ดิฉันไม่ได้ถ่ายรูปมาทุกหน้านะคะ แต่จริง ๆ เป็นเรื่องราวของเด็กฝรั่งมากกว่า แต่ดีอยู่ที่ว่าการทำแพนเค้กนั้น ๆ เด็ก ๆ พอจะคุ้นชินกันอยู่บ้างค่ะ
ลูกก็จะเล่าว่าแกล้างหน้าแปรงฟันและอยากกินแพนเค้ก
หนังสือแสดงให้เห็นถึงความลำบากในการหาส่วนผสมแต่ละอย่างมาค่ะ โดยเริ่มที่เตรียมแป้ง ไข่หมด ต้องไปเก็บไข่ในเล้าไก่
ว๊า นมก็หมด ต้องไปรีดนมวัว
หนังสือก็จะดำเนินเรื่องราวไปตามขั้นตอน(sequencing) เช่น ทำเนย และซื้อเมเปิ้ลไซรัปค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้นรูปภาพง่าย ๆ ยังสามารถสื่ออารมณ์ต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ เห็นและสัมผัสได้ค่ะ ทั้งมีความหวัง เหนื่อย ตกใจ เศร้า ประหลาดใจ และสุขใจค่ะ
แม้ในเด็กโตก็สามารถใช้รูปภาพหรือหนังสือภาพในการฝึกการเขียนได้ค่ะ เพราะเด็กส่วนใหญ่จะติดขัดตั้งแต่การคิดเค้าโครงเรื่อง การที่เรามีภาพให้ทำให้เด็กสามารถลื่นไหลไปคำพูดโดยไม่ติดที่เค้าโครงเรื่องนั่นเองค่ะ
ขอขอบคุณ bg สวย ๆ จากเพื่อน ๆ ในบล็อกแก๊งค์ค่ะ
Create Date : 27 พฤษภาคม 2551 |
|
19 comments |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2551 17:46:11 น. |
Counter : 1002 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ลิตช์ (Litchi ) 28 พฤษภาคม 2551 19:39:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ขวัญค่ะ IP: 118.172.96.240 28 พฤษภาคม 2551 23:45:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 29 พฤษภาคม 2551 0:24:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปาณฟ้า 31 พฤษภาคม 2551 16:50:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 2 มิถุนายน 2551 20:23:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: jarumard IP: 124.121.19.2 3 มิถุนายน 2551 1:01:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 3 มิถุนายน 2551 12:52:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: อัญชนา 3 มิถุนายน 2551 13:01:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 3 มิถุนายน 2551 18:53:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 9 มิถุนายน 2551 15:58:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) 9 มิถุนายน 2551 23:09:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 10 มิถุนายน 2551 11:13:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแมว 10 มิถุนายน 2551 22:49:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 11 มิถุนายน 2551 12:37:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่จ๋า IP: 58.8.197.52 12 มิถุนายน 2551 11:43:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: chinging 12 มิถุนายน 2551 13:11:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ดันฝนตกไฟดับ หนังสือภาพนี่ตอนเด็ก
ลิตช์ไม่มีค่า แต่น้องชายเรียนคาทอลิค
เห็นมีนำมาใช้สอน ซึ่งอย่าว่าแต่เด็ก
เลยค่ะ ลิตช์ยังชอบหยิบมาดูบ่อย ๆ
แล้วก็มองตามภาพว่าเรื่องเกี่ยวกับ
อะไร เหมือนตอนเด็ก ๆ ที่เราจินตนาการ
แล้วก็พูดคนเดียว ถึงไม่มีหนังสือภาพ
แต่ลิตช์ก็ได้เรียนการวาดภาพ ได้นำความคิด
ที่อยู่ในจิตใ่จนำเสนอออกมาเป็นภาพวาดคะ
โตมาถึงรู้ว่าช่วยทำให้มีสมาธิดี...
คุณเค็นเป็นคุณแม่ที่ใส่ใจ และสนใจใน
พัฒนาการของลูกอย่างนี้ ลิตช์เชื่อว่า
ลูกสาวทั้งสองของคุณเค็นต้องโตขึ้นเป็นเด็ก
ที่ฉลาดแน่ ๆ เลยค่ะ...