สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย

เราไปเที่ยวสวนงู มาเมื่อเดือน พย. 2549 ค่ะ เพิ่งจะขุดรูปมาลงบล็อกกันค่ะ และมิได้จดบันทึกไว้ อันเป็นนิสัยที่ควรจะแก้เสียใหม่ จึงขอออกตัวว่าจำชื่องูไม่ได้ทั้งหมดนะคะ

ก่อนอื่นมาอ่านประวัติคร่าว ๆ จากหน้าเวปเพจของสภากาชาดกันค่ะ

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามให้ว่า “สถานเสาวภา” และเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2465 และกิจการทั้งหมดของกองวิทยาศาสตร์ที่สถานปาสเตอร์ จึงได้ย้ายมาดำเนินการอย่างถาวร ณ สถาบันใหม่นี้ ซึ่งครบ 85ปี ไปเมื่อปีที่แล้วค่ะ(พ.ศ. 2550)


สวนงู สถานเสาวภา เป็นสวนงูแห่งที่สองของโลก (สวนงูแห่งแรกตั้งอยู่ในประเทศบราซิล) และเป็นแห่งแรกในเอเชีย สวนงูนี้เป็นที่เลี้ยงงูพิษเพื่อรีดพิษสำหรับการผลิตเซรุ่มแก้พิษงู และเปิดให้ประชาชนชมเพื่อให้รู้จักงูพิษชนิดต่าง ๆ ที่เป็นอันตราย

นอกจากการเลี้ยงงูพิษแล้ว สวนงูยังเลี้ยงงูที่ไม่มีพิษอีกหลายชนิด มีการใช้เพาะพันธุ์เพื่อการศึกษาและเพื่อให้ประชาชนได้รู้จักงูกันดีขึ้น และได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกให้เป็น WHO Collaborating Center on Venomous Snake Toxicology and Research

เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. และจัดให้มีการสาธิตการรีดพิษงู และป้อนอาหารงู วันละ 2 รอบ คือเวลา 11.00 น. และ 14.30 น. ส่วนวันหยุดจะเปิดแค่รอบเช้ารอบเดียวค่ะ ค่าเข้าชม 20 บาทค่ะ ยังไงโทรสอบถามได้ที่เบอร์นี้นะคะ 0-2252-0161-4



ก่อนการแสดงจะมีวีดีทัศน์ให้ชมประมาณครึ่งชั่วโมงเกี่ยวกับประวัติ และอธิบายรายละเอียดของงูชนิดต่าง ๆ ในเมืองไทย เราไม่ได้ฟังเพราะเจ้าตัวเล็กไม่ยอมอยู่เฉยในห้องมืด ๆ ค่ะ


เดินเข้าไปด้านหลังกันเลยดีกว่าค่ะ จะเป็นอัฒจรรย์ให้นั่งเพื่อชมการสาธิตการจับงู การรีดพิษงู การให้อาหารงูค่ะ









ผู้บรรยายเป็นอาจารย์หมอ(สัตวแพทย์)ที่พูดคล่องแคล่วมากทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษค่ะ เพราะมีชาวต่างชาติมาชมกันเยอะค่ะ และมีส่วนเหมือนกรงงูอยู่ล้อมรอบค่ะ เผื่อว่าใครอยากจะดูงูแต่ละชนิดพร้อมรายละเอียดอย่างเต็มที่ค่ะ










เรามาเริ่มกันที่งูจงอาง(King Cobra) และงูเห่าค่ะ













แสดงการจับงูค่ะ งูก็ขู่ฟ่อ ๆ คนดูก็ฮู้ๆ ฮ้า ๆ เป็นการใหญ่ค่ะ











อันนี้ก็ไม่ทราบงูอะไรค่ะ นำมาใกล้ ๆ ให้สัมผัสกันหน่อยค่ะ
สาวน้อยขอจับบ้าง ลื่น ๆ นิ่ม ๆ ค่ะ











รูปบนเป็นงูเขียวหางไหม้ แต่รูปล่างจำไม่ได้แล้วค่ะ










ดูกันชัด ๆ อีกทีค่ะ










อันนี้น่าจะเป็นงูสามเหลี่ยมค่ะ










โชว์การรีดพิษงู และการให้อาหารงูค่ะ
(งูกินครั้งเดียวอยู่ได้เป็นอาทิตย์เลยค่ะ)
อาจารย์โชว์บาดแผลที่มือของผู้ช่วยค่ะ แต่แกยังรักที่ทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปค่ะ










อันนี้ก็ไม่ทราบว่างูอะไรค่ะ ผู้รู้ช่วยบอกทีค่ะ









และจบลงด้วยให้อาสาสมัครลงมาเอางูคล้องคอค่ะ
ส่วนลูกสาวผู้เกิดปีงูและคิดว่างูเป็นญาติของตนค่ะ
ยังแบกงูตัวใหญ่ไม่ไหวเลยได้แต่จับค่ะ




ว่าง ๆ พาลูกหลานไปเที่ยวกันนะคะ มีที่จอดรถอยู่หลังตึกรับบริจาคเลือดของสภากาชาดไทยค่ะ สามารถเข้าได้ทั้งทางถนนพระราม 4 และถนนอังรีดูนังต์ค่ะ





ขอขอบคุณ BG สวย ๆ จากคุณยายกุ๊กไก่ ค่ะ
และขอขอบคุณคำแนะนำโปรแกรมจัดภาพจากคุณอัญชนา(แนน AS) ค่ะ



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 7 เมษายน 2557 15:16:28 น. 0 comments
Counter : 1011 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

chinging
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]








INVITING THE BELL TO SOUND


Body, speech, and mind in perfect oneness-
I send my heart along with the sound of the bell,
May the hearers awaken from forgetfulness
and transcend all anxiety and sorrow.


HEARING THE BELL


Listen, listen,
this wonderful sound
bring me back
to my true self.


THICH NHAT HANH






9 Latest Blogs
ขอขอบคุณ คุณSevenDaffodils
ในคำแนะนำวิธีการทำ Latest Blogs ค่ะ



New Comments
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
11 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add chinging's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.