Group Blog
 
 
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
หวังว่าคงไม่เกิด...





เมื่อวันก่อนฝันไม่ดี ยิ่งเป็นคนฝันแม่นด้วย พวกเหตุการณ์ต่างๆนะ สาธุ อย่าให้เป็นจริงเลย

ฝันว่าหลบฝนตกหนักในเต้นท์ แล้วมีฟ้าผ่าลงสองทีที่เสาเต้นท์ น่ากลัวมากเลย ยังกะเหตุการณ์จริง และคนอพยพหนีภัยอลม่าน แล้วสักพักมีพายุทอร์นาโดร์ยังกะในหนังเลย เราเลยรีบวิ่งหนี ไม่รู้จะพ้นหรือมันจะทันเราไหม ตื่นขึ้นมาก่อน ใจหายเลย เลยรีบสวนคาถายันทุนแก้ฝัน ไม่ให้เกิดอะไร ให้ฝันร้ายกลายเป็นดี ยิ่งมีคนทำนายพักนี้ไม่ค่อยดีอยู่ด้วย เอามาให้อ่านหวังว่าคงไม่แม่นนะ


ในเดือนหน้า ช่วง 11 – 29 ตุลา 48 อาจมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในประเทศไทย
ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของ ดร.กัญจีรา กาญจนเกศ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่ผันตัวมาฝักใฝ่สนใจในการปฏิบัติ
ธรรมมากผู้หนึ่ง ปัจจุบันเป็นประธานชมรมวิถีธรรม – วิถีไท แถวเขตคันนายาว ในสายหลวงปู่ทวด
ได้นำข่าวสารมาแจ้งในที่ประชุมสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ให้ได้ทราบเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่
24 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา และเนื่องจากผู้เขียนนั่งติดกับ ผศ.ดร.พรชัย พัชรินทร์ตนะกุล อดีต
ประธานสภาคณาจารย์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่มีความสนใจในเรื่อง
วิทยาศาสตร์ทางจิตมากผู้หนึ่ง และเป็นสมาชิกตลอดชีพของสมาคมค้นคว้าทางจิตฯ เหมือนผู้เขียน ขอ
ให้ผู้เขียนช่วยสรุป และเผยแพร่เรื่องนี้ให้แก่ผู้สนใจได้ทราบด้วย ผู้เขียนได้รับปากว่าจะรีบสรุป และ
เขียนสิ่งที่ได้รับฟังมา และรีบ Mail ให้สมาชิกชมรมศาสนาและการกุศลทุกคนได้รับทราบโดยเร็วต่อ
ไป บทความนี้จึงได้ผลิตออกมาเผยแพร่ในทันที
- หากช่วง 11 – 29 ตุลา 48 มีเหตุร้ายเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
ดร.กัญจีราฯ ก็มีชื่อเสียงดังระเบิดเถิดเทิงกันแน่ในคราครั้งนี้ ซึ่งท่านผู้อ่านทุกท่าน ก็จะได้ทราบผล
กันในเร็ววันนี้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือมั่วนิ่ม
- ดร.กัญจีราฯ เล่าให้ฟังว่า ขอให้ติดตามดูสถานการณ์ ตั้งแต่วันที่ 11
ตุลา 48 เป็นต้นไป ท่านว่าจะมีภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงเกิดขึ้นในเมืองไทย
* 11 ตุลา 48 จะมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย
* 13 – 14 ตุลา 48 จะเกิดคลื่นสึนามิอีกครั้ง
* 18 ตุลา 48 จะมีน้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือน และมีน้ำ
ท่วมขัง 2 สัปดาห์
* 21 – 23 ตุลา 48 จะมีแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ จะมีรถติด
วินาศสันตะโร
ให้ระวังเขตอันตรายย่านหัวลำโพง ปทุมวัน มาบุญครอง เขตดินแดง
และแถวรัชโยธิน จะมีเรื่องร้ายแรงเสียหายเกิดขึ้นที่เกิดจากแผ่นดินยุบหรือไหวตัว
* 29 ตุลา 48 อาจมีพายุทอนาโดเข้ามาทางอ่าวไทย
- ดร.กัญจีราฯ ท่านบอกว่า ช่วง 11 – 29 ตุลา 48 ไม่ว่าภาคใต้
ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ ล้วนมีผลกระทบทั้งประเทศ จังหวัดที่ได้รับผล
กระทบรุนแรงมากและน้อยที่ต้องเตรียมรับมือมากหน่อยมีดังนี้.-
1) ภาคใต้ นครศรีธรรมราช (หนักสุด) รองๆลง
มาคือ
สุราษฎร์ พังงา และชุมพร
2) ภาคตะวันตก ราชบุรี (หนักสุด) รองๆลงมาคือ กาญจนบุรี
สุพรรณบุรี และ สมุทร
สาคร
3) ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (หนักสุด) รองๆลงมาคือ
ปทุมธานี
นครปฐม ชัยนาท และ
พิษณุโลก
4) ภาคอีสาน หนองคาย (หนักสุด) รองๆลงมาคือ ขอนแก่น
อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด
5) ภาคเหนือ เชียงราย (หนักสุด) รองๆลงมาคือ ลำ
พูน ลำปาง
เชียงใหม่ และตาก
- ดร.กัญจีราฯ เล่าว่า อุทกภัยครั้งนี้ จะมีความรุนแรงมากกว่าช่วง
500 ปี
ที่ผ่านมาก็แปลว่า ครั้งนี้จะต้องหนักมากกว่าทุกครั้งที่ท่านเคยเห็นเคยพบในช่วงชีวิตของท่าน แต่ผู้เขียน
ไม่แน่ใจว่าจะถึงระดับเช่นว่าคงต้องติดตามดูครับ
- ในช่วงปลายตุลา ถึงต้น พฤศจิกา 48 ต้องงดไปลอสแองเจลลิส และ
นิวยอร์ค เพราะสหรัฐอเมริกาจะโดนพายุใหญ่ 2 ลูกถล่มที่ 2 เมืองนี้นั่นเอง
- เนื้อหาสาระที่รับฟังมา แม้จะมิได้บันทึกเทปไว้ แต่คิดว่าจำมาได้ไม่น้อย
กว่าร้อยละ 90 หากคลาดเคลื่อน ท่านที่ฟังมาพร้อมกัน ช่วยบอกเพิ่มให้ผู้เขียนทราบด้วย
จักขอบคุณมาก
- ถ้ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ต้องยกประโยชน์และปรบมือขอบคุณ
แก่ดร.กัญจีรา กาญจนเกศ โดยผู้เขียนจะได้ติดตามข่าวสารจากท่านผู้นี้มานำเสนอท่านผู้อ่านเป็น
ระยะๆต่อไป แต่ถ้าไม่มีเรื่องร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้นในช่วง 11 – 29 ตุลา 48
ก็ต้องกล่าวโทษ ดร.กัญจีราฯ และก็คงไม่มีข่าวสารจากท่านผู้นี้อีกต่อไป เว้นแต่มีคำอธิบายที่น่าเชื่อถือ
และมีเหตุปัจจัยสนับสนุนที่มากเพียงพอ แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้น จะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ก็ให้
ถือเป็นเรื่องการซ้อมรับมือเหตุร้ายแรงดังกล่าว ซึ่งในระบบป้องกันความปลอดภัย หรือแม้แต่ระบบ
ป้องกันอัคคีภัย ก็ยังมีการซ้อมดับไฟก่อนเกิดไฟไหม้จริง
ก็ขอให้ท่านผู้มีโอกาสอ่านบทความชิ้นนี้ทาง Mail ทุกท่าน โปรดใช้เป็น
โจทย์การบ้านว่า “ถ้ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่พักอาศัยของท่านใน
1 – 2 สัปดาห์ข้างหน้า ท่านจะป้องกันความเสียหายได้อย่างไรบ้าง หรือให้เกิดความเสียหายน้อยที่
สุด” อย่างไรก็ตาม เหตุร้ายแรงที่ ดร.กัญจีราฯ บอกกล่าวนี้ ยังไม่ถึงระดับมหันตภัยที่แท้จริง
หากมีเกิดขึ้น ก็เป็นเพียงเหตุร้ายแรงระดับเล็ก ถ้าจะเทียบกับเหตุการณ์ในปี 2551 ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้
ยอมรับ และมิได้ปฏิเสธว่า ช่วง 11 – 29 ตุลา 48 จะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นหรือไม่ช่วงนี้
เขียนตามที่ฟังมาจากดร.กัญจีราฯ แล้วนำมาเล่าต่อ บอกต่อก่อนนะครับ
สำหรับข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากผู้เขียน : ถ้าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นจริง
1. กรุณาช่วยตรวจความมั่นคงแข็งแรงของตัวบ้าน ประตู หน้าต่าง หลังคา
ต้นไม้ใหญ่ สายไฟ สายโทรศัพท์ ป้ายโฆษณา ฯลฯ ซึ่งอาจหลุด อาจตกหล่น อาจล้มทับ ที่อยู่
อาศัยของท่านหรือสถานที่ท่านพักอาศัย เพราะลมพายุพัดใส่ ท่านต้องตรวจตราดูแลกันสักหน่อยนะครับ
หากไม่มั่นคงต้องซ่อมด่วน ต้องป้องกันก่อนครับ
2. ฝาท่อระบายน้ำหน้าบ้าน หลังบ้าน ในซอย และบริเวณถนนหน้าบ้าน /
หลังบ้าน อุดตันเพราะฝุ่นผง และขยะ หรือไม่ หากมีการทำท่อระบายน้ำใหม่ กรุณาอย่าประมาท
เพราะอาจทำฉาบฉวย มีรางบนถนน แต่มิได้เชื่อมกับตัวท่อระบายน้ำ และถังพักน้ำจริง โปรดตรวจ
ตรา หาไม้แยงดู หากติดตัน แจ้งสำนักงานระบายน้ำ หรือสำนักผู้ว่า กทม. หรือสำนักงานเขต
จัดการลอกขยะออกโดยเร็วต่อไป
3. ถ้าน้ำท่วมมากจนรถนำออกจากบ้านไม่ได้ ท่านมีแม่แรงไว้ยกรถหรือยัง มี
อิฐบล็อค หรือขอนไม้ใหญ่ หรือเหล็กค้ำยันไว้รองดันให้รถลอยสูงหนีน้ำหรือยัง ถ้าสมมุติน้ำจะท่วมสูง
1 เมตร เข้ามาในบ้านท่าน คิดเผื่อกันเหนียวหน่อยจะดีไหม ? สิ่งของที่วางอยู่บนพื้น หากน้ำท่วม
ถึงจะเสียหายได้ หาทางเคลื่อนย้ายไปไว้ชั้นบนบ้าน หรือเก็บไว้ในที่สูงเกิน 1 เมตรจะดีไหม
(ของใครของมัน ตัดสินใจกันเอาเอง ของใช้ของใคร ก็ต้องดูแลกันเอาเองครับ)
4. จะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ตั้งสติกันให้มากหน่อย ถ้าจะไม่อยู่ในกรุงเทพฯ
ชั่วคราว ครอบครัวของท่านจะไปไหนกัน ปรึกษาหารือ พูดคุยกันก่อนถึง 11 ตุลา 48 จะดีไหมครับ
5. ถ้าช่วง 11 – 29 ตุลา 48 หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นจริง แต่ละคนใน
ครอบครัว ไม่ควรนัดรวมพลพร้อมกันที่บ้านเก่า มิฉะนั้น อาจต้องกลับบ้านเก่า (บ้านเก่า เป็นคำ
สะแลง หมายถึง ตาย) และต้องระวังวิกฤติจราจร แม้มีน้ำมันเต็มถัง แต่วิ่งได้เพียง 4 – 5
กิโลเมตร น้ำมันอาจหมดถังได้ เพราะรถมันไม่เคลื่อนที่ รถอาจติดกันเหมือนแตงเมก็ได้ ถ้าใช้
เวลา 1 ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางเพียง 100 เมตร มิใช่ 100 กิโลเมตร แล้วผลเป็นเช่น
ไร ท่านคงคาดเดาได้ หากรถคันข้างหน้าเรา เขาตัดสินใจทิ้งรถแล้วออกเดิน รถเขาจึงจอดขวาง
ทางคนขับรถคันอื่นก็ทำตาม หากเราอยู่คันหลังๆ จะแซงได้อย่างไร เพราะบนท้องถนนไม่มีที่ว่างเปล่า
มีรถจอดติดทุกช่องทางจราจร และรถอีกส่วนหนึ่งก็ปฏิบัติฝ่าฝืนกฎจราจร โดยมีปรากฏให้เห็นในถนนทุก
สาย ถนนที่ให้รถวิ่งทางเดียว จะมีรถวิ่งสวนทางย้อนศร ถนนที่กำหนดให้วิ่ง 2 ทางจราจร จะมี
รถเบียดแซงเป็น 3 – 4 ช่องทางจราจร ในบางแยกจึงมีการจอดประจันหน้ากัน เดินหน้าไม่ได้
ถอยหลังก็ไม่ได้ รถย่อมเคลื่อนที่ไม่ได้ กรุณาจินตนาการดูครับ อย่าคิดว่าไม่มีทางเกิดขึ้น คิดเป็น
การบ้านเผื่อไว้ก่อน (วันนี้ ท่านอาจด่าว่าผู้เขียนว่า ไอ้บ้า เขียนข่มขู่ผู้คนให้ตื่นตระหนกกลัวอีกแล้ว
ความจริงเป็นภาพที่
ผู้ยืนยันว่าเห็นชัดในปี 2551 แต่จะซ้อมคิดในปีนี้ก็ไม่น่าจะเสียหาย และต่อไปท่านอาจจะตระหนักได้ว่า
ไม่น่าที่จะไปด่าเขาเลย อย่างน้อยก็มีประโยชน์ที่เขาแนะนำสิ่งที่ดีๆให้ก่อน)
6. ในวันนี้กรุณาทำการสำรวจทรัพย์สินที่มีค่าของท่าน ของรักของหวงของท่าน
คืออะไร อยู่ที่ไหน จัดทำรายการบัญชีไว้ จะดีไหม จะนำไปด้วย หรือทิ้งไว้ก่อน ของชิ้นเล็กของ
ที่มีน้ำหนักน้อย ของที่มีค่ามาก ควรนำติดตัวไป ของใหญ่ของหนัก ของที่มีภาระมาก จำต้องทิ้งไว้
ก่อน มิฉะนั้น ท่านอาจะต้องนำไปทิ้งระหว่างทาง หรือถูกชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ระหว่างเดินทางก็ได้
คิดเผื่อไว้สักนิดจะดีไหม
7. ความจริงไม่อยากแนะนำให้เอาอาวุธติดตัวไปด้วย เพราะไม่อยากให้เกิด
การฆ่าฟันกัน แต่ช่วงวิกฤติดังกล่าว จะมีสมุนพญามาร และสมุนซาตานออกอาละวาด
จะเป็นช่วงที่มีการ ลัก – วิ่ง – ชิง - ปล้น กันหนัก (ลัก คือ ลักทรัพย์, วิ่ง คือ วิ่งราว
ทรัพย์,ชิง คือ ชิงทรัพย์, ปล้น คือ ปล้นทรัพย์) นอกจากนั้น ก็จะมีการข่มขืนและฆ่า ในช่วง
วิกฤติติดตามมา จึงจำใจต้องแนะนำ “ให้หาอาวุธ ไว้ป้องกันตนเองและครอบครัว” ขอย้ำว่า
“ให้หาอาวุธไว้ป้องกันตนเองและครอบครัว มิใช่หาอาวุธให้ไปชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ผู้ใด”
- ผู้ที่มีอาวุธปืน หากไม่เคยยิงเลย ระวังกระสุนด้าน ปืนอาจขัดลำกล้อง
ในเวลาจำเป็นต้องใช้ก็อาจเป็นได้ ให้ไปทดลองฝึกยิงดูสักหน่อย เปลี่ยนกระสุนใหม่สักนิด
- ผู้ที่ไม่กล้าใช้ปืน จะหามีด หาไม้ เอาไว้ใกล้มือที่จะหยิบฉวยมาป้องกัน
ตนเอง และครอบครัวได้ ก็ควรมีไว้ในช่วงวิกฤติ หากประมาทแล้วจะเสียใจ จะหาว่าไม่บอกกล่าว
เล่าเตือนไม่ได้นะครับ (จะอย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ช่วง 11 – 29 ตุลา 48 ยังมิใช่เหตุร้ายแรง
ระดับมหันตภัยในระดับน่ากลัวมากนัก หากเกิดมีขึ้นจริงตามที่ดร.กัญจีราฯ เล่าให้ฟังก็ถือว่าเป็นการซ้อม
รับมือปี 2551 ก็ไม่น่าจะเสียหายมากนัก)
7. ปัจจัย 5 หาเตรียมไว้บ้าง ก็น่าจะดี ปัจจัย 4 เป็นที่ทราบอยู่แล้ว
คือ อาหาร เครื่องนุ่มห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค สำหรับปัจจัยที่ 5 คือ น้ำมัน หรือ
พาหนะที่จะใช้เดินทางเคลื่อนที่
8. ปัจจัยแรก อาหาร หมายรวมถึง น้ำดื่มด้วย และหมายรวมถึงอุปกรณ์
นอกจากอาหารสด อาหารแห้งแล้ว เครื่องครัว ข้าวสาร อาหารแห้ง และแก๊สหุงต้มด้วย ระวัง
มีแต่ถัง แต่แก๊สหมด อาจเกิดขึ้นได้ ตรวจดูหน่อยจะเป็นไร ฯลฯ
9. ปัจจัยที่สอง เครื่องนุ่งห่ม นอกจากเสื้อผ้าแล้ว รวมถึงเครื่องนอนด้วย
ในช่วงที่ไปอยู่ในที่อื่น ที่มิใช่บ้านอยู่อาศัยของตนเอง เสื้อผ้า ไม่ควรเป็นชุดหรูหราสวยงาม แต่ควร
เน้นชุดธรรมดาๆ สวมใส่สบาย ให้ความอบอุ่นได้ดีก็พอแล้ว
10. ปัจจัยที่สาม ที่อยู่อาศัย นอกจากเป้าหมายสุดท้ายที่เป็นเป้าหมายหลักที่นัด
หมายบุคคลในครอบครัวไปพบและพักอยู่ร่วมกันในยามวิกฤติแล้ว หมายรวมถึง จุดนัดพบระหว่างทางจุด
ที่ 1, 2, 3 หากพลาดนัดจุดที่ 1 กี่ชั่วโมง ไปพบจุดที่ 2, 3 เป็นต้น เพื่อมิให้ต้องเสีย
เวลาในการเดินทางไกลมากนัก และเพื่อมิให้เป็นกังวลตลอดระยะเวลาการเดินทาง ซึ่งไม่ต้องถูก
ถ่วงเวลาด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัดวินาศสันตะโร (ไฟฉาย / ไม้ขีด ก็ควรมีไว้ใช้ในยามจำเป็น)
(ช่วง 11 – 29 ตุลา 48 ไม่น่าถึงระดับวิกฤติถึงขนาดต้องอพยพ โยกย้าย เว้นแต่บางพื้นที่ ซึ่ง
เป็นแอ่งรับน้ำ หรือเส้นทางน้ำไหลผ่าน ก็คงจะจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายที่หลับนอนเป็นการชั่วคราว แต่
ไม่นานนัก)
11. ปัจจัยที่สี่ ยารักษาโรค นอกจากยาสามัญประจำบ้านพื้นฐาน และเวชภัณฑ์
ต่างๆที่จำเป็นแล้ว ผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ต้องเตรียมปริมาณยาให้มากพอสัก 1 เดือน
12. ปัจจัยที่ห้า น้ำมันเติมยานพาหนะเพื่อการเดินทาง ต้องเติมเต็มถังไว้ทุกวัน
ในช่วงที่มีความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง และควรมีถัง 20 ลิตร ไว้สำรองเติมน้ำมันเพิ่ม
สัก 1 – 2 ถัง ก็น่าจะดี เพราะปั๊มน้ำมันต่างๆ จะขายน้ำมันหมด รถน้ำมันมาส่งไม่ทันความต้อง
การของประชาชน และสภาพการจราจรทุกสายในกรุงเทพฯ เข้าสภาวะจราจล รถเคลื่อนตัวช้า
มากๆ
13. จะอย่างไรก็ตาม นับแต่วันนี้เป็นต้นไป เรามาฝึกฝนตน ลด ความโลภ
ความโกรธ ความหลงให้น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ฝึกทำความเข้าใจในสามัญลักษณะ หรือ
ลักษณะสามัญตามธรรมชาติ คือ อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา หรือทุกสิ่งไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่
แล้วก็แปรเปลี่ยน ในที่สุดก็สูญสลาย ทนอยู่ในสภาพเดิมโดยตลอดมิได้ แท้จริงเป็นสิ่งสมมุติทั้งสิ้น
ปล่อยวางสิ่งต่างๆลงบ้างจะดีไหม
เพิ่ม เมตตา มีความปรารถนาให้คนอื่นมีความสุข
เพิ่ม กรุณา มีความปรารถนาให้คนอื่นพ้นทุกข์
เพิ่ม มุทิตา มีความปรารถนาให้ผู้อื่นได้ดี / ยินดีที่ผู้อื่นได้ดีกว่า
เพิ่ม อุเบกขา มีใจเป็นธรรมมากขึ้น
เพิ่ม การกระทำความดีทุกรูปแบบ ทุกเวลา ทุกสถานที่ เพื่อให้มีจิตวิญญาณที่ดี
เพิ่ม ความกตัญญู กตเวทีต่อคุณพ่อคุณแม่ ครูบาอาจารย์ ท่านผู้มีพระคุณทุกท่าน
เพิ่ม ความมีศีล 5 ให้ได้หลายชั่วโมงในวัน และให้ได้นานวันมากกว่าเดิม
เพิ่ม การสวดมนต์ / การทำสมาธิภาวนา การทำวิปัสสนาภาวนา และการ
ทำเมตตาภาวนา (แผ่อุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น สัตว์อื่น)
เพิ่ม หิริ โอตตัปปะ / ละอายที่จะทำชั่ว กลัวบาป

สิ่งที่ว่ามาในข้อแนะนำ 13 ข้อนี้ ดร.กัญจีราฯ มิได้แนะนำ ผู้เขียนเป็นผู้แนะนำ
เอง ผิด – ถูก ผู้เขียนขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
- ดร.กัญจีราฯ แจ้งข่าวดีว่า ในปี 2552 ประเทศไทย จะเป็นมหา
อำนาจในเอเซียอาคเนย์ หรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศต่างๆ ทางตะวันออกของโลก
จะย่างเข้าสู่ยุคเฟื่องฟู (ประเทศต่างๆในทางตะวันตกของโลก ก็จะเข้าสู่ยุคถดถอย หรือยุคเสื่อม
ถอย และหมดสภาวะเป็นผู้นำของโลก)
- ดร.กัญจีราฯ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนช่วยกันสวดมนต์ ตามบทสวดแผ่เมตตา
ของหลวงปู่ทวด นับแต่วันนี้ ไปถึงเดือนกรกฎาคม 2549 หากตั้งใจสวดในช่วงเวลา 10.45 –
11.15 น. หรือ 22.45 – 23.15 น. ทุกวันธรรมสวนะ หรือทุกวันพระ จะเกิดคลื่น
“พลังพิเศษ” ซึ่งจะเป็นคลื่นช่วยสลายพลังเลวร้าย และช่วยให้ผู้สวดและครอบครัว แคล้วคลาดจาก
ภยันตรายต่างๆได้ แต่ถ้านัดหมายรวมตัวกันสวดเป็นหมู่คณะได้ ยิ่งจะเกิดพลังพิเศษมากขึ้น เป็นคลื่น
พลังพุทธานุภาพ และจิตตานุภาพ ช่วยขับไล่พลังร้ายให้อ่อนตัวลง
ในช่วงเวลา 10.45 – 11.15 น. หรือ 22.45 – 23.15 น. เป็น
ช่วงที่เหมาะแก่การสวดมากที่สุด เพราะเป็นช่วงรอยต่อของมิติเวลา โดยการแผ่เมตตาตามบทสวด
ของหลวงปู่ทวด และทำสมาธิต่อจากนั้นสักเล็กน้อย เพื่อลดแรงอาฆาตของเจ้ากรรมนายเวรจากนรก
ภูมิ และพญามารจากสวรรคภูมิ (สวรรค์ชั้นสูง)
อานุภาพการสวดฯ ต้องเปล่งเสียงดังให้หนักแน่น จะทำให้เกิดพลัง
พุทธานุภาพ และจิตตานุภาพมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าผู้สวดเป็นบุคคลที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
มีจิตใฝ่กุศล รักษาศีลมั่นคงจะก่อให้เกิดพลังรักษาชาติบ้านเมืองได้ ช่วยให้สังคม
มีความสงบ และมีสันติสุขได้ แต่ทั้งนี้ผู้เขียนเชื่อว่าย่อมต้องมีผู้ไม่เชื่อถือว่ามีผลเช่นดังว่า อีกทั้งยังต่อ
ต้านค่อนแคะในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางลับ และเปิดเผย เรียกว่าเป็นตัวฉุดรั้งและต่อต้าน ซึ่งทำให้ผู้ที่
มุ่งหวังจะกระทำความดี เพื่อช่วยสังคมและประเทศชาติอ่อนแรง และไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งก็น่าวิตกพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขอสนับสนุนให้ท่านผู้อ่าน กรุณาหาเวลาชวนกันมาสวด
แผ่เมตตาตามบทสวดดังต่อไปนี้ ในเวลา 22.45 – 23.15 น. อย่างน้อยก็ช่วยให้เกิดการคุ้มครอง
แก่ผู้สวด และครอบครัว แต่ถ้าท่านผู้อ่านที่ได้รับ Mail เรื่องนี้ ปัจจุบันมิได้ประกอบอาชีพเป็นลูก
จ้าง หรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นข้าราชการประจำ สามารถที่จะจัดสรรเวลาในช่วง
10.45 – 11.15 น. ได้อีก 1 ช่วงเวลา ก็ขอให้สวดเพิ่ม และทำสมาธิจิตในช่วงเวลาดังกล่าว
อีก 1 ช่วงเวลา ซึ่งผู้เขียนก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญกุศลกับท่านด้วย เพราะ 2 ช่วงเวลาดังกล่าวนี้
ถือว่า เป็นช่วงรอยต่อของมิติเวลา เป็นช่วงที่มีพลังแรงมาก
ท้ายที่สุดนี้ ขอกราบเรียนเชิญท่านผู้อ่านทุกท่านและครอบครัว รวมทั้งญาติสนิท
และมิตรสหาย ขอให้มาร่วมด้วยช่วยกัน ในการสวดโดยเปล่งเสียงดังว่า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท-ธัสสะ (3 จบ)
นะโม โพธิ สัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ)
เประมัง ธัมมัง สังฆัง
( 3 – 11จบ)
ประมัง ธัมมัง สังฆัง
ปรมัง ธัมมัง สังฆัง
เสสัง ธัมมัง สังฆัง
กะริยานัง อัตโน โหนตุ
( 1จบ)
สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด จงไปสู่ภพภูมิที่ดีที่ชอบเถิด
จากนั้นนั่งสมาธิสักครู่ เป็นอันเสร็จพิธี

ด้วยความปรารถนาดี
จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ
ประธานชมรมศาสนาและการกุศล

หมายเหตุ : หากท่านใดต้องการรับข่าวสารชมรมศาสนาและการกุศล บมจ.ธนาคารกรุงไทย
ฟรีทางจดหมายอิเล็คโทรนิคE-Mail ซึ่งท่านจะได้รับข่าวสารก่อนการจัดทำเป็นCD แจกฟรี








Create Date : 08 ตุลาคม 2548
Last Update : 19 มีนาคม 2549 20:10:11 น. 0 comments
Counter : 1176 Pageviews.

ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.