|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เดิน...สู่อิสรภาพ
เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ประทับใจในความพยายาม เหมาะสมกับได้รางวัลหนังสือ รางวัลชนะเลิศประเภทสารคดี(ชีวิตจริง)
ประมวล จันทร์เพ็ง อาจารย์ภาควิชา ปรัชญาและศาสนา มนุษย์ศาตร์ มหาลัยเชียงใหม่ วัย50ปีลาออกจากงานมาเดินกลับบ้าน จากจ.เชียงใหม่ไปจ.สุราษธานี ใช้เวลาเดิน 66 วัน ออกเดินทางพันกิโลเมตร โดยไม่ใช้เงิน ไม่ร้องขออาหารถ้าเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น เริ่มเดินทางด้วยการเดินอาศัยความมีน้ำใจคนในสังคมช่วยชีวิต การเดินทางที่ผจญภัยกับ"ความรู้สึก" ข่าวคราวเพียงไปรษณียบัตรส่งถึงภรรยา
ความรู้สึกแรกที่ชีวิติอุบัติขึ้น ระลึกได้แต่เพียงว่าเป็นเด็กชาวเกาะ มองทะเลสุดสายตา จุดขอบทะเลและขอบฟ้ามาบรรจบกันอยู่ที่ใด อยากไปถึงที่สุดขอบฟ้าและขอบทะเลนั้น ด้วยความฝันทำให้เดินทางออกจากเกาะเล็กๆไปสู่แผ่นดินใหญ่ แล้วเดินต่อไปในที่ต่างๆเกือบทั่วโลก มาถึงวันนี้ในวัยชรารู้ว่า ไม่มีขอบฟ้าไม่มีขอบทะเล
"ผมอยากกลับบ้าน" ความปราถนาชายชราอยากกลับไปบอกเด็กน้อยชาวเกาะไม่มีขอบฟ้าไม่มีขอบทะเล การเดินเป็นการข้ามให้พ้นเสียดาย ยึดติด เกลียดชัง กลัว ความไม่แน่นอนรอบตัวจะใช้การเดินทำลายความรู้สึกเหล่านี้
การเดินไม่มีกำหนดเวลาจุดหมายรายทางผ่านจุดใด จะไม่รู้กินนอนที่ไหน เพื่อเผชิญกับความไม่แน่นอน ความไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย เพื่อฝึกฝนเรียนรู้ให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยขึ้นในใจของเราเอง ไม่กลัวแม้จะจบชีวิตลงเพราะไม่มีอาหารกินหรือมีอันตราย จะไม่ไปหาคนรู้จัก เพราะเป็นเหมือนสายใยรักอบอุ่นผืนเล็กๆ แต่การพบคนไม่รู้จักเหมือนเอาผืนเล็กๆมาถักทอให้ใหญ่ขึ้น ไม่มีการใช้เงินเพื่อพ้นอำนาจเงินตรา
บางส่วนของผู้คนที่พบเจอที่ทำให้อาจารย์พบสัจธรรมและมิตรภาพระหว่างเดินทาง
บางวันผมไม่ได้เอาข้าวมากินตอนกลางวัน แต่วัวได้กินหญ้าอิ่มผมก็มีความสุขแล้ว แม้จะต้องเดินออกจากบ้านมาไกล แต่ถ้ามีหญ้าดีๆให้วัวกิน ผมก็พาวัวมา
คำบอกเล่าของชายเลี้ยงวัว ชีวิตประจำวันตื่นเช้านำวัวออกจากหมู่บ้าน เป้าหมายผืนหญ้าเขียว ระยะทางใกล้ไกลไม่ใช่ปัญหาการเดินทางไป ที่ใดมีหญ้าเขียวที่นั่นคือเป้าหมาย ความอิ่มของวัวคือความหมายของชีวิตในแต่ละวัน
ขณะที่ตัวเองฟังวิทยุ ช่างเป็นชีวิตเรียบง่ายที่แสนงดงาม ความแก่ใครๆก็ต้องแก่ แต่จะแก่อย่างไรให้สงบเย็น ความตายใครๆก็ต้องตาย แต่จะทำอย่างไรให้งดงามที่จะตระหนักรู้ เป็นแสงสว่างส่องให้มองเห็นคำตอบอยู่ไกลๆ
วันนี้เมื่อเดินมาโดยไม่มีเงินซื้ออาหารกินยามหิว ทำให้ผมได้รู้ว่าการให้เป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่และงดงาม ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยการเสียสละของผู้อื่นอาหารที่มีผู้ให้ มีความหมายและมีคุณค่ามากกว่าอาหารที่ซื้อมาด้วยเงิน
ได้หล่อเลี้ยงมิใช่แค่ร่างกายแต่หล่อเลี้ยงมนุษยธรรมงอกงามขึ้นด้วย ทำให้ความสัมพันธ์ผู้ให้และผู้รับก่อเกิดชีวิตที่งดงาม ทำให้ผมได้รู้ว่าการได้รู้จักพบปะกับใครนั้น ห้วงเวลายาว-สั้นไม่สำคัญนัก หากพบกันด้วยมิตร แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ก่อให้เกิดความหมายที่งดงามยิ่งใหญ่ในชีวิต
แต่ถ้าพบปะด้วยความเป็นอริศัตรู ความหมายที่เกิดย่อมโหดร้ายทำลายความงดงามแห่งชีวิตไป
ผมเดินไปพร้อมกับบอกตัวเองว่ามิตรภาพนั้นยิ่งใหญ่และงดงามผมจะเดินไปหาสิ่งนี้
มิตรภาพคือสะพาน สะพานที่จะทำให้ผมข้ามพ้นไปสู่ฝากฝั่งที่ปรารถนาจะไปให้ถึง
ผมได้เล่าเรื่องนกนางนวลชื่อ โจนาธาน ของ ริชาร์ด บาร์ก เป็นแรงบันดาลใจสิงในร่างผม ให้พระเอกลิเกขอทานฟัง
โจนาธาน บินไปเพื่ออะไร พระเอกลิเกถาม
เพื่อแสวงหาความหมาย ... ความหมายการบิน ความหมายการเป็นนก.. ที่สำคัญความหมายการมีชีวิตอยู่
ความหมายของการมีชีวิตอยู่ เป็นเป้าหมายของโจนาธาน และเป้าหมายหมายของเราทุกๆคน
ผมบอกแล้วนิ่งเงียบมองหน้าเขาให้เขาพูดบ้าง
ผมอยากบินไปกับอาจารย์
เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรครับอาจารย์
ก็เพื่อให้ผู้อื่นมีความสุข เพื่อให้โลกนี้สวยงาม กฤษณะรู้ไหม เด็ก2-3คน ที่นั่งดูกฤษณะแสดงลิเก เขาหัวเราะอย่างมีความสุข ผมเองมีความสุขที่ได้ดูลิเกและยิ่งมีความสุขที่พระเอกลิเกคือ เพื่อนผม
กฤษณะไม่ต้องเดินไปกับผม การแสดงลิเกคือความหมายที่งดงามแห่งชีวิตกฤษณะ คุณรู้ไหมคุณคือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกผมยิ่งใหญ่กว่าซูเปอร์สตาร์ ดาราเหล่านั้นเขาแสดงเพราะอยากได้เงินเขาจึงแสดง เขาเพียงแค่รับจ้าง แต่คุณคือศิลปินเล่นลิเกมาตั้งแต่เด็ก เล่นด้วยความสุขที่ได้เล่นลิเก บางวันคุณไม่ได้สตางค์แต่คุณก็ยังเล่นลิเก ไม่ใช่คนรับจ้างเล่นลิเก คุณทำงานอย่างอื่นก็ได้ถ้าคุณอยากหาเงิน แต่คุณเลือกจะเล่นลิเกทั้งๆที่รู้ว่าบางวันไม่ได้เงิน คุณคือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ เพราะใจคุณใหญ่กว่าเงิน เงินไม่มีอำนาจเหนือคุณ ผมนับถือจริงๆคุณคือครูผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของผม การเดินของผมมีคุณค่าอย่างมากมหาศาลเมื่อผมได้พบคุณได้เป็นเพื่อนกับคุณ
เจ้าอาวาสวัดท่านได้พูดถึงประชาชนส่วนมากที่ไม่ค่อยปฎิบัติธรรม การเข้าวัดมาเพียงสะเดาะห์เคราะห์ขอโชคลาภไม่ใช่หลักปฎิบัติแท้จริงของชาวพุทธ เมื่อนำหลักธรรมแท้จริงปฎิบัติในชีวิตประจำวันก็ไม่สนใจปฎิบัติ
เขาชอบอะไรที่ง่ายๆใช้เงินซื้อ
อาตมาจึงเพาะต้นไม้ ใครเข้ามาวัดก็ให้เอาต้นไม้เหล่านี้ไปปลูก ถึงแม้จะไม่มีผลอะไรมาก แต่กล้าไม้เหล่านี้จะเจริญเติบโตเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาและความชุ่มเย็น มีต้นไม้เยอะๆโลกจะได้ร่มเย็น ต้นไม้ให้อากาศ ให้สภาพแวดล้อมที่สะอาดบริสุทธิ์แก่เรา อาตมาทำได้แค่นี้แระโยม
ผมตื่นขึ้นมาจากวิทยุภายในห้องพักไอ้น้อย ผมถามเขาว่าตื่นขึ้นมาฟังเสียงทำวัตรเช้าทุกวันรึเปล่า
เฉพาะวันที่เฮียหมูเอาวิทยุมาฝาก เป็นของช่างเขียนป้ายโฆษณาเมื่อเลิกงานตอนเย็นขี้เกียจถือกลับบ้านก็เอาฝากไอ้น้อยไว้
ผมถามไอ้น้อยว่าอยากฟังพระสวดทำวัตรเช้าทุกวันไหม เขาบอกอยากฟังทุกวัน ผมจึงบอกว่าผมจะกลับมาหาน้อยอีก และจะเอาวิทยุมาฝาก นอกจากวิทยุแล้ว น้อยอยากได้อะไรอีกไหม
ไม่ แค่วิทยุก็พอแล้ว
เมื่อผมออกจากบ้านมาผมมีความรักอยู่ในหัวใจ ผมรักภรรยา รักศิษย์ รักเพื่อน ความรักในหัวใจทำให้ผมมีพลังก้าวเดิน ในร่างกายที่เดินมาคนเดียวแต่ในจิตใจเราเดินมาด้วยกัน เราจะไปถึงเป้าหมายปลายทางเดียวกัน แม้บางช่วงจะรู้สึกเหนื่อยเหมือนจะสิ้นใจ บางขณะรู้สึกหิวกระหายเหมือนชีวิตกำลังจะจบสิ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ผมก็ยังมีความสุข ความสุขที่ได้ก้าวเดินไปด้วยความรักอย่างเต็มเปี่ยมในหัวใจ"
ประสบการณ์นี้ ทำให้รู้ความหมายแห่งรักที่ไม่สามารถคิดเอา แต่สามารถหยั่งรู้ได้ด้วยการใช้จิตสัมผัสรู้อารมณ์แห่งรักที่มีอยู่ภายในตัวเรา เมื่อรักมาสถิตในใจใครจะรู้สึกเป็นผู้ยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ มีพลังอดทน รอคอยและทำสิ่งต่างๆได้ดั่งปาฎิหารย์
การมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ สิ่งมีค่าและงดงามที่สุดคือ ความรัก ความรักไม่ใช่ความปราถนาที่จะครอบครองและได้จากผู้อื่น แต่ความรักคือความรู้สึกเป็นสุขที่ได้ทำให้คนที่เรารักมีความสุข
Create Date : 13 มิถุนายน 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 22:59:09 น. |
Counter : 1602 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|