(35) >>>เรื่อง...Monster รักทั้งเพ By...อาทิชา (นานา)
26/5/58 (35)
เรื่อง...Monster รักทั้งเพ
By...อาทิชา (นานา)
ทีเค + เจส
>>>เม้าท์กันหน่อย<<<
เมื่อลูกเป็ดขี้เหร่ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบมีความรัก กับเซต Ugly Duckling ความรักของพวกเธอจะเป็นแบบไหน แล้วเขาเหล่านั้นจะรักเธอในแบบที่เธอเป็นได้หรือไม่ เอาใจช่วยพวกเธอกัน
เล่มแรกที่หยิบจากเซตนี้มาอ่าน Monster รักทั้งเพ สาวขี้เหร่นามว่า เจส..เจสสุดา สเตลล่า ใครจะไปคิดว่าเจสในวัยเด็กที่มีหน้าตาน่ารักถึงขั้นเป็นนักแสดงเด็กที่มีค่าตัวแพง แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ให้เธอหันหลังให้กับวงการบันเทิง และย้ายไปใช้ชีวิตกับแม่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อโตเป็นสาวรูปร่างของเธอกลับเปลี่ยนไปจากวัยเด็กแบบแตกต่างอย่างสุดขั้ว ทั้งหัวฟู โหนกแก้ม รูปร่างที่ดูคล้ายกับเกย์ ใครพบเห็นเป็นต้องมองให้แน่ใจว่าเธอเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ชีวิตของเธอดำเนินต่อไปกับหน้าที่การงานที่ช่วยให้คำปรึกษากับคนทั่วไปที่มีปัญหาชีวิตโดยใช้หลักกฎหมายผ่านคอลัมน์ในหนังสือ แต่ก็นะ...หน้าที่การงานดี แต่ชีวิตรักนี่แทบจะไม่ได้สัมผัส ก็ใครมันจะมาสนใจใช่มั้ยล่ะ! แค่เห็นก็ใส่เกียร์เตรียมหนีแล้ว พระเจ้า!!!! เธอกำลังจะแต่งงานกับดาราดังจากประเทศไทยนามว่า เคิร์ก เพื่อนในวัยเด็กที่เขาและเธอยังคงติดต่อกันผ่านตัวอักษรและโลกโซเชี่ยล ซึ่งเขาก็คงจดจำหน้าตาของเธอในวัยเด็กว่าเธอนั้นน่ารักถูกใจเขา เฮ้อ!!!! ไอ้จะไปบอกเขาว่าโตขึ้นมาแล้วรูปร่าง หน้าตามันช่างตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ก็กลัวว่าเขาจะรับไม่ได้ อ่านมาถึงตรงนี้ก็สะดุดใจว่า ทำไมอิตาเคิร์กนี่มันถึงได้เชื่อคนง่ายแท้ฟระ! บอกอะไรก็เชื่อ ให้ทำอะไรก็ทำ
ความกลัวที่จะสูญเสียคนที่ตัวเองรักหากเขาได้เห็นรูปกายของเธอในตอนนี้แล้วปฏิเสธเธอ เธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ความรักและการแต่งงานต้องเกิดขึ้นต่อไป ดังนั้น...การโกหก หลอกลวงจึงได้เริ่มต้นขึ้น (ที่มาของเรื่อง ความรัก+โกหกทั้งเพ กลายเป็น รักทั้งเพ) เรื่องราวมันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย? เพราะการโกหกคนที่ตัวเองรักมันก็คือ ความเห็นแก่ตัวดีดีนี่เอง เธอรับรู้ทุกอย่างที่เป็นเขา เธอเลือกเขา แต่เธอกลับไม่ให้เขามีโอกาสในการเลือก และเรื่องราวยังพาให้คนรอบข้างต้องมาร่วมมือเล่นละครหลอกลวงไปกับเธออีก ซึ่งเป็นช่วงที่อ่านแล้วอยากจับนางเอกมาตบๆๆๆๆ เกลียดนางอ่ะ...บอกเลย นี่ละความรัก...บางครั้งก็ทำให้คนตาบอด หูหนวก เห็นแก่ตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่เธอควรจะหยุดแล้วยอมรับความจริง เธอกลับดันทุรังเลือกที่จะยื้อไว้จนสุดความสามารถ แต่สุดท้ายเมื่อมันไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ เมื่อตัวเองตาบอด การเดินคนเดียวมันก็ทำให้เดินทางผิด แล้วจะมีคนใจดีสักกี่คนที่พร้อมจะยื่นมือมาช่วยนำทางแล้วพากลับมาเดินให้ถูกทาง พร้อมที่จะช่วยเหลือในยามที่ก้าวพลาด นับว่าเธอยังโชคดีอยู่ไม่น้อยที่เธอได้พบกับคนใจดี ผู้ชายคนหนึ่ง คนที่อยู่เคียงข้างเธอมาตลอด มองเห็นถึงตัวตนของเธอ ไม่ใช่เพียงรูปร่างหน้าตา เมื่อความรักครั้งก่อนที่จะทำอย่างไรก็คงไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิม การทำใจยอมรับความจริงก็คงช่วยให้สภาพจิตใจมีความเข้มแข็ง พอความเศร้าเสียใจจางไป หัวใจก็พร้อมที่จะเปิดรับความรักครั้งใหม่ บทเรียนที่เกิดขึ้นสอนให้เธอเข้าใจว่า ควรจะรักคนที่รักเราในแบบที่เราเป็น เพราะความรักที่มันไม่ใช่ความยินดีของทั้งสองฝ่าย มันก็ไม่ใช่ความรัก...มันคือความเห็นแก่ตัว และถ้าเรายังโกหกเพราะรัก ระยะเวลาที่โกหก แสดงถึงความโหดร้ายที่อยู่ในจิตใจ ยิ่งโกหกและปิดบังนานเท่าไหร่ จิตใจก็จะบิดเบี้ยวมากเท่านั้น... เสียดายที่อ่านมาถึงตอนนี้แล้วพบว่าความหวานของคู่นี้น้อยไป กว่าความจริงจะเปิดเผย กว่าจะลงตัวก็แทบจะบทสุดท้าย มัวแต่ไปเวิ้นเว่อร์อยู่กับอีตาเคิร์กเยอะไป แถมเล่มก็บางไปอ่านแล้วเลยทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันวูบไป แว๊บมา บางครั้งก็รวบรัดซะจนอ่านแล้วขัดอกขัดใจ ถ้าความจริงเปิดเผยเร็วกว่านี้ แล้วเติมส่วนของคนที่รักเธอได้แสดงความรู้สึกกับเธออีกสักหน่อย ก็อาจจะทำให้อ่านแล้วพอจะอินกับความรักของเขากับเธอได้มากกว่านี้...
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [