ไอซ์แลนด์ ...
ดินแดนที่หัวใจเต้นรัวรัว
.
.
เสียงล้อเครื่องบินกระแทกกับรันเวย์เป็นสัญญาณถึงการทัชดาวน์
หลังจากที่เราล่องลอยอยู่บนฟ้ามาสองชั่วโมงกว่า ...
ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง ...
ภาพของที่ราบโล่งสลับกับโตรกหินผา ขนาดมหึมาแบบสุดสายตา
มีร่องรอยหิมะปกคลุมไปทั่ว ... ไม่มีพื้นที่สีเขียวให้ผู้มาเยือนเห็นมากนัก
มันดูเวิ่งว้างและยิ่งใหญ่ ... จนแว้บนึง มีความคิดเข้ามาว่า...
ฉันมาทำอะไรที่นี่ ?
ทันทีที่เครื่องบินจอดสนิท ... ประตูเครื่องบินถูกเปิด ...
ลมเย็นแบบไม่เป็นมิตร หอบใหญ่ลอยมาปะทะใบหน้า
รับรู้แบบจริงใจว่า ...
การมาดินแดนแห่งนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน มันหนาวแค่ไหน ...
ในชีวิตของนักเดินทาง มันมีอะไรให้เราได้ตื่นเต้นเสมอเมื่อมาในสถานที่ใหม่ๆ ..
ความไม่รู้ การไม่คาดเดาเป็นเรื่องสนุก ...
เป็นเหมือนการอ่านหนังสือที่เราตั้งหน้ารอคอยตอนจบ ...
ใครจะขี้โกงชอบไปเปิดอ่านหน้าสุดท้ายก่อน ...
ผมเชื่อว่า การเดินทางไม่มีให้ ...
กว่าคุณจะรู้ว่าตอนจบเป็นเช่นไร
ก็คือวันที่คุณเดินทางกลับถึงบ้านแล้ว
ยินดีต้อนรับสู่ไอซ์แลนด์ ...
ป้ายภาษาอังกฤษตัวเบ้งๆ ติดเอาไว้ทันทีที่ก้าวเข้าสู่อาคารผู้โดยสารขาเข้า
ผมมาถึงแล้วสิน่ะ ..
ดินแดนที่ฮิปและทรงสเน่ห์ที่สุดในช่วงปีนี้
หลายสำนัก ... กูรูหลายคน
ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาและปีนี้ ...
ไอซ์แลนด์ คือ ที่สุดของปลายทาง คนบ้าเที่ยวที่ต้องไม่พลาด
แสงเหนือ คือ .. แรร์ไอเทม ที่ทุกคนต่างอยากมาดู
ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสุดยอดความอัศจรรย์ธรรมชาติ ...
แม้ในความจริงเราสามารถดูแสงเหนือได้จากหลากลายที่ ...
เช่น ประเทศแถบสแกนดินีเวีย รัสเซีย หรือแม้แต่แคนนาดาตอนบนๆ
แต่ตัวไอซ์แลนด์ เองดูจะทำการบ้านมาดี เอาใจแขกผู้มาเยือน
เตรียมหลากหลายประสบการณ์ นอกจากจะมาดู แสงเหนือเพียงอย่างเดียว
นางได้จัดธรรมชาติแบบโคตรสวย เหมือนอยู่ดาวดวงอื่น
ความหลากหลายทางธรรมชาติ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหน ...
รวมไปถึงความสนุกของกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ...
และสิ่งที่สำคัญที่หลายคน ไม่เคยบอกเอาไว้เลย
คือ อาหารที่ไอซ์แลนด์อร่อยเกินคาดดดด !!!!
จะเที่ยวให้ครบๆ ทุกแลนมาร์กคุณต้องพลีกายวันหยุดราว สองอาทิตย์ครับ
เพราะมันต้องใช้เวลาในการขับรถเที่ยวให้รอบเกาะ
กว่าสองพันกิโลเมตรในการขับเที่ยว ...
หากมีเวลาน้อยกว่านั้นก็ต้องยอมเลือก ..
ว่าจะเก็บเอา ไอซ์แลนด์ฝั่งใต้ ซึ่งขับรถน้อยกว่าหรือขึ้นตอนเหนือ
ที่โหดร้ายกว่าคือ สวยทั้งคู่ 555+
แม้จะต้องเลือกแบบรักพี่เสียดายน้อง
แต่ก็ต้องทำใจซะแล้วยอมรับความจริงข้อนี้
ผมมีเวลาเจ็ดวัน .. !!!
ครึ่งนึงของที่ควรจะเป็น ....
จำต้องคัดเลือกมาทั้งสิ้น สามไฮไลท์หลักๆ ทางตอนใต้
หนึ่งคือ เส้นทางโกลเด้น เซอเคิ้ล ... Golden Circle
เบสิครูท ที่มือใหม่หัดมาไอซ์แลนด์ต้องวิ่งตาม ..
เพราะรวบรวมจุดเที่ยวสวยๆ ของ ไอซ์แลนด์ตอนใต้ ไว้สามจุดแบบไม่ไกลกันมาก
นั่นคือ อุทยานทิงเวรี่ ... น้ำตกกรูฟอส และน้ำพุร้อนเกย์ซีร์ ...
ดูจากแผนที่จะเห็นว่าอยู่ไม่ไกลจาก เมืองเรยาวิค
รูทนี้เหมาะมากที่จะเอาเป็นวันแรก หรือต้นๆทริป ...
แบบเหมือนออเดิร์ฟรสชาติเยี่ยมพอดีคำ
เป็นการประเดิมวันแรกในไอซ์แลนด์ที่ เดินทางไม่เหนื่อยมาก ....
ได้เห็นอะไรเยอะดี จบวันแล้วมีความสุข
สามารถต่อสู้กับความหนาวได้ไม่บ่นคนข้างๆ ให้หูชา555+
บรรยากาศในอุทยานทิงเวลลี่ ครับ ... รอยแตกของเปลือกโลก โตรกผาสูง
แอ่งน้ำขนาดใหญ่ รวมเอาไว้ตรงนี้แบบครบๆ หมดครับ
อันนี้เป็นบรรยากาศในหน้าหนาว ก็จะมีร่องรอยของหิมะปกคลุม
สีขาวๆ โพลนตาไปหมด ใครชอบธรรมชาติแนวคลีนๆ สะอาดตา มาหน้าหนาว ก็น่าจะฟินครับ ส่วนในหน้าร้อนก็จะสวยงามไปอีกแบบ ...
มีหลายคนบอกว่าการมาเที่ยวไอซ์แลนด์จะให้สมบูรณ์
คือต้องมาเก็บครบทั้งหน้าหนาวและหน้าร้อนเพราะสวยงามกันคนละแบบ
รอบนี้เป็นการร่วมทริปไปพร้อมกับการถ่ายทำรายการ หนีเที่ยว
ของคุณฟลุ้ค เกริกพล และคุณนาตาลี ด้วย
สอบถามทีมงาน เทปไอซ์แลนด์ก็ใกล้จะออกอากาศในเร็วนนี้เช่นกันครับ
รอติดตามกันได้ ทาง ช่อง 9 MCOT HD ทุกวันศุกร์ เวลา 0930 เป็นต้นไป ...
ที่จั่วหน้าชื่อรีวิวไว้ว่า ดินแดนที่หัวใจเต้นรัวรัว มันเป็นแบบนั้นจริงๆครับ
ทุกอย่างที่ไอซ์แลนด์ดูจะเป็นเรื่องใหม่หมดสำหรับผม ...
มันไม่ใช่แค่การมาครั้งแรก แต่มันคือประสบการณ์ใหม่ๆด้วย
แลนด์สเขปแปลกตาที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ... ความงดงาม
ความอลังการและอัศจรรย์ของธรรมชาติ ... มันสร้างความตื่นตาตื่นใจ
ให้กับผมได้ตลอดทุกๆนาที ตื่นเต้นใจเต้นแรงที่ได้เจอ ได้สัมผัสจริงๆ ...
นี่คือ น้ำตกกูลฟอส Gullfossหรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์
เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากๆอีกแห่งของการมาเที่ยวที่นี่
ทุกคนต้องมาชม ความงดงาม Gull แปลว่าทองคำ
สายน้ำที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งขนาดมหึมา ...
โฉมหน้าคณะเรา ... หลากหลายวัยครับ มีมาครบๆ ทั้งวัยรุ่นเด็กสุดอย่างผม ฮ่าๆ
ไปจนลุงๆ ป้าๆ ก็พร้อมใจกันมาเที่ยวไกลถึงอีกฟากโลก ....
การมาเที่ยวไอซ์แลนด์ไม่ได้โหดมาก อย่างที่คิดครับ
แม้อากาศจะแปรปรวนแต่ไม่ได้ลำบากร่างกาย
ด้วยเป็นพื้นที่ราบเป็นส่วนใหญ่ ไม่เหมือนพวก แชงกรีล่า ธิเบต เลห์ลาดักห์
ซึ่งอยู่บนพื้นที่สูงๆ แล้วจะมีปัญหาเรื่องความกดอากาศ ..
สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ของไอซ์แลนด์นั้น มีถนนเข้าถึงหมด
รถยนต์เข้าถึงได้ เดินต่ออีกไม่ไกลก็ถึงครับ ดังนั้นมาเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัย
สถานที่สุดท้ายในรูท โกลเด้น เซอเคิ้ล คือ น้ำพุร้อนเกย์ซีร์
เป็นดงน้ำพุร้อนเลยครับ ไอควันลอยให้เป็นกันแต่ไกลๆ
ในอดีต .... ไกด์บอกว่าน้ำพุพุ่งสูงกว่าสองร้อยฟุต แต่ปัจจุบันไม่สูงขนาดนั้น
น้ำพุร้อนจะพุงทุกๆ ราว ห้านาทีครับ .. ไปยืนรอดูได้เป็นรอบๆ
พุ่งทีนึง คนที่มาดูก็ส่งเสียงกันด้วยความยินดี ฮ่าๆๆ
สิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินในการมาเที่ยวไอซ์แลนด์คือ ..
ธรรมชาติสวยเกินไป เหมือนนิวซีแลนด์ครับ .. มองไปทางไหนก็สวย
การถ่ายรูปไม่ว่าจะถ่ายวิวหรือถ่ายพอดเทรด สนุกมากกกกกก
ทริปนี้จัดไปเกือบหมื่นรูป ... เพลิดเพลินจริงๆครับ บอกเลย
ลองดูมุม การโพสได้จากในรีวิวนี้ได้ครับ ...
ที่พักในทริปเราคัดสรรดีมากในทุกวันครับ ...
จะเน้นที่พักกลางแจ้งที่สามารถ ชมแสงเหนือได้จากที่พักเลย ...
เดี๋ยวผมจะแยกเรื่องรายละเอียดของที่พักไว้อีกรีวิว
สำหรับสามวันแรก นั้น เราพักกันที่ ION Adventure Hotel ครับ
ที่พักสวยและเท่มากกกกก ต้องแนะนำแรงๆ เลย ถ้ามีงบพอ และมีเวลา
มุมถ่ายรูปเยอะมากกกกก และคณะเราก็โชคดีมากๆ ได้ชมแสงเหนือจากที่พัก
ตรงนี้เลยในสองวันแรก จุใจและฟินกันไปตามๆๆ
อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้ Napira Travel Stylist ซึ่งเป็นทัวร์ที่
ทางรายการหนีเที่ยวให้จัดการทริปทั้งหมด โดยเราไปกันมาหลายทริปละ
รู้ใจกันอย่างดี เลือกที่พักสวยๆ ที่กินเจ๋งๆ ให้คณะเรามาโดยตลอดแบบไม่เคยผิดหวัง
ก่อนมา ผมคิดว่าในไอซ์แลนด์ ที่พักคงแนวๆ ตึกๆ ธรรมดา ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก
แต่ปรากฏว่าคิดผิด .. ที่พักสวยๆ มีเยอะมาก และมาตรฐานนั้นดีเลยครับ
ใครชอบพักสวยๆ พักดีๆ มีให้เลือกเยอะเลยครับ ... ลองเซิชหากันดู
หรือจะตามรอยผมก็ได้ครับ
ไฮไลท์สองคือ กลาเซีย ลากูน
ไฮไลท์ที่ยังไงก็ไม่ควรพลาด ...
กับการสัมผัสธารน้ำแข็งขนาดใหญ่มหึมาอย่างใกล้ชิด
มาไอซ์แลนด์ถ้าไม่ได้สัมผัสกลาเซีย เป็นอะไรที่พลาดมาก
และผมเชื่อว่าร้อยละร้อยคงไม่พลาดน่ะ ...
สาม ไปชมน้ำตกสวยๆ ...
คือไอซ์แลนด์นี่ื อุดมไปด้วยน้ำตกไซส์บิ้กเบิ้มอลังการ
และมีเยอะมากเนื่องจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเทือกเขาสูงสลับที่ราบ
ความต่างของระดับพื้นดินมีเยอะ มีลากูน มีสายน้ำ
เลยเกิดน้ำตกไซส์เบิ้มมากมาย
วันแรกๆนี่ตื่นตาตื่นใจมาก
พอวันสุดท้ายผมเชื่อว่าจะจำชื่อน้ำตกในวันแรกไม่ได้ ฮ่าๆ
เออมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ...
เพราะได้ไปหลายที่ เช่น น้ำตกสโกการ์ Skogarfoos ,
น้ำตกเซลจาลันต์ Seljalandsfoss ตัวดังของด้านตอนใต้ ...
ใครเที่ยวรอบเกาะต้องได้เจอเยอะกว่านี้
หน้าตาคล้ายๆกัน จนเกิดการสับสนได้
นอกจากสามไฮไลท์ ที่ได้ร่ายยาวมา ...
ในทริปยังยัดโปรแกรมสนุกๆ อย่างขับสโนโมบิล
รวมถึงการไปแช่น้ำร้อน ที่ บลู ลากูน ผ่อนคลายกล้ามเนื้อในวันสุดท้าย ก่อนกลับ
มวลรวมแล้ว ....
เป็นโปรแกรมที่ไม่ขี้เหร่เลยน่ะ ตามรอยกันได้
ส่วนแสงเหนือนั้น ยังไงก็ต้องเป็นภารกิจหลัก
ซึ่งเราตามล่าตอนกลางคืน เราค่อยลุ้นกันวันต่อวัน
และด้วยการทำบุญหลอดไฟมาในชาติก่อน
ผมก็ยังโชคดีได้เจอแสงเหนือสองวันจากทั้งทริป
ถือว่าไม่มากไม่น้อยได้รูปสวยเกร๋ แบบไม่ต้องตัดต่อกลับบ้าน สบายๆ ...
มีเพื่อนผมหลายคนไปเที่ยวก่อนผม ช่วงตุลาคม
อยู่ไอซ์แลนด์อาทิตย์นึง ไม่เจอสักวัน เศร้ามากกก
การถ่ายภาพแสงเหนือ ...
จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายครับ หลักการเหมือนการถ่ายดาวบนท้องฟ้า
ต้องใช้ขาตั้งต้องเปิดหน้าต่าง เอ้ย หน้ากล้องนานๆ 10-30 วินาที
ตามแต่สภาพหน้างาน .. และเลนส์ที่เรามีว่าไวแสงแค่ไหน
สำหรับช่างภาพก็ถือเป็นเรื่องง่ายๆ ....
การได้เจอแสงเหนือดูจากยากกว่าการปรับค่ากล้อง
แต่สำหรับมือใหม่ ...
บรรดาสาวๆ ทั้งหลายที่จัด เอาท์ฟิตมาเต็ม
หอบชุดขนเฟอร์อลังการแบบหัวสิงโตแห่งมาไซมาร่ามาเพื่อถ่ายกับแสงเหนือ
หากถ่ายรูปไม่เป็น ผมบอกเลยว่าพังแน่นอน ฮ่าๆๆ
อันนี้เรื่องจริง ไม่ได้ขู่
มือถือถ่ายแสงเหนอไม่เห็นน่ะ ถ้าฟลุ้ก ถ่ายติดก็ไม่สวย
สีไม่สวยเหมือนกล้องถ่ายภาพ
ให้ผมแนะนำทำยังไงดี ? ...
พยายามลากตากล้องไปในทริปให้ได้สักคนครับ
ฮ่าๆๆ ง่ายสุดละ
การลุ้นแสงเหนือ เดี๋ยวนี้ไฮเทคมากมาย ใช้แอพในมือถือในการเช็คสภาพเลย
บอกตำแหน่งที่เราอยู่กันแบบเรียลไทม์นาทีต่อนาที ... บอกหมดเปลือก
แอพลิเคชั่นที่ผมใช้คือ .. AuroraAlerts
จริงๆมีหลายตัวครับ ผมคิดว่ามาจากฐานข้อมูลดาวเทียมเดียวกัน
ก็ค่อนข้างจะตรงครับ
สิ่งสำคัญคือเว็บที่เช็คเมฆครับ ...
เมฆ คือตัวบอสใหญ่สำคัญที่จะทำให้เราไม่เห็นแสงเหนือ
วันไหนเมฆเยอะ อดเห็นแสงเหนือชัวร์
ดูยังไงเมฆเยอะ ? ง่ายสุดคือ จะไม่เห็นดาวครับ
ไอซ์แลนด์นอกเมืองไม่มีแสงไฟ มันมืดสนิท
ถ้าฟ้าใส ยังไงต้องเห็นหมู่ดาวนับล้านครับ
ถ้าไม่เห็นดาว มีเมฆเยอะ ทำยังไงกับชีวิต ...
ก็กินมาม่าแล้วไปนอนซะครับ ไม่เห็นแน่ๆ ... ฮ่าๆ
มีวันนึงผมเจอ KP5-6 มาแรงๆ แต่เจอก้อนเมฆตัวแสบ มองไม่เห็นทั้งคืนครับ
คือถ้าเป็นคนชิลๆ เป็นคนไปล่าจริงๆ ก็จะต้องยอมขับรถหนีเมฆเพื่อไปเจอครับ ..
อย่างกรุ้ปช่างภาพที่ไปเพื่อถ่ายแสงเหนือ กลางวันนอน กลางคืนขับรถทั้งคืนหนีเมฆกัน
แต่กระนั้นก็ต้องระมัดระวังการขับรถในตอนกลางคืนน่ะครับ
เพราะถ้าหลับใน ตกข้างทางบอกเลยว่าไม่สนุกแน่ๆ
ที่สำคัญประเทศนี่ ลมแรงมากกกกกก ผมจะเอาโดรนขึ้นหลายที
บางทีก็ไม่กล้าเสี่ยงลมมันแรงจริงๆ วันไหนฝนตก ลมแรง อากาศโหดมากกกก
Into the Glacier
Jokulsarlon Glacier Lake
สารภาพว่า ชื่อแหล่งท่องเที่ยวที่ไอซ์แลนด์นี่จำยากมาก อ่านไปอ่านมางงเอง
คนไอซ์แลนด์จริงๆออกเสียงไม่เหมือนเราอีก
แต่มี โจกุลซาลอน นี่แหละครับ ผมจำได้ขึ้นใจ ...
เพราะชอบมากกกกกก ฟินมากกกกก
มีโอกาสได้ไปเดินถ่ายรูปเล่นตรงนี้ถึงสองรอบครับ
ประทับใจกับบรยากาศรอบๆ ที่มันเหมือนหลุดออกไปนอกโลก ....
เหมือนฉากนึงในหนังเรื่อง Interstellar ...
แค่ยืนมองก้อนน้ำแข็งนับร้อยนับพันนิ่งก็มีความสุข
เป็นความสุขที่ได้ออกเดินทางมาไกลถึงขนาดนี้ ...
ทะเลส าบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน
จัดเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์
กินพื้นที่กว้างราว 18 ตร กม มีความลึกของน้ำราวลึกสุดที่ 200 เมตร
ตรงมุมที่เราถ่ายๆกันนี้เป็นแค่เศษๆ เสี้ยวที่แตกออกมาแล้วไหลตามน้ำมา
ตรงโจกุล ซาลอน ... บริเวณชายหาดเป็นอีกมุมที่สวยมากๆ
เป็นหาดรายสีดำ และมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่แตกมาจากธารน้ำแข็ง
ลอยตามน้ำมาอยู่ตรงชายหาด ... ไม่เคยคิดว่าก้อนน้ำแข็งธรรมชาติขนาดใหญ่
มันจะงดงามอะไรขนาดนี้มาก่อน
ถ่ายรูปกันสิครับ จะรออะไร
แน่นอน ถ้ามาเที่ยวแถวนี้ กราเซีย ก็อย่าลืมไปสัมผัสกับ ถ้ำน้ำแข็ง
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความอัศจรรย์ เมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์หน้าหนาวครับ ..
เดินทางเข้าไปถ้ำน้ำแข็งด้วยรถโฟวิลคันเบอเริ่มของทัวร์ที่พาเราไป ...
กว่าจะเข้าไปถึงปากถ้ำนี่ไกลพอดูครับ
ถนนซึ่งไม่น่าจะเป็นถนนยังกับขับบนดวงจันทร์
ใครกินมาอิ่มๆมีสิทธิอ้วกได้สบายๆ
จริงๆแนะนำว่าควรจะมาในช่วงเช้าๆถึงบ่ายๆ
คณะผมเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปไปหน่อยกว่าจะมาถึงตรงถ้ำน้ำแข็ง
นี่ก็แสงหมดละครับ ความฟรุ้งฟริ้งของน้ำแข็งก็เลยลดน้อยไป
เพราะถ้ามาตอนแดดจัดๆ
แสงแดดจะทำให้ถ้ำน้ำแข็งสว่างเป็นคริสตัลสีน้ำเงินสวยมากๆ ...
ความทรงจำดีๆบน เมียร์ดาลโจกูล
วันนี้เราไปขับสโนโมบิลตะลุยน้ำแข็งกันที่ทุ่งน้ำแข็ง Myrdalsjokull Glacier
ถ้าเคยขับสโนโมบิลที่อื่นมา อย่างเช่นที่ฮอกไกโด
ตัวเครื่องสโนโมบิลจะเล็กกว่า และขับง่ายกว่าที่นี่นิดนึงครับ
ที่นี่สโนโมบิลคันจะไซส์ใหญ่แบบฝรั่ง อารมณ์บิ้กไบค์ เครื่องแรงๆ
แต่ความสนุกอยู่ตรงพื้นที่ที่เราขับเนี่ยมันคือ Myrdalsjokull Glacier
เรียกว่าเป็นธารน้ำแข็งขนาดมหึมา ดูแล้วเป็นภูเขาหิมะแบบยิ่งใหญ่มากกกก
คือหลังจากที่ใช้เวลาแต่งตัวกันเกือบครึ่งชั่วโมง ...
แต่งสวยแต่งหล่อกันมาแค่ไหนสุดท้ายกลายเป็นชุดหมีนักดับเพลิงกันหมด 555+
ชุดพร้อมก็ต้องนั่งรถซุปเปอร์บรรทุกคันใหญ่
ไต่ขึ้นภูเขาน้ำแข็งไปด้านบนเกือบๆจุดสูงสุดอีกราวยี่สิบนาที
ก็จะถึงจุดสตาร์ทซึ่งมีสโนโมบิลจอดรอเราอยู่ ..การขับง่ายมาก
แค่บิดคันเร่งแล้วก็ปล่อยเวลาต้องการให้มันช้าลง ...
แรกๆอาจจะยังไม่ถนัด
ขับไปสักระยะก็ไม่ยากละครับ
จริงๆ ดูจากรูปก่อนมาขับ วิวด้านบนนั้นสวยมากกกกกครับ
แต่วันที่เราไปนั้นอากาศไม่ดี ฟ้าปิดและลมแรงหิมะตก ...
หันไปทางไหนก็ขาวโพลน .... แอบเสียใจเล็กๆ 55+
หิมะตก ลงแรง หนาวมากกก แต่ก็สนุกมากเช่นกัน
ขับตามๆกันเป็นขบวนดูแล้วสวยงามยิ่งนัก ...
แอบแหกโค้งไปครั้งนึงด้วย 555+ แต่ทุกอย่างก็เซฟดีครับ
เส้นทางที่วิ่งทางทัวร์เค้าเช็กแล้วว่าปลอดภัย ...
เป็นประสบการณ์สนุกๆที่น่าจดจำอีกวันนึงในไอซ์แลนด์เลยครับ
คือเท่าที่ดูรีวิวคนอื่นที่ไปเที่ยวไอซ์แลนด์
ถ้าไม่ได้ไปกับทัวร์มักจะไม่ค่อยไปเล่นสโนโมบิลกัน
อาจจะด้วยราคาทริปค่อนข้างสูง แต่ถ้าสนใจจริงๆ ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์นิดๆ
อยากให้ลองครับ มีไม่กี่ที่ในโลกหรอกครับที่สามารถเล่นได้อย่างปลอดภัยแบบนี้
ไปเที่ยวเองไม่กี่คนก็สามารถจองออนไลน์ได้กับผู้ให้บริการได้เลยครับ
ลองเซิชดูในกูเกิ้ลได้เลยยย ....
ลองดูวิดิโอที่เค้าทำไว้ครับ ถ้าอากาศดีๆนี่มันโคตรจะฟินครับ ...
กลับไปรอบหน้าผมว่าจะไปซ่อมอีกครั้ง สนุกจริงๆ
VIDEO
Vik หมู่บ้านวิค
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ตอนใต้ของไอซ์แลนด์ ถ้าคุณไม่หลับระหว่างนั่งรถ
ยังไงคุณน่าจะต้องจำหมู่บ้านนี้ได้จาก ภาพของโบสต์เล็กๆ
ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินเขาริมทะเล ....
เส้นทางท่องเที่ยวยังไงก็ต้องผ่านที่นี่
เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาสัมผัสกับ หาดทรายสีดำ Black Sand Beach
อีกหนึ่งความอัศจรรย์ของธรมชาติที่เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา
ที่เย็นตัวลง และมีแนวแท่งหินบะซอลต์เรียงรายเต็มหน้าผาริมทะเล
ไปๆมาๆ ผมว่าตอนนี้มันเป็นแลนมาร์กของไอซ์แลนด์ไปละ
ถ้ามาเที่ยวแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปตรงหาดทรายสีดำ เหมือนมาไม่ถึง
วันอื่นๆ ในทริปอาจจะแต่งตัวเชยๆ ได้
แต่ผมขอเลยครับ ....
ถ้ามาตรง Black Sand Beach
ต้องให้เพื่อนที่เป็นแฟชั่นนิสต้าที่สุดในกรุ้ป ดูแลเครื่องนุ่งห่มให้เราทันที
เพราะภาพที่ได้มันจะเท่และเกร๋มากกกก
จะเลือกแต่งตัวเล่นสีตัดกับฉากหลัง
หรือจะเอาแบบสีเข้มแนวขรึมๆ มันให้อารมณ์ Game of Throne จริงๆให้ตายสิ
สิ่งที่ต้องระวัง ขีดเส้นใต้เน้นๆคือ ทะเลตรงนี้อันตรายมากกกกกกครับ
คลื่นแรงพร้อมจะซัดหายไปในทะเล พยายามอยุ่ห่างจากหาดเอาไว้ครับ
Blue Lagoon
เราส่งท้ายทริปกันด้วยการมาแช่น้ำแพุร้อนกันที่ บลู ลากูน
หนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เหมือนไปญี่ปุ่นต้องแช่ออนเซ็น
มาไอซ์แลนด์ก็ต้องจัด บลู ลากูน ซะหน่อย ...
จริงๆ มันมีบ่อแบบธรรมชาติกลางป่า กลางเขา น่ะครับ
ไว้คราวหน้าไปกรุ้ปเล็กๆ จะเอามารีวิวให้ดู
สำหรับบลู ลากูน ตรงนี้จะทำแบบดูดีหน่อย มีอาคาร มีระบบจัดการเป็นเรื่องราว
มีส่วนของห้องอาหาร มีที่พัก และบ่อลากูนขนาดใหญ่ให้แช่ตัว
เมื่อเราจ่ายค่าเข้าแล้วก็รับผ้าเช็ดตัว จะได้รับริสแบนด์ติดแขน
เอาไว้ผ่านประตู เอาไวไ้จ่ายอาหารเครื่องดื่มด้านใน
เมื่อเข้าไปเปลี่ยนชุด เก็บของในล็อคเกอร์แล้วก็ต้อง อาบน้ำชำระตัวก่อน
จากนั้นก็เดินๆตามทางไปก็จะเจอบ่อลากูนขนาดใหญ่
ซึ่งมีคนที่เราไม่รู้จักลอยคอเป็นเพื่อนอีกมากมาย ฮ่าๆ
แนะนำพอกครีมนวดไว้ที่ผมหน่อยก็ดีครับ ไม่งั้นผมจะแห้งมาก
หลังจากแช่บลูลากูนเป็นเวลานานๆ ครับ
ความรู้สึกของผมนั้น ... การมาแช่ บลู ลากูน ในหน้าหนาว
เป็นอะไรที่ฟินและดีงามมากๆครับ ... อากาศหนาวๆ ได้มาแช่น้ำอุ่นๆ
สบายตัวมากกกกกกกก เป็นการส่งท้ายทริปไอซ์แลนด์ที่ลงตัวสุดๆ
ความงดงามที่พบเจอระหว่างทาง ...
แม้จะกลับมาที่ไทยหลายอาทิตย์แล้วก็ตาม
ผมยังรู้สึกว่า กลิ่นไอเย็นของหิมะที่ไอซ์แลนด์ยังไม่จางไปจากความทรงจำผมเลย
มีอีกอย่างที่ต้องบอกไว้อีกอย่างนั่นคือ อาหารที่ไอซ์แลนด์รสชาติดีมากๆครับ
โดยเฉพาะ เนย !!! ทากินกับขนมปังอร่อยมากกกกก หรืออาหารทั่วๆไป
ทั้งพวกปลาแซลมอน ปลาค้อด หรือพวกเนื้อ ... รสชาติดีจริงๆ
คิดว่าจะเป็นเพราะธรรมชาติของพื้นที่ที่บริสุทธิ์ ทำให้วัตถุดิบดีไปด้วย
ดังนั้น ไม่ต้องพกมาม่าไปเยอะมาก ฮ่าๆๆ
แวะฝากท้องไว้กับร้านอาหารทั่วไปได้สบายครับ อาหารทำดีถูกปาก
ผมเชื่อว่า ทุกการเดินทางคือหนังสือเล่มนึงที่หน้าสุดท้ายเป็นกระดาษโล่งๆ
แต่ละคนสามารถเลือกเขียนตอนจบ และมีโอกาสเจอตอนจบไม่เหมือนกัน ...
อาจจะเต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ที่น่าจดจำบ้าง แฮบปี้บ้าง ไม่แฮบปี้บ้าง ..
สุขเศร้าเคล้าน้ำตา ดราม่ายิ้มแก้มปริ หลากหลายอารมณ์
กลับถึงบ้านแล้วลองให้คะแนนครับ
ฉากจบของทริปนั้นๆ คุณให้กี่คะแนน
สำหรับไอซ์แลนด์เล่มนี้ของผม ..
ผมให้สิบคะแนนเต็ม
อุดมไปด้วยความทรงจำดีๆ จบแบบแฮบปี้เอนดิ้ง
และดูเหมือนคนเขียนจะอยากเขียนภาคต่อเสียด้วย ... : )
ภาพสวย คงจะหนาวสุด ๆ
ไปต่างถิ่น เจออะไรที่ซ้ำ ๆ คล้าย ๆ กันก็สับสน ชื่อได้เหมือนกัน
ผมไปรัสเซีย เห็นโบสถ์วิหาร ถ่ายไปถ่ายมาไม่ได้ นำลงโน๊ต
บุค แล้วตั้งชื่อ กว่าจะดูออกว่า ของที่ใด ใช้เวลานาน..
จดใส่สมุดครับ แต่ก็สับสนจนได้..
ภาพน้ำตก ดูอลังการณ์มาก น่าไป แต่ก็กลัวหนาวอีกแหละ
555 พยายามเลี่ยง ความหนาวเย็นติดลบครับ