พรุ่งนี้จะฉายแสงครบเป็นวันสุดท้ายแล้ว.....
ปีนี้หนาวนาน...และหนาวผิดฤดู
สามวันสุดท้าย ...อากาศในตอนบ่ายอุ่นขึ้น
แต่ช่วงเช้าๆที่ต้องออกจากบ้านไปโรงพยาบาล ยังเป็น 9...12...12...เซลเซียสตามลำดับ
สำหรับอ๋อต้องหารสองไปอีกค่ะ
เพราะตอนนี้อ๋อรู้สึกหนาวกว่าคนปกติ
ทุกๆเช้าที่ต้องออกจากบ้านไปโรงพยาบาล
ความรู้สึกมันก็แย่อยู่แล้ว
อากาศ...ก็ยิ่งทำให้เจ็บปวดเข้าไปอีก
2 อาทิตย์สุดท้ายนี่ เพลียมากแล้วค่ะ
บางวันก็นั่งน้ำตาไหลออกมาเฉยๆ
บางวันก็อยากจะหลับตา แล้วไม่ต้องลืมขึ้นมาอีก
จิตใจมันหดหู่ เศร้าหมองยังไงก็ไม่รู้ค่ะ
ไม่ได้ร้องไห้เพราะสงสารตัวเองอะไรแบบนั้นนะคะ
แต่มันแบบอยากจะร้องไห้น่ะค่ะ
อยากจะร้องอยู่ตลอดเวลา
เช่น วันนี้เผลอเปิดน้ำร้อนจัดลวกมือตัวเอง
ก็ปล่อยโฮลั่นเลยค่ะ
ร้องแบบสะอึกสะอื้นหยุดไม่ได้อยู่หน้าซิงค์งั้นแหละค่ะ
จะมีช่วงที่พอจะลืมๆ เวลาหันไปทำขนมหรือทำงานบ้าน
บางทีมานั่งคุยกับเพื่อนๆที่บล็อก ก็พอไหว
พอลุกจากคอมไป
มันก็ยังเป็นค่ะ
วันนี้หมอบอกว่า อีกประมาณ 1 เดือน จะต้องกลับไปสแกนดูผลที่ฉายรังสี
แต่ภายใน 1 เดือนนี้ จะยิ่งมีไซด์เอ็ฟเฟกมามากขึ้น
อาจจะยิ่งเพลียกว่านี้อีก
ห้ามไม่ให้นอนกลางวันเกินกว่า 2 ชั่วโมง
และต่อจากนี้ไปอีกสามปี จะต้องพบหมอรังสีคนนี้ และหมอเฉพาะทาง (หมอมะเร็ง) ทุก 3 เดือน...
จะต้องอยู่ในสายตาของหมอสองคนนี้ไปอีกเป็นเวลา 3 ปีค่ะ
ชีวิตเป็นเรื่องยากลำบากจริงๆ
บ่อยๆที่นั่งรอการฉายรังสีไป น้ำตาก็ไหลออกมาเอง
และก็มีวันนึง ก็หันไปพูดกับคุณ K ว่า..
"I'm sorry that I've made you go through all of these,
if you did not marry me, maybe you will be happier".
คุณ K ตอบว่า..
"No, we will go through this together.
And if I could turn back the time, I will still marry you.
But..will you marry me again?"
April 10, 2013
เขียนต่อวันสงกรานต์ 13 เมษายน 2555...
อย่างที่เขียนไว้ก่อน...
ช่วงสองอาทิตย์สุดท้าย อ๋อไม่ค่อยสบาย
ผิวหนังมันไหม้ มันหลุดลอกออกมา ...แสบมากค่ะ
ไซด์เอ็ฟเฟก อันนึงก็คือมันทำให้เป็นซึมเศร้า
มันเป็นหนักเลยค่ะ
วันก่อนวันสุดท้าย อ๋อนั่งร้องไห้ตั้งแต่ออกจากบ้านจนไปถึงโรงพยาบาลเลย
หมอ เจ้าหน้าที่ หน้าตื่นไปตามๆกัน
ตอนเสร็จ จะกลับบ้าน...ตอนนั้นหยุดร้องแล้ว
แต่หน้ายังแดงๆอยู่
เดินผ่านคนไข้คนอื่นๆ เค้าก็พยักหน้ายิ้มๆให้
มีผู้หญิงคนนึง พูดว่า ไม่เป็นไรแล้ว แล้วก็ยิ้มให้อ๋อ
คนไข้คนอืนๆนี้ ไม่ซ้ำหน้านะคะ
ไม่เคยเห็นเค้ามาก่อน
แต่ทุกคนมีน้ำใจต่อผู้หญิงต่างชาติคนนี้มากเลยใช่มั๊ยคะ
ส่วนวันสุดท้าย...
พอลงจากรถ อ๋อก็หันไปขอบคุณ K
พอเดินไปจะเข้าตัวตึก
ก็หันไปขอบคุณ K อีกครั้ง
สองเดือนมานี่ เค้าต้องเสียสละ และกดดันมากเท่าๆกัน
อาจจะมากกว่าอีกค่ะ เพราะเค้าต้องปลุกปลอบเราไปด้วย
คุณ K ตอบว่าไม่ต้องขอบคุณหรอก
มันเป็นหน้าที่ของเค้าที่ต้องทำอยู่แล้ว
เค้าก็บอกมาแต่ต้นแล้วว่า เราจะต้องผ่านมันไปด้วยกัน
วันสุดท้ายนี้พอฉายแสงเสร็จ... เจ้าหน้าที่ในห้องฉายแสง (ผู้หญิง) เค้าส่งมือจะเช็คแฮนด์
พร้อมกับอวยพรให้อ๋อแข็งแรง
แล้วยังไงก็ไม่รู้ เค้าเปลี่ยนใจเป็นดึงอ๋อไปกอดไว้ แล้วหอมแก้มด้วย
พนักงาน และเจ้าหน้าที่แผนกนี้ใจดีมากๆทุกคนเลยค่ะ
ปล. ได้รับแพคเกจในตู้จม.
คุณดาวซีล็อกหนังสือสวดมนต์ส่งมาให้
ขอบคุณมากค่ะ
ขอผลบุญนี้ส่งให้คุณดาวมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนนะคะ
และขอสวัสดีวันปีใหม่ไทย
และขอให้เพื่อนๆทุกคน ทั้งเพื่อนบล็อก และเพื่อนที่แวะเวียนมาอ่าน
จงมีแต่ความสุข ความสวัสดี
มีสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนค่ะ
April 13, 2013