|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มรรยาทการกินข้าวกับลูกค้า
กรณีที่ 1. ลูกค้าเป็นคนนัด และขอเป็นเจ้าภาพ
** นัดหมายกับลูกค้าเรื่องวัน เวลา และสถานที่ให้แน่นอน สอบถามจากลูกค้าว่า ร้านอาหารที่นัดพบกันนั้น มีข้อกำหนดเรื่องการแต่งกายเป็นพิเศษหรือไม่ หรือเป็นร้านอาหารชนิดใด เนื่องจากปัจจุบันมีร้านอาหารนานาชาติ อาหารบางอย่างมีขั้นตอนหรือวิธีรับประทานที่เราอาจไม่คุ้นเคย จำเป็นต้องเรียนรู้ล่วงหน้า
** สันนิษฐานไว้ล่วงหน้า หรืออาจสอบถามประเด็นที่จะต้องคุยกันกับลูกค้าไว้ก่อน หาวิธีสอบถามให้มีศิลปะ อย่าถามตรงๆ ยกเว้นว่าเป็นลูกค้าที่สนิทสนมกันมาก จากนั้นก็เตรียมข้อมูล รายละเอียด หรือเงื่อนไขของประเด็นที่จะพูดคุยกันในวันนัดหมายนั้นให้พร้อม
** รายงานเรื่องนี้ให้แก่ผู้บังคับบัญชาทราบ ( ในกรณีที่คุณมีผู้บังคับบัญชาในตำแหน่งสูงกว่า) และหารือในบางเรื่องหรือบางเงื่อนไขที่พ้นไปจากอำนาจการตัดสินใจของคุณล่วงหน้า เพื่อให้คุณทราบว่า คุณจะตัดสินใจต่อเรื่องต่างๆ ที่ลูกค้าอาจเปิดประเด็นขึ้นมาได้มากน้อยขนาดไหน
** ไปให้ตรงเวลา อาจไปก่อนเวลาสักเล็กน้อย แต่อย่าถึงกับไปก่อนเวลามากจนลูกค้ารู้สึกกังวลใจว่าเขาซึ่งเป็นผู้นัดหมายเป็นฝ่ายมาช้า และไม่ควรไปช้าจนลูกค้าต้องรออยู่นาน
** ทำความเคารพ และทักทายลูกค้าอย่างเหมาะสมและแจ่มใส
** เปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นคนสั่งอาหาร ในฐานะที่ลูกค้าเป็นฝ่ายนัด และเป็นเจ้าภาพ เว้นไว้แต่ว่า ลูกค้าขอให้ช่วย หรืออนุญาตว่า ต่างคนต่างเลือกเมนูที่พึงพอใจ
.................................................................................................
กรณีที่ 2. เป็นฝ่ายขอนัดลูกค้า
** หารือเรื่องอยากจะขอเลี้ยงข้าวลูกค้าล่วงหน้า โดยขอวันเวลาที่สะดวกจากลูกค้า รวมไปถึงละแวกที่ลูกค้าสะดวกด้วย
** มีศิลปะที่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าด้วยว่า ประสงค์จะพบกัน รับประทานอาหารร่วมกันเฉยๆ หรือมีวาระจะพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ ควบคู่กันไปด้วย เพื่อที่ลูกค้าจะได้เตรียมความพร้อมในส่วนของเขา
** แจ้งวัน เวลา สถานที่ให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า ควรมีตัวเลือกสำรองไว้ด้วย เผื่อลูกค้าไม่สะดวกในสถานที่ที่เราต้องการจะพาลูกค้าไปรับประทาน หากมีแผนที่เส้นทาง ก็ควรจะส่งให้แก่ลูกค้าด้วย เพื่อความสะดวก
** สอบถามชนิดอาหารที่ลูกค้าไม่สามารถรับประทานได้ หรือไม่ชื่นชอบ เช่น ลูกค้าบางคนอาจรับประทานมังสวิรัติ เจ หรือไม่รับประทานเนื้อ บางคนก็ไม่กินเผ็ด บางคนไม่ชอบผักบางชนิด หรือเกลียดกลัวผลไม้บางชนิด ที่ต้องระวังที่สุดคือการแพ้อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเล หรืออาจแจ้งเมนูอาหารบางเมนูให้แก่ลูกค้าทราบล่วงหน้า หรือรอให้ลูกค้าเลือกด้วยตัวเองในวันนัดพบ คุณเพียงทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำเมนูอร่อยๆ แก่ลูกค้า แล้วให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจก็น่าจะดีที่สุด
** หากเป็นไปได้ ควรไปสำรวจสถานที่ล่วงหน้า ทดลองชิมอาหาร และดูเรื่องห้องน้ำห้องท่า เพื่อที่เมื่อถึงวันจริง จะได้แนะนำแก่ลูกค้าได้
** ควรสำรองโต๊ะไว้ล่วงหน้า โดยจองมุมที่ดูดีหรือสบายที่สุด เงียบ เหมาะแก่การพูดคุยกัน
** ไปก่อนเวลา เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องเป็นฝ่ายรอ
** ห้ามเสิร์ฟอาหารก่อนลูกค้าจะมาถึง เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดี และอาหารก็จะลดความน่ารับประทานลง อาจสั่งไว้ก่อนล่วงหน้าได้ แต่ห้ามยกมาเสิร์ฟก่อนลูกค้าจะมา
** ในระหว่างนั่งรอลูกค้า สามารถสั่งน้ำดื่ม หรืออาจเป็นเครื่องดื่มค็อกเทลมาดื่มได้
** ลุกขึ้นยืนต้อนรับ ยกมือไหว้ และกล่าวคำทักทายเมื่อลูกค้ามาถึง พร้อมสอบถามสารทุกข์สุกดิบหรือการเดินทางได้ตามสถานการณ์
** เชิญชวนลูกค้าสั่งเครื่องดื่มและอาหาร โดยคุณอาจมีเมนูแนะนำ หรือเมนูที่สั่งไว้แล้วล่วงหน้า ก็เรียกให้บริกรนำมาเสิร์ฟได้ทันที ซึ่งควรเป็นออเดิร์ฟมากกว่าอาหารจานหลัก
** จากนั้นจึงค่อยพูดคุยแล้วนำไปสู่ประเด็นสำคัญของการนัดพบครั้งนี้
.................................................................................................
ทั้งสองกรณี ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายนัดหมายก็ตาม สิ่งที่ต้องปฏิบัติก็คือ
** ปฏิบัติตามมารยาทสากลบนโต๊ะอาหารอย่างเคร่งครัด ** มีท่าทีแจ่มใสและผ่อนคลาย ** ฟังและพูดในจังหวะที่เหมาะสม ** แต่งกายสะอาด สุภาพ และเหมาะสมกับกาลเทศะ ** เป็นมิตร เปิดเผย และมีความจริงใจ ** มีมารยาทในการทักทายและอำลาที่น่ารัก
ขอบคุณ John Robert Powers.com
Create Date : 05 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 5 สิงหาคม 2551 16:31:13 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3239 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|