พฤษภาคม 2550
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 พฤษภาคม 2550
 
 

คิดถึงพ่อค่ะ

ขออุทิศบุญกุศลและความดีทั้งหลายเหล่านี้แด่
คุณพ่อณัชธีรัภัทร เกษมอมร
ผู้เสียชีวิต จากคลื่นสึนามิ ณ เขาหลัก จ.พังงา
“ถ้าคุณรักใครสักคนโปรดบอกกับเค้าไปเถิด ก่อนที่คุณจะไม่โอกาสบอกเค้า.....ตลอดชีวิตของคุณ”


บางสิ่งที่หลายคนอยากทำกลับไม่ได้ทำ..ตราบชั่วชีวิต แต่บางสิ่งหลายคนไม่อยากทำกลับต้องจำใจทนทำและรับมือกับมันต่อไป… หลายเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำอยากลืมก็ทำไม่ได้ อยากจดจำก็ทำไม่ได้เช่นกัน
ฉันเคยคิดว่าชั้นเข้าใจความรู้สึก..ของคนที่สูญเสีย และเป็นห่วงบุคคลอันเป็นที่รัก หากแต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับตัว ชั้นเพิ่งจะเข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่ามันหนักหนาเกินกว่าที่เราเข้าใจ....

บ่อยครั้งที่เวลาพ่ออยู่บ้าน..ชั้นมักจะไม่ค่อยอยู่ด้วยกับพ่อ บางทีก็ออกไปกับแฟน บางทีก็ไปอยู่บ้านย่า นั่งคุยกับอา เพราะพ่อชอบบ่นนู่นบ่นนี้เสมอ ที่สำคัญพ่อชอบดูมวย ช่อง 7 ตอนบ่ายวันอาทิตย์ ชั้นเลยอดดูรายการโปรดไป เวลาชั้นออกนอกบ้านพ่อมักจะพูดว่า “ ไปให้เค้าหลอกอีกและ” พ่อชั้นชักเริ่มหวงลูกสาว จริงๆแล้วพ่อเป็นคนติดบ้าน ชั้นพอจะเข้าใจ ทำงานข้างนอกก็เหนื่อย คงอยากอยู่บ้านกลับมาเจอชั้นกับน้อง แล้วก็แม่รออยู่พร้อมกัน แต่แหม ก็มันอยากไปข้างนอกนี่นา ก็เลยบอกพ่อว่าเดี๋ยวหนูก็กลับแต่ก็กลับเย็นทุกที กับแม่บางครั้งพ่อกับแม่ชั้นชอบงอนกันเหมือนเด็กๆ..บางทีแม่พูดอะไร ไม่ถูกหูทำอะไรไม่ถูกใจ ก็งอนซะแล้ว แล้วบางทีพ่อก็ชอบไปต่างจังหวัดไม่บอกซะด้วย..แต่อย่างน้อยชั้นก็รู้ล่ะน่าว่าพ่อชอบไปที่ไหน..พ่อชอบไปวัดที่ลำพูน ไม่ก็ไปวัดที่เชียงใหม่ อย่างน้อยก็ในภาคเเหนือนี่ล่ะ พ่อเคยบ่นว่าอยากบวช แต่ชั้นกับแม่และอาๆ ก็คุยกันเสมอว่าพ่อน่ะถึงบวชได้ก็ไม่นาน เพราะพ่อ ห่วงชั้นกับน้อง แล้วก็ไอ้ปุ๊กลุกอีกตัว ชั้นว่าพ่อเนี่ยท่าทางจะรักมันมากกว่าชั้นซะอีก มันเป็นแมวเปอร์เซียตัวอ้วน กวนพอกับการ์ฟิลด์ในหนังเลย แต่มันเป็นตัวเมีย พ่อชอบจับมันเช็ดตัว เพราะมันขนยางและที่อากาศก็ร้อนมันจะได้รู้สึกสบายตัว แต่ไม่ค่อยชอบที่ชั้นไปเล่นกับมันเพราะชั้นเป็นภูมิแพ้อยู่ด้วย

ตอนเด็กๆชั้นไม่ค่อยแข็งแรงชั้นรู้ว่าพ่อรักชั้นมาก เพราะพ่อมาเฝ้าที่รพ. ทุกวันหลังจากพ่อเลิกงาน..ชั้นมีโรคประจำตัว เลยต้องนอนอยู่โรงพยาบาลเป็นปี กว่าจะออกมาได้ แต่ถึงออกมาก็ยังไม่หายอยู่ดีพ่อก็ยังคอยหายามารักษาแทบจะทุกแบบทั้งไทยและเทศจนเรียกว่าน่าจะหายแล้ว แต่ชั้นก็มีอาการภูมิแพ้แทรกเข้ามาอีก...พ่อก็หายามาให้อีก บางครั้งพอจามปั๊บ พ่อก็บอกแล้วให้ไปกินยา พอไม่กินพ่อก็จะงอน และมักจะบอกชั้นเสมอว่า “เราน่ะไม่เหมือนคนอื่น เป็นอะไรนิดอะไรหน่อย ไม่รักษาเดี๋ยวก็ไปกันใหญ่” ชั้นก็จะงอนทุกที เพราะชั้นคิดว่าก็เหมือนคนอื่นนั่นแหล่ะ ต่างกันตรงไหนพ่อคิดเองตะหาก

เมื่อกลางปีที่แล้วพ่อได้ลาออกจากโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่พ่อทำอยู่ ด้วยเหตุผลที่ว่าพ่อชั้นไปพูดขัดผู้ใหญ่ของโรงแรม เค้าไม่ชอบก็เลยบีบให้ออก พ่อก็เลยลาออกเอง ออกมาอยู่บ้านพักใหญ่ๆพ่อก็เลยมีเวลาทำนู่นทำนี่ในบ้านที่มันยังไม่เรียบร้อยให้ ระหว่างนั้นพ่อก็ให้ลูกน้องเก่า ช่วยหางานด้วยแต่ส่วนใหญ่คงจะเป็นที่ต่างจังหวัด เพราะในกรุงเทพฯ อายุขนาดพ่อคงจะยากหากเรียกเงินเดือนสูงเท่าเดิม ชั้นเองก็ช่วยหาด้วย แล้วพ่อก็ได้งาน 5 ที่พร้อมๆกัน พ่อไม่ได้เลือกที่ที่ให้เงินเดือนเยอะที่สุดหรือที่ที่ใกล้ที่สุดในการเดินทางกลับบ้านอย่างพัทยา แต่พ่อเลือกจะไปที่นั่น .....เขาหลัก จ. พังงา ชั้นเองก็กลับสนับสนุนแล้วบอกว่าอีกหน่อยหนูจะไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อที่นั่น โดยที่ไม่รู้เลยว่า พ่อไม่มีโอกาสได้กลับมาดูบ้านอีกแล้ว

ก่อนไปพ่อเตรียมทุกอย่างในบ้านให้เรียบร้อย เพราะพ่อกลัวว่าจะไม่มีเวลากลับมาอีก ซื้อศาลใหม่ ทำราวตากผ้าให้ใหม่ อุดรูรั่วที่ฝนหยดลงมาตามรอยแตกของกระเบื้อง ซื้อเสาอากาศใหม่ แม่จะได้ดูทีวีชัดๆ เพราะคงไม่มีใครออกไปปีนปรับเสาให้แม่อีกนานเลย

พ่อไป พังงา ช่วงกลางเดือนตุลาคม 2547 ตอนไปถึงใหม่ๆพ่อโทร.มาทุกวัน บอกว่าคิดถึงแม่ คิดถึงชั้นกับน้องแล้วก็ไอ้ปุ๊กลุก แล้วประมาณ 2 อาทิตย์ถัดมาพ่อก็กลับมา บอกว่าแขกยังมีไม่มากเพราะโรงแรมสร้างเสร็จแค่บางส่วน มาแค่ 2 วันก็กลับ แต่ก็ไม่วายยังงอนกับแม่อีก จนได้ ชั้นเคยบอกกับแม่ว่า “จะงอนกันทำไม เดี๋ยวไม่นานก็ตายแล้ว เกิดเดินออกไปข้างนอก แล้วเป็นอะไรตายไป ยังงอนกันอยู่เสียใจตายเลยนะ”

วันที่ 26 ธันวาคม 2547 ชั้นดูข่าวตอนเช้าว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่อินโดนีเซีย ชั้นรู้แค่นั่น และคิดว่ามันคงไม่หนักหนาอะไร หลังจากนั้น ชั้นก็ออกไปข้างนอก กินข้าวดูหนัง แม่โทร.มาบอกว่าดูข่าวแผ่นดินไหวรึเปล่า ชั้นบอกว่าดูแล้ว คงไม่เป็นอะไรมั้ง

จนตอนเย็นชั้นกลับบ้าน ได้ดูข่าว...ชั้นเริ่มหวั่นใจเล็กๆแต่ก็พยายามคิดไปในทางที่ดี เพราะที่ที่พ่อไปอยู่เป็นที่ที่โดนหนักที่สุด ชั้นรู้ว่าแม่ก็คง พยายามคิดไปในทางที่ดีเหมือนกัน ชั้นพยายามโทร.หาพ่อ แต่ก็รู้อยู่ว่าที่นั่นปกติเวลาพ่อโทร.มาก็ไม่ค่อยจะได้อยู่แล้วเพราะสัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยมี จนดึกแล้วก็ยังไม่ได้ข่าว และไม่สามารถติดต่อได้ เพื่อนพ่อและลูกน้องพ่อ หลายคนพยายามโทร.มาถามข่าวคราว และบอกว่าเค้าจะพยายามช่วยติดต่อคนทางนู้นให้ช่วยตามหาให้ไม่ว่าจะดึกหรือลำบากแค่ไหนเค้าก็จะตามให้เจอ ชั้นเพิ่งจะรับรู้ตอนนี้เองพ่อชั้นรู้จักคนมากมายขนาดไหน และมีคนรักและเป็นห่วงพ่อชั้นอีกหลายคนเช่นกัน คืนนั้นแทบไม่ได้นอนเพราะมีแต่เสียงโทรศัพท์โทรมาที่บ้าน จนประมาณ 5ทุ่ม เที่ยงคืนก็เริ่มได้ข่าวจากทางโรงแรมว่า ที่เสียชีวิตแล้วแน่นอนมี 5 คน หนึ่งในนั้นยังไม่มีพ่อ และ Manager หายไปสามคน ซึ่ง 1ในนั้นมีพ่อรวมอยู่ด้วย

ชั้นดูรายงานข่าวจนถึง ประมาณ ตี 3 จนทุกสถานี ปิดทำการ ซักพักก็หลับไป ตื่นมาอีกทีตอนเช้า ชั้นคิดว่าจะไปทำงานเพื่อที่จะได้หาข้อมูลติดต่อตามโรงพยาบาลง่ายหน่อยเพราะชั้น ไม่กล้าต่อ Internet ที่บ้านเนื่องจาก คงจะมีหลายคนโทร.เข้ามาแน่ๆ ก็เลยให้แม่รออยู่บ้านกับย่า ชั้นพยายามจะทำตัวให้เป็นปกติ ทำทุกอย่างให้เหมือนเป็นเหตุการณ์ประจำวัน และคิดว่า พ่อคงจะอยู่ที่โรงพยาบาลที่ไหนซํกแห่ง และคิดว่าถ้าวันนี้ยังไม่รู้เรื่อง คงต้องลงไปที่พังงาแน่นอน แต่ชั้นก็แอบหวั่นใจเล็กๆ เพราะถ้าพ่อไม่เป็นอะไรพ่อจะต้องรีบโทร.กลับมาที่บ้าน แต่..ไม่มีเสียงโทรศัพท์ของพ่อ...และก่อนหน้านั้นไม่กี่วันชั้นกับแม่ฝันเหมือนกัน ในคืนเดียวกันว่าพ่อกลับมาบ้าน แล้วบอกว่า จะไม่ไปอีกแล้ว คืนวันที่ 25 ธันวาคม 2547 ตอนกลางคืนแม่บอกว่า พ่อโทร.มาบอกว่า อาทิตย์หน้า วันที่ 3 มกราคม 2548 พ่อจะกลับมาแล้ว และพ่อบอกว่า คงจะไม่กลับไปแล้ว เพราะว่าอยู่ที่นั่นมันเหงาๆ ไม่เหมือนอยู่ที่บ้าน เดี๋ยวค่อยมาหางานใหม่ใกล้ๆดีกว่า...พ่อถามถึงชั้นด้วย แต่ตอนนั้นชั้นขึ้นนอนไปแล้ว...และนั่นเป็นครั้งสุดท้าย...ที่แม่ได้คุยกับพ่อ......

หลังเที่ยง ใกล้ๆจะบ่ายโมงของ วันที่ 27 ธันวาคม 2547 หลังจากกินมื้อกลางวันเสร็จ แม่โทร.มาหาชั้นเสียงสั่นว่า “ลูกน้องพ่อที่พังงาโทร.มาบอกว่าพ่อเสียแล้ว” เค้าเจอพ่ออยู่ข้างๆโรงแรม...มีกองไม้ทับพ่ออยู่
จนถึงวันนี้เกือบครบ 100 วันแล้ว...ตั้งแต่วันที่พ่อเสีย ชั้นนึกถึงพ่อและบอกพ่อทุกวันว่า ไหนูรักพ่อและจะดูแลแม่เอง พ่อไม่ต้องห่วง...หนูคิดถึงพ่อค่ะ”

เวลาทุกนาทีที่ผ่านไป......มีค่ายิ่งนัก....ไม่กี่นาที ที่เราเดินเข้าไปกอด ไปพูดคุย...แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว....สำหรับ พ่อ แม่ ที่รักเราที่สุด..คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า...มันทรมานแคไหน...ที่คุณไม่มีโอกาสได้พูดสิ่งที่คุณอยากบอก คนที่คุณรักที่สุดอีกต่อไป ตลอดชีวิตของคุณ .......

ตะวัน

~ตะวันเขียนมันไว้นานแล้ว ตั้งแต่คุณพ่อเสียใหม่ๆ วันนี้คิดถึงพ่อค่ะ และอยากให้ทุกคนได้อ่านค่ะ และหวังว่า..คงมีประโยชน์ สำหรับหลายคนที่อยากแสดงความรัก กับพ่อแม่ มันไม่น่าอายนะคะ ...ดีกว่าอยากทำแล้วไม่มีโอกาสอีกตลอดชีวิต เหมือนตะวัน




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2550
1 comments
Last Update : 28 พฤษภาคม 2550 11:14:48 น.
Counter : 574 Pageviews.

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะค่ะ

ยิ่งอ่านน้ำตามันก็ไหล ยังไงท่านก็หมดเวรหมดกรรมแล้วนะค่ะคนที่อยู่ก็ต้องต่อสู้กันไป อย่างน้อยก็คิดว่ายังไงก็ต้องมีวันนึงที่ท่านต้องจากเราไป เข้มแข๊งนะค่ะ

มีคนที่อยู่ข้างคุณเวลาสุขทุข์ ก็คือพ่อแม่คณแหละค่ะ เพระคุณมีท่านอย่างละครึ่งในตัวคุณไงค่ะ

 

โดย: joke IP: 124.121.171.52 28 พฤษภาคม 2550 22:48:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

นู๋~ตะวัน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add นู๋~ตะวัน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com