space
space
space
<<
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
10 มกราคม 2560
space
space
space

ระบบปฏิบัติการ Windows








ระบบปฏิบัติการ Windows

วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557 ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Windows รุ่นล่าสุดในชื่อว่า Windows 10 เข้าสู่ยุคใหม่ของระบบปฏิบัติการ Windows อย่างเต็มรูปแบบ 

Windows 1.0
Windows 1.0

Windows 1.0
Windows 1.0

Windows 1.0

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1985 เป็น Windows รุ่นแรก ซึ่งยังไม่ได้รับความนิยม โดยแรกเริ่มถูกเรียกว่า Interface Manager แต่สุดท้ายทางไมโครซอฟท์ก็เลือกที่จะใช้ชื่อ Windows แทนเนื่องจากเรียกและจดจำได้ง่าย

Windows 2.0
Windows 2.0

Windows 2.0
Windows 2.0

Windows 2.0

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1987 เป็นการนำ Windows 1.0 มาพัฒนาใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นแรก เริ่มมีนักพัฒนาหลายรายพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้บน Windows 2.0

Windows 3.0
Windows 3.0

Windows 3.0
Windows 3.0

Windows 3.1
Windows 3.1

Windows 3.0

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 1990 ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของ Windows ที่ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นก่อนหน้าค่อนข้างมาก รองรับ 16 สี อินเทอร์เฟซถูกพัฒนาให้มีสีสันดูน่าใช้งานมากกว่าเดิม และได้ออก Windows 3.1 ตามมาในปี 1992 ที่ทำให้ Windows กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่คนใช้กับแพร่หลายมากที่สุด

Windows NT
Windows NT

Windows NT

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 1993 เป็นรุ่นที่พัฒนามาสำหรับใช้ในกลุ่มองค์กรและธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งในภายหลังได้ออกรุ่นใหม่ ๆ มาในช่วงเดียวกับ Windows สำหรับใช้ในบ้าน

ตัวอย่างหน้าต่างระบบปฏิบัติการ WINDOWS NT

NT2

   Windows NT ใช้ระบบไฟล์แบบ NT ( NTFS ) ซึ่งเป็นระบบไฟล์ที่รองรับการตั้งชื่อไฟล์ได้ยาวถึง 256 อักขระ และมีความสามารถในการติดตามการทำงาน ซึ่งหมายความว่าเมื่อระบบทำงานผิดพลาด Windows NT จะสามารถคืนค่าเดิมในสภาวะก่อนทำงานผิดพลาดกลับลงไปได้   การเชื่อมโยงข้อมูลของ Windows NT สนับสนุนตามข้อกำหนดระดับชั้นการเชื่อมโยงข้อมูลของมาตรฐาน IEEE 802.2 สำหรับระบบเครือข่ายทั้งแบบโทเคนริงและอีเธอร์เน็ต รวมทั้งข้อกำหนดโปรโตคอล SDLC ,โปรโตคอล X.25 / QLLC และ DFT (distributed function terminal)   นอกเหนือจากนี้ Windows NT รุ่น Advanced Server ยังมีคุณลักษณ์เด่นอื่นๆ อีกหลายประการ รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการเครือข่ายอื่นๆ

ประสิทธิภาพของ WINDOWS NT

Windows NT เป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายแบบ 32 บิตที่สามารถทำงานหลายๆงานควบคู่กันไปได้ และยังสนับสนุนระบบหลายโปรเซสเซอร์ รวมทั้งการประมวลผลแบบสมมาตรที่เป็นการกระจายงานออกไปยังโปรเซสเซอร์ทั้งหลายให้ช่วยกันทำการประมวลผลอย่างได้สมดุล ซึ่งด้วยคุณลักษณ์ดังกล่าวนี้ทำให้บริษัททั้งหลายที่ต้องการระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถจัดซื้อซูเปอร์เซิร์ฟเวอร์ที่มีไมโครโปรเซสเซอร์หลายๆตัวมาใช้งานร่วมกับ Windows NT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เครื่องที่มีไมโครโปรเซสเซอร์ 6 ตัวก็จะมีความเร็วสูงกว่าเครื่องที่มีไมโครโปรเซสเซอร์ตัวเดียวขึ้นไปอีก 6 เท่าเป็นต้น                             ภายใน Windows NT มีความสามารถในการทำระบบเครือข่ายแบบเท่าเทียมมาให้ด้วย กล่าวคือผู้ใช้ Windows NT สามารถแบ่งปันร่วมใช้ทรัพยากรอื่นๆกับผู้ใช้อื่นที่ใช้ Windows NT , Windows , DOS และ OS/2 ได้ด้วยนั่นเอง นอกเหนือจากนี้ใน Windows NT ยังใช้เทคนิคในการจัดการกับหน่วยความจำเป็นแบบแฟลต (flat) แทนที่จะใช้วิธีการแบ่งเพจ (page) อันทำให้การทำงานของ Windows NT มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานกับโปรแกรมกราฟิกซึ่งจะทำงานได้เร็วขึ้นมาก                                                                                                                                                                                          ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นของ Windows NT ในความเป็นจริงแล้วเป็นผลพวงมาจากความต้องการทรัพยากรของตัว Windows NT เองที่ระบุเอาไว้ว่าต้องเป็นเครื่องที่ใช้หน่วยประมวลผลกลางเบอร์ 80486DX ของ Intel ขึ้นไป และต้องมีหน่วยความจำแรมอย่างต่ำ 12 เมกะไบต์และมีพื้นที่ว่างในการติดตั้งบนฮาร์ดดิสก์อีก 100 เมกะไบต์ โดยนอกเหนือจากเครื่องที่ใช้ชิปของ Intel แล้ว Microsoft ยังได้ร่วมมือกับอีกหลายๆบริษัท ซึ่งรวมทั้ง Digital Equipment Corporation และ MIPS Computer Systems เพื่อให้สามารถนำ Windows NT ไปใช้งานบนเครื่องที่มีฮาร์ดแวร์แพล็ตฟอร์มต่างๆได้หลายแบบ

การรักษาความปลอดภัยภายใต้ WINDOWS NT

ในการเข้าใช้งาน Windows NT นั้น ผู้ใช้จะต้องป้อนรหัสผ่านเพื่อแสดงการขอเข้าใช้ มิฉะนั้น Windows NT จะไม่อนุญาตให้เข้าใช้เซิร์ฟเวอร์ได้ โดยใน Windows NT จะมีโปรแกรม User Manager ที่ใช้ในการจัดการเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ โดยสามารถแบ่งระดับความสามารถในการเข้าถึงระบบเครือข่ายของผู้ใช้ต่างๆออกเป็นหลายๆระดับได้ด้วย นอกเหนือจากนี้ยังสามารถสร้างกลุ่มผู้ใช้และกำหนดสิทธิให้กลุ่มได้ กล่าวคือผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มผู้ใช้เดียวกันก็จะมีสิทธิในการใช้ระบบเครือข่ายเท่าเทียมกัน   อีกคุณลักษณ์เด่นหนึ่งของ Windows NT คือโปรแกรม Event Viewer ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ผู้บริหารระบบเครือข่ายใช้ในการตรวจดูสิ่งผิดปกติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่าย รวมทั้งการฝ่าฝืนต่างๆ ซึ่งจะมีข้อมูลแสดงวันที่ เวลา และรูปแบบการฝ่าฝืน รวมทั้งสถานที่ที่ผู้ฝ่าฝืนดำเนินการและชื่อของผู้ฝ่าฝืน ทุกครั้งที่จะเริ่มใช้งาน Windows NT ผู้ใช้จะต้องป้อนรหัสผ่านก่อนทุกครั้งด้วยการกดแป้น Ctrl-Alt-Del เหมือนการบูตเครื่องใหม่ เพื่อทำการป้อนชื่อและรหัสผ่านของตน   การรักษาความปลอดภัยภายใน Windows NT เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาระดับ C2 ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา นอกเหนือจากนี้ทาง Microsoft ยังได้แจ้งด้วยว่าจะเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยใน Windows NT ให้สูงกว่านี้ขึ้นไปอีกในอนาคต

การรัน WINDOWS NT กับระบบปฏิบัติการเครือข่ายอื่น

Windows NT มีคุณสมบัติของการเชื่อมต่อโปรแกรมใช้งานหรือ API (application programming interface) อันเอื้ออำนวยให้ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการเครือข่ายอื่นๆ สามารถพัฒนาโปรแกรมไคลเอ็นต์บนผลิตภัณฑ์ของตนติดต่อกับ Windows NT ได้ง่ายขึ้น โดยทาง Novll ได้แจ้งว่าตนจะสามารถปล่อยซอฟต์แวร์ไคลเอ็นต์สำหรับ Windows NT ของตนตามออกมาได้อย่างทันทีทันใดที่ Windows NT ออกวางจำหน่าย

โปรโตคอลสแต็ก TCP/IP และโปรแกรมใช้งานเป็นไคลเอ็นต์ของ TCP/IP อย่างเช่น Telnet และ FTP มีให้มาด้วยแล้วใน Windows NT นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเราต์ TCP/IP อีกด้วย แต่เนื่องจาก Microsoft มิได้ให้โปรแกรมเซิร์ฟเวอร์สำหรับ Telnet และ FTP มาด้วย ดังนั้นสถานีงานของ UNIX จึงยังไม่สามารถเข้ามาใช้ Windows NT โดยตรงได้ในตอนนี้ แต่ทาง Microsoft ได้แถลงว่าจะเพิ่มลงไปด้วยใน Windows NT เวอร์ชันต่อไป นอกเหนือจากที่กล่าวมา Windows NT ยังสนับสนุนโปรโตคอลการจัดการระบบเครือข่ายอย่างง่ายที่เรียกว่า SNMP (simple network management protocol) อีกด้วย อันทำให้สามารถจัดการการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ Windows NT ด้วยโปรแกรมการจัดการระบบเครือข่าย SNMP ได้

Windows NT สามารถโต้ตอบและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ NetWare , Vines และ Sun NFS ได้ ทั้งที่แรกเริ่มที่ออกแบบขึ้นมานั้น ตั้งใจจะให้รองรับเฉพาะ LAN Manager แต่ก็ปรากฏว่าสามารถรับรองระบบเครือข่ายอื่นๆได้ด้วย ขึ้นอยู่กับว่าระบบเครือข่ายนั้นๆรองรับการ์ดเชื่อมต่อระบบเครือข่ายตามข้อกำหนดการเชื่อมต่อส่วนขับเครือข่าย NDIS (network driver interface specification) ของ Microsoft หรือไม่

นอกเหนือจากที่กล่าวมา Windows NT ยังรองรับไคลเอ็นต์ที่เป็นเครื่องแมคอินทอชอีกด้วย ซึ่งนั่นรวมถึงการรองรับ ApplpTalk File Protocol v2.1 และการรักษาความปลอดภัย AF ไว้ภายในด้วย โดยเครื่อง PC สามารถสร้างไฟล์ขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเป็นไอคอนเฉพาะ และใส่รายละเอียดเพิ่มลงไป ผู้ใช้เครื่องแมคอินทอชจะสามารถดับเบิลคลิกไฟล์เหล่านี้ เปิดไฟล์ขึ้นด้วยโปรแกรมใช้งานที่เหมาะสมได้

ระบบการพิมพ์ของ Windows NT สามารถรองรับงานพิมพ์แบบโพสต์สคริปต์ทั้งหมดของเครื่องแมคอินทอชให้พิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์ของ Windows NT ได้ และสามารถส่งงานพิมพ์จากเครื่อง CP ไปพิมพ์ยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่ออยู่กับ AppleTalk ได้

ข้อดี และ ข้อเสียของ WINDOWS NT

ข้อดี

1. มีความเชื่อถือได้สูง (Reliability) คือมีการป้องกันแก่นของระบบปฎิบัติการจากแอพพลิเคชั่นต่างๆที่จะเข้ามารบกวนการทำงานของ Windows NT

2. มีความปลอดภัยสูง (Security) NT Server นั้นมีระดับความปลอดภัยถึง ระดับ C2 คือให้รับรู้เฉพาะที่จำเป็น

3. ความยืดหยุ่นสำหรับการขยายตัว (Scalability) เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบตามจำนวนโพรเซสเซอร์ที่เพิ่มขึ้นโดยรองรับสถาปัตยกรรม SMP

4. ความสามาถในการขยายตัว (Extensibility) เป็นแนวคิดของ Client/Server ที่มาจากระบบ UNIX เมื่อจะต้องนำมาประยุกต์ใช้กับงานเครื่อข่ายและ       แอพลิเคชั่นที่ใช้งานกับระบบฐานข้อมูล                   

5. ความเข้ากันได้ (Compatibility) สามารถทำงานได้ทั้งแอพลิเคชั่นชนิด 16 bit และ 32 bit

ข้อเสีย

1. ขาดความเข้ากันได้กับ อุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้กับอุปกร์ณ์ที่นอกเหนือจากที่ NT Server                                                        

2. ถ้าระบบขณะที่ทำงานเกิดเสียขึ้นมาการแก้ไขทำได้ยาก


Windows 95
Windows 95

Windows 95
Windows 95

Windows 95

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1995 ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดย Windows 95 รองรับสีแบบ 32 บิต และรองรับ Multitasking อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึั้นมา รวมทั้งการนำเสนอปุ่ม Start และ Taskbar เป็นครั้งแรก

Windows 98
Windows 98

Windows 98
Windows 98

Windows 98

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1998 เป็นรุ่นที่พัฒนามีให้เหมาะกับการใช้ทำงานและใช้เพื่อความบันเทิงในบ้าน อินเทอร์เฟซคล้ายกับ Windows 95 แต่มีสีสันมากกว่าเดิม พร้อมกับการมาครั้งแรกของแถบ Quick Launch สำหรับเปิดโปรแกรมอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปิด Start Menu

Windows 2000 Professional
Windows 2000 Professional

Windows 2000 Professional

          วางจำหน่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2000 เป็นรุ่นที่พัฒนามาด้วยโค้ดเคอร์เนลเดียวกับ Windows ตระกูล NT ออกแบบมาเพื่อใช้ในกลุ่มองค์กรหรือธุรกิจ มีการพัฒนาให้รองรับระบบเครือข่ายและมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น

Windows Me
Windows Me

Windows Me
Windows Me

Windows Me

          วางจำหน่ายเมื่อเดือนกันยายน 2000 ตัวย่อ Me ย่อมาจาก Millennium Edition เป็น Windows สำหรับใช้งานภายในบ้านรุ่นสุดท้ายที่จะใช้โค้ดเคอร์เนลแบบเดียวกับ Windows 95 และ 98 ในการพัฒนา มีการพัฒนาให้รองรับสื่อบันเทิงต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้รับความนิยมมากเท่า Windows 98

Windows XP
Windows XP

Windows XP
Windows XP

Windows XP

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2001 เป็น Windows รุ่นที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด เนื่องจากอินเทอร์เฟซที่ถูกพัฒนาให้สวยงามกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดด ปุ่ม Start สีเขียว Taskbar สีฟ้าสดใส พร้อมทั้งระบบที่มีความเสถียรและปลอดภัย สามารถอัพเดทตัวเองได้ มีโปรแกรมรองรับมาก โดย Windows XP เป็นรุ่นที่แรกใช้โค้ดเคอร์เนลตระกูล NT พัฒนาออกมาทั้งรุ่น Home Edition สำหรับใช้ในบ้าน และ Professional สำหรับใช้ในธุรกิจ และออกเวอร์ชั่น 64 บิต ตามมาในปี 2005

Windows Vista
Windows Vista

Windows Vista
Windows Vista

Windows Vista

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2007 อินเทอร์เฟซที่ถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเน้นไปที่หน้าต่างแบบกึ่งโปร่งใส มองเห็นทะลุได้ ดูคล้ายกระจก ปุ่ม Start ถูกเป็นเปลี่ยนลูกแก้วโลโก้ Windows พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพด้านรักษาความปลอดภัยมากกว่าเดิม แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับ Windows XP

Windows 7
Windows 7

Windows 7
Windows 7

Windows 7

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2009 ยังคงใช้อินเทอร์เฟซแบบกึ่งโปร่งใสคล้ายกับ Windows Vista รองรับการใช้งานแบบระบบสัมผัสหน้าจอ พร้อมทั้งการมาของ Taskbar รูปแบบใหม่ที่แสดงเป็นไอคอนโปรแกรมขนาดใหญ่กว่าเดิม สามารถปักหมุดโปรแกรมที่ใช้เป็นประจำไว้บน Taskbar ได้ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก และทำให้ผู้ใช้ Windows XP หลายคนตัดสินใจที่จะอัพเกรดมาใช้ Windows 7

Windows 8
Windows 8

Windows 8
Windows 8

Windows 8.1
Windows 8.1

Windows 8

          วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2012 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อินเทอร์เฟซถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบเรียบสไตล์ Metro ปุ่ม Start และ Start Menu หายไป แทนที่ด้วย Start Screen แบบเต็มจอ การใช้งานถูกแบ่งออกเป็นโหมด Desktop ปกติเหมือน Windows รุ่นก่อน ๆ กับโหมด Metro สำหรับใช้งานแอพพลิเคชั่นบน Windows Store แบบเต็มจอ รองรับการใช้งานระบบสัมผัสเต็มรูปแบบ มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกใจกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและเลือกที่จะใช้ Windows 7 ต่อไป โดยในปี 2013 ไมโครซอฟท์ได้ออก Windows 8.1 ที่นำปุ่ม Start กลับมา พร้อมทั้งปรับปรุงระบบอีกเล็กน้อย

Windows 10
Windows 10

Windows 10
Windows 10

Windows 10

          เปิดตัวเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2014 เป็น Windows รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทางไมโครซอฟท์ได้ข้ามชื่อ Windows 9 ไป สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์ ฯลฯ อินเทอร์เฟซโดยรวมคล้ายกับ Windows 8 แต่โปรแกรมและแอพฯ ต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ทั้งโหมด Desktop และโหมด Tablet ไม่แยกออกจากกันเหมือน Windows 8 อีกแล้ว พร้อมทั้งการกลับมาของ Start Menu สำหรับการใช้งานแบบโหมด Desktop โดยจะวางจำหน่ายในปี 2015

แหล่งข้อมูล 
https://beerkung.wordpress.com/ประเภทของระบบปฏิบัติกา.../ระบบปฏิบัติการ-wi...
men.kapook.com/view100198.html



Create Date : 10 มกราคม 2560
Last Update : 10 มกราคม 2560 11:41:25 น. 0 comments
Counter : 773 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 3558207
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3558207's blog to your web]
space
space
space
space
space