วิจารณ์หนังครั้งแรกในชีวิตของเด็กม.ปลายธรรมดาๆ กับเรื่อง ฝัน-หวาน-อาย-จูบ

หลังจากที่สิงสู่ในห้องนี้นานจนตัดสินใจขอบัตรผ่าน เพราะยังไม่ได้รหัสสมาชิก

ก็เลยขอมาลองวิจารณ์หนังกะชาวบ้านเขาบ้าง ผมเป็นคนหนึ่งที่รอคอยดูฝัน-หวาน-อาย-จูบ

แต่หลังจากที่อ่านกระทู้ในพันทิปแล้ว ผมเริ่มรู้สึกว่า ให้ตายเถอะโรบิน (มุขเก่าไปไหม)

หนังที่ผมอุตส่าห์รอคอยมันเน่าได้อัปยศขนาดนี้เลยหรอ? ผมเลยตัดสินใจค้านเสียงพี่ๆในพันทิป

แล้วถ่อสังขารตัวเองไปดู ที่เสรีเซ็นเตอร์ ตอนรอบ 20.10น.

ไม่ให้เสียงเวลาก่อนที่ผมจะออกอ่าวไทยเริ่มวิจาร์ณเลยดีกว่า

จูบ

ผมเองไม่ได้คาดหวังกับเรื่องนี้เลย เพราะผมเองไม่ค่อยปลาบปลื้มกับพ่อพระเอกคนนี้สักเท่าไหร่

แต่พอได้ดู แม้ตัวหนังจะมาไวไปไว แต่ตัวหนังเอกก็มีเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้ในหนังไทยตลาดทั่วไป

สีสันที่ฉูดฉาด เนื้อเรื่องที่หยาบๆตรงๆ ที่สามารถหาฟังได้ตามโรงเรียนทั่วไป ตัวเนื้อเรื่องเองก็ไม่น่าแปลกที่จะสั้นขนาดนี้ เพราะเนื้อหามันไม่มีอะไร แค่คนๆนึง อยากลุกขึ้นมาทำอะไรจริงๆจังๆ เพื่อคนที่ตัวเองรัก โดยมีจูบแรก ของเธอเป็นประเด็นหลัก เนื้อเรื่องมีแค่นี้ แต่จริงๆ ผมว่าถ้าเรื่องจูบเสนอในมุมที่ว่า จูบมันมีความสำคัญยังไง น่าจะเวิร์คกว่า มันจะได้ดูมีอะไรบ้างไม่ใช่เบาหวิวในเนื้อหาขนาดนี้ แต่จริงๆในเรื่องนี้ก็ทำให้ได้เห็นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาของพระเอกอย่าง มาริโอ ที่ดูพัฒนาขึ้นจากเรื่องก่อนๆ แม้จะไม่ชัดเจนก็ตาม ส่วนนางเอก น่าจะเกิดยากสักหน่อย เพราะตัวบทไม่ได้เอื้ออำนวยให้เธอแสดงศักยภาพในการแสดงเต็มสูบ และที่สำคัญเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ตัวโกงก็เด่นกว่าพระเอกได้ เหอๆ

โอยรวมแล้วสำหรับผมให้เรื่องนี้ 6/10 ส่วนสาเหตุให้ในความกล้าของผู้กำกับที่กล้าจะทำออกมา ตัวเพื่อนพระเอกที่เป็นตัวร้าย เล่นได้โดดเด่นกว่าตอน เล่น รักแห่งสยาม หรือเพราะบทมันเอื้อมากกว่า? ส่วนนางเอกก็น่ารักครับ แต่ถ้าลดเสียงลงหน่อยจะหวานกว่านี้ เหอๆ

อาย

ตอนนี้เป็นตอนที่ผมประทับใจที่สุดไม่ต่างกับคนอื่นๆที่ได้ดูมา ฉากสวย นางเอกงาม น้างุกก็เล่นธรรมชาติ แม้พระเอกจะแอบโรโบแต่จริงๆผมว่าถ้าเรามองในแง่ดีสักกะนิดนึง ถ้าเอาคนที่เล่นธรรมชาติกว่านี้ ความอายที่ได้มันจะคนละอารมร์กัน ผมว่าผู้กำกับเขาคงอยากได้ อารมณ์นี้มากกว่า ตัวเนื้อเอง ถึงแม้จะเบาจริง แต่ก็ดูมีน้ำหนักอยู่บ้าง แม้สาเหตุที่พระเอกอายนั้น จะสามารถหาได้ตามพล็อตละครน้ำเน่าหลังข่าว แต่ทว่า ก็ต้องยอมรับว่ามันก็ยังมีคนคิดยังงี้อยู่ในสังคมจริงๆ ความเลื่อมล้ำทางสังคม บางครั้งก็ทำให้คนี่รักกันมากๆไม่สามารถรักกันก็มีถม แต่ขอแอบฮาต่อหลุมหน่อยเถอะ มันเหมือนเอาลูกอมรสน้ำพึ่งมาลอยไล่ตามไปนิด แต่ว่าตัวเรื่องเองด้วยบรรยากาศที่เอื้ออำนวย และการแสดงของพี่ตาลคนสวย ทำให้เรื่องนี้แอบทำผมน้ำตาคลอนิดๆ ตอนที่นางเอกหันไปขอบใจเรื่องรองเท้า แม้จะดูธรรมดาแต่มันก็ซึ้งดีนะ (งงไหมครับพี่ๆ?) ส่วนเรื่องบทพูดที่ดูแปลกๆ มันก็จริงอยู่ที่คนปถุชนธรรมดาเดินดินกินข้าวแกงคง ไม่มาพูดกันอย่างนี้ แต่ผมว่าถ้ามองกันดีๆมันก็ถือเป็นการเปิดแนวทางใหม่ๆให้ผู้ชมนะ

สำหรับเรื่องนี้ผมให้ 9/10 เพราะตัวหนังภาพค่อนข้างสวย นางเอกน่ารัก(แอบลำเอียง) ชอบลุงงุกด้วยครับ ถึงตัวหนังจะยังคงคอนเซปต์ หยาบโลนทางคำพูดไม่ต่างจากเรื่องแรกซักเท่าไหร่ แต่ก็คิดซะว่าคนทั่วไปก็พูดกัน ยิ่งแฟนบางคู่พูดกันแรงกว่านี้อีก เหอๆ เดี๋ยวออกทะเลไป อีกสองเรื่องต่อเลยดีกว่า

หวาน

พล็อตเรื่องโอเค แต่ผมก็ยังคงเห็นด้วยกับกระทู้อื่นๆ คือ ด้วยเรื่องของเวลาที่สั้น ทำให้ตัวหนังเองไม่สามารถสื่ออารมณ์ได้เต็มที่ แม้จะมีนักแสดงคุณภาพ อย่างพี่นุ๊กและพี่ชาคริต แต่ทว่า ด้วยตัวบทที่ไม่ส่งตัวละครไปถึงจุดพีคได้ ทำให้ เนื้อเรื่องในตอนนี้ไม่สามารถกินใจผมได้เลย TAT ทั้งที่จริงๆชอบพล็อตของเรื่องนี้มาก ส่วนพระเอกใหม่ กะ สายป่าน ผมว่าออกน้อยไปน้อยไหมอ่ะครับ มันดูทำให้แบบว่า เนื้อเรื่องก่อนที่เค้าจะรักกันมันน้อยไป ส่งผลให้ไม่เข้าใจว่าทำไม หวาน ถึงรักผู้ชายคนนี้มาก แม้ในหนังจะบอกอยู่โต้งๆว่า เพราะหวานไม่เคยมีแฟนว่าก่อน มีราเชนทร์เป็นคนแรก แต่ว่ารักแรกพบมันก็ไม่เพียงพอต่อการทำให้รักได้ถึงขั้นนี้ มันน่าจะมีอะไรที่สื่อบ้างว่า ก่อนที่เชนทร์จะบ้างาน เค้าแสนดีกับเธอขนาดไหน อะไรเทือกๆนั้นอ่ะครับ แต่ก็พยายามทำใจด้วยเรื่องของเวลาครับ ส่วนเอฟเฟคก็ดีครับ ดีในที่นี้ของผมคือ ดีที่เขากล้าที่จะทำ จะได้รู้กันไปเลยว่า วงการบันเทิงยังต้องพัฒนากันอีกแค่ไหน แต่ผมไม่ขำนะตอนนี้อ่าครับ เพราะว่าผมรู้สึกว่า การขำสิ่งที่ผู้กำกับเขาอุตส่าห์ทำลงมา มันดูทำร้ายจิตใจไปหน่อย เลยได้แต่นึกถามตัวเองในใจว่า แต่งดีกว่านี้ก็ได้ครับพี่ ไม่ก็ หาคนอื่นไปเลย เวิร์กกว่าเยอะ

สำหรับคะแนนเรื่องนี้ ผมให้ 7.5 เหตุผลก็คงไม่ต้องอธิบาย แหะๆ

มาเรื่องสุดท้ายที่ชาวพันทิปพูดกันสุดๆ

ฝัน

เรื่องนี้ผมเดาตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องเป็นการ์ตูน (เดี๋ยวอย่าพึ่งหาว่าผมเป็นหน้าม้านะครับ ไปอ่านเหตุผลผมก่อน) ทำไมนะหรอครับ ก็ถ้าสังเกตโปสเตอร์ของหนังที่ตั้งตามโรงหนัง จะเห็นได้ว่า ตอนฝันนั้น มีรุปตัวการ์ตูนอยู่ในโปสเตอร์แบบตั้ง (ขอโทษครับผมไม่รู้ว่าเค้าเรียกกันว่าอะไร) ก้เลยเดาว่าน่าจะมีการ์ตูน แต่ไม่คิดว่า จะเป็นการ์ตูนอย่างนี้ - -* พี่มะเดี่ยวทำร้ายจิตใจกันไปนิดหน่อย แต่ในเมื่อมันมาเป็นการ์ตูนขนาดนี้แล้วก็เลยต้องดูครับ ผมเป็นคนที่ติดตามผลงานออกัสด้วยหล่ะมั้งครับ ก็เลยรู้สึกว่าติี๊งต๊อง ดูแลก็เพลินๆครับ เพราะในเมื่อชื่อตอนบอกอยู่แล้วว่าฝัน เราก็ต้องทำตัวแอ๊บแบ๊วเนียนๆไปกะฝันของตัวเอกซะเลย

-*- จริงๆผมตั้งใจจะไปดูพี่พิชสักกะหน่อย แต่กลายเป็นว่าพี่นนทืกลายเป็นพระเอกซะงั้นแต่ ก้ดีครับ หน้าตาไม่แพ้กัน 555+ (อ้าวหลุดY ซะงั้น 555+)

สำหรับเรื่องนี้ เป็นเพราะอ่านคอมเม้นท์ของพี่ๆในพันทิปทำให้เลิกหวัง แล้วมัน็้เลย สนุกครับพี่ เหอๆ ก็เลย ให้ 7.5 เท่าหวาน แต่จริงๆผมก้ว่าฝันดีกว่าหวาน ยังดูมีอารมรืร่วมมากกว่าอยู่ดี

แต่ยังไงซะผมก็เป็นแค่เด็กม.ปลาย อาจจะความคิดต่างกันบ้าง แต่ไม่แตกแยกครับ 555+

ขอบคุณทุกคนที่อุตส่าห์มาร่วมGrnd Openningกระทู้แรกในชีวิตของผมนะครับ 555+

Create Date : 29 ธันวาคม 2551 Last Update : 29 ธันวาคม 2551 19:48:10 น. Counter : 1708 Pageviews.		7 comments
Share Tweet