เคล็ดลับความสำเร็จทางธุรกิจของ คุณธนินท์ เจียรวนนท์
หลายๆ บริษัทในปัจจุบัน ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ค่าเงินบาท หรือปัจจัยอื่นหลายๆ อย่าง และเริ่มปิดตัวเองลง แต่ในขณะที่ CP Group ของคุณ ธนินท์ เจียรวนนท์ กลับไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร ที่สำคัญยังเข้าซื้อกิจการหลายๆ กิจการด้วย เค้ามีวิธีการบริหารกิจการให้เจริญก้าวหน้าและคงอยู่ได้อย่างไร
แน่นอนว่าการขยายงานอย่างรวดเร็วต้องการผู้มีความสามารถมาบริหาร ดังนั้นเพื่อความมั่นคงในกิจการที่ตั้งขึ้นมานั้น CP ได้จ้างผู้บริหารที่มีความสามารถที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาทำงานแบบกระจายศูนย์ ซึ่งไม่ใช่ปกติวิสัยของกิจการแบบครอบครัว เนื่องจากบริษัทต้องดำเนินได้ดีต้องมีการบริหารที่ดีและต้องรักและให้เกียรติเขาเสมือนครอบครัวของเรา ดังนั้นแม้ว่าคนที่เก่งคนนั้นจะไม่ใช่ญาติแต่ถ้ามีความสามารถและทำงานและเข้าใจถึงวัฒนธรรมองค์กรมานาน ก็มีสิทธิเป็นใหญ่ได้เสมอตามระบบอาวุโส คุณธนินทร์ มักจะกล่าวกับ ผู้บริหารระดับสูงในเครือซี.พี. อยู่เสมอว่า ถ้าคุณสามารถสร้างคนเก่งได้ คุณคือคนที่เก่งที่สุด
การที่ไม่เอาลูกหลานมาทำงานได้ตั้งแต่แรกนั้น คุณธนินท์ได้กล่าวว่า ความมั่งคั่งจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 ชั่วอายุคน เพราะรุ่นที่ 1 ลำบาก รุ่นที่ 2 ดีขึ้น และรุ่นที่ 3 ก็สบายแล้วไม่ดิ้นรนทำให้ดีขึ้น ดังนั้นเพื่อป้องกันเราจึงต้องจ้างบุคคลภายนอกผู้ซึ่งกระตือรือร้นมากกว่า มาทำงานให้ แต่สำหรับลูกหลานที่เก่งก็ต้องให้พิสูจน์ตัวเองโดยไปทำงานข้างนอกมาก่อน ถ้ามีความสามารถจริง ๆ จึงรับกลับเข้ามาทำงาน
สำหรับการเป็นนักบริหารหรือเจ้าของที่ดีนั้น นอกจากจะมีความอดทน ซื่อสัตย์ ความกล้าและการใฝ่หาความรู้และเทคโนโลยีที่ดีกว่าเสมอ ๆ แล้ว ยังต้องรู้จักคนและเลือกใช้คนด้วย แน่นอนว่าเราต้องดูแลเขาเป็นอย่างดีเหมือนคนในครอบครัว แต่การเรียนรู้นั้นต้องมองลึกลงไปอีกว่า จุดอ่อนหรือจุดแข็งของเขาเป็นอย่างไร รวมถึงขีดความสามารถของเขาเพื่อมอบและกำหนดงานให้แก่บุคคลแต่ละคนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะตรงกับความหมายที่ว่า ใช้คนได้เหมาะกับงานและใช้งานได้เหมาะกับคน โดยการสร้างคนนั้นต้องเริ่มจากการคัดเลือกโดยดูตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยแล้วเสนองานให้ มาผ่านการฝึกฝน จัดเวทีให้เล่น และเปิดโอกาสตั้งบริษัทให้เขารับผิดชอบ โดยคนคนนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนเรียนเก่งเพราะจะผยอง แต่กลับชอบคนที่เรียนปานกลางแต่อยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งมาฝึกมากกว่า
การมองธุรกิจเพื่อให้เจริญเติบโตได้ยาวนานนั้นผู้บริหารระดับสูงไม่ควรมองแต่จุดด้อยคนอื่นแล้วนำมาเทียบกับจุดเด่นของตนเอง หากแต่มองจุดเด่นของเขาแล้วนำมาพัฒนาตัวเองอย่างมีประโยชน์ ดังนั้นคุณธนนินท์คิดว่า กุญแจที่สำคัญสำหรับการสืบให้กิจการอยู่ต่อไปนั้นอยู่ที่ปรัชญาดังนี้คือ
1. สร้างบุคลลากรขึ้นมารองรับ
2. ใช้บุคคลภายนอกที่มีประสบการณ์และความรับผิดชอบมาบริหาร
3. ไม่นำบุตรหลานเข้าไปทำงานของกิจการ
4. ไม่อนุญาตให้นำสะใภ้เข้ามาเกี่ยวข้องในกิจการ
5. การวางมือต้องทำในเวลาอันควร ไม่เร็วหรือช้าเกินไป
คุณพ่อท่านบอกว่า ถ้าเราจะทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ถ้าลูกค้าอยู่ไม่ได้เราก็อยู่ไม่ได้ ถ้าลูกค้าร่ำรวย ธุรกิจเจียไต๋ที่คุณพ่อทำ ลูกค้าปลูกเอาไปขาย ไม่ใช่ปลูกเล่นดูสวยงามถ้าลูกค้าปลูกแล้วขายไม่ได้ไม่มีราคา ขาดทุน เที่ยวหน้าเขาก็ไม่มาซื้อ เหมือนเลี้ยงไก่เพื่อต้องการขายไข่ได้กำไร ถ้าเราไม่มีวิธีการไปช่วยเขา ไม่ได้ช่วยเขาควบคุมเรื่องคุณภาพ เขาอยู่ไม่ได้
การที่ผู้บริหารคิดถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเหนือสิ่งอื่นใด โดยการเข้าไปให้ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ยากไร้ และการมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในการเห็นและกล้าที่จะทำการดำเนินธุรกิจอื่น ผสมผสานทั้งในด้านศาสตร์และศิลป์อย่างลงตัวในคนเดียวกัน ผู้ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะประเทศเกษตรกรรมที่ยิ่งใหญ่ ท่านผู้นั้นก็คือ ธนินท์ เจียรวนนท์
Create Date : 11 กรกฎาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 16 สิงหาคม 2557 9:36:03 น. |
Counter : 1496 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|