เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยน ธุรกิจก็เปลี่ยนแปลง Change is the name of the game
เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยน platform ในการทำธุรกิจก็เปลี่ยน และเราก็ไม่มีทางเลือกที่จะต้องเปลี่ยนตามเช่นกัน
วันนี้เราลองมาดูเร็วๆกันว่าอะไรบางที่เป็นปัจจัยสำคัญของการเดินทางของธุรกิจในทุกวันนี้คืออะไร 1. ความล้มเหลวคือทางเดินแห่งความสำเร็จ : แต่เราต้องเรียนรู้จากมัน สิ่งที่องค์กรทั้งเล็กและใหญ่ในยุคนี้พยายามทำคือล้มให้เร็ว ล้มให้ถูก (คืออย่าจ่ายแพงมากตอนล้ม) และลุกให้เร็วที่สุด ตอนผมเรียนวิศวะนั้นเราจะมี joke ที่ชอบเล่นกันคือ ถ้าคอมมีปัญหาให้ restart ถ้าอุปกรณ์อื่นๆเช่น พวกเครื่องมือ เครื่องจักรต่างๆ มีปัญหาให้ฉีดน้ำยาครอบจักรวาล WD-40 แล้วไม่ว่าเครื่องอะไรจะเจ๊งเดี๋ยวมันจะหายเอง สิ่งที่ผมพึ่งมารู้คือน้ำยาสารพัดประโยชน์ WD-40 นั้นย่อมากจาก Water Displacement, Fortieth Experiment นั้นคือความพยายามครั้งที่ 40 ของ Dr. Norm Larsen ในการสร้างน้ำยาตัวนี้ขึ้นมา ถ้าเรียนรู้อย่างถูกวิธี ความล้มเหลวเป็นเพียงแค่กระบวนการเดินทางสู่ความสำเร็จ 2. เงินทุนไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป : สมัยก่อนคนไอเดียดี มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่มีเงิน ก็ไม่รู้จะไปยังไงต่อ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วครับ ขอแค่ไอเดียคุณเจ๋งและคุณมีเครดิตดีพอ เดี๋ยวจะมีคนมาช่วยลงทุนให้เพียบ ทุกวันนี้เงินทุกหาง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะ นอกจากทางเลือกในการหาแหล่งเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐ จาก venture capitalist และที่กำลังอินสุดๆตอนนี้คือจาก crowdfunding เหล่านี้ทำให้โครงการที่มาจากกระดาษแผ่นเดียว สำเร็จมานักต่อนักแล้ว (แนะนำให้ลองไปดูเรื่องราวของ most funded project ใน kickstarter และ indiegogo แล้วท่านจะทึ่ง) ผมขอออกความเห็นแบบแรงๆว่าเรื่องไม่มีเงินตอนนี้จึงเปลี่ยนจากปัญหากลายเป็นข้ออ้างไปนะครับ 3. ลืมความสำเร็จเก่าๆไปซะ : อันนี้เราพูดกันจนเหนื่อย คนหรือองค์กรที่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีตและมองไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงก็เริ่มนับถอยหลังได้เลย อย่างที่ Jack Welch CEO ผู้เป็นตำนานของ GE ได้กล่าวไว้ว่า If the rate of change on the outside exceeds the rate of change on the inside, the end is near. 4. ต่อสู้กับความกลัว : ถ้าหากอยากประสบความสำเร็จก็ต้องเดินออกนอก comfort zone ซึ่งไปด้วยความไม่รู้และความอันตราย แต่อยากจะบอกว่าจริงๆแล้วถ้ามองกันยาวๆการอยู่ใน comfort zone อันตรายกว่ามากโดยเฉพาะกับโลกธุรกิจปัจจุบัน คนเราเกิดมาเดี๋ยวก็ตายจะไปกลัวอะไรครับ เดินออกมาหาความมันส์นอก comfort zone ดีกว่า 5. เก่งไม่กลัว กลัวช้า : การมาถึงของอินเตอร์เนทและเทคโนโลยีใหม่ๆทำให้เวลาในการเดินทางจากไอเดียบนกระดาษถึงการสร้างเป็นสินค้าหรือบริการสั้นลงกว่าสมัยก่อนมาก เราจะเห็นองค์กรใหญ่ๆโดน disrupt หัวทิ่มจากเด็กสองสามคนที่นั่งทำงานกันในโรงรถมานักต่อนักแล้ว เหตุผลหลักคือเรื่องความเร็วนี่แหละครับ เพราะฉะนั้นถ้าเรามีไอเดียอย่ารอช้ารีบทำ เพราะขณะที่คุณกำลังคิดกำลังชั่งใจอยู่ มีคนคิดเหมือนคุณอีกเป็นร้อย 6. ไม่ต้องสนใจเลยว่าก่อนหน้านี้เขาทำอะไรกันมา : status quo คือสิ่งที่ฉุดรั้งคนมากมายจากความสำเร็จ สิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นที่เรียกว่าพลิกตลาด 180 องศานั้นมักเกิดมาจากเจ้าของไอเดียที่ไม่สนใจเลยว่าก่อนหน้านี้ธุรกิจประเภทนี้เขาทำอะไรกันมา (หรือสนใจแต่ตั้งใจทำตรงกันข้าม) แต่เกิดมาจากว่าเขาต้องการทำอะไรมากกว่า ตัวอย่างที่ผมชอบคือแนวคิดของ Uber ที่ disrupt ตลาดแทกซี่ที่อยู่กันมาหลายสิบปีจนเหวอกันไปเป็นแทบๆ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมคิดว่าองค์กรยุคใหม่ต้องการแนวทางการบริหารทำนองนี้ครับ แล้วคุณล่ะมีความเห็นว่ายังไงกันบ้าง?
CR : Marketing Everything Book
Create Date : 16 สิงหาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 16 สิงหาคม 2557 21:51:40 น. |
Counter : 1136 Pageviews. |
|
|
|