ปุณณกปัญหาที่ ๓
[๔๒๗] ปุณณกมาณพทูลถามปัญหาว่า
ข้าพระองค์มีความต้องการด้วยปัญหา จึงมาเฝ้าพระองค์ผู้ไม่มีความหวั่นไหว
ผู้ทรงเห็นรากเง่ากุศลและอกุศล สัตว์ทั้งหลายผู้เกิดเป็นมนุษย์ในโลกนี้
คือ ฤาษี กษัตริย์พราหมณ์ เป็นอันมาก อาศัยอะไร จึงบูชายัญแก่
เทวดาทั้งหลาย ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ขอทูลถามพระองค์
ขอพระองค์จงตรัสบอกความข้อนั้นแก่ข้าพระองค์เถิด ฯ
พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ว่า ดูกรปุณณกะ
สัตว์ทั้งหลายผู้เกิดเป็นมนุษย์เหล่าใดเหล่าหนึ่งเป็นอันมากในโลกนี้ คือ
ฤาษี กษัตริย์ พราหมณ์ ปรารถนาความเป็นมนุษย์เป็นต้น อาศัยของ
มีชรา จึงบูชายัญแก่เทวดาทั้งหลาย ฯ
ป. สัตว์ทั้งหลายผู้เกิดเป็นมนุษย์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เป็นอันมากในโลกนี้ คือ
ฤาษี กษัตริย์ พราหมณ์ บูชายัญแก่เทวดาทั้งหลาย ข้าแต่พระผู้มีพระภาค
ผู้นิรทุกข์ สัตว์ทั้งหลายผู้เกิดเป็นมนุษย์เหล่านั้น เป็นคนไม่ประมาท
ในยัญ ข้ามพ้นชาติและชราได้บ้างแลหรือ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค
ข้าพระองค์ขอทูลถามพระองค์ ขอพระองค์ตรัสบอกความข้อนั้นแก่
ข้าพระองค์เถิด ฯ
พ. ดูกรปุณณกะ สัตว์ทั้งหลายผู้เกิดเป็นมนุษย์เหล่านั้น ย่อมมุ่งหวัง
ย่อมชมเชย ย่อมปรารถนา ย่อมบูชา ย่อมรำพันถึงกาม ก็เพราะ
อาศัยลาภ เรากล่าวว่า สัตว์เหล่านั้นประกอบการบูชา ยังเป็นคน
กำหนัดยินดีในภพ ไม่ข้ามพ้นชาติและชราไปได้ ฯ
ป. ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ถ้าหากว่าสัตว์เหล่านั้นผู้ประกอบการบูชา
ไม่ข้ามพ้นชาติและชราไปได้ด้วยยัญญวิธีทั้งหลายไซร้เมื่อเป็นเช่นนี้ ใคร
เล่าในเทวโลกและมนุษยโลก ข้ามพน้ ชาติและชราไปได้ในบัดนี้ ข้าแต่
พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ขอทูลถามพระองค์ ขอพระองค์จงตรัสบอก
ความข้อนั้นแก่ข้าพระองค์เถิด ฯ
พ. ดูกรปุณณกะ ผู้ใดไม่มีความหวั่นไหว (ดิ้นรน) ในโลกไหนๆ เพราะได้
พิจารณาเห็นธรรมที่ยิ่งและหย่อนในโลกผู้นั้นสงบแล้ว ไม่มีความ
ประพฤติชั่วอันจะทำให้มัวหมองดุจควันไฟ ไม่มีกิเลสอันกระทบจิต
หาความ (ปรารถนา)หวังมิได้ เรากล่าวว่า ผู้นั้นข้ามพ้นชาติและชราไป
ได้แล้ว ฯ
จบ ปุณณกมาณวกปัญหาที่ ๓