★* Ïⓐм Þîм©ђã¥ã *★
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
ผู้ชายคนนี้ ชื่อ เรย์ แมคโดนัลด์



ถ้าต้องนั่งนับนิ้วกัน ผู้ชายคนนี้ยืนยันว่าทั้งนิ้วมือและนิ้วเท้าในตัว
คงมีไม่พอไล่ลำดับกว่า 70 ประเทศที่เขาเดินผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโต

เขาไม่ใช่ทายาทเจ้าของธุรกิจฟาส์ตฟูดส์ชื่อดัง (มุขเก่าๆ ที่เล่นแล้วเล่นอีก)
เขาเป็นแค่เด็กลูกครึ่งไทย-สก็อตแลนด์ เคยเตะบอลให้สโมสรดำรงไทย
เขาเป็น 'นายแบบ' อยู่พักหนึ่ง ทำรายการวัยรุ่น (อีกสักพัก) เล่นหนังบ้างนิดหน่อย
'เดินทาง' (ถ่ายรายการท่องเที่ยว) เป็นงานหลัก
ล่าสุดเขาเพิ่งเสร็จจากโปรเจคก์ 'โรมมิ่ง' รายการสารคดีท่องเที่ยวโดยรถไฟ ที่เริ่มต้นจากหัวลำโพง กรุงเทพฯ แล้วก็ไปจบที่ สถานีวอเตอร์ลู กรุงลอนดอน ผ่าน 16 ประเทศใน 2 ทวีป ที่กำลังออนแอร์อยู่หน้าจอทีวีขณะนี้

ระหว่างที่ เรย์ แม็คโดนัลด์ กำลังจัดกระเป๋าสำหรับการเดินทางครั้งใหม่
เราจึงได้มานั่งคุยกัน...

10 กว่าปีที่เดินทางมา เป็นยังไงบ้าง


(นิ่งคิด) 10 กว่าปีที่เดินทางมา เป็นยังไงบ้าง ... (คิดต่อ) พยายามหลบคำว่าสนุกอยู่... ก็ดีครับ (หัวเราะ)

จำความรู้สึกแรกของวันที่เราตัดสินใจจะออกเดินทางได้ไหม

เราจำได้เลยว่า เดินทางครั้งแรกที่เราภูมิใจมากที่สุด คือเราข้ามถนนจาก... แต่ก่อนบ้านเราอยู่ซอย 38 แล้วเราข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งคือฝั่งทองหล่อได้ เรารู้สึกว่านั่นคือการเดินทางครั้งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับเรา ตอนเราอายุประมาณ 7-8 ขวบ แต่ถ้าเป็นการเดินทางครั้งแรกๆ ถ้าจะนับไปต่างประเทศ ก็มีช่วง 10-11 ขวบ โชคดีมีสโมสรฟุตบอลดำรงไทยให้โอกาสผมได้เดินทางไปแข่งทัวร์นาเม้นต์ยุวชนในหลายๆ ประเทศ สมัยก่อนก็มีทั้งสวีเดน เดนมาร์ก อเมริกา พอไปทัวร์กันทีเนี่ย ก็ไปกันเป็นหลายๆ เดือน ได้อยู่กับเพื่อน ได้เจอเพื่อนจากประเทศอื่น ทีมอื่น จากหลายๆ จุด หลายๆ ทวีปของโลก ก็ดีครับ รู้สึกว่ามันเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม สนุกดี

หลังจากได้เดินทางทัวร์ฟุตบอลก็มีเว้นอยู่ช่วงหนึ่ง อายุ 13-14 ไม่ได้เดินทางอะไรมาก ช่วงนั้นเรียนอยู่ที่อังกฤษ ปีหนึ่งจะกลับมาเมืองไทยทีหนึ่ง พอกลับมาอยู่ที่เมืองไทยตอนอายุประมาณ 15-16 ถึงได้เดินทางต่อ ช่วงนั้นได้มาเป็น (ยกนิ้วทำท่าเครื่องหมายคำพูด) "นายแบบ" (หัวเราะ) ผมภูมิใจมากเลย ผมได้เป็นนายแบบเนี่ย ก็จะได้เดินทางเวลาไปถ่ายโลเกชั่นแปลกๆ เนปาล บาหลี อะไรอย่างนี้ แต่ที่ได้เดินทางเยอะก็ช่วงที่มาทำทีนทอล์กอินเตอร์ ช่วงนั้นเริ่มรู้สึกว่าทีนทอล์กในประเทศมันอิ่มตัวแล้วก็ให้เราเดินทางไปต่างประเทศไปดูสิว่าวัยรุ่นเขาทำอะไรกันบ้างในต่างประเทศ ในช่วง 5-6 ปีนั้นก็ได้เดินทางเยอะหน่อย ถ้านับประเทศได้ก็น่าจะ 60-70 ประเทศ ปีหนึ่งก็น่าจะมี 10 ทริปที่ได้ไป

เปรียบเทียบกับพิธีกรในกลุ่มทีนทอล์ก เหมือนคาแร็คเตอร์ของเราโดดออกมาทางนี้?

คาแร็คเตอร์เราโดดหรือเปล่า... คาแร็คเตอร์เราคงบ้าๆ บอๆ พูดไม่ค่อยรู้เรื่องหน่อยช่วงนั้น (ยิ้ม) ก็ถือว่าเราโชคดี เพราะช่วงนั้นมีพิธีกรเยอะเหมือนกันที่ค่อนข้างจะเป็นเด็กจีเนียส พูดแบบคล่องมาก คือเขาคงไม่เคยมาเจอแบบเรา คือพูดไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วแบบ จำไดอะล็อกได้ทีละประมาณ 3 คำ คือมันก็ต้องยกความดีให้กับพี่ๆ ที่เห็นอะไรในตัว หรือว่า ไม่เห็นอะไรเลยในตัว (หัวเราะ) ซึ่งมันน่าจะมาเค้นได้ ก็ถือว่า ตอนนั้นดึงออกมามันเป็นคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจน ที่วัยรุ่น หรือชาวบ้านไม่เคยได้เห็น อะไรที่มันแปลกๆ แล้วคาแร็คเตอร์ชัด

คือถ้าเป็นเรย์ต้อง.... พูดไม่รู้เรื่อง (แทรกทันที)





เป็นแบ็กแพ็คเกอร์ด้วย?

คนคงจะติดมาช่วงหลังที่ได้ทำรายการวีซ่า หรือแบ็กแพ็คเกอร์มา 5-6 ปี รายการนั้นมันก็ออนแอร์อยู่ได้พักหนึ่งเหมือนกัน ช่วงนี้เทปรีรันที่ได้ไปทำมาเมื่อ 5-6 ปีก่อน ก็ยังฉายใหม่ในยูบีซี คนก็จะจำภาพนั้น คือ เห็นเรย์ ก็ต้องนึกถึงเป้ แล้วก็ต้องเดินทางกันไป ลุยๆ กันไป ก็ฟีดแบ็คดีนะครับ ตอนแรกเราก็จะนึกว่ามีแค่กลุ่มวัยรุ่นที่ได้ดูกัน แต่จริงๆ แล้วมันเข้าไปทุกกลุ่มเลย ป้าๆ นี่จะชอบกันมาก หลายกลุ่มเลย ดูแล้วมันลุย จริงใจ จัดได้ธรรมชาติ ตัวเราก็พยายามให้มันเป็นแบบนั้น หรือว่าอาจจะเป็นเพราะเวลาที่เราไปถ่ายรายการจะไปกันน้อย คือมี 5 คน ผู้กำกับ ตากล้อง โปรดิวเซอร์ บางครั้งก็จะเป็นคนเดียวกัน เป็นกองโจรเล็กๆ แล้วก็เหมือนเราคุยกัน ทุกคนจะสนิทกัน เราก็กล้าเล่น ปล่อยอะไรไปมันก็เป็นธรรมชาติ แล้วเราก็พยายามทำให้เขาขำอยู่เรื่อย ความจริงไม่ได้คิดอะไรกลับไปถึงคนดู แต่ที่เราคุยกับกล้องอยู่ตลอดเวลามันรู้สึกได้ เหมือนเราเป็นเพื่อนเขา พาเขาเที่ยว มันก็เลยกลายเป็นอะไรที่เป็นธรรมชาติ ดูสนุก ได้เห็นอะไรแปลกๆ ได้เห็นพิธีกรที่รีแล็กซ์ ไม่ใช่ไปแล้ว เฮ้ย มันดีตลอด อาหารอร่อยทุกอย่าง

คือเราก็พยายามบอกตรงๆ ไปว่า บางอย่างเรามาลองให้ มันไม่อร่อยเลย คุณมาอย่าลองนะ (ลากเสียงยาว แล้วหัวเราะ) คือมันน่าจะมีมุมนี้ด้วย ไม่ใช่ทุกอย่างมันจะเยี่ยมยอดอยู่ตลอด อย่างบางทีที่พักอย่างแย่ๆ เราก็จะถ่ายมาให้ดูว่าเราไม่ได้อยู่กันแบบ 5 ดาวตลอด ถึงแม้เราอยากจะอยู่ก็ตามเพราะบางทีถ้าเงินน้อยก็ได้แบบนี้นะ แต่เงินน้อยก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอ มันก็จะมีที่เงินน้อยแล้วสามารถซื้ออยู่ได้ มันก็มีคาแร็คเตอร์ของมัน นี่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทาง




คล้ายๆ Lonely Planet ฉบับคนไทย?

ถ้าเกิดบอกว่าเป็น loney planet อาจจะเป็นแนวโอท็อปหน่อย (หัวเราะ) คือที่ lonely planet ทำมามันก็เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ ถ้าทำถึงขนาดเขาได้ก็เก่ง แต่งบของเรา และการทำงานของเรามันไม่ได้เป็นทีมใหญ่ขนาดนั้น หลายๆ ที่เราไปมันก็เหมือนกองโจร คือเราก็ต้องไปถ่าย แล้วก็รอให้เขาไล่อะไรอย่างนี้ มันจะมีเทคนิคหลายๆ อย่างที่เราทำกันเพื่อให้ได้เนื้อมา แต่ของเขามันอลังการงานสร้างมาก ก็ได้แต่หวังว่า 'โรมมิ่ง' นี่จะยกระดับรายการท่องเที่ยวไทยไปถึงระดับนั้นได้

แล้วถ้าไปเที่ยวส่วนตัวจะต่างกับไปถ่ายรายการไหม?

ถ้าผมไปเองโดยไม่มีกล้องหรือไม่ต้องทำอะไร ผมจะเป็นคนที่ไปแล้วค่อนข้างขี้เกียจมาก คือมีแอร์ มีห้อง แล้วก็มีทีวีให้ผมเนี่ย ผมก็จะสถิตย์อยู่ตรงนั้นเลย ผมจะไม่ออกไปข้างนอก ผมจะไม่ลุย ผมจะไม่อ่าน ผมจะไม่หาอะไร คือเป็นคนขี้เกียจมาก (ลากเสียง) แต่ว่าถ้าผมต้องไปทำงานด้วยเที่ยวด้วย มันจะผลักดันให้ผมทั้งค้นคว้าหาข้อมูล คือมันต้องทำการบ้าน เพื่อให้รู้ลึกกว่าที่เราไป มันจะผลักดันให้เราลองหลายๆ อย่าง ซึ่งถ้าเราไปเองเราจะไม่ลอง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมผาดโผน อาหารแปลกๆ ถ้าเราไปเองเราจะนิ่งๆ ไม่ทำอะไร คือพักผ่อนจริงๆ คือเวลาไปทำงานมันก็ผลักดันให้เราไปเจออะไรแปลกๆ เพื่อมานำเสนอให้คนได้ดูแล้วสนุกไปกับเรา

แสดงว่าหน้าจอทีวีเป็นเรย์ตัวปลอม?

หน้าจอเป็นเรย์ตัวจริง (เสียงขึงขัง) แต่เป็นเรย์ที่... (คิดแล้วหัวเราะ) มันต้องแบบทำการบ้านหนักแล้วก็ไม่ขี้เกียจ คราวนี้ผมไปไหนผมก็จะพยายามพ่วงให้มัน... สมมติว่าทำมาเป็นคอลัมน์ส่งที่นี่ได้ไหม หรือถ่ายรายการมาสัก 2-3 รายการได้ไหม คือมันเหมือนจะช่วยทำให้เราขี้เกียจน้อยลง ไม่งั้น ไปแล้ว... ไม่ต้องทำอะไรนิ กูก็อยู่อย่างนี้ มันมีเรย์ 2 เรย์ครับ เป็น split personality



ผลพวงจากการทำรายการท่องเที่ยวมันช่วยให้ขี้เกียจน้อยลงไหม

ถ้าเราไปเองเราก็ยังจมอยู่นะ เพราะมันก็อยากพักผ่อนจริงๆ ไม่อยากจะไปโลดโผนอะไรมาก พักก็คือพัก แต่อันนี้มันก็คือ พักด้วยทำงานด้วย มันก็ทำให้เราได้ไปเที่ยวครบรสมากขึ้นนะผมว่า...

ถ้าอย่างนั้นการเดินทางสำหรับคุณหมายถึงอะไร แค่การไปทำงาน?

ผมว่ามันตอบยากเหมือนกันนะ เพราะมันแล้วแต่จังหวะจริงๆ ถามผมวันนี้ กับถามผมพรุ่งนี้นิยามมันอาจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ตอนแรกๆ มันก็อาจจะเป็นการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง คือ เฮ้ย เราเป็นใครวะ มันเหมือนกับการที่เราออกไปหาอะไรอย่างหนึ่งแล้วมันก็ไปเจออะไรอีกเยอะแยะ เหมือนเราไปที่หนึ่งแล้วเราไปเจอสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในแพลนแล้วมันดีกว่า 10 เท่า เหมือนเราตั้งความหวังไว้ที่หนึ่ง แล้วไม่ได้อย่างที่คิด เพราะผู้คนไม่น่ารัก อะไรอย่างนี้ คือที่ผมไปมา ผมว่ามันเป็นผู้คนนะที่ทำให้สถานที่น่าสนใจ ไม่ใช่สถานที่ทำให้ผู้คนน่าสนใจ อย่างที่ที่มันสวยแต่คนขี้โกงเราไม่กลับไปอีกนะ แต่ถ้าที่มันกลางๆ มันมีอะไร แต่คนโคตรน่ารักเลย มันทำให้เราอยากกลับไปอีก ผมว่าอันนั้นน่ะมันทำให้ประเทศไทยติดท็อปเท็น หรือท้อปไฟว์ ตลอด เพราะมันมีทั้ง 2 อย่าง ทั้งสถานที่ และผู้คน

จริงๆ ผู้คนสำคัญมาก ทุกที่มันมีเสน่ห์ของมันอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะเห็นหรือเปล่า หรือบางที่เนี่ยมันหาโคตรยากเลย (เน้นเสียง) แต่บางที่ โห มีอยู่ทุกซอกทุกมุมให้เราค้นหา มันมีหลายประเทศที่เราอยากไปแล้วเราหวังว่า เออ เมืองอย่างนี้ 3,000 ปี มันไม่เปลี่ยนเลย สุดยอด ถ่ายรูปออกมาวิถีมันต้องอย่างดีเลย แต่ไปถึงโป๊ะ มันก็เป็นอย่างที่เราคิดจริงๆ แต่คนโคตรขี้โกงเลย อย่างนี้ มันทำให้แบบ...เฮ้ย ไม่น่ารักเลยว่ะ มันทำให้เราไม่อยากกลับไปอีก ก็อยากฝากไว้ด้วยนะครับถ้านักท่องเที่ยวเขามาก็ช่วยๆ เขาหน่อย อย่าคิดเล็กคิดน้อย อะไรที่ช่วยเขาได้ก็ช่วยเขาเหอะ เขาจะได้กลับไปบอกเพื่อนเขาให้มาเที่ยว ตอนเขากลับมาจะได้พาเพื่อนกลับมาด้วย จะได้... กินน้อยๆ แต่กินนานๆ (หัวเราะ)

ประเทศไหนบ้างที่เป็นแบบนั้น

บอกไม่ได้ (หัวเราะ)

แล้วที่ที่มันโดนๆ ล่ะ?

มีหลายๆ ที่เหมือนกัน อย่างเนปาล เราไปครั้งแรกหวังเลยว่ามันจะต้องเป็น Exotic มีครบทุกอย่าง ภูเขา ผู้คน คือเราไปเนี่ย มันดีกว่าที่เราคิดจริงๆ เพราะว่ามันมีทุกอย่างสำหรับทุกคน มีตั้งแต่โบราณสถาน ธรรมชาติ ชอปปิง แถมผู้คนยังน่ารักอีก มันยิ่งบวกๆ กันเข้าไปยิ่งทำให้ครบรส นั่งเครื่องบินจากบ้านเราไป 3 ชั่วโมง พอถึงปุ๊ป เหมือนมันไปถึงอีกโลกหนึ่ง คือมันไม่น่าเชื่อว่า 3 ชั่วโมง ไอ้เครื่องบินจะสามารถเป็นไทม์แมชชีนพาเราไปอีกยุคสมัยหนึ่งได้ แล้วก็มีหลายประเทศที่ไม่ได้อยู่ในแพลน ประเทศอะไรก็ไม่รู้ที่มันเป็นทางผ่านเฉยๆ แล้วอยู่ดีๆ เราแบบ เออ ให้โอกาสมันหน่อย แวะซะนิดนึง อย่างสโลวีเนีย (Slovenia) คือเพิ่งเคยได้ยินก็ตอนที่นั่งรถไฟไป ประเทศอะไรวะ สโลวเนีย โซวีเนียเนี่ย แต่เราก็ เอ๊ะ ไหนๆ ผ่านแล้ว แวะซะหน่อยวะ

แต่มันก็ไม่น่าเชื่อ ใน lonely planet ก็เขียนเอาไว้เหมือนกันว่า ประเทศนี้เนี่ย จิ๋วแต่แจ๋ว ไม่น่าเชื่อ มีแต่ในเทพนิยายเท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีจริง เราก็ เฮ้ย จริงเหรอวะ มีแค่พารากราฟเล็กๆ เท่านั้นเอง ก็เออ..แวะไปดูแค่นั้นแหละ จิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ อย่างนี้มันคือเสน่ห์ของการท่องเที่ยว คือแบบอยู่ดีๆ มันจะมีเมืองเล็กๆ โผล่ขึ้นมา หรือเราสะดุดพอดี มันก็จะเกิดความรู้สึกเล็กๆ เหมือน เฮ้ย...เราเนี่ยแหละเป็นคนค้นพบโว้ย คนอื่นไม่เคยไป แต่จริงๆ เขารู้จักกันหมดแล้ว (หัวเราะ) แต่เรารู้สึกดีน่ะ เฮ้ยเรา มาร์โคโปโลว่ะ เราค้นพบ แต่จริงๆ แล้วแบบโง่เองไม่เคยทำการบ้าน (หัวเราะ) คืออย่างนี้น่ะมีอยู่ทุกทริปนะ สโลวีเนียนี่เป็นทริปล่าสุด ก่อนหน้านี้มันจะเป็นแบบ... สมมติไปอินเดียเราก็จะไปเจอในแผนที่ เฮ้ย นี่มันอะไรวะ มันดาลี่ (Mundali) นั่งรถไป 10 ชั่วโมง โป๊ะ อยู่ดีๆ มันก็เป็นแบบสวรรค์ที่เราไม่ได้กะมาเจอ แต่ว่ามันฟลุกมาเจอ แบบนี้แหละผมว่าเวิร์กสุด (ยิ้ม)

อย่างที่นักเดินทางหลายคนพูดกันว่า 'สักครั้งในชีวิตเราควรไปอินเดีย' ตัวคุณเองมีประเทศที่อยู่ในใจแบบนี้บ้างไหม

ผมว่า สักครั้งสำหรับอินเดียอาจจะน้อยเกินไปนะ เพราะประเทศมันใหญ่มาก ผมว่าน่าจะไปหลายๆ ครั้ง (ยิ้ม) ตั้งแต่เหนือสุดจรดใต้สุดมันมีครบทั้งหมด เมืองใหญ่คุณเจอผู้คนเยอะรถติดอาจจะเป็นนรก แต่ว่าเขามีหลายๆ เมืองเหมือนกันที่มันเป็นสวรรค์ คือไม่น่าเชื่อว่าสวรรค์กับนรกจะมาอยู่ในที่ที่เดียวกัน แต่ถ้ายกตัวอย่างสำหรับผมให้ 2 ประเทศเลย ผมให้มองโกเลีย ถ้าคุณชอบแบบเย็นๆ หน่อยนะ มองโกเลียหน้าหนาวไปเลยครับ ผมการันตีได้คุณจะเจอหนาวของจริง ก็ประมาณลบ 25 องศา ตอนกลางวัน (ยิ้ม) แต่ไปถึงแล้ว... มันไม่เหมือนอยู่บนโลกใบนี้ มันเหมือนอยู่บนดาวอีกดวงหนึ่ง คือเราอธิบายไม่ถูกน่ะ เฮ้ย นี่มันดวงจันทร์หรือเปล่าวะ คือมันสวยอย่างไม่น่าเชื่อ ความเป็นอยู่ของเขามันยังมีวิถีที่ชัดเจน อยู่กันมาไม่รู้กี่พันปีแล้วในกระโจมถึงแม้ข้างในจะไฮเทค แต่ข้างนอกเขาก็ยังกระโจมๆ อยู่ ร่อนเร่พเนจรไปเรื่อยๆ 3 เดือนนี้อยู่อีกที่หนึ่ง 3 เดือนถัดไปย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่ง มันเป็นชีวิตที่โรแมนติกมากๆ เราก็ยังเข้าไปสัมผัสได้ มันเหมือนไม่ไกลมากแต่พอไปถึงแล้วมันรู้สึกไกลน่ะ นั่นคือมองโกเลีย (หัวเราะ)

แล้วก็สโลวีเนีย ไอ้จิ๋วแต่แจ๋วมีครบ ทุกอย่าง เหนือสุดใต้สุด ตะวันออกสุดตะวันตกสามารถเดินทางกันได้ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง มีทุกอย่างที่สวิสเซอร์แลนด์มีแต่ราคาถูกกว่า ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย เชิญไปเถอะครับ โดยเฉพาะเมืองชื่อเบล็ด (Bled) หรือถ้าอยากให้ผมเป็นหัวหน้าไกด์พาไปก็ได้เดี๋ยวผมจะพาไป (ยิ้ม)



สะสมชั่วโมงบินมาก็มาก คิดว่าการเดินทางที่ผ่านมาสะท้อนอะไรกลับมาบ้าง?

การเดินทางแต่ละครั้งมันมีเอฟเฟ็คกับเราเสมอ คือมันทำให้เราได้เห็นที่งามๆ เห็นว่ามีที่สวยๆ บนโลกนี้เยอะมาก แล้วเราควรจะดูแล และรักษาโลกใบนี้เอาไว้ จริงๆ นะ ที่สวยๆ งามๆ มีเยอะมากแต่เวลาบนโลกใบนี้ของคนเราน่ะน้อยมาก คือทั้งหมดที่ไปมา 60-70 ประเทศมันยังไม่ครบ มันยังมีอีกเป็นร้อยประเทศที่เราอยากไปเห็น หลายๆ ทวีปที่อยากจะไป แล้วการเดินทางเนี่ยมันก็ทำให้เราเห็นเสน่ห์ของบ้านเราเองด้วย คือบางทีเราอยู่บ้านนานๆ เหมือนอยู่กับคนเดิมนานๆ บางทีเราจะลืมไปว่าเราหลงใหลอะไรในตัวเขา แต่พอเราได้เดินทางออกไปไม่ต้องไกลมากอย่างลาวแล้วมองย้อนกลับมา เราก็จะเห็นทุกอย่างที่ชัดขึ้น ไอ้นี่นี่หว่าที่เราชอบ ไอ้นี่นี่หว่าเป็นเสน่ห์ของมัน ไอ้นี่นี่หว่าโคตรคิดถึงเลย คือมันทำให้ทุกอย่างรอบตัวเรา ที่บ้านเรามันชัดขึ้น

มันทำให้เรามองทุกอย่างในมุมบวก ทั้งๆ ที่ก่อนจะเดินทางเราจะมองอะไรที่เป็นลบ ทำไมมันเป็นอย่างนี้ แต่พอเราเริ่มเห็นโลกมากขึ้นมันทำให้เรามองเห็นเสน่ห์ ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างผมหรือเปล่า...


อ่านจบ ก็รักผู็้ชายคนนี้ในแบบนี้ขึ้นมาทันที ...




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2554 15:26:17 น. 6 comments
Counter : 5714 Pageviews.

 
ชอบคำพูด เราจะเห็นทุกอย่างชัดขึ้น เวลามองย้อนกลับมา

พอไม่อยู่บ้านนานๆ ถึงรู้ว่าที่มีที่เมืองไทยนะดีที่สุดแล้ว และเราคิดถึง :)


โดย: xyz IP: 124.195.33.215 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:21:00 น.  

 
จิงค่ะ ..


โดย: pimchaya วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:46:32 น.  

 
รักผู้ชายคนนี้ด้วยคนนะคะ
ชอบคนแบบนี้ค่ะ



โดย: MaZZO วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:35:20 น.  

 
ยาวมากกกกกกกกกกก


โดย: เก่ง (keng_toshi ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:56:19 น.  

 
รักอะเก่ง 555


โดย: pimchaya วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:45:12 น.  

 
อ่านจบ ก็รักผู็้ชายคนนี้ในแบบนี้ขึ้นมาทันที ...


โดย: pimchaya วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:16:29:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pimchaya
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




(^^)
Mouse/Link/Rainbow ninja cursor
Friends' blogs
[Add pimchaya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.