เอาละสิท่านผู้ชม วันที่สามเริ่มก้าวเข้าสู่ของจริงแล้ว สิ่งที่อยากรู้ ที่ค้างคาใจมานาน จะได้รับการเยียวยา 55555
เดิมทีก็มีความสงสัยว่า มีไอเดียอยากทำโน่น นี่ นั่น จริง ๆ มันเป็นไปได้หรือเปล่า ลงมือทำเลยจะเสี่ยงมั้ย โอกาสพลาดมีกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วจะรู้ได้งัย สองวันที่ผ่านมานี้ได้รู้ว่า จริง ๆ แล้วข้อมูลมีอยู่ทั้งในสมองและรอบ ๆ ตัวนี่แหล่ะ เพียงแต่มันไม่เคยถูกนำมาคิดอย่างเป็นระบบเพียงพอและครอบคลุม ในหลาย ๆ มุมก็ไม่เคยถูกเรียงลำดับ จนสามารถหยิบจับมาวิเคราะห์็ได้ อีกนั่นแหล่ะ ถึงรู้ก็ไม่รู้จะวิเคราะห์ยังงัย ไม่รู้วิธี ไม่รู้ด้วยว่าผลลัพธ์นั้นถูกต้องหรือใกล้เคียงจนสามารถเอาไปใช้ได้จริงหรือเปล่า วันนี้จึงได้รู้กันเสียที ว่างานที่ทำอยู่นี้ หรือที่มีอยู่ในใจ มีเปอเซ็นต์เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน มีทฤษฎีใดที่จะมาช่วยคิดช่วยกรองและทำให้เห็นภาพชัดเจนบ้าง และแล้วเราก็ได้เรียนรู้เรื่อง...
การกลั่นกรองระดับมหภาคและจุลภาค และการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก หรือ Swot ง่วงแล้วหล่ะ ต่อไปก็เป็นการระดมสมอง ตามวิธีการ Swot ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ไว้มาเล่าต่อจ้า ฮ้าวววว.....
มาสรุปต่ออีกนิดให้จบ เผลอแป๊บเดียววันจันทร์แล้ว เด๋วดินจะพอกหางอู้ดๆ ความรู้ตกหล่นกันพอดี
คาบนี้ น่าจะได้มาในเรื่องของการระดมสมอง ได้การมองเห็นศักยภาพที่มี ผ่านการวิเคราะห์แบบ Swot หรือก็คือหน้าต่างสี่บานอีกเช่นกัน แต่คราวนี้เป็นมุมมอง ของการหาจุดแข็ง หาจุดอ่อน (จากภายใน) และหาโอกาส และอุปสรรค (จากภายนอก) ด้วยวิธีการ Brainstorming เพื่อเรียบเรียงเอาข้อมูลออกมาอ่าน เหมือนการกลั่นกรองแบบหยาบ (มหภาค) จนมาถึงการคัดกรองอย่างละเอียด (จุลภาค) เพื่อให้ได้มาซึ่งการตกผลึกข้อมูลโครงการหรือธุรกิจที่เป็นไปได้จริงขึ้นมา การใช้ทฤษฎีค้นหาความเป็นไปได้ด้วยวิธีนี้ (swot) จะใกล้เคียงความจริงมากที่สุด ชัดเจนแม่นยำที่สุดเพราะวิเคราะห์มาจากข้อมูลสิ่งที่มีอยู่จริง ....ยอดเยี่ยม swot analysis.....