Group Blog
มิถุนายน 2552

 
5
9
11
12
13
22
27
29
30
 
 
All Blog
7 วันหลังถูกด่าลวงโลก ! “อุ้ม คานส์” เครียดหนักเมาปลิ้น เปิดใจถึงความผิดพลาดหมดเปลือก #2
woman


ไม่ว่าจะเกิดจากเข้าใจผิดหรืออะไรก็ตาม แต่การที่ “วิศาล” ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ ชื่นชมว่าเป็นสปีลเบิร์กเมืองไทยโดยที่ไม่ศึกษาข้อมูลว่า รางวัล “BEST STUDENT FILM” และ “OFFICAL SELECTION” มันมีอยู่ในเทศกาลคานส์หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้อุ้มหนักใจไม่น้อย หากใครจะมองว่า “วิศาลหน้าแหก โดนลูบคม”

“อุ้มทำให้เขาเสียหายเยอะ และก็ทำให้หนังสือพิมพ์ที่มาสัมภาษณ์อุ้มฉบับแรกเสียหายด้วย ในขณะเดียวกันก็มีพี่ๆ สื่อคนอื่นที่ยังไม่ทันได้มาสัมภาษณ์อุ้ม แต่หัวข้อสกู๊ปมันแรงมากก็มีการไปพูดกันในหลายๆ ที่ อุ้มก็ต้องขอโทษ(ยกมือกราบขอโทษ) เหตุการณ์นี้ไม่มีสื่อไหนผิด คุณวิศาลก็ไม่ผิด เพราะความเข้าใจผิดมันทำให้เขาเกิดการตื่นเต้นเกิดขึ้น”

“กว่าอุ้มจะเข้าใจว่ากระดาษที่อุ้มมีอยู่เขาไม่ได้เรียกว่ารางวัลนะ คำว่ารางวัลมันต้องหมายความว่าชนะเลิศเท่านั้น อุ้มก็งงเหมือนกันเพราะมันก็เป็นรางวัลนะ ในกระดาษมันก็เขียนคำว่า AWARD”

“มีอีกเรื่องหนึ่งคะที่คุณวิศาลพูดว่า อุ้มไม่ได้อยู่รับรางวัล แต่อุ้มหมายถึงไม่ได้อยู่รับประกาศนียบัตรวันที่เรียนจบนะ แต่เขาเข้าใจว่าเป็นคานส์ คือส่วนใหญ่อุ้มจะเป็นคนตอบไม่ได้เป็นคนถาม พออุ้มออกมาอาปรัชก็ถามอุ้มก็บอกว่า อุ้มพูดถึงโรงเรียนอุ้มอยู่นะ เพราะมีหวัดหมูพอดี อุ้มก็เลยไม่ได้อยู่วันจบของตัวเอง ใบจบก็ไม่ได้รับ ถ้ามีอะไรให้อุ้มก็คงไม่ได้รับ ถ้ามีรางวัลของอุ้มก็คงไม่ได้รับอีก อุ้มไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับวันจบของอุ้ม”

“จนมาพูดถึงเรื่องคานส์อุ้มก็พูดว่า คานส์อุ้มก็ไม่ได้ไปเพราะมีเรื่องหวัดหมู มันเข้าใจคนละอย่างกัน พยายามออกมาอธิบายแต่ก็ฟังไม่ขึ้น เขาก็จะไปดึงวีดีโอวันแรกมาโพสต์ แต่คนที่รู้จักอุ้มจริงๆ อย่างครูต้อม(ยุทธเลิศ สิปปภาค) จะบอกว่า ยูพลาดแล้ว อุ้มก็ยังเถียงเขาอยู่ว่า อุ้มพูดเคลียร์แล้วนะ อุ้มยังไม่เคยพูดเลยว่า อุ้มชนะได้รางวัลที่ 1 มา ครูต้อมก็จะบอกว่า ยูอย่าออกมาทำแบบนี้ อย่าออกมาอธิบายมันยิ่งไปกันใหญ่ ถ้ายูเสียใจก็พูดไปว่ายูเสียใจ ไม่ต้องอธิบายแล้ว

“ตอนนี้อุ้มก็ได้คุยกับคุณวิศาลไปแล้ว อุ้มเชื่อว่าคุณวิศาลคงจะเข้าใจ แต่อุ้มก็ทำเสียหายไปหมดเลย สองอาทิตย์ที่ผ่านมาอุ้มกำลังมึนคืออยากจะทำให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น แต่จะได้ผลหรือเปล่าไม่ทราบ แต่อุ้มก็อยากจะบอกว่า อุ้มไม่ได้อยากให้ของแบบนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แล้วก็.....อุ้มพลาด”

อีกประเด็นหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักก็คือ การที่ “อุ้ม” พยายามจะอธิบายว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดจากการสื่อสารผิดพลาด เข้าใจผิด หรือเป็นเพราะอุ้มไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทยก็ตาม แต่การตอบคำถามแบบนี้ ก็ทำให้หลายๆ คนสงสัยว่า อุ้มไปเรียนต่อที่เมืองนอกเพียง 4 ปี ทำไมถึงสื่อสารภาษาไทยผิดพลาด

“อุ้มพยายามบอกตรงนี้มากๆ อุ้มไม่ได้ไม่เข้าใจภาษาไทยนะ อุ้มไม่รู้ทำไมทางอินเตอร์ไปฟังมาจากใครว่าอุ้มพูดภาษาไทยไม่รู้เรื่อง กลายเป็นว่าเอ๊ะยังไงคุณไปเมืองนอกมาแค่ 4 ปีทำไมฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง คือไม่ใช่ว่าอุ้มฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง เพียงแต่มันมีคำบางคำที่เกิดจากความไม่ระวัง อันนี้เป็นข้อใหญ่ที่อุ้มยอมรับ”

“อุ้มขอแก้ตรงนี้ก่อนว่าอุ้มพูดภาษไทยได้ แต่คนรอบๆ ข้างจะเห็นว่าอุ้มมีความเข้าใจแปลกๆ บวกกับตอนเด็กๆ อุ้มมีคำไหนสงสัยขึ้นมา บางทีก็ไม่ได้ถามกับคนไทยด้วยกันเองก็ไปถามกับภาษาอังกฤษ แล้วเขาก็บอกความหมายแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งอุ้มก็ไปแปลเป็นไทยเองก็เป็นไปได้ว่าอุ้มอาจจะแปลผิด”

“คืออุ้มโตมาในที่ๆ คุณแม่โตมาอยู่กับคนต่างชาติเยอะ พูดภาษาอังกฤษเยอะ จบจากต่างชาติเยอะ เพราะเขาทำงานกับหนังเมืองนอก และเขาใช้ภาษาอังกฤษเยอะ ในอินเตอร์เน็ตมีการหาประวัติอุ้มและบอกว่าอุ้มไม่ได้โตมากับคุณพ่อ”

“ใช่คะ...คุณพ่อกับคุณแม่ของอุ้มเขาเลิกกัน จำไม่ได้ว่าตอนกี่เดือน และคุณแม่ก็มีแฟนซึ่งไม่ใช่คนไทย ซึ่งก็ต้องมีเรื่องแบบจะต้องขอเงินไปโรงเรียนหรือว่าอะไร มันก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณแม่ฝึกอุ้ม เหมือนกับว่าอุ้มอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจะต้องพูดภาษาอังกฤษ จำเป็นจะต้องไปเปิดหนังสือหาว่า วิธีการที่เราจะขอเงิน วิธีการทีเราจะกินข้าว จะไปไหนจะทำอะไร ต้องทำยังไง มันเกิดจากตรงนี้ด้วย”

“อุ้มเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนสายน้ำผึ้ง เรียนมัธยมปลายที่เซนต์จอห์นอินเตอร์ เรียนมหาวิทยาลัยที่เอแบคอินเตอร์ ซึ่งเอแบคอินเตอร์ภาษาไทยเขาก็สอนวัฒนธรรมไทยเป็นภาษาอังกฤษ และก็ไปเรียนต่ออเมริกาแต่ไม่ได้เรียนด้านฟิล์มนะคะ”

“โรงเรียนที่อเมริกาฟังดูแล้วค่อนข้างจะสับสนนิดหนึ่ง มหาวิทยาลัยที่โน่นเราสามารถไปเก็บหน่วยกิตได้หลายที่เพราะค่าเรียนที่โน่นแพงมาก และมันจะมีมหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่เป็นพวกคอลเลจอุ้มก็จะไปเรียน COMMUNITY COLLEGE ด้วย วิชาหลักเป็น BUSINESS และก็มีบางวิชาที่ไปลงที่ยูซีแอลเอด้วยก็เป็น BUSINESS เหมือนกัน ในสองปีจะทำแบบนี้ได้ แต่ก่อนจะเข้าสองปีสุดท้ายหรือปีครึ่ง เราจะต้องเอาคะแนนพวกนี้มารวมกันให้ได้ดีที่สุด เพื่อที่จะดูว่ามหาวิทยาลัยแต่ละที่จะต้องใช้คะแนนเท่าไหร่ถึงจะไปเรียนได้ ซึ่งที่โน่นจะไม่เหมือนที่นี่ เพราะที่นี่จะเอนทรานซ์ และเลือกเลยว่าจะเรียนอะไร แต่ที่โน่นจะเปลี่ยนได้”

“แต่อุ้มไม่ได้จบค่ะ คือนี่เป็นอีกข้อหนึ่งที่คนสงสัยว่าทำไมอุ้มไม่ได้อยู่พิธีจบ คือโรงเรียนนิวยอร์คอะคาเดมี่ที่อุ้มเรียนสองปีสุดท้ายจะแบ่งเป็น 2 แบบ เหมือนกับว่า ถ้าคุณมียูนิตครบก็ได้ใบจบเป็น BACHELOR DEGREE แต่ของอุ้มเก็บไม่เยอะเพราะใจอุ้มแค่ไปเรียนเก็บๆ คือที่บ้านอยากให้เรียน BUSINESS อุ้มก็ไปเรียนเรื่อยๆ ให้ แต่ตัวอุ้มเองแอบไปเรียน BUSINESS TOP FILM ที่ยูซีแอลเอ เขามีให้เรียน อุ้มก็ไปลงเรียนภาคาค่ำ และก็สนใจทางนั้นมากขึ้น เริ่มไม่เอาเรียนตอนกลางวันแล้ว”

“พอเรียนจบปุ๊บเขาจะให้เป็น DIFPOMA แต่ว่าไม่ได้แปลว่า อุ้มไปเรียนครอสสั้น หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าอุ้มไปเรียนครอสสั้น ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็มีครอสสั้น 4 อาทิตย์ 2 เดือน 3 เดือน แต่พวกนั้นจะเรียนไม่เหมือนเรา อาจจะได้กล้องดิจิตตอลตัวเดียว แต่ของเราจะเรียนหมดเลย พิธีจบเขาจะให้ DIFPOMA พอหนังที่ทุกคนทำเพื่อจบฉายปุ๊บเขาก็จะมีอาจารย์ใหญ่ทำพิธีมอบให้เรียกชื่อออกมารับทีละคน”

เผยเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตครั้งใหญ่
“คุณแม่เป็นแคสติ้งไดเร็กเตอร์เห็นชีวิตนักแสดงมาเยอะ ส่วนตัวอุ้มรู้สึกกลัวมากเพราะเป็นคนรู้จักเยอะ อุ้มชอบทำงานเบื้องหลังเพราะอยากเป็นผู้กำกับ แต่อีกส่วนหนึ่งคืออุ้มอยากอยู่ข้างหลังมากกว่า ไม่อยากให้มีคนรู้จัก แต่อันนี้มันผิดพลาดหมดเลย กลายเป็นว่าตอนนี้อุ้มทำอะไรปกติไม่ค่อยสะดวกเลย”

“อย่างเวลาที่อุ้มไปเที่ยวกับเพื่อน เวลาไปกินเหล้าอุ้มจะมีท่าเต้นแปลกๆ ท่าเต้นมันจะค่อนข้างทุเรศ มีวันหนึ่งไปกำลังทำท่ากิ้งกืออยู่และก็มีคนทักบนเวทีเลย สวัสดีค่ะคุณอุ้มได้รับรางวัลมาเหรอ อุ้มก็จะขึ้นไปอธิบายบนเวทีดีไหมเนี่ย ก็เริ่มไม่สนุกแล้วก็เลยกลับบ้าน”

“เหตุการณ์ครั้งนี้มันทำให้ชีวิตอุ้มเปลี่ยนไปมาก ไม่รู้จะทำยังไงเพราะมันเกิดขึ้นแล้ว ทุกวันนี้ถ้าออกไปข้างนอกเจอสายตาคนมองก็คงจะทำอะไรไม่ได้ อุ้มจะค่อนข้างกดดันตัวเอง ถ้าเห็นใครมองจะเซ้นส์เร็วมาก หันไปเจอก็เข้าใจว่าโดนแล้วนะก็รู้สึกแย่”

“แต่อุ้มก็ยังออกไปไหนมาไหนอยู่ เพราะการออกไปกินเหล้าช่วยให้หลับ และก็จะออกไปแถวๆ ข้างบ้าน ถ้าออกไปเจอบางทีก็อารมณ์เสียเหมือนกัน คือพี่คุยเลยก็ได้ อย่าทำแบบนี้เลย อยากจะว่าก็มาว่าเลย อยากให้เขาพูดออกมามากกว่า อยากให้เขาว่ามาอุ้มจะได้อธิบาย”

“ยอมรับว่าค่อนข้างเครียด อุ้มจะอ่านโพสต์ทุกที่เท่าที่อ่านได้ อ่านแล้วก็ทำให้เครียดนอนไม่หลับ แต่ตรงนั้นก็คงไม่มีใครผิดหรอกเพราะอุ้มทำให้เขารู้สึกแบบนั้นเอง ตรงนี้มันเป็นฟีดแบคที่อุ้มกำลังโดนความไม่ระวังของตัวเอง ซึ่งโดนบ้างก็ดีจะได้เป็นคนระวังมากขึ้น”

“แต่สิ่งที่ทำให้อุ้มเสียใจมากๆ ก็คือสิ่งที่คนพูดว่า ขนาดแค่พูดยังทำให้เข้าใจผิดแล้วจะทำหนังได้เหรอ อันนี้คือสิ่งที่อุ้มเสียใจมาก อุ้มผิดไปแล้ว อุ้มทำเดือดร้อนไปทั้งเมือง พี่ๆ ผู้สื่อข่าวคนอื่นก็คงจะโกรธอุ้มน่าดูที่ทำให้เขาทำข่าวพลาด อุ้มก็เครียดถ้ารู้จักใครเป็นส่วนตัวก็จะโทรไปขอโทษก่อนเลย อุ้มไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน อุ้มไม่มีความตั้งใจที่จะทำแบบนั้น”

“อย่างพี่นักข่าวข่าวสดที่สัมภาษณ์อุ้มครั้งแรก อุ้มก็โทรไปขอโทษเขาและก็พยายามอธิบายว่า การสื่อสารของอุ้มมันทำให้เขาเข้าใจผิด ความตื่นเต้นของอุ้มมันทำให้อุ้มรู้สึกว่า ตรงนั้นมันเป็นความยิ่งใหญ่สำหรับอุ้ม ก็เลยทำให้เกิดการเข้าใจผิด อุ้มก็หวังว่าเขาจะโอเค”

“ไม่รู้เหมือนกันว่าจะผ่านตรงนี้ไปได้ยังไง ตอนนี้เหมือนคุยกับใครก็ทะเลาะกับเขาหมด คุณแม่พยายามมาให้กำลังใจแต่เรากลับรู้สึกเหมือนเขามากดดันเราเพิ่ม ทั้งที่ความจริงเขาไม่ได้มากดดันอะไรเราเลย ตอนนี้ใครโทรมาอุ้มแทบไม่รับโทรศัพท์ วันนี้อุ้มไม่ได้ยึดกับอะไร แต่ยึดกับเรื่องงาน การที่อุ้มจะทำหนังเรื่องหนึ่งทำไงให้หนังออกมาแล้วเป็นของดีคนยอมรับได้”

“ถึงจะท้อแต่อุ้มก็ยังไงจะทำหนังต่อไป แต่ถามว่ากลัวไหม กลัวมาก กลัวจนกลัวว่าจะทำงานไม่ดีออกมา แต่ตัดสินใจมาทางนี้และเป็นทางที่อุ้มรักอยากจะทำ เป็นสิ่งที่อุ้มรักมาตั้งแต่เด็กๆ เรียกว่ายังไงก็คงจะทำ โดนว่าอีกก็จะทำ ถ้าโดนว่าเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้โดนว่าน้อยลง อุ้มมาใหม่ อุ้มพึ่ง 24 เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ความใหม่ก็กลัวอยู่แล้วเพราะเราไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้เรื่องตลาด ไม่รู้เรื่องฟิล์มเฟสติวัล ผู้ใหญ่ถามก็ตอบตรงๆ ว่าไม่ทราบ”

“สำหรับงานหนังตอนนี้อยู่ในช่วงเขียนบท โดยใช้บทละครของคุณต้อม แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงยังไงหรือเปล่า สไตล์ของหนังก็จะเป็นแนวชีวิตที่อยู่ในมุมมืด ซึ่งตอนนี้อุ้มกำลังมืดอยู่ด้วย ก็กลัวตัวเองจะไม่ไหวเหมือนกัน ก็ยอมรับว่าอ่านโพสต์ไปหลายๆ อย่างแล้วก็แย่เหมือนกัน โอ๊ย...ทำไมคิดว่าไปได้ขนาดนั้น คือ...อุ้มไม่มีความตั้งใจที่จะทำให้คนไทยรู้สึกว่าไม่ได้ให้เกียรติเขา”

“แต่จะเห็นผลงานตอนไหนก็ยังไม่ทราบค่ะ ไม่ทราบจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดไว้ว่าจะออกช่วงเวลานี้ๆ แต่ตอนนี้ไม่ทราบจริงๆ เพราะเรื่องนี้(เรื่องเมืองคานส์) มันค่อนข้างแรง สภาพจิตใจมันค่อนข้างแย่ ถ้าทำหนังเสร็จก็ต้องไปลุ้นอีกว่า หนังจะออกมายังไง คนจะรู้สึกยังไง แต่ก็ยังยืนยันว่าจะทำต่อไป”


ที่มา //www.manager.co.th



Create Date : 10 มิถุนายน 2552
Last Update : 10 มิถุนายน 2552 9:58:35 น.
Counter : 1296 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]