A day in nagoya
อุณหภูมิ 35 องศาในเมืองนาโกย่านั้นแทบไม่ต่างไปจากกรุงเทพมหานคร บ้านเราสักเท่าใด เดือนสิงหาคมนี่นับได้ว่าเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดในญี่ปุ่นก็ว่าได้ ที่เห็นเด่นอยู่ตรงกลางเป็นตึกคู่ของโรงแรมมาริโอเน็ต ตึกนี้นับว่าน่าจะเป็นตึกที่สูงที่สุดในนาโกย่า ตึกนี้ตั้งอยู่บนสถานีรถไฟนาโกย่า มีรถไฟชินกันเซ็นที่วิ่งเข้าออกสถานีชั่วโมงหล่ะห้าหกขบวน การเดินทางไปสู่เมืองใหญ่ๆแห่งอื่นในญี่ปุ่นนับว่าสะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเดินห่างจากสถานีมายังฝั่งแถวๆที่ตัวผู้เขียนอาศัยนั้น จะพบว่าเมืองจะค่อนข้างเงียบเหงาเหมือนกัน บนท้องถนนนี้ไม่มีรถเยอะเท่าใด ผู้คนที่นี่ยังนิยมใช้จักรยานในการเดินทางไปไหนมาไหนด้วย ทางฟุตบาทที่นี่กว้างและก็ปูด้วยยางมะตอยเรียบร้อยเหมาะแก่การขับจักรยานเป็นที่สุด รถจักรยานคุณป้าหลายคันจอดเรียงกันอยู่ตามข้างทางให้เห็นเป็นหย่อมๆ โดยส่วนมากรถพวกนี้จะจอดอยู่ใกล้ๆตามสถานที่สำคัญๆ เช่น ทางลงสถานีรถไฟ หรือ ตามหน้าร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ แต่โดยแท้แล้วการจอดรถตามฟุตบาตเหล่านี้ผิดกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติแล้วภาพเหล่านี้ก็มีให้เห็นตามปรกติ ตู้น้ำหยอดเหรียญอัตโนมัติก็เป็นอีกสิ่งนึงที่พบเห็นกันได้บ่อยๆตามข้างถนนในญี่ปุ่น น้ำอัดลมกระป๋อง(350ml)ราคาที่ขายกันทั่วไปจะราคาประมาณ120เยน (40บาท) ราคาน้ำกระป๋องอาจจะแตกต่างไปตามตู้ที่ขาย บางทีราคาของน้ำกระป๋องอาจจะสูงถึง160เยนบนตู้ขายที่ตั้งบนที่สูงเช่นตามภูเขาที่เป็นสถานท่องเที่ยว แต่อย่างที่เห็นในรูป ตู้น้ำกระป๋องในราคา100เยนเป็นสิ่งที่ไม่ได้พบเห็นกันง่าย น้ำส้มนางเอกในราคาร้อยเยนนับว่าไม่แพงเลยในญี่ปุ่น หลังจากเดินวนรอบวกกลับมายังตึกเก่าๆสีน้ำตาลแห่งนึง ห้องพักของผู้เขียนอยู่บนชั้นหกของตึกนี้ บ่ายวันอาทิตย์ของผู้เขียนจบลง ณ ที่นี้ โปรดติดตามตอนต่อไป....
ได้มาเปิดหุเปิดตาชมนาโงย่าด้วย กำไรเจงๆ
แต่ดันเห็นแต่แฟนต้าในมือคุงอาง่า...งิงิ...เอามาฝากหน่อยจิ
สุขสันต์วันอาทิตย์นะค่า เจี๊ยกๆๆๆ