ไข่หวาน : แม่มือใหม่

หลังจากที่ไข่หวานกับน้ำขิงมาอยู่กับผมได้ไม่ถึงเดือน น้ำขิงก็เริ่มเข้าสู่วัยหนุ่ม และพยายามแสดงความเป็นหนุ่มกับไข่หวานอยู่เรื่อย ๆ ตอนแรกคิดว่าการปฏิบัติการของน้ำขิงคงไม่ประสบความสำเร็จ แต่กลายเป็นว่าความคิดของผมนั้นผิดถนัด

เกือบ ๆ จะกลางเดือนตุลาคม ผมเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของไข่หวาน แม้ผมจะไม่สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้นได้ด้วยตาเปล่า (ต้องมองผ่านแว่นสายตาถึงจะเห็น เพราะตอนนี้ถ้าถอดแว่นผมแทบจะมองไม่เห็นอะไรแล้ว...(เศร้าจัง)

ผมพยายามศึกษาลักษณะของหนูท้องจากเวปเกี่ยวกับหนูแฮมหลาย ๆ เวป ยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ ว่าไข่หวานของผมกำลังจะผลิตทายาทแน่ ๆ ทำให้ผมอดตื่นเต้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าน้ำขิงกับไข่หวานตื่นเต้นเหมือนผมหรือเปล่า

นานวันเข้าไข่หวานก็อ้วนขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่ทำให้มั่นใจว่าไข่หวานท้อง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่อ้วนธรรมดาคือบริเวณช่วงท้ายของลำตัวตั้งแต่ช่วงท้องไปถึงก้นอ้วนกว่าปกติมากจนดูไม่สมส่วน ไข่หวานกลายเป็นอีหนูบั้นท้ายดินระเบิด สะโพกทอร์นาโดไปซะแล้ว


ไข่หวานกับน้ำขิงถ่ายรูปคู่กัน ก่อนที่ไข่หวานจะเป็นแม่มือใหม่

นอกจากจะอ้วนผิดส่วนแล้ว บริเวณท้องของไข่หวานก็สามารถมองเห็นเต้านมได้ชัดเจน ซึ่งปกติจะมองไม่ค่อยเห็น บริเวณหน้าท้องก็นูนขึ้นมา ว่ากันว่าถ้าหนูอ้วนธรรมดาแม้จะอ้วนก็อ้วนแบบสมส่วนและหน้าท้องจะไม่นูนอย่างนี้ ว่ากันถ้าหนูท้องเราลองเอามือคลำหน้าท้องดูจะรู้สึกว่ามีก้อน ๆ อยู่ในท้อง


ผู้หญิงท้องแล้วชอบปล่อยตัว ไข่หวานนอนอล่างฉ่าโชว์เต้านมและท้องนูน ๆ

นอกจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายแล้ว ทางจิตใจก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เขาบอกว่าหนูท้องมักจะเครียดหงุดหงิดง่าย ผมไม่รู้ว่าไข่หวานเครียดมั่งหรือเปล่า บางทีไข่หวานอาจจะเครียดก็ได้เพราะปกติไข่หวานเป็นหนูสาวที่สงบเสงี่ยมเรียบร้อยเป็นกุลสตรีหนู ถ้าเป็นคนไข่หวานจะเหมือนนางเอกละครน้ำเน่าหลังข่าว 2 ทุ่ม แต่พอไข่หวานท้องไข่หวานจะวิ่งพล่าน วิ่งวงล้อบ่อย เร็ว และนานกว่าปกติ ปกติเวลาผมได้ยินเสียงวิ่งวงล้อ ผมจะเดาออกว่าเป็นตัวไหนกำลังวิ่งอยู่ ถ้าเสียงวงล้อหมุนเร็วจี๋จะเป็นฝีเท้าของน้ำขิง แต่ถ้าเสียงวงล้อหมุนเอื่อย ๆ มีหยุดเป็นจังหวะนั่นแสดงว่าไข่หวานกำลังวิ่งอยู่ นอกจากนี้ไข่หวานยังพยายามหนีออกจากกล่องที่อาศัยอยู่ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีทีท่าว่าจะอยากออกจากกล่องไปไหนมาก่อน

กลางเดือนตุลาคมไข่หวานท้องใหญ่ขึ้นมาก ผมคิดว่าไข่หวานคงจะคลอดในเวลาอันใกล้นี้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดไข่หวานก็ไม่คลอดสักที แต่ผมก็เตรียมพร้อมแล้ว


ก่อนท้องไข่หวานตัวเล็กกว่าน้ำขิง แต่พอท้องแล้วตัวใหญ่ขึ้น ถ้าน้ำขิงหืออาจโดนถีบ!!!


วันที่ 19 ตุลาคม ผมต้องอยู่เวรที่ทำงาน ซึ่งเมื่อไปทำงานตอนเช้าแล้วจะต้องอยู่เวรต่อในตอนเย็น แล้วไปออกเวรตอนเช้า จากนั้นก็ทำงานต่อไปอีกครึ่งวัน จึงจะได้พักเวรในช่วงบ่าย

เย็นวันที่ 18 ตุลาคม ผมจึงจัดการแยกน้ำขิงใส่กรงไว้ต่างหาก เพราะไม่แน่ใจว่าช่วงที่ผมไม่อยู่ไข่หวานอาจจะคลอดก็ได้ ผมไม่ค่อยไว้ใจน้ำขิงสักเท่าไร เพราะตั้งแต่เด็กจนหนุ่มน้ำขิงก็ยังดำรงตนเป็นนักคุ้ยอย่างต่อเนื่อง แถมยังคุ้ยไปทั่วไม่ดูว่าอะไรเป็นอะไร บางทีไข่หวานนั่งอยู่น้ำขิงยังคุ้ยไข่หวานเสียกระเด็น ถ้าน้ำขิงคุ้ยลูก เจ้าแฮมน้อยตัวแดง ๆ คงจะกระเด็นไปไกลกว่า และวิญญาณของแฮมน้อยก็คงจะกระเด็นออกจากร่าง

บ่ายวันที่ 20 สิ่งแรกที่ผมทำเมื่อกลับไปถึงห้องก็คือเข้าไปดูไข่หวาน ไข่หวานที่กำลังนอนอยู่แหงนหน้าขึ้นมามองผมด้วยท่าทางอิดโรย ที่ท้องของไข่หวานมีลูกแฮมสีแดงตัวเล็ก ๆ หลายตัวกำลังดูดนมของไข่หวานอยู่ ไม่รู้ว่าไข่หวานคลอดลูกตั้งแต่วันไหน (แล้วจะฉลองวันเกิดหนูน้อยวันไหนดีล่ะเนี่ย)

ไข่หวานออกลูกมาทั้งหมด 5 ตัว คะเนด้วยสายตาแต่ละตัวยาวประมาณ 2 เซนติเมตร (วันต่อมาลองเอาไม้บรรทัดไปวัดดู เจ้าลูกแฮมน้อยยาวถึง 3 เซ็นติเมตรแล้ว)


ลูกน้อยตัวแดง ๆ


วันที่ 21 ตุลาคม ลูกของไข่หวานสีซีดลงเล็กน้อย

แรก ๆ ผมไม่กล้าไปวุ่นวายอะไรกับไข่หวานและลูกน้อยเพราะว่ากันว่าถ้าแม่แฮมรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยมันจะกินลูก การจับตัวลูกหนูจะทำให้แม่หนูผิดกลิ่นและเข้าใจว่าไม่ใช่ลูกของมันแล้วจะไม่ยอมเลี้ยงลูก ผมคิดว่าไข่หวานสนิทกับผมจนพอที่จะจำกลิ่นของผมได้ แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงไปจับตังลูกแฮม

ก่อนที่ไข่หวานจะคลอดผมทำใจไว้ว่าลูกคลอกแรกของไข่หวานอาจจะไม่รอด เพราะหนูแฮมบางตัวเมื่อมีลูกครั้งแรกมักจะเลี้ยงลูกไม่เป็น บางตัวไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าตัวเองกลายเป็นแม่ไปแล้ว และหนูแฮมบางตัวก็ก็กินลูกของตัวเอง แต่ผิดคาด ไข่หวานทำหน้าที่ของแม่ได้อย่างยอดเยี่ยมและรักลูกมาก ผ่านมาหลายวันแล้วลูกของไข่หวานแข็งแรงดี ทำให้ผมมั่นใจทุกตัวจะมีชีวิตรอดไปจนโต

เมื่อลูกแฮมน้อยอายุได้ 2-3 วัน ลูกแฮมยังไม่มีขน แต่มีอยู่ 3 ตัวที่ผิวหนังบางส่วนกลายเป็นสีดำ บางทีเจ้า 3 ตัวนี้คงจะเป็นแฮมน้อยสีนอมอล เพราะสีของผิวหนังคงจะมีความสัมพันธ์กับสีของขน ส่วนอีก 2 ตัว อาจจะเป็นสีขาวเหมือนไข่หวานก็ได้ ตอนนี้ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่าทั้ง 5 ตัวจะมีสีอะไรบ้าง เป็นตัวผู้กี่ตัว ตัวเมียกี่ตัว จากนั้นก็จะถึงเวลาตั้งชื่อให้แฮมน้อย


เวลาเปลี่ยนไป สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง ลูกน้อยตัวเองก็กลายเป็นลูกน้อยตัวดำ ๆ



เศร้าจัง...ทำไมลูกฉานมันดำอย่างนี้

เพลง : Mini Hamuzu Ai No Uta (เพลงรักของเจ้าแฮมสเตอร์น้อย)
ศิลปิน : Minimoni


**สงสัยโฮสที่ผมฝากเพลงจะมีปัญหา

Create Date : 25 ตุลาคม 2549 Last Update : 25 ตุลาคม 2549 7:40:56 น. Counter : 11664 Pageviews.		52 comments
Share Tweet