หลังจากคอนเสิร์ต Never Gone Tour เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2549 เราก็ไม่นึกว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้ดูการแสดงสดของห้าหนุ่ม Backstreet Boys อีก แต่แล้วจู่ๆ เมื่อปลายมกราคมก็ได้ข่าวกระเส็นกระสายว่า BSB จะมาเปิดการแสดงที่ไทยอีกครั้งใน In A World Like This World Tour 2015 ทำเอารีบหาข่าวกันจ้าละหวั่น แต่ทางผู้จัดก็ปิดเงียบมาก กระทั่งได้รับการยืนยันว่าจะจัดขึ้นในวันที่ 6 พ.ค. 2558 ณ เวลาที่ทราบข่าวนี่แอบอึ้งไปชั่วขณะเลย เพราะดันตรงกับวันที่เรากลับจากไปเที่ยวพอดี(เหมือนสวรรค์แกล้งไงไม่รู้) เลยต้องตัดใจซื้อตั๋วใหม่ เปลี่ยนจากเชียงรายเป็นเชียงใหม่เพราะมีเที่ยวบินให้เลือกมากกว่า ยังไม่หมดเท่านั้น วันกลับก็ได้ข่าวว่ามสธ.มีรับปริญญาอีก(ตูล่ะเซ็ง) แต่ก็พยายามบึ่งสุดๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะ BSB คงไม่ลงทุนยอมทุกอย่างถึงขนาดนี้
ห้าหนุ่มเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกมาอีกครั้งพร้อมกับเพลง As Long As You Love Me เวอร์ชันดั้งเดิมค่ะ เรียกเสียงกรี๊ดกระหึ่มไม่แพ้ตอนเปิดตัวกันเลยทีเดียว เพลงโปรดนักร้องโปรด แถมร้องเป๊ะทั้งที่เต้นไปด้วย ทำเอาติ่งปลื้มปริ่มอยากแหวกไปเกาะหน้าเวทีกันเลยค่ะ เพราะมากกกก แล้วก็พักคุยเข้าเพลง Show 'Em(What You're Made Of) ซึ่งเป็นเพลงที่พี่เคฝกับ A.J. แต่งร่วมกัน ได้แรงบันดาลใจมาจากลูกๆ ของตน(น้องเมสันว่าที่ BSB รุ่นต่อไปแน่นอน)
เมื่อไฟสว่างพอเราเลยไม่รีรอ ชะแว้บแอบแชะฝูงชนผู้มาชุมนุมกันอย่างคับคั่งเหนือกว่าที่คาดไว้ ดีใจแทน BSB และคิดว่า BSB ก็คงรู้สึกดีใจที่เห็นคนมาดูล้นหลาม ทั้งที่ซีดีอัลบั้ม In A World Like This ไม่มีวางขายในไทยแท้ๆ ของเราโชคดีที่พี่อิ๋ม(ตุ๊กตาไขลาน) ผู้น่ารัก ฝากคุณพี่เขยผู้ใจดีให้ซื้อจากอเมริกาแล้วหอบกลับมาให้ พระคุณนี้หนูจะไม่ลืมเลยค่ะ
19 ปีที่แล้วไม่รู้อะไรดลใจ แค่ได้ดู MV Anywhere For You ก็หลงรักบอยแบนด์น้องใหม่วัยละอ่อนวงนี้แบบไม่คิดถอนตัว ภูมิใจจริงๆ ที่ได้รู้จักและรัก BSB ผูกพันกับ BSB เหมือนเราเติบโตมาด้วยกัน ฟังเพลง BSB ทุกวัน ตั้งแต่ถูกผีผลัก เอ้ย ติดบ่วง BSB เมื่อเดินเข้าไปในร้าน Discolandia ที่ Bolivia และเห็นซีดีอัลบั้มแรก Backstreet Boys ราคา 20 USD ก็ไม่รีรอ จัดการสอยมาไว้ในครอบครองทันที พร้อมกับได้ Donde Quieras Yo Ire(Anywhere For You) กับ Nunca Te Hare Llorar(I'll Never Break Your Heart) แถมมาในแผ่นด้วย เพราะเป็นฉบับวางขายในละตินอเมริกา อัลบั้มแรกนี่สารภาพเลยว่าเกลียดเพลง I'll Never Break Your Heart มาก กระทั่งได้มาฟังแบบสดๆ ในคอนเสิร์ต Never Gone Tour กลายเป็นอินกับเพลงนี้แบบน้ำตาจะร่วงทุกครั้งที่ได้ฟังเลย ไม่เคยลืมตอน A.J. ยื่นไมค์ให้ช่วยกันร้องท่อน I'd rather die than live without you. I'll give you all of me honey that's no lie.
ช่วงที่ BSB ร้องเพลง Madeleine พร้อมกับการแสดงความสามารถด้านเครื่องดนตรี ร้องเอง เล่นเอง ติ่งนี่เคลิ้มคล้อยแม่ช้อยนางรำสุดๆ ค่ะ เพราะชอบเพลงนี้เป็นทุนอยู่แล้ว ได้มาฟังอินิคร้องสด So rise up, rise up, rise and live again. 'Cause only you can Madeleine. โอย อยากเปลี่ยนชื่อเป็น Madeleine แทนซะเลย 555+
คอนเสิร์ตครั้งนี้กินเวลาทั้งสิ้นเกือบสองชั่วโมง แต่เป็นการแสดงที่ทำเอาลืมเวลาทุกนาทีที่ผ่านไปเสียสนิทเลยค่ะ เพราะมันสนุกสุดๆ ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลย ไบรอันยังเป็นคนที่เรียกเสียงหัวเราะด้วยท่าทางตลกๆ และมุขฮาแต่น่ารักเวอร์ได้ดีเหมือนเดิม มีตอนหนึ่งไบรอันถามว่ามีใครอยากกลับบ้านไหม แล้วทุกคนพร้อมใจกันตะโกนว่าไม่อยาก แล้วไบรอันก็พูดด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มน่ารักๆ ว่า me neither แค่นี้ก็เรียกเสียงกรี๊ดได้แล้วอะ ตอนนิคยุให้ทุกคนเรียกร้องให้ฮาววี่ออกมาเต้นโชว์ยักย้ายส่ายสะโพก(สไตล์หนุ่มละตินอเมริกา) พี่วี่ก็จัดให้ mueve lo, mueve lo แบบไว้ลายสายเลือดละตินทำเอากรี๊ดแตกกันเป็นแถว นิคก็ปากดีแซวประมาณว่าคืนนี้แฟนๆ อาจจะนอนหลับหรือนอนไม่หลับเมื่อได้เห็นฮาววี่เต้นดุกดิกอะไรประมาณนั้น ทำเอาทั้งฮอลล์ฮาครืน ในขณะที่หนุ่มมาดขรึมอย่างพี่เคฝ แค่ใช้สายตากับรอยยิ้มพิฆาตก็บาดใจติ่งเหลือเกินแล้ว ยังมายกมือไหว้ขอบคุณไปตามจุดต่างๆ ของเวทีให้อีก ได้ใจมากๆ A.J. กับพี่เคฝมักจะยืนอยู่เวทีฝั่งที่เรานั่ง ก็เลยได้เห็นสองคนนี้ชัดกว่าอินิค แม้นิคจะยังเป็นคนที่เรียกเสียงกรี๊ดได้กับทุกอากัปกิริยาที่ทำ แต่สำหรับคนที่อยู่ตรงกลางหน้าเวทีแล้ว คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าช่วงเวลาที่ A.J. และไบรอันเดินลงไปทักทายจับไม้จับมือกับแฟนๆ หน้าเวที คือนาทีที่ดีใจสุดขีดแล้ว ของ A.J. นี่ลงไปตอนที่เพลง Shape of My Heart จบแล้วต่อด้วยเพลง IAWLT ส่วนไบรอันรู้สึกจะเป็นตอนท้ายเพลง Larger Than Life เพราะเฮียเกือบวิ่งกลับขึ้นไปร่วมโค้งกับเพื่อนแทบไม่ทัน พอโค้งขอบคุณเสร็จเฮียก็ทำมือเป็นรูปหัวใจค้างไว้ให้แฟนๆ(รักเลยคนนี้)
ภาพที่งดงามอีกภาพในความทรงจำวันนั้นคงหนีไม่พ้นตอนห้าหนุ่มร้องเพลง Breathe ที่ A.J. ขอให้ทุกคนยกมือถือขึ้นมาแล้วเปิดไฟโบก ทั้งฮอลล์ละลานตาดุจท้องฟ้าจำลองอันงดงาม แม้จะสว่างจ้ากว่าคราว Incomplete เมื่อคอนฯ ครั้งที่แล้วก็ตาม ค่ำคืนนั้นปิดท้ายคอนฯ ด้วยเพลง I Want It That Way ที่แค่ดนตรีขึ้นก็ได้ยินเสียงกรี๊ดกันลืมตายร้องตามได้กันทั้งฮอลล์ เมื่อจบเพลง BSB เข้าไปข้างหลังเวที หมู่เฮาก็ยังนั่งรอ Encore อีกสองเพลงคือ Everybody(Backstreet's Back) กับ Larger Than Life และก็ไม่ผิดหวัง เพราะเป็นสองเพลงที่ทุกคนไม่มีความเกรงใจหลงเหลืออยู่ในมโนแล้ว ต่างพร้อมใจกันลุกโยกโบกไม้โบกมือตามการนำของ BSB กระทั่งสิ้นเสียงดนตรีของ Larger Than Life เป็นอันจบจริงๆ แล้ว เราก็ยังไม่อยากลุกจากเก้าอี้ แอบภาวนาให้ไม่ใครก็ใครออกมาเล่นสักหน่อยแต่ก็ได้แค่หวังลมๆ แล้งๆ ยืนคุยกับพี่อิ๋มอยู่พักหนึ่งก็พากันเดินออกและแยกย้ายกันกลับ พร้อมกับหอบความประทับใจในคอนเสิร์ตครั้งนี้กลับไปด้วยอย่างเต็มเปี่ยม ส่วนตัวเราแอบเสียดายที่ไม่ได้ฟัง I Still..., Siberia, More Than That ฯลฯ แต่แค่ acapella เพลง Drowning ที่จัดมาให้เฉพาะท่อนฮุคก็ขนลุกซู่ละ ช่างเป็นบุญหูจริงๆ กับการได้ฟังเพลงโคตรโปรดฉบับประสานเสียงแบบนี้ ตะลึงจนลืมกดถ่ายคลิปไปท่อนนึงเลย ถึงแม้หวัดหมูจะทำลายเส้นเสียงพี่ไบรแต่เสียงพี่ก็ฟื้นฟูได้ดีขึ้นมากกว่าตอนออก NKOTBSB เยอะเลยนะ ตอนนั้นได้ยินทีไรแทบจะร้องไห้ด้วยความเสียดายเสียงเพราะๆ ของพี่ไบรทุกที อ้อ ตอนที่ไบรอันให้แบ่งฝั่งซ้ายขวา แล้วแยกกันร้องท่อนฮุคในเพลง Quit Playin' Games(With My Heart) ไม่รู้เรารู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าเสียงไม่ดังเท่าที่ควรเลยอะ ผิดกับคอนฯ ครั้งที่แล้วที่ถึงขั้นเสียงแหบเสียงแห้งเสียงหายกันจริงๆ ให้ทำอะไรก็ทำหมด
อ่านแล้วก็คิดถึงอีกแล้วว อยากจะบินตามไปดูคอนที่อื่นต่อเลย แต่เสียดาย บ้านไม่ได้พิมพ์แบงค์ใช้เอง ไม่งั้นคงบินไปละ 555
เพิ่งรู้ว่าจิ๊บเก็บซิงเกิ้ลด้วย พี่ไม่ได้เก็บเลย ตอนนั้นไม่มีตังค์ซื้อ แต่ซิงเกิ้ล ต้องซือของนอกหมด แค่เก็บอัลบั้มได้ครบหมดทุกบั้ม ก็ดีใจจะแย่ละ ^^"
ขอแอบหวังด้วย ว่าเราจะได้มีโอกาสดูคอนหนุ่มๆอีกเป็นครั้งที่ 3 ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากดูอีกหลายๆครั้งเลยเนอะ (โลภ!!!!!)
ขอไปฝันกลางวันก่อนนะ ^^