สิ่งสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของ ระบบป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าก็คือความเข้าใจในขั้นตอนทั้งก่อนและหลังการติดตั้งเครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าระบบนี้ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของกิจการ ผู้จำหน่าย ช่างติดตั้งประจำศูนย์หรือแม้แต่ตัวผู้บริโภคเอง
ในส่วนเจ้าของกิจการ หรือผู้จำหน่าย ควรรู้และศึกษารถที่จะเข้ามาทำการติดตั้งเพราะแต่ละคันนั้นจะแตกต่างกัน เช่น รถใหม่ป้ายแดง รถที่ใช้ไปแล้วหรือรถเก่าหลายๆปี สิ่งสำคัญคือ รถที่เคยตัดผุมาแล้ว เมื่อติดตั้งไปแล้วนั้นจะมีอาการแตกต่างอย่างชัดเจน ควรชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกค้าให้ลูกค้ารู้ล่วงหน้าก่อนเสมอจะได้ไม่มีปัญหาความไม่เข้าใจในสินค้าจนทำให้เกิดความไม่แน่ใจในสินค้าได้ ดังที่ผู้เขียนประสบมาเป็นบทเรียนครับ
ด้านช่างติดตั้งต้องมีความเข้าใจในระบบอย่างลึกซึ้งและติดตั้งให้ลูกค้าด้วยความซื่อสัตย์สายทุกเส้นต้องติดตั้งโดยคิดล่วงหน้าเสมอว่าถ้าใช้งานไปเป็น 10-20 ปีต้องติดตั้งอย่างไรให้อยู่ได้นานที่สุด การต่อสายดินหรือAnode(แอโนด) ต้องต่อทุกเส้นเว้นเส้นใดเส้นหนึ่งไม่ได้เด็ดขาดหากขาดเส้นใดเส้นหนึ่ง อาจจะส่งผลตามมาในอนาคตได้
เพราะฉะนั้นความจริงใจของช่างที่มีต่อลูกค้า สำคัญมาก การจัดทีมช่างควรมีผู้รับผิดชอบโดยตรง 1 คน คอยเช็คการทำงานส่วนอีก2 คนนั้นเป็นผู้ปฏิบัติ
ส่วนผู้บริโภคเมื่อได้รับคำแนะนะจากช่างหรือผู้ประกอบการแล้วควรทำความเข้าใจในสินค้า ตามรายละเอียดด้านล่างที่แนบกับใบรับประกันอีกครั้งหนึ่งดังนี้....
หลังการติดตั้งคุณจะเจออะไรบ้าง? แต่ไม่ต้องตกใจ
1.กรณีการติดตั้งสำหรับรถยนต์ใหม่อาจมีสนิมผุดออกมาจากรอยเชื่อมของแชสซีออกมาได้บ้าง รอประมาณ 3 เดือนจนสนิมหยุดทำความสะอาดพื้นผิวที่มีสนิมเกิดขึ้นโดยการขัดสนิมออก แล้วจึงใช้สีทาหรือพ่นสีทับลงไปตรงบริเวณที่เกิด ต่อไปก็จะไม่มีสนิมเกิดขึ้นมาอีกเลย
2.ส่วนในกรณีการติดตั้งสำหรับรถยนต์เก่าหรือรถยนต์ที่ใช้แล้วอาจมีสนิมเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่ง สนิมที่เกิดขึ้นเพราะเป็นสนิมเก่าที่ติดมากับตัวรถยนต์เดิมประมาณ 3 เดือนสนิมก็จะหยุดท่านอาจขัดสนิมเก่าทิ้งแล้วทาสีทับ แล้วคอยสังเกตว่าจะมีสนิมใหม่เกิดขึ้นบริเวณเดิมหรือไม่ ถ้าไม่มีสนิมเกิดขึ้นมาใหม่แสดงว่ากระบวนการเกิดสนิมได้หยุดลงแล้ว
3.สำหรับรถยนต์เก่าที่ตัดผุพ่นสีมาแล้วสนิมอาจจะหยุดได้ช้ากว่ารถยนต์ปกติเพราะอาจมีสนิมเก่าค้างอยู่มากกว่าที่ประเมินไว้แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะสุดท้ายสนิมก็จะหยุดไปเอง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน
4. ชิ้นส่วนอื่นๆของรถยนต์ที่อาจจะเกิดขึ้นของสนิมได้นั้นคือเหล็กที่ไม่มีการเชื่อมกับตัวถังของรถยนต์โดยตรง เช่น ช่วงล่าง ขาบันไดข้าง กันชนเพราะชิ้นส่วนต่างๆนี้มีทั้งลูกยางและสีเป็นฉนวนกั้นประจุไฟฟ้าอยู่จึงทำให้ประจุไฟฟ้าไม่สามารถคุ้มครองชิ้นส่วนนั้นได้
5.ชินส่วนของรถยนต์ที่เป็นโลหะเหล็กเสียดสีกันอาจเกิดคราบของสนิมขึ้นได้เพราะผิวเหล็กที่หลุดออกมาจากระบบการป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้า จะกลายมาเป็นคราบสนิมทำให้เราเห็นได้แต่จะไม่มีสนิมกัดกร่อนที่พื้นผิวโลหะเหล็ก
ภาพไฟสถานะที่ตัวเครื่องควบคุม I-Guard ว่ายังคงแสดงสัญญาณไฟปกติ
การดูแลรักษาหลังการติดตั้ง อุปกรณ์เครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้า I-Guard
1. 1. ตรวจสอบไฟสถานะที่ตัวเครื่องควบคุม I-Guard ว่ายังคงแสดงสัญญาณไฟปกติหรือไม่
2. 2. นำรถเข้ามาตรวจเช็คอุปกรณ์เครื่องป้องกันสนิมด้วยประจุไฟฟ้าI-Guard ตามระยะเวลา ประมาณ 6 เดือนต่อ/ครั้งเพื่อตรวจสอบว่าอุปกรณ์รับ-ส่งประจุไฟฟ้ายังปกติดีอยู่หรือไม่
3 3. หลังจากนำรถเข้าอู่เพราะต้องซ่อมสีตัวถังรถยนต์หรือเกิดอุบัติเหตุ ควรนำรถเข้ามาเช็คระบบที่ศูนย์ที่ท่านใช้บริการอยู่ทุกครั้งไม่ต้องรอจนครบกำหนดเพื่อตรวจสอบว่า อุปกรณ์รับ-ส่งประจุไฟฟ้ายังปกติดีอยู่หรือไม่
I-Guard อุปกรณ์ป้องกันการเกิดสนิมด้วยประจุไฟฟ้าภายใต้ชั้นสี
ผลิตและจัดจำหน่ายโดย : บริษัท นวัชกฤษฎิ์ จำกัด (NAVATKIT CO.,LTD.)
สำนักงานใหญ่:73 ซอยบางพรม37 แขวงบางพรม เขตตลิ่งพรม กรุงเทพมหาคร 10170
สาขา 1 : 925/20-21 ซอยเอกชัย 32 ถนนเอกชัย ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 74000
Mobile:098-445-6942 , Tel :034-425515 ,Fax :034:425611
เลขที่ประจำผู้เสียภาษี:0105558005229
www.i-guardthailand.com