Super antioxidant concentrate paulas choiceตอนนี้เปลี่ยนแพคเกจเป็นน้ำเงินเทา ก็ดูดีไปอีกแบบ ... แต่สนใจเรื่องประสิทธิภาพดีกว่า เป็นเนื้อซิลิโคน เวลาทาจะลื่นๆ เมือกๆ เอาเป็นว่าถ้าคนเคยใช้แนวซิลิโคนคงเข้าใจ แต่คนที่ไม่เคยใช้ก็นั่นแหละ ลื่นๆ เมือกๆ ออกหนืดๆ หนึบๆบนผิว ไม่สบายผิว แต่ถ้าทาทิ้งไว้สักพัก 5-10 นาที แล้วทาตามด้วย มอยเจอไรเซอร์อย่าง sodium hyaluronate หรือ glycerin ไอ้ที่เมือกๆ ลื่นๆ หนึบๆ จะหายไป และตัวมอยเจอไรเซอร์จะช่วยกักเก็บที่เราทาๆ ไปแล้วด้วย แต่ต้องรอให้ตัวที่ทาไปก่อนนั้นซึมก่อนนะ มอยเจอไรเซอร์ก็ใช้ที่เหลวๆ ไม่หนืด ซึมง่าย ถ้าหนืดข้นยิ่งเพิ่มความเหนอะไปกันใหญ่ ใช้นิดเดียวค่อยๆปาดให้ทั่วหน้า ทารอบดวงตาได้ด้วย ไม่ใส่น้ำหอม ไม่ใส่สี ไม่มีแอลลกอฮอล์ประกอบไปด้วย :+ Cyclopentasiloxane (อยู่อันดับแรกของส่วนผสม) ก็คือซิลิโคน+ Dimethicone (อยู่อันดับสองของส่วนผสม) ก็คือซิลิโคนอีก ไดเมธิโคน คือน้ำมันซิลิโคน ใช้เป็นเบสของผลิตภัณฑ์ ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ใช้ซิลิโคนเป็นเบสหลัก จึงไม่แปลกที่จะทาแล้วรู้สึกเมือกๆ ลื่นๆ หนืดๆ ซะขนาดนี้ ...... อยากใช้ต้องทำใจ .... อยากสวยต้องอดทนซัดซิลิโคนซะแน่น คนที่ไม่ถูกกับซิลิโคนคือรู้แน่ชัดแล้วว่าแพ้ก็จงถอยไปไกลๆ ริใช้ก็ต้องรับสภาพหากแพ้หรือหน้าแหกตามมา มี Beta glucan และ ceramide3 ใส่มาช่วยเรื่องการระคายเคือง ทำให้ผิวแข็งแรง ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะไม่แพ้ ..ถ้าคนมันจะแพ้ก็คือแพ้ ส่วนตัวเองเป็นคนที่ฟ้าลิขิตมาแล้วว่าต้องหน้ามัน จะรู้สึกเป็นเมือกๆ ยังไงก็อยากใช้ ใช้เฉพาะกลางคืนจึงไม่แคร์เรื่องหน้าเยิ้มๆ เมือกๆ และลองแล้วไม่แพ้...โล่งอกไป เรื่องแพ้ไม่แพ้.....อยู่ที่ผิวใครผิวมัน ถ้าเกิดแพ้ก็.....ตัวใครตัวมันแต่คุณสมบัติของซิลิโคนบอกว่า ไม่อุดตันผิว ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์นุ่ม ลื่น ...เหรอ แต่ทำไมรู้สึกเป็นเมือกๆ ^^" พวกเวชสำอางหลายต่อหลายตัวก็เลือกใช้ ทั้งยังช่วยให้สารสกัดบางตัวเสถียร หรือไม่ก็เก็บรักษาสารสกัดให้คงประสิทธิภาพ อนุพันธ์วิตามินซี 2 ตัว คือ + Magnesuim ascorbyl phosphate (อยู่ในอันดับสิบของส่วนผสม) : ละลายในน้ำ เป็นที่นิยมสูง ไม่ระคายเคืองผิว มีความเสถียรสูงกว่า vitamin C เพราะว่า ละลายในน้ำได้ จึงทำให้มีประสิทธภาพคล้ายๆกับ vitamin C คือสามารถกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน โดยทั่วไปแล้ว Magnesium ascorbyl phosphate จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าvitamin C สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายถึงแม้ว่ามีผลิตภัณฑ์หลายๆตัวตามท้องตลาดที่มีส่วนผสมของเจ้าตัวนี้ แต่ระวังไว้หน่อย เพราะส่วนมากจะมีความเข้มข้นไม่มากพอที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลาเจน และก็ยังจะเสื่อมสถาพได้แม้ว่าจะเสถียรขึ้น จะให้ดี บรรจุภัณฑ์ควรจะเป็นหลอดหรือขวดปั๊ม ทีบแสง (ขวดใส หรือ กระปุก ... ไม่เป็นที่แนะนำอย่างยิ่ง)+ Tetrahexyldecyl ascorbate (อยู่ในอันดับสามของส่วนผสม) : อนุพันธ์ใหม่ที่มีความเสถียรอีกตัวที่เริ่ด ละลายในน้ำมัน ไม่ช่วยผลัดผิวแต่คุณสมบัติอื่นไม่บกพร่อง...เริ่ด ใครผิวแพ้ง่ายตัวนี้เป็นตัวที่น่าสนใจอีกตัวนอกจากMagnesium ascorbyl phosphate เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับวิตามินซีให้เลือกที่มีสีขาวหรือ ไม่มีสี (สีใส) จะช่วยให้เราสังเกตได้ว่า vitamin C เสี่อมสภาพไปแล้วหรือไม่ หากเนื้อครีมหรือเจลเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล (ไม่ขาวหรือใสดังเดิม) ก็แสดงว่าเสื่อมไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง ... และด้วยสาเหตุนี้ ทำให้ผู้ผลิตหลายๆ ยี่ห้อใส่สีไปในผลิตภัณฑ์ที่มี vitamin C + Palmitoyl tripeptide-5 (อยู่อันดับสี่ของส่วนผสม) ช่วยสร้างคอลลาเจนให้หนาเติมเต็มผิวที่เกิดริ้วรอยเป็นร่อง + Tocotrienols (อยู่อันดับห้าของส่วนผสม) และ Tocopherol (อยู่อันดับหกของส่วนผสม) เป็นAntioxidant + Ubiquinone (อยู่อันดับเจ็ดของส่วนผสม) Coenzyme Q10 หรือ Ubiquinone มีหน้าที่หลักๆ 2 อย่าง คือ สร้างพลังงานให้กับเซลล์ และ เป็น antioxidant ซึ่งช่วยปกป้องผิวจาก free-radicals ซึ่งเป็นสาเหตุของ aging ภายใต้สภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ร่างกายสามารถผลิต CoQ10 เองได้มากเท่าที่ร่างกายต้องการ แต่เนื่องจากสาเหตุต่างๆ เช่น อายุที่มากขึ้น ความเครียด ทำให้ระดับ CoQ10 ในร่างกายลดลงได้ ... แล้วยิ่งอายุมากขึ้น ปริมาณ Co Q10 ก็ลดลงไปเรื่อยๆ อายยิ่งมาก CoQ10 ก็ยิ่งลดลง ... มีผลการศึกษาพบว่า การกิน CoQ10 จะช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้น 30% ... แต่ว่าก็ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางนักตามทฤษฏี CoQ10 ใน skincare จะสามารถช่วยซ่อมแซมและลดการถูกทำลายจาก free-radicals ได้ดี ... แล้ว CoQ10 ก็มีขนาดโมเลกุลที่เล็ก จึงสามารถซึมเข้าไปถึงเซลล์ผิวได้ด้วย+ Alpha lipoic acid (อยู่อันดับแปดของส่วนผสม) เป็นสารประกอบธรรมชาติ ที่พบในอาหารและร่างกายก็สามารถสร้างขึ้นได้ ... ประโยชน์ก็มีมากมาย เช่น- เป็น antioxidant- เป็น co-factor ที่ช่วยในการสร้างพลังงานในเซลล์- มีผลต่อริ้วรอยที่เกิดขึ้น- เป็น anti-inflammatory - ช่วยขจัดสารพิษบางอย่างออกจากร่างกายเรามักจะเห็นในรูปของ supplements (กิน) ซึ่งก็มีประโยชน์กับผิวไม่น้อย มีผลในการช่วยลดริ้วรอย แต่เมื่อเอามาใช้ทาหน้าจริงๆ ก็ยังไม่มีผลการทดสอบที่ชัดเจน ... แต่ก็มีผลออกมาบ้างว่า สามารถช่วย "กำจัด" พวก finelines ให้หายไปได้ ... ซึ่งก็ถือว่าเป็น treatment ที่น่าจับตามองอีกตัวหนึ่ง+ Ferulic acid (อยู่อันดับสิบเอ็ดของส่วนผสม) ช่วยให้วิตามินซีเสถียรขึ้น+ Beta glucan (อยู่อันดับสิบสามของส่วนผสม) สกัดจากเชื้อยีสต์ Baker's มีการวิจัยสนับสนุนมากมายว่าช่วยป้องกันการติดเชื้อได้และเสริมฤทธิ์ระบบภูมิคุ้มกันของผิวหนัง ประโยชน์ของสาร Beta glucan การแพทย์ในปัจจุบันที่เกี่ยวกับครีม คือ1. ผสมในผลิตภัณฑ์สิว เพื่อลดการติดเชื้อ เพิ่มความต้านทานของระบบภูมิคุ้มกันผิวหนัง และเพิ่มการสร้างคอลลาเจนเพื่อลดแผลเป็น2.ผสมในครีมบำรุงผิว เพื่อสร้างใยคอลลาเจน ชะลอความแก่ โดยมีคุณสมบัติคล้ายวิตามินซี และวิตามินเอ 3. ผสมในครีมกันแดด ลดการเกิดสารอนุมูลอิสระ (oxygen free radicles) เพื่อป้องกันแสงแดดทำลาย Langerhans cells ลดอาการแดงจากภาวะ แดดไหม้ ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจากคุณphoebe
ได้ที่ gerrard_8_thekop@hotmail.com