Full Day Trip พิชิตน้ำตกเอราวัณ ปลายฝนต้นหนาว
"โอ้โห ตะวันใกล้โย้ละหวาออกจากบ้านตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ มาโผล่เมืองกาญไก่ก็ยังไม่ค่อยโห่ แล้วไหงไปโผล่น้ำตกเอราวัณเอาเมื่อตะวันใกล้ตรงหัวทริปรวมตัวเฉพาะกิจคนอยากถ่ายภาพสู่น้ำตกเอราวัณอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์Lat14.375469 Lon99.144055 alt.>90m. ^ คลิกเพื่อเปิด Google Maps และ Tracks GPS
ตีสี่ครึ่งล้อหมุนพ้นขอบกทม. เราทั้ง 4 มุ่งหน้าเมืองกาญด้วยเจ้าแจ็คสแปโร่แคริบเบี้ยนติดแก๊สคันโก้ สำหรับอช.เอราวัณปลายทางของเรานั้นเค้าเปิดให้เข้า 8:30น. เวลาเหลือๆ แบบนี้เลยวางแผนมาดักถ่ายแสงเช้ากันเสียหน่อย ที่นี่เลยวัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
"
วัดถ้ำเสือนี้เป็นวัดที่สวยอเมซซิ่งสายตามากนะ ใครยังไม่เคยไป สนใจอยากไป ไปไม่ถูก นี่เลยครับพิกัดนำทาง วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี N13.953227 E99.605227 ลองแวะกันไปรับรองไม่ผิดหวัง
เดินทางต่อมุ่งหน้าสู่เอราวัณ
Full Day Trip ของเราวันนี้ออกตัวแบบกินแห้วเล็กน้อย เมื่อมาไม่ทันตักแสงแรกใส่เมมโมรี่กล้อง แถมพอตะวันโผล่พ้นขอบฟ้ายังหมองด้วยท้องฟ้าที่แสนขมุกขมัวเหลือ แล้วพวกเราก็มาเช้าเกินไปหน่อยด้วย ทางวัดยังไม่เปิดให้ขึ้นไปบนหอคอย ใช้เวลาเตล็ดเตร่หามุมอยู่ 1 ชม.ก็เดินทางต่อสู่น้ำตกเอราวัณอันเป็นจุดหมายหลักประจำทริป ดูเวลาก็ปาไปเจ็ดโมงครึ่ง กำลังสวย คาดว่าจะไปถึงน้ำตกคงสักไม่เกินเก้าโมง ชิวชิวล่ะงานนี้
แต่แล้ว น้องแจ๊กเบี้ยนก็พาเรามาถึงเอาสิบเอ็ดนาฬิกา ด้วยระยะทางจากวัดถ้ำเสือถึงน้ำตกเอราวัณ เพียง 88 กิโลเมตร บวกแวะกินมื้อเช้ากันแป๊บเดียว แต่คุณแจ๊กสแปโร่ของเราแล่นไปแบบราชสีห์ย่องป่าพาเรามาไม่ทันแสงรอบเช้าที่จะส่องกระทบทุกชั้นน้ำตกซึ่งหันหน้าเข้าหาทิศตะวันออก ไหนๆก็ไหนๆ แดดบ่ายก็ต้องคว้าละครับพี่น้อง เริ่มเดินกันเลย มาเอราวัณหนนี้พบป้ายใหม่กฏใหม่ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวฝรั่งมังค่าที่นิยมนุ่งน้อยห่มน้อยให้หันมาแต่งกายให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมอันดีงามของไทย
ป้ายบอกระยะทางเดินเท้าถึงน้ำตกเอราวัณชั้นต่างๆ ทั้ง 7 ชั้น
เอาล่ะออกเดินกันเลย ตะวันใกล้ตรงหัวแล้ว โว้วๆ กับภารกิจบันทึกภาพน้ำตกเอราวัณครบทุกชั้นกันอีกคราวหนึ่งหลังจากเมื่อสองปีก่อนได้มาเก็บภาพเอราวัณเดือนเมษาหน้าน้ำน้อย เอราวัณวันนี้วันปลายฝนต้นหนาว ว่ากันว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุด ปะ ไปดูกัน
เริ่มต้นด้วยน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 1ไหลคืนรังเดินกันแป๊บเดียว เพียงครึ่งกิโล ก็ทักทายกับปลายสายธารอันแสนงามหางน้ำตกชั้นที่หนึ่งกันแล้ว ต้อนรับการมาเยือนได้อย่างลิงโลด ขนาดหางๆยังงามซะ แล้วดูนั่นสิ ปลาพลวงเต็มผืนน้ำมรกต อดจะกรี๊ดในใจไม่ได้ ว่าแล้วก็จับภาพฝูงปลาเข้าฉากกันเสียหน่อย
ว่าแต่ว่า วันนี้มันช่างเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเสียนี่กระไร มีวันหยุดกับเค้าเพียงวันเดียวก็ดันมาหยุดตรงกับวันออกพรรษาเสียนี่ ถึงแม้จะเป็นวันธรรมดาแต่โอ้ว! คนจะมากไปไหนทั้งไทยเทศ ภารกิจวันนี้แปรเปลี่ยนเป็นงานยากฉับพลันที่จะบันทึกภาพน้ำตกครบทุกชั้นโดยไม่ติดฝูงชน ได้แต่พยายามเฝ้ารอและค้นหามุมหลบคนจนสุดฤทธิ์
ตามติดด้วยน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 2วังมัจฉาชั้นแรกประสบความสำเร็จหลบคนได้หลัง จากรออยู่นานมาก พอเดินมาชั้นที่สองเร่ิมออกอาการหน้ามืดคลายจะเป็นลม นายน้ำฟ้าไม่ได้เมาแดดแต่เมาฝูงชน โฮะ โฮะ โฮะ บร๊ะเจ้า จะเยอะไปไหน แล้วเราจะตั้งกล้องตรงไหนดีนะเออแต่แล้วด้วยความขยันหามุม ในที่สุดก็ค้นพบมุมสงบหลบฝูงคนโช๊ะเข้าให้ ได้มุมนี้ผู้คนค่อยบางตาหน่อย แช๊ะ แช๊ะ
ต่อกันที่น้ำตกเอราวัณชั้นที่ 3ผาน้ำตกสองชั้นแรกหมดไปหนึ่งชั่วโมง ชั้นสามอยู่ถัดไปไม่ไกลนัก แค่ลัดข้ามสะพานเหนือชั้นสอง เดินต่ออีกหน่อยเดียวก็ถึงแล้ว ชั้นนี้คนไม่เยอะเท่าหนึ่งกับสอง แต่เอราวัณเค้าสวยทุกชั้นมีหรือจะร้างคน กลุ่มฝรั่งสองสามกลุ่มมาจองกระถินปักหลักกันราวกับพาราไดซ์ส่วนตัว เฮ้ ยู ยู หลบไอหน่อยสิเฟ้ยยืนปักหลักกันเชียว รออยู่เป็นนานสองนานพอฝรั่งถอนสมอกลุ่มพี่ไทยก็เฮเข้าฉากกันต่อโดดน้ำกันตูมตาม เอ้า ไหนๆ ก็ไหนๆ ติดคนก็ติดคนล่ะวะครับ ก่อนขยับไปชั้นต่อไปลองพยายามเดินข้ามน้ำตกไปอีกฟากหนึ่งเผื่อมีมุม วะว้าว มุมไกลได้ตัวคนเล็กๆ ดูสบายตาขึ้นเยอะ จังหวะคนเบาบางลงสุดๆ ด้วย เลยรีบกางขาตั้งถ่ายโช๊ะเข้าให้อีกมุมนึง ชอบน้ำตกหินปูนตรงที่เดินย่ำๆลงไปได้ไม่ลื่น
ถัดไกลออกไปคือน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 4อกนางผีเสื้อ ชั้นนี้ต้องเดินไต่บันไดยาวนับร้อยขั้น ออกแรงขยับเข่าจนแทบสั่นผ่านจุดชมวิวสันเขาที่วิวไม่ค่อยเตะตาเท่าไหร่ ว่าไปเดินยากแบบนี้คนคงถอดใจถอยไปหลาย ชะรอยคงจะมีคนเบาบางเป็นแน่แท้ แต่ผิดคาด ราวกับมีมหกรรมชมอกนางผีเสื้อ ทั้งไทยเทศเฮกันเล่นน้ำสนุกสนาน ไม่เว้นพระเณรยังติดใจเห็นโชว์ลีลาผาดโผนยังกับหลวงจีนวัดเส้าหลิน เนินอกนางฝีเสื้อกลายเป็นสไลเดอร์ชั้นดี ไอ้กระผมก็ถอดใจนะบัดดล นั่งชมกายกรรมของเหล่าเณรน้อยเณรใหญ่และเหล่าปวงประชาดีกว่า
ขาตั้งกล้อง อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในการถ่ายภาพน้ำตกให้สายน้ำไหลนุ่มสลวยสวยเก๋
และถ้าจะให้เท่ ควรเป็นขาตั้งที่กางอิสระสามขาเพื่อให้ปรับกางได้กับภูมิประเทศที่ไม่ราบเรียบของป่าเขาลำเนาไพรนะจ๊ะ
บ่ายสองแระ เร่งเท้ากันต่อไป ยังเหลืออีกตั้งสามชั้นเดินขึ้นจากชั้นอกนางผีเสื้อสักพักก็มาเจอชั้นเล็กๆระหว่างทาง เอ๊ะคนไปไหน สงสัยไม่มีสไลเดอร์คนเลยเมิน ไร้คนแบบนี้ต้องเก็บภาพให้หายอยากเสียหน่อย
เจอคนน้อยแบบนี้ก็ต้องอ้อยอิ่งล่ะสิครับท่านผู้ชม และเราก็เผาเวลาไปกับชั้นย่อยๆที่สวยงามชั้นนี้อีกครึ่งชั่วโมง ในขณะที่ดวงตะวันก็เคลื่อนคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ
แต่นแต๊นถึงซะทีน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 5เบื่อไม่ลง ชั้นนี้สวยจนรักจนหลงเบื่อไม่ลงจริงๆ แต่อดไม่ได้ที่จะเบื่อคน กิจกรรมสุดฮิตที่เห็นตรงหน้าคือนักท่องเที่ยวจะพากันนั่งห้อยขาเท้าแช่น้ำให้ปลาตอด สปาเท้าว่างั้น แล้วจู่ๆก็เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์นักท่องเที่ยวก็พากันลุกพลึบกลับหมด ได้แต่ยืนงงตาค้าง กลายเป็นน้ำตกงามไร้คน ถ่ายรูปสบายอย่างเหลือเชื่อ
ในที่สุดก็มาถึงอีกชั้นน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 6ดงพฤกษาจัดการตั้งกล้องเก็บภาพโดยด่วนแสงจวนหมดแล้ว ไม่มีเวลามากพอจะเดินหามุม ยังเหลือชั้นเจ็ดอีก ทันใดก็มีจนท.ป่าไม้นายหนึ่งโผล่มา พร้อมบอกกับเราว่าขึ้นไปถ่ายชั้นเจ็ดเสร็จรีบกลับลงข้างล่างนะครับ ถูกแล้ว ที่นี่พอตกเย็นแบบนี้จนท.จะไล่ต้อนนักท่องเที่ยวให้ทยอยกลับลงไป อนุญาตให้อยู่เล่นน้ำต่อได้ที่ชั้น 1และ2 จนหกโมงเย็นก็จะปิดหมดภาพขวา ผลงาน ST.Exsodus เพื่อนร่วมทริป คุณศรันย์มือฉมังและหามุมเร็วมาก ออกตัวพร้อมกันที่ชั้นหนึ่งหลังจากนั้นก็ไม่เห็นกันอีกเลย จนผมขึ้นถึงชั้นสี่ แกโทรมาจากลานจอดรถบอกว่ากลับลงมาจากชั้นเจ็ดแล้ว !! ภาพนี้เอื้อเฟื้อมาให้แซมในบล็อก ถ่ายไว้ก่อนผมราวสามชั่วโมงฝีมือไม่เบาเลย สร้างเฟรมให้ภาพได้น่าสนใจมาก
เราคือผู้พิชิตน้ำตกเอราวัณชั้นที่ 7ภูผาเอราวัณ โอ้เย้ ในที่สุดก็ถึงเสียทีเอราวัณชั้นเจ็ด เบ็ดเสร็จใช้เวลาไปกว่า 5 ชั่วโมง สี่โมงแล้ว แต่ว่าแดดหมดเกลี้ยงไปนานแล้ว white balance เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เอาล่ะครับขอกดชัตเตอร์บันทึภาพภูผาเอราวัณเป็นที่ระลึกเสียหน่อยก่อนเก็บกล้องจ้ำอ้าวลงพื้นล่าง
แผนผังเส้นทางเดินน้ำตกเอราวัณ
- จุดเริ่มเดิน(ศูนย์อำนวยการนักท่องเที่ยว) - น้ำตกชั้นที่ 1 ระยะทาง 500 เมตร
- ชั้นที่ 1 - ชั้นที่ 2 ระยะทาง 150 เมตร
- ชั้นที่ 2 - ชั้นที่ 3 ระยะทาง 50 เมตร
- ชั้นที่ 3 - ชั้นที่ 4 ระยะทาง 300 เมตร
- ชั้นที่ 4 - ชั้นที่ 5 ระยะทาง 600 เมตร
- ชั้นที่ 5 - ชั้นที่ 6 ระยะทาง 300 เมตร
- ชั้นที่ 6 - ชั้นที่ 7 ระยะทาง 100 เมตร
ขาขึ้นใช้เวลาห้าชั่วโมงขาลงใช้เวลาเท่าไหร่ทายดูครับ ชั่วโมงเดียวเท่านั้นเอง เร็วมาก หลังจากลงมาสบทบคนที่รออยู่ข้างล่างที่หลับไปกี่ตื่นไม่รู้ พักเมื่อยกันสักพักเราก็ไม่พลาดที่จะควบกัปตันแจ๊คคันเก่งเดินทางต่อไปรอถ่ายแสงทไวไลท์เหนือสันเขื่อนเจ้าเณรหรือเขื่อนศรีนครินทร์ ที่เขื่อนนี่จนท.เค้าอนุญาตให้อยู่กันถึงแค่หกโมงเย็นแล้วต้องรีบกลับออกมา แต่เราแอบอยู่ต่อจนแสงโพล้เพล้หมดลงครับ ดีที่หน้านี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวดวงอาทิตย์ตกเร็วทันใจหน่อย จากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ คุณพี่แจ๊คสแปโร่ห้อตะบึงมาถึงเอาห้าทุ่ม 5555 เร็วเมิ่ก นับเป็น Full Day Trip อย่างแท้จริง ลากันไปด้วยภาพนี้ ทีมงานรวมตัวเฉพาะกิจพิชิตน้ำตกเอราวัณ ณ October 30 2012
ฝากคอมเม้นท์ไว้เป็นกำลังใจหรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา " น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา " นะครับ ^O^
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2555 |
|
53 comments |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2555 10:42:48 น. |
Counter : 25438 Pageviews. |
|
|
|
แหล่ม พี่อุ้มนึกว่ากำลังเปิดอ่านนิตยสาร อสท. ซะอีก อิอิอิ
แหล่มจริงๆ เรื่องไอเดียการตกแต่งบล็อก เริ่ดมากกกกกกกกกกกกก
โหวตท่องเที่ยวและการเดินทาง TRAVEL BLOG ให้จ้า